ปิยะนัสฯ ชี้ตลาดเครื่องเสียงระดับกลางและสูงทรงตัว เหตุการเมืองและเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย แนวโน้มแข่งขันที่บริการหลังการขายมากขึ้น ชูความเก๋าลุยตลาดเครื่องเสียง
นายปิยะนัส จงพัฒนากิจเรือง ผู้บริหาร กลุ่มปิยะนัสกรุ๊ป ตัวแทนจำหน่ายเครื่องเสียงชั้นนำเกือบ 100 แบรนด์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดเครื่องเสียงระดับกลางและสูงอยู่ในสภาวะทรงตัว เนื่องจากปัจจัยทางการเมืองและปัจจัยทางเศรษฐกิจ ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค สภาวะตลาดโดยรวมจึงยังไม่โต แม้จะมีกลุ่มลูกค้าประจำที่ไม่ต้องกังวลต่อสภาวะใดๆ สามารถจับจ่ายใช้สอยอยู่บ้าง แต่ก็ถือเป็นส่วนน้อย ในปีนี้จึงเป็นปีแห่งการแข่งขันทางด้านคุณภาพ และการบริการหลังการขาย
ปัจจุบันกลุ่มฯ สามารถขยายสาขาได้ถึง 7 แห่ง สาขาสุขุมวิท 101 สาขา เสรีเซ็นเตอร์ สาขา เซียร์ รังสิต สาขา ฟิวเจอร์ พาร์ค บางแค สาขา รัตนาธิเบศร์ สาขา อิมพีเรียล ลาดพร้าว และสาขา ตึกคอม ศรีราชา ซึ่งมากที่สุดในกลุ่มธุรกิจตัวแทนจำหน่ายเครื่องเสียงอิสระ มีห้องที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ สำหรับใช้ทดลองสินค้า มีระบบตรวจสอบสินค้าที่จะนำมาจำหน่ายของตนเอง และมีทีมบริการหลังการขายให้กับสินค้าทุกแบรนด์ เป็นต้น
“ตลาดเครื่องเสียงระดับกลางถึงสูงที่ปิยะนัสจำหน่ายอยู่จะแตกต่างจากเครื่องเสียงที่จำหน่ายตามร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป หรือโมเดิร์นเทรดส่วนใหญ่จำหน่าย โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักคือ ผู้ที่ชอบเล่นเครื่องเสียงเป็นชีวิตจิตใจ มีระดับราคาเริ่มต้นแต่ละชุดประมาณ 30,000 บาท ขึ้นไป จนถึงหลัก ล้านบาท โดยแบ่งสินค้าออกเป็น 2 ระบบใหญ่ๆ ได้แก่ ระบบสเตอริโอ และ ระบบโฮม เธียร์เตอร์ สินค้ามีให้เลือกเกือบทุกแบรนด์ อาทิ ยามาฮ่า (YAMAHA) เจบีแอล (JBL) มารานต์ (MARANTZ) เดนนอน (DENON) เป็นต้น โดย กลุ่มปิยะนัส สามารถครองส่วนแบ่งตลาดเครื่องเสียงในกลุ่มนี้ได้ถึง 70% ทั้งนี้สินค้าที่จำหน่าย ภายใต้ ปิยะนัส ยังมีราคาถูกกว่าการซื้อตรงจากผู้ผลิต เจ้าของแบรนด์ หรือ ร้านค้าอื่นๆ ทั่วไป ประมาณ 5 – 10% ” นายปิยะนัส กล่าว
นายปิยะนัส จงพัฒนากิจเรือง ผู้บริหาร กลุ่มปิยะนัสกรุ๊ป ตัวแทนจำหน่ายเครื่องเสียงชั้นนำเกือบ 100 แบรนด์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดเครื่องเสียงระดับกลางและสูงอยู่ในสภาวะทรงตัว เนื่องจากปัจจัยทางการเมืองและปัจจัยทางเศรษฐกิจ ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค สภาวะตลาดโดยรวมจึงยังไม่โต แม้จะมีกลุ่มลูกค้าประจำที่ไม่ต้องกังวลต่อสภาวะใดๆ สามารถจับจ่ายใช้สอยอยู่บ้าง แต่ก็ถือเป็นส่วนน้อย ในปีนี้จึงเป็นปีแห่งการแข่งขันทางด้านคุณภาพ และการบริการหลังการขาย
ปัจจุบันกลุ่มฯ สามารถขยายสาขาได้ถึง 7 แห่ง สาขาสุขุมวิท 101 สาขา เสรีเซ็นเตอร์ สาขา เซียร์ รังสิต สาขา ฟิวเจอร์ พาร์ค บางแค สาขา รัตนาธิเบศร์ สาขา อิมพีเรียล ลาดพร้าว และสาขา ตึกคอม ศรีราชา ซึ่งมากที่สุดในกลุ่มธุรกิจตัวแทนจำหน่ายเครื่องเสียงอิสระ มีห้องที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ สำหรับใช้ทดลองสินค้า มีระบบตรวจสอบสินค้าที่จะนำมาจำหน่ายของตนเอง และมีทีมบริการหลังการขายให้กับสินค้าทุกแบรนด์ เป็นต้น
“ตลาดเครื่องเสียงระดับกลางถึงสูงที่ปิยะนัสจำหน่ายอยู่จะแตกต่างจากเครื่องเสียงที่จำหน่ายตามร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป หรือโมเดิร์นเทรดส่วนใหญ่จำหน่าย โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักคือ ผู้ที่ชอบเล่นเครื่องเสียงเป็นชีวิตจิตใจ มีระดับราคาเริ่มต้นแต่ละชุดประมาณ 30,000 บาท ขึ้นไป จนถึงหลัก ล้านบาท โดยแบ่งสินค้าออกเป็น 2 ระบบใหญ่ๆ ได้แก่ ระบบสเตอริโอ และ ระบบโฮม เธียร์เตอร์ สินค้ามีให้เลือกเกือบทุกแบรนด์ อาทิ ยามาฮ่า (YAMAHA) เจบีแอล (JBL) มารานต์ (MARANTZ) เดนนอน (DENON) เป็นต้น โดย กลุ่มปิยะนัส สามารถครองส่วนแบ่งตลาดเครื่องเสียงในกลุ่มนี้ได้ถึง 70% ทั้งนี้สินค้าที่จำหน่าย ภายใต้ ปิยะนัส ยังมีราคาถูกกว่าการซื้อตรงจากผู้ผลิต เจ้าของแบรนด์ หรือ ร้านค้าอื่นๆ ทั่วไป ประมาณ 5 – 10% ” นายปิยะนัส กล่าว