แบงก์ไม่อนุมัติเงินกู้พันล้านให้ลูกเป๊าะ ทำแผนปรับรร.บางแสนบีชต้องลดไซส์

ศูนย์ข่าวศรีราชา -กลุ่มโรงแรมในเครือบางแสน ปรับแผนพัฒนาโรงแรมบางแสนบีช รีสอร์ท ที่ททท.ต่ออายุสัมปทานบริหารอีก 30 ปี หลังแบงก์พาณิชย์ไม่อนุมัติเงินกู้พันล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการทั้งระบบ จากเดิมมีแผนสร้างโรงแรม 3 ดาวในรูปแบบ All Sweeat Hotel ที่จะสร้างอาคารใหม่ 2 แห่งเชื่อมต่อกับอาคารเก่าที่เปิดให้บริการมานานกว่า 50 ปี โดยแผนดำเนินงานใหม่ ได้ปรับลดงบประมาณในเฟสแรกเหลือเพียง 60-100 ล้านบาท มุ่งเน้นการลงทุนจากเล็กสู่ใหญ่ เพื่อให้ผลประกอบการเลี้ยงตนเองได้ ก่อนนำรายได้ที่เหลือมาพัฒนาส่วนต่างๆ ตามแผนงานที่วางไว้

นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม กรรมการผู้จัดการกลุ่มโรงแรมในเครือบางแสนจังหวัดชลบุรี ที่ประกอบด้วยโรงแรมเดอะไทด์ รีสอร์ท โรงแรมบางแสนบีช รีสอร์ท โรงแรมบางแสนวิลล่าและโรงแรมเอส เอส บางแสน เผยว่าหลังแบงก์พาณิชย์ไม่อนุมัติเงินกู้จำนวน 1 พันล้านบาทซึ่งทางกลุ่มได้ขอรับการสนับสนุนตั้งแต่ปี 2549 เพื่อปรับปรุงโรงแรมบางแสนบีช รีสอร์ททั้งระบบในปี 2550 หลังได้รับการต่ออายุสัมปทานจาก ททท.อีก 30ปี

ทำให้ทางกลุ่มต้องปรับแผนพัฒนาใหม่ จากเดิมที่กำหนดแผนพัฒนาในเฟสแรกที่จะมีการก่อสร้างโรงแรมระดับ 3 ดาว ขนาด 400 ห้อง ในรูปแบบของ All Sweeat Hotel เชื่อมต่อกับอาคารเก่าที่เปิดให้บริการมานานกว่า 50 ปี

ส่วนเฟสที่ 2 คือการก่อสร้างศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ในรูปแบบคอนเวนชันฮอลล์และศูนย์การค้าขนาดเล็ก รองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่เข้ามาทำกิจกรรมในเขตพื้นที่บางแสน ขณะที่เฟส 3 คือปรับปรุงอาคารเก่าให้เป็นบูติกโฮเต็ล และก่อสร้างโรง แรมขนาด 1 ดาว ในรูปแบบของอาคารขนาดใหญ่ที่จะเปิดเป็นห้องพักที่มีเตียงติดกัน รองรับกลุ่มนักเรียน นักศึกษา รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มักจะนำกรุ๊ปสัมมนาเข้ามาทำกิจกรรม ให้ได้มีที่พักเช่นเดียวกับกลุ่มมีรายได้ระดับปานกลางถึงล่าง ซึ่งถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวดั้งเดิมของชายหาดบางแสน

นอกจากนี้ ยังจะปรับปรุงบังกะโลที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันแต่คงรูปแบบสถาปัตยกรรมเดิมไว้ พัฒนาสระว่ายน้ำที่มีอยู่เดิม ร้าน อาหาร รวมทั้งกำหนดรูปแบบการบำบัดน้ำเสียใหม่ และจัดสร้างสวนหย่อมขนาดย่อมเพื่อให้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ

แผนลงทุนที่ได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อดำเนินการในปีนี้ คือ การปรับปรุงห้องพักจำนวน 70 ห้องในตึกเก่าให้มีความสวยงามและสะดวกสบายมากขึ้น แต่ยังคงโครงสร้างรูปแบบอาคารเดิมเพื่อให้เป็นแลนด์มาร์กของบางแสน ขณะเดียวกันยังจะก่อสร้างอาคารใหม่ 2 แห่ง เพื่อให้เชื่อมต่อกับอาคารเดิมตามแผนที่วางไว้ แต่จะปรับลดจำนวนห้องพักให้เหลือรวมกันเพียง 200 ห้อง กล่าวคือห้องพักในอาคารใหม่ทั้ง 2 แห่งจะมีประมาณ 130 ห้องเท่านั้น

นอกจากนั้นยังเพิ่มในส่วนของการจัดสร้างห้องประชุมขนาดใหญ่ที่จะอยู่ในพื้นที่ใกล้กับโรงแรมบางแสนบีช รีสอร์ท โดยโรงแรมแห่งนี้มีพื้นที่รวมทั้งหมด 44 ไร่ และเป็นการก่อสร้างที่ปรับแผนจากเดิมซึ่งเคยกำหนดให้เป็นคอนเวนชันฮอลล์ที่มีความหรูหรา ให้เหลือเพียงห้องประชุมที่เน้นการใช้งาน รองรับกลุ่มสัมมนาที่มีกำลังซื้อไม่สูงมาก โดยจะแยกตลาดอย่างชัดเจนจากเดอะไทด์ รีสอร์ทบางแสน ที่รองรับตลาดสัมมนา กลุ่มข้าราชการและบริษัทต่างๆ ซึ่งคาดว่าการก่อสร้างในส่วนนี้จะเริ่มตอกเสาเข็มได้ในเดือนพฤศจิกายนหลังการออกแบบก่อสร้างแล้วเสร็จ

" ปีนี้เราจะทำแค่นี้และกำหนดงบลงทุนให้อยู่ที่ 60-100 ล้านบาท เนื่องจากเรามีข้อจำกัดทางการเงิน จึงจะไม่ดำเนินการในส่วนอื่นๆ จนกว่าการลงทุนในส่วนแรกจะสร้างรายได้คืนกลับมาแล้วค่อย ดำเนินการในเฟสต่อๆ ไป ซึ่งในส่วนของบังกะโล ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 40 ปี ก็จะอนุรักษ์ไว้ซึ่งรูปแบบเดิม เพื่อให้เป็นที่ระลึกของคนในรุ่นก่อนๆ แต่จะเพิ่มในส่วนของความปลอดภัยและปรับรูปแบบบริการ เช่น บังกะโลหลังเล็ก จะตกแต่งให้เป็นบังกะโลสำหรับคู่รัก ส่วนบังกะโลหลังใหญ่ตั้งแต่โซน 5 เป็นต้นไปจะปรับให้เป็นพูลวิลลาที่มีความหรูหรา"

นายณรงค์ชัย ยังเผยการปรับปรุงโรงแรมในเครือ เช่น SS บางแสนที่ตั้งอยู่บริเวณห้วโค้งก่อนเลี้ยวลงชายหาดแหลมแท่นให้เป็นบูติกโฮเต็ลว่า หลังจากปี 2548 ได้ซื้ออาคารพาณิชย์โดยรอบจำนวน 8 ห้องเพื่อปรับปรุงให้เป็นเกสต์เฮาส์สไตล์โมเดิร์นจำนวน 30 ห้อง ขณะนี้การออกแบบเสร็จแล้ว และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในเดือนกรกฎาคมนี้

เช่นเดียวกับโรงแรมบางแสนวิลลา ซึ่งตั้งอยู่ด้านตรงข้ามร้านอาหาร ปะการัง ที่ผ่านมาได้ปรับปรุงห้องพักให้มีความสวยงามจนแล้วเสร็จ ขณะที่ตึกเก่าซึ่งเป็น อพาร์ตเมนต์จำนวน 20 ห้องใกล้กับโรงแรมฯ ก็ได้รับการปรับปรุงให้เป็นห้องพักระดับธรรมดา เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อในระดับปานกลางเช่นกัน