"วิกฤติสดศรี" ที่ทำท่าว่าจะลุกลาม จนส่งผลกระทบถึงการเลือกตั้งก็จบลงด้วยดี เมื่อ ส.ส.ร. ถอนคำแปรญัตติ ม.287 ที่จะไม่ให้กรรมาธิการยกร่างฯ เป็นกรรมการองค์กรอสิระ รวมทั้งลดวาระการดำรงตำแหน่งขององค์กรอิสระลงครึ่งหนึ่ง จนทำให้กกต.ขู่ลาออก ซึ่งในที่สุดประธานกกต.ยืนยันว่า ทุกคนจะยังทำหน้าที่ต่อไป
เมื่อเวลา 10.00น.วานนี้ (25มิ.ย.) นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ได้เสนอคำแปรญัตติใน มาตรา 287 ให้กรรมาธิการยกร่างฯ ไม่สามารถดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวทั้งเสนอคำแปรญัตติให้ลดวาระการดำรงตำแหน่งขององค์กรอิสระลงครึ่งหนึ่ง ของวาระปกติ ซึ่งจะส่งผลให้ กกต. ชุดปัจจุบัน ที่มีวาระการดำรงตำแหน่ง 2 ปี เหลือวาระดำรงตำแหน่งอีก 1 ปี แต่เมื่อได้ดำรงตำแหน่งมาแล้ว 8 เดือน จึงเหลือเวลาที่จะดำรงตำแหน่งอีก 4 เดือนเท่านั้น โดยอาจส่งผลให้ กกต.ชุดนี้พ้นวาระในเดือนก.ย. นี้ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นย่อมจะกระทบถึงการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในช่วงปลายปีนี้
นางสดศรี กล่าวด้วยว่าตนจะไปประชุมร่วมกกต.อีก 4 คน ในเวลา 13.30 น. เพื่อหารือเรื่องลาออกจากตำแหน่งกกต. "จะขอปรึกษากับ กกต.ที่เหลือว่า สมควรหรือไม่ที่จะลาออกทั้งหมด โดยจะพิจารณาถึงข้อดี-ข้อเสีย และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศชาติ อย่างไรก็ตาม ได้ทำหนังสือแจ้ง กกต. โดยจะเสนอให้ กกต.ทั้งหมดลาออก เพื่อเลือก กกต.ใหม่ ทั้งนี้ แนวความคิดที่จะลาออก ก็เพื่อความสบายใจของ ส.ส.ร. ที่ไม่ต้องการให้มีองค์กรอิสระ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาแปรญัตติให้วุ่นวายยุ่งยาก" นางสดศรี กล่าว
นางสดศรี กล่าวด้วยว่า ตนได้นำปัญหานี้ไปหารือในที่ประชุมกรรมาธิการยกร่างฯแล้ว แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ โดยที่ประชุมตกลงกันว่า จะพยายามช่วย แต่กรรมาธิการยกร่างฯ 35 คน จะสู้เสียง ส.ส.ร. อีก 65 เสียงได้อย่างไร ซึ่งมีหลายครั้งที่การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ กรรมาธิการยกร่างฯ เ คยแพ้มติที่ประชุมมาแล้ว นอกจากนี้ ผู้เสนอคำแปรญัตติให้ลดเวลาดำรงตำแหน่งขององค์กรอิสระ ยังอยู่ในกรรมาธิการยกร่างฯ ด้วย
เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ ที่มีผู้ต้องการไปดำรงตำแหน่ง กกต. แทน นางสดศรี กล่าวว่า อาจจะเป็นเช่นนั้นได้ ซึ่งจากคำแปรญัตติเห็นได้ชัดว่า คนที่แปรญัตติต้องการล้มองค์กรอิสระ แล้วเลือกตั้งกันใหม่ คงมีความหวังอย่างนั้นก็ได้ แต่ไม่ทราบว่าใคร เพราะเจตนาอยู่ในใจบอกไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น. ก่อนเริ่มประชุม กกต. นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ได้ชี้แจงกรณีที่มีข่าวว่า กกต.จะมีการหารือเรื่องการลาออก ว่า การประชุมครั้งนี้ไม่มีวาระในเรื่องดังกล่าว มีแต่ว่าวาระเรื่องการสรรหา กกต.จังหวัด
จากนั้นนางสดศรี ได้ขออนุญาตที่ประชุม กกต.ชี้แจงในเรื่องที่ให้สัมภาษณ์ว่าจะมีการหารือเรื่องการลาออกกับกกต. ว่าในฐานะที่เป็นกรรมาธิการยกร่างฯ ได้อยู่ในสนามการเมืองครั้งแรก ขอพูดจากใจจริงว่าไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีการขอแปรญัตติมาตรา 287 อะไรแปลกๆ แบบนี้ ถ้าทราบมาก่อนจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการยกร่างฯเลย รัฐธรรมนูญปี 2549 ก็ห้ามเพียงไม่ให้ผู้ที่เคยเป็นกรรมาธิการยกร่างฯ เป็น ส.ส. หรือ ส.ว. แต่ครั้งนี้กลับจะมีการห้ามเป็นกรรมการในองค์กรอิสระด้วย ถ้าคำแปรญัตติผ่าน และรัฐธรรมนูญมีผลใช้บังคับ กกต. 2 คน ก็ต้องพ้นจากตำแหน่งทันที และต้องมีการเลือก กกต.ขึ้นมาใหม่ ก็จะเป็นปัญหาเพราะไม่มี ส.ส. และ ส.ว.มาพิจารณา
นอกจากนี้ยังมีการแปรญัตติในมาตรา 289 ลดวาระการดำรงตำแหน่งของ กกต.ที่จากเดิม 6 ปี เหลือ 3 ปี แล้วมีผู้อื่นแปรญัตติให้เหลือ 2 ปี ซึ่งส่วนตัวตีความว่า หากผ่านการพิจารณา วาระการดำรงตำแหน่งของ กกต.ชุดปัจจุบันจะเหลือเพียงปีเดียวหรือไม่ถึงปีด้วยซ้ำ
"ก็ไม่เข้าใจทำไมถึงแปรญัตติเช่นนี้ การลาออกหรือไม่ลาออกคงไม่ใช่ปัญหาสำคัญ ที่สำคัญคือ ไม่สามารถจะจัดการเลือกตั้งได้ กกต. 5 คนไม่ยึดติดตำแหน่งอยู่แล้ว มาเมื่อไร ก็ไปได้เมื่อนั้น เราเป็นผู้พิพากษามาได้เงินเดือนมากกว่ามาเป็น กกต. แต่ก็เสียสละมาทำหน้าที่นี้ เพราะอยากช่วยบ้านเมือง ตอนนี้ทราบว่ามีการถอนญัตติดังกล่าวออกไปแล้ว แต่ยังไม่เห็นเป็นลายลักษณ์อักษร เรา 5 คน ลาออกหรือไม่ขึ้นอยู่กับ ส.ส.ร.ท่านจะบงการให้เราลาออกหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ กกต. 5 คน"
จากนั้นนายประพันธ์ นัยโกวิท กกต. และกรรมธิการยกร่างฯ กล่าวว่า ผู้ขอแปรญัตติคงไม่ได้เจตนาอะไร เมื่อวันศุกร์ที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ก็ได้เอาหนังสือแจ้งขอถอนการ แปรญัตติมาให้ดู ส่วนเรื่องวาระของ กกต.จะแค่ไหนอย่างไรไม่เป็นปัญหา จะทำหน้าที่ต่อไปให้ดี เพราะอย่างไรก็ต้องมีการเลือกตั้ง
ขณะที่ประธาน กกต.ได้กล่าวสรุป ว่าเราทั้ง 5 คน ตั้งใจจะมากู้วิกฤติ ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จะได้อยู่แค่ไหนอย่างไร คงจะไม่ไปเกี่ยวข้องอยู่ที่ ส.ส.ร.จะพิจารณาว่าควรเป็นเท่าใด
ทั้งนี้หลัง กกต.ได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าวแล้ว ก็พยายามที่จะตัดบทไม่ให้ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม โดยอ้างว่าขอดำเนินการประชุมตามวาระ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในมาตรา 287 นี้มี ส.ส.ร. แปรญัตติขอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ หลายคน นำโดยนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร นายวัชรา หงส์ประภัศร ที่เสนอห้าม กรรมาธิการยกร่าง เป็น กรรมการในองค์กรอิสระ หรือ ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งใน กรรมาธิการยกร่างชุดนี้มี กกต. และ ป.ป.ช. บางรายดำรงตำแหน่งอยู่
อย่างไรก็ดี หลังจากนางสดศรีให้สัมภาษณ์เสร็จ จนเป็นข่าวครึกโครม นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ เลขานุการกรรมาธิการยกร่างฯ จึงรีบมาให้ข่าวสื่อมวลชนที่ห้องผู้สื่อข่าว โดยยืนยันว่า คำแปรญัตติของ นายวุฒิชาติ และนายวัชราได้ถอนคำแปรญัตติออกไปแล้ว ภายหลังกรรมาธิการยกร่างฯได้ปรับแก้เนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญฉบับรับฟัง ก่อนนำเสนอยังสภาร่างรัฐธรรมนูญ โดยแก้ให้กรรมการองค์กรอิสระชุดปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งได้เพียงครึ่งวาระเท่านั้น เช่น องค์กรอิสระใดมีวาระดำรงตำแหน่ง 9 ปี ก็จะเหลือ 4 ปี ครึ่ง ซึ่งจะเริ่มนับทันทีที่รัฐธรรมนูญประกาศใช้
เมื่อเวลา 10.00น.วานนี้ (25มิ.ย.) นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ได้เสนอคำแปรญัตติใน มาตรา 287 ให้กรรมาธิการยกร่างฯ ไม่สามารถดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวทั้งเสนอคำแปรญัตติให้ลดวาระการดำรงตำแหน่งขององค์กรอิสระลงครึ่งหนึ่ง ของวาระปกติ ซึ่งจะส่งผลให้ กกต. ชุดปัจจุบัน ที่มีวาระการดำรงตำแหน่ง 2 ปี เหลือวาระดำรงตำแหน่งอีก 1 ปี แต่เมื่อได้ดำรงตำแหน่งมาแล้ว 8 เดือน จึงเหลือเวลาที่จะดำรงตำแหน่งอีก 4 เดือนเท่านั้น โดยอาจส่งผลให้ กกต.ชุดนี้พ้นวาระในเดือนก.ย. นี้ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นย่อมจะกระทบถึงการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในช่วงปลายปีนี้
นางสดศรี กล่าวด้วยว่าตนจะไปประชุมร่วมกกต.อีก 4 คน ในเวลา 13.30 น. เพื่อหารือเรื่องลาออกจากตำแหน่งกกต. "จะขอปรึกษากับ กกต.ที่เหลือว่า สมควรหรือไม่ที่จะลาออกทั้งหมด โดยจะพิจารณาถึงข้อดี-ข้อเสีย และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศชาติ อย่างไรก็ตาม ได้ทำหนังสือแจ้ง กกต. โดยจะเสนอให้ กกต.ทั้งหมดลาออก เพื่อเลือก กกต.ใหม่ ทั้งนี้ แนวความคิดที่จะลาออก ก็เพื่อความสบายใจของ ส.ส.ร. ที่ไม่ต้องการให้มีองค์กรอิสระ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาแปรญัตติให้วุ่นวายยุ่งยาก" นางสดศรี กล่าว
นางสดศรี กล่าวด้วยว่า ตนได้นำปัญหานี้ไปหารือในที่ประชุมกรรมาธิการยกร่างฯแล้ว แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ โดยที่ประชุมตกลงกันว่า จะพยายามช่วย แต่กรรมาธิการยกร่างฯ 35 คน จะสู้เสียง ส.ส.ร. อีก 65 เสียงได้อย่างไร ซึ่งมีหลายครั้งที่การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ กรรมาธิการยกร่างฯ เ คยแพ้มติที่ประชุมมาแล้ว นอกจากนี้ ผู้เสนอคำแปรญัตติให้ลดเวลาดำรงตำแหน่งขององค์กรอิสระ ยังอยู่ในกรรมาธิการยกร่างฯ ด้วย
เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ ที่มีผู้ต้องการไปดำรงตำแหน่ง กกต. แทน นางสดศรี กล่าวว่า อาจจะเป็นเช่นนั้นได้ ซึ่งจากคำแปรญัตติเห็นได้ชัดว่า คนที่แปรญัตติต้องการล้มองค์กรอิสระ แล้วเลือกตั้งกันใหม่ คงมีความหวังอย่างนั้นก็ได้ แต่ไม่ทราบว่าใคร เพราะเจตนาอยู่ในใจบอกไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น. ก่อนเริ่มประชุม กกต. นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ได้ชี้แจงกรณีที่มีข่าวว่า กกต.จะมีการหารือเรื่องการลาออก ว่า การประชุมครั้งนี้ไม่มีวาระในเรื่องดังกล่าว มีแต่ว่าวาระเรื่องการสรรหา กกต.จังหวัด
จากนั้นนางสดศรี ได้ขออนุญาตที่ประชุม กกต.ชี้แจงในเรื่องที่ให้สัมภาษณ์ว่าจะมีการหารือเรื่องการลาออกกับกกต. ว่าในฐานะที่เป็นกรรมาธิการยกร่างฯ ได้อยู่ในสนามการเมืองครั้งแรก ขอพูดจากใจจริงว่าไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีการขอแปรญัตติมาตรา 287 อะไรแปลกๆ แบบนี้ ถ้าทราบมาก่อนจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการยกร่างฯเลย รัฐธรรมนูญปี 2549 ก็ห้ามเพียงไม่ให้ผู้ที่เคยเป็นกรรมาธิการยกร่างฯ เป็น ส.ส. หรือ ส.ว. แต่ครั้งนี้กลับจะมีการห้ามเป็นกรรมการในองค์กรอิสระด้วย ถ้าคำแปรญัตติผ่าน และรัฐธรรมนูญมีผลใช้บังคับ กกต. 2 คน ก็ต้องพ้นจากตำแหน่งทันที และต้องมีการเลือก กกต.ขึ้นมาใหม่ ก็จะเป็นปัญหาเพราะไม่มี ส.ส. และ ส.ว.มาพิจารณา
นอกจากนี้ยังมีการแปรญัตติในมาตรา 289 ลดวาระการดำรงตำแหน่งของ กกต.ที่จากเดิม 6 ปี เหลือ 3 ปี แล้วมีผู้อื่นแปรญัตติให้เหลือ 2 ปี ซึ่งส่วนตัวตีความว่า หากผ่านการพิจารณา วาระการดำรงตำแหน่งของ กกต.ชุดปัจจุบันจะเหลือเพียงปีเดียวหรือไม่ถึงปีด้วยซ้ำ
"ก็ไม่เข้าใจทำไมถึงแปรญัตติเช่นนี้ การลาออกหรือไม่ลาออกคงไม่ใช่ปัญหาสำคัญ ที่สำคัญคือ ไม่สามารถจะจัดการเลือกตั้งได้ กกต. 5 คนไม่ยึดติดตำแหน่งอยู่แล้ว มาเมื่อไร ก็ไปได้เมื่อนั้น เราเป็นผู้พิพากษามาได้เงินเดือนมากกว่ามาเป็น กกต. แต่ก็เสียสละมาทำหน้าที่นี้ เพราะอยากช่วยบ้านเมือง ตอนนี้ทราบว่ามีการถอนญัตติดังกล่าวออกไปแล้ว แต่ยังไม่เห็นเป็นลายลักษณ์อักษร เรา 5 คน ลาออกหรือไม่ขึ้นอยู่กับ ส.ส.ร.ท่านจะบงการให้เราลาออกหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ กกต. 5 คน"
จากนั้นนายประพันธ์ นัยโกวิท กกต. และกรรมธิการยกร่างฯ กล่าวว่า ผู้ขอแปรญัตติคงไม่ได้เจตนาอะไร เมื่อวันศุกร์ที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ก็ได้เอาหนังสือแจ้งขอถอนการ แปรญัตติมาให้ดู ส่วนเรื่องวาระของ กกต.จะแค่ไหนอย่างไรไม่เป็นปัญหา จะทำหน้าที่ต่อไปให้ดี เพราะอย่างไรก็ต้องมีการเลือกตั้ง
ขณะที่ประธาน กกต.ได้กล่าวสรุป ว่าเราทั้ง 5 คน ตั้งใจจะมากู้วิกฤติ ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จะได้อยู่แค่ไหนอย่างไร คงจะไม่ไปเกี่ยวข้องอยู่ที่ ส.ส.ร.จะพิจารณาว่าควรเป็นเท่าใด
ทั้งนี้หลัง กกต.ได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าวแล้ว ก็พยายามที่จะตัดบทไม่ให้ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม โดยอ้างว่าขอดำเนินการประชุมตามวาระ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในมาตรา 287 นี้มี ส.ส.ร. แปรญัตติขอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ หลายคน นำโดยนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร นายวัชรา หงส์ประภัศร ที่เสนอห้าม กรรมาธิการยกร่าง เป็น กรรมการในองค์กรอิสระ หรือ ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งใน กรรมาธิการยกร่างชุดนี้มี กกต. และ ป.ป.ช. บางรายดำรงตำแหน่งอยู่
อย่างไรก็ดี หลังจากนางสดศรีให้สัมภาษณ์เสร็จ จนเป็นข่าวครึกโครม นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ เลขานุการกรรมาธิการยกร่างฯ จึงรีบมาให้ข่าวสื่อมวลชนที่ห้องผู้สื่อข่าว โดยยืนยันว่า คำแปรญัตติของ นายวุฒิชาติ และนายวัชราได้ถอนคำแปรญัตติออกไปแล้ว ภายหลังกรรมาธิการยกร่างฯได้ปรับแก้เนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญฉบับรับฟัง ก่อนนำเสนอยังสภาร่างรัฐธรรมนูญ โดยแก้ให้กรรมการองค์กรอิสระชุดปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งได้เพียงครึ่งวาระเท่านั้น เช่น องค์กรอิสระใดมีวาระดำรงตำแหน่ง 9 ปี ก็จะเหลือ 4 ปี ครึ่ง ซึ่งจะเริ่มนับทันทีที่รัฐธรรมนูญประกาศใช้