xs
xsm
sm
md
lg

"ธรรมรักษ์-เพ้ง-ไอซ์"ไม่รอด กกต.ลงมติฟันอาญายกแก๊ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กกต.มีมติฟันอาญาอดีต กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และผู้เกี่ยวข้องรวม 9 ราย ในคดีจ้างพรรคเล็กลงสมัคร และปลอมแปลงเอกสารแล้ว "ธรรมรักษ์-เพ้ง-เสธ.ไอซ์" ไม่รอดตามคาด

วานนี้ ( 25 มิ.ย.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติให้แจ้งความดำเนินคดีกับอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และผู้ที่เกี่ยวข้องรวม 9 คน ตามที่คณะอนุกรรมการวินิจฉัยเรื่องร้องเรียนและปัญหาหรือข้อโต้แย้ง คณะที่ 4 ซึ่งมี นายประชิด ศรศักดา อดีตผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ เป็นประธานได้ตรวจสอบและเสนอความเห็นมา โดยเรื่องดังกล่าว กกต.ชุด พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ก็ได้เคยพิจารณามีมติไว้ และมอบเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบไปดำเนินการ แต่ยังไม่ได้มีการแจ้งความดำเนินคดี

ดังนั้นเมื่อ กกต.ชุดนี้มีมติดังกล่าว ก็จะมอบให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบเดิมไปดำเนินการ โดยหลังจากนี้ทางสำนักงานฯ จะยกร่างคำสั่งในเชิงคำร้องทุกข์ดำเนินคดี ให้ประธานกกต.ลงนามถึงผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยจะแนบคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในกรณีสั่งยุบพรรคไทยรักไทยไปด้วย ซึ่งก็จะเป็นอำนาจของพนักงานสอบสวนในการสืบสวนหาพยานหลักฐานต่อไป หากเห็นว่ามีน้ำหนักเพียงพอก็จะส่งให้อัยกการสูงสุดดำเนินการยื่นฟ้องอาญา แต่ทั้งนี้ อดีตกกรมการบริหารพรรค และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะมีความผิดหรือไม่ เป็นดุลยพินิจของศาลที่จะพิจารณาพิพากษา

ส่วนที่นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ระบุก่อนหน้านี้ว่า การสั่งดำเนินคดีอาญาเป็นอำนาจของนายทะเบียนพรรคการเมืองไม่ต้องผ่านมติที่ประชุม กกต.นั้น นายสุทธิพล กล่าวว่า ในที่ประชุมทางสำนักงานฯได้แจ้งให้ทราบว่า เรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับกฎหมายอื่นๆ ด้วย อีกทั้งเป็นเรื่องที่กกต.ชุดเดิมเคยมีมติไว้ให้ ใช้อำนาจตามมาตรา 16 ของ พ.ร.บ.กกต. แจ้งความดำเนินคดีกับกรรมการบริหารพรรค และผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ซึ่งในความผิดลักษณะเดียวกันที่ผ่านมาก็ใช้มติของที่ประชุม กกต. ดังนั้นกรณีนี้ก็ต้องทำในทำนองเดียวกัน โดยการประชุมครั้งนี้ องค์ประชุมอยู่ครบทั้ง 5 คน อย่างไรก็ตามในเรื่องของความผิดทางแพ่งนั้น ทางที่ประชุมไม่ได้มีการพิจารณา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้ง 9 ประกอบไปด้วย 1.พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ซึ่งขณะกระทำความผิดดำรงตำแหน่งเป็น รมว.กลาโหม 2.นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีตรองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย ขณะกระทำผิดเป็น รมว.คมนาคม 3.พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต ขณะกระทำผิดดำรงตำแหน่งหัวหน้านายทหารเสนาธิการ รมว.กลาโหม 4.พล.ท.ผดุงศักดิ์ กลั่นเสนาะ ขณะกระทำผิดดำรงตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้านายทหารเสนาธิการ รมว.กลาโหม

โดยทั้ง 4 คนนี้มีความผิดตามมาตรา 47 และมาตรา 100 ของ พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส. -ส.ว. ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย กระทำการใดๆ เพื่อเป็นคุณหรือโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมือง โดยให้เงินสนับสนุนแก่พรรคพัฒนาชาติไทย พรรคแผ่นดินไทย เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง และสนับสนุนผู้ที่รู้อยู่แล้วว่าตนเองไม่สิทธิสมัครลงรับเลือกตั้ง รวมทั้งมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137, 264 ,267 และ 268 คือใช้ให้ผู้อื่นปลอมแปลงเอกสาร ใช้เอกสารปลอม แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน และแจ้งเจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ

ส่วน 5.นายพงศ์ศรี หรือยุทธพงศ์ ศิวาโมกข์ 6.นายทวี สุวรรณพัฒน์ 7.นายธีรชัย หรือต้อย จุลพัฒน์ คนสนิทของ พล.อ.ธรรมรักษ์ ซึ่งเป็นคนกลางในการติดต่อระหว่างพรรคไทยรักไทย กับพรรคพัฒนาชาติไทย มีความผิดฐานสนับสนุนผู้ที่รู้อยู่แล้วว่า ตนไม่สิทธิรับสมัครลงรับเลือกตั้งตามมาตรา 100 ของพ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.-ส.ว. ประกอบมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา รวมทั้งมีความผิดฐานเป็นตัวการให้บุคคลอื่นปลอมแปลงเอกสาร ตามมาตรา 246 ประกอบมาตรา 83 และเป็นผู้สนับสนุนให้มีการใช้เอกสารปลอมดังกล่าวอันมีความผิดประกอบมาตรา 286 แห่งประมวลกฎหมายอาญา

8.นายสมชาย สุขประเสริฐ 9.นายประพันธ์ พรหมรัตน์ ในฐานะเป็นผู้ชักชวน และดำเนินการให้ผู้ที่ขาดคุณสมบัติในการสมัครไปสมัครรับเลือกตั้ง จึงมีความผิดฐานสนับสนุนให้กระทำความผิดตามมาตรา 137 267 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และมาตรา 100 แห่ง พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.-ส.ว.
กำลังโหลดความคิดเห็น