xs
xsm
sm
md
lg

ผ่านร่าง กม.ห้ามข่มขืนผู้อื่น แม้จะเป็นภรรยา-สามี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีมติเห็นชอบวาระ 2-3 ในร่าง พ.ร.บ.ห้ามข่มขืน-กระทำชำเราผู้อื่น แม้จะเป็นภริยา หรือสามีก็ตาม กำหนดโทษจำคุกสูงถึง 20 ปี

การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วานนี้ (20 มิ.ย.) เริ่มเมื่อเวลา 10.00 น. โดยมีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นประธาน ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ที่คณะกรรมาธิการฯ พิจารณาเสร็จแล้ว คือ ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) และนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เป็นผู้เสนอ ซึ่งมีสาระสำคัญแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 276 เกี่ยวกับผู้ใดข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น ซึ่งมิใช่ภริยา หรือสามีของตน โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี และปรับตั้งแต่ 8,000-40,000 บาท

โดยคณะกรรมาธิการฯ ได้แก้ไขตัดถ้อยคำ "ซึ่งไม่ใช่ภริยาหรือสามีของตน" ออกไป ซึ่งหมายความว่า แม้จะเป็นภริยา หรือสามี ก็ข่มขืนไม่ได้ แต่มี สนช. ขอสงวนคำแปรญัตติไว้

พล.ต.อ.อิสระพันธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา สนช. ได้สงวนคำแปรญัตติ ขอให้เพิ่มคำว่า"หญิง" ซึ่งไม่ใช่ภริยาของตนเอง โดยเห็นว่า ไม่มีทางที่เพศหญิงจะสามารถสอดใส่ในอวัยวะเพศตามที่บัญญัติไว้ ควรมุ่งไปที่ผู้ชาย การแก้ไขกฎหมายนี้จะทำให้สังคมและหญิงไทยทั้งประเทศต้องมองหน้ากันใหม่ ว่า ตามหลักกฎหมายจะใช้อวัยวะเพศทำร้ายคนอื่นได้ ทั้งนี้ ไม่ควรผ่านกฎหมายนี้ เพราะมีอะไรแปลก ๆ โดยผู้เสนอร่างกฎหมายกับผู้เสนอตั้งคณะกรรมาธิการฯ และผู้เป็นประธานคณะกรรมาธิการฯ พิจารณากฎหมายฉบับนี้ เป็นคนเดียวกันหมด เมื่อไปขอแปรญัตติ ได้รับทราบเหตุผลของการเสนอร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ว่า มีเหตุนี้เกิดขึ้นที่ จ.นครปฐม เป็นสาวโรงงานที่พอใจผู้ชาย แล้วรุมข่มขืนกระทำชำเราผู้ชาย ซึ่งไม่ทราบว่าคดีนี้มีจริงหรือไม่

“จริงๆ เราจะออกกฎหมายที่เป็นเรื่องตลก ไม่ควรทำ ถ้าไม่มีเหตุเกิดขึ้นจริง แต่ตอนนี้กรรมาธิการฯ เชื่อว่ามีเรื่องแบบนี้ ทำให้กฎหมายออกมาเป็นแบบนี้ ในชั้นต้นยังไม่พบคดีแบบนี้ แล้วจะแก้ไขกฎหมายให้ผู้หญิงถูกลบหลู่ เราน่าจะคุ้มครองผู้หญิง กฎหมายที่ออกมาแล้วทำให้เสื่อมเสียก็ไม่ควรออก แม้จะอ้างว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน ก็ไม่เห็นเร่งด่วนตรงไหน เราเป็นสภาชั่วคราว กฎหมายแบบนี้ยังไม่มีปัญหามากในสังคม แต่ในสังคมยังมีเรื่องอื่นอีกมาก การจะอ้างเพื่อความเท่าเทียม เป็นคนละเรื่อง แต่สุดท้ายกลายเป็นการคุ้มครองไม่ให้ผู้ชายทำร้ายผู้ชาย โดยให้เป็นความผิดแล้ว เราจะแก้มาตรานี้ทำไม”พล.ต.อ. อิสระพันธ์ กล่าว

พล.ต.อ.อิสระพันธ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการฯ ได้เพิ่มเติมคำนิยามว่า การกระทำชำเราไว้ ว่า เป็นการกระทำเพื่อสนองความใคร่ของผู้กระทำ โดยการใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำสอดเข้าไปในอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปากของผู้อื่น หรือการใช้สิ่งอื่นใดสอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศ หรือทวารหนักของผู้อื่น

ตัวแทนกรรมาธิการฯ ได้ชี้แจงยืนยันว่า การแก้ไขดังกล่าวได้คุ้มครองครอบคลุมแล้ว และคุณหญิงนันทกา สุประภาตะนันทน์ สนช. ได้ชี้แจงกำหนดนิยามคำว่า "ทวารหนัก" ไว้ เพื่อให้เห็นถึงความรุนแรงป่าเถื่อน ที่ชายกระทำกับหญิง จึงกำหนดไว้ให้คุ้มครองครอบคลุมเรื่องดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม นายมีชัย ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการบัญญัติถ้อยคำดังกล่าวว่า หมายถึง การห้ามชายข่มขืนชาย ชายข่มขืนหญิง หญิงข่มขืนหญิง หญิงข่มขืนชาย แต่เมื่อเขียนคำนิยามอย่างนี้จะใช้ไม่ได้ เพราะไม่มีทางที่หญิงจะกระทำการสอดใส่อย่างใดอย่างหนึ่งกับชายได้ ยกเว้นจะจับชายข่มขืน แล้วใช้ไม้แหย่เข้าไปในทวารหนัก ดังนั้น ไม่ควรใช้คำว่า "สอดเข้าไปในอวัยวะ" เพราะเพศหญิงคงทำไม่ได้

ขณะที่ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการฯ ชี้แจง โดยยอมแก้ไขตัดคำว่า"สอด" ออก และอ้างว่าในทางการแพทย์สมัยใหม่ ระบุว่า อวัยวะเพศชาย สามารถแข็งตัวได้เพราะความกลัวสุดขีด

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาเรียงรายมาตราเสร็จแล้ว ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบในวาระ 3 ด้วยเสียง 118 ต่อ 5 เสียง เพื่อให้ประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น