ผู้จัดการรายวัน – สบู่ถือเป็นสิ่งที่ช่วยชำระล้างความสะอาดร่างกาย มาค่อนข้างเก่าแก่ แต่ก็ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเพิ่มมูลค่าในการชำระล้างให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงกลิ่นก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อกลับไปทดลองใช้ แต่ขณะนี้นวัตกรรมของสบู่ก้อนที่โดนใจผู้บริโภค ไม่ได้จำกัดอยู่ที่กลิ่นหอมเพียงอย่างเดียว ซึ่งในเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอกก็เป็นสิ่งที่ดึงดูดใจได้ในครั้งแรก
และนี่เองทำให้นักออกแบบกราฟิกให้กับองค์กรต่างๆ เริ่มต้นธุรกิจด้วยรูปลักษณ์สินค้าที่เน้นความแตกต่าง และทำให้ผู้พบเห็นต้องเหลียวหลังและเข้ามาสอบถามรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ในครั้งแรก ซึ่งก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงในการนำให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักได้รวดเร็วขึ้น
จิตินันท์ บุญสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอยาดา โปรดักส์ จำกัด เล่าว่า ธุรกิจนี้เกิดจากความชอบส่วนตัวที่สนใจในผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ จึงได้อาศัยเวลาว่างจากงานออกแบบ เรียนวิชาชีพด้านการทำสบู่ จนได้มีโอกาสแสดงฝีมือให้กับลูกค้าขององค์กรหนึ่งที่ตนเองเป็นผู้ออกแบบงานกราฟิกให้ ด้วยการผลิตสบู่ก้อนจากธรรมชาติให้กับองค์กรนั้น เพื่อนำไปเป็นของขวัญให้กับลูกค้า ซึ่งก็ได้รับการตอบรับดี และมีเริ่มมีออเดอร์จากบุคคลทั่วไปสั่งซื้อโดยตรง จึงคิดว่าธุรกิจนี้หากทำอย่างจริงจังน่าจะมีโอกาสไปรอดได้
“เมื่อเราเริ่มมองเห็นลู่ทางการดำเนินธุรกิจนี้ จึงได้เริ่มทดลองตลาด ด้วยการสร้างแบรนด์ที่ชื่อว่า Ayada (มาจากคำว่า Ayurveda แปลว่า อายุรเวช) และเข้าร่วมงานกับกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ในงาน Thailand Health & Beauty และงาน BIG & BIH ก็ประสบความสำเร็จ ลูกค้าต่างให้ความสนใจในผลิตภัณฑ์ จึงได้เริ่มผลิตสบู่อย่างจริงจังกัลป์พนักงานเพียง 2 คน เน้นการเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป”
โดยจุดเด่นสบู่ธรรมชาติของ เอยาดา อยู่ที่ความหอมสดชื่น และการออกแบบ ที่เน้นความสนุกสนาน และกลมกลืนกับบรรจุภัณฑ์ที่เรียบง่าย แต่คงคุณค่าความเป็นธรรมชาติ จากทีมงานออกแบบ และจิตินันท์ เป็นผู้ออกแบบเอง ซึ่งจะเริ่มจากการกำหนดคอนเซ็ปท์ ด้วยการศึกษาหลักเกณฑ์แห่งความสมดุลแบบตะวันออกในแบบต่างๆ หรือส่วนผสมจากธรรมชาติต่างที่จะสามารถนำมาใส่ลงในสบู่ก้อนได้
“เราจะพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบ การผลิตเพื่อให้ได้รูปแบบตามต้องการ ไปจนถึงบรรจุภัณฑ์ รวมถึงศึกษาเทรนด์สินค้าในกลุ่มอื่นเพื่อเพิ่มความสีสันความสนุกให้กับสินค้า ไม่ว่าจะเป็น สบู่ในรูปแบบของช็อกโกแลต เค้ก (วิธีใช้หั่นเป็นชิ้นเค้กก่อนนำไปใช้งาน หรือนำไปตั้งโชว์) บิสกิต คุกกี้ และเนยแข็ง เป็นต้น ทำให้สามารถความแตกต่างให้กับวงการสบู่ของไทยเป็นอย่างมาก รวมถึงยังเป็นสบู่แฮนด์เมดอย่างแท้จริง”
นอกจากรูปลักษณ์ที่สื่อถึงความสนุกสนาน และคล้ายกับขนมทานเล่นแล้ว ในเรื่องสมนุไพรที่นำมาใช้ก็มีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับรูปแบบของสบู่ และการนำไปใช้งาน เช่น สบู่ล้างหน้า สบู่สำหรับใช้ในครัว สบู่เพิ่มความสดชื่นยามเช้า อย่าง สบู่ช็อกโกแลต เป็นต้น
ส่วนการทำตลาดทาง เอยาดา จะเน้นตลาดในต่างประทศเป็นหลัก เนื่องจากการทำตลาดในไทย จะมีคู่แข่งมาก และใช้กลยุทธ์ทางการตลาดด้วยสงครามราคาเป็นส่วนใหญ่ ทำให้สินค้าต้องลดคุณภาพในเรื่องของวัตถุดิบตามไปด้วย ซึ่งสัดส่วนการส่งออกประมาณ 95% ในกลุ่มประเทศยุโรป เช่น อังกฤษ เยอรมนี สเปน สวิสเซอร์แลนด์ ส่วนตลาดใหม่ที่เข้ามาในปีนี้คือ สหรัฐฯ แคนาดา และญี่ปุ่น ส่วนประเทศในแถบเอเชีย ได้แก่ ไต้หวัน และอาหรับเอมิเรสต์ ส่วนที่เหลืออีก 5% เป็นลูกค้าในโรงแรม และสปา ของไทยเป็นหลัก
“เราคิดว่าเรามีศักยภาพเพียงพอในการผลิตสบู่ในต่างชาติยอมรับในคุณภาพได้ จึงได้มุ่งทำตลาดต่างประเทศเป็นหลัก แต่ก็ต้องเผชิญกับอุปสรรคด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในเรื่องการห้องแล็ปในรับรองคุณภาพสบู่ที่มีหลายขั้นตอน และมีหลายหัวข้อที่ทางไทยยังไม่มีความพร้อม ส่งผลให้ขณะนี้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยหลายรายต้องส่งตัวอย่างสบู่ตัวใหม่ไปการันตีคุณภาพยังต่างประเทศ โดยราคาค่าใช้จ่ายทั้งหมดหลายหมื่นบาทต่อ 1 ผลิตภัณฑ์ ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้ภาครัฐฯ เข้ามาช่วยเหลือในการสร้างศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์อย่างสบู่ หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่สินค้าส่งออกหลักของไทยอย่าง ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้ธุรกิจเอสเอ็มอีไทยอยู่รอดได้อีกหลายราย”
สำหรับกำลังการผลิตโดยประมาณอยู่ที่ 1,600 ก้อน/วัน ซึ่งออเดอร์มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ภายในปี 2551 ทางเอยาดา จะสร้างโรงงานผลิตขึ้นใหม่ บนเนื้อที่ 2 ไร่เศษ ย่านพุทธมณฑล เพื่อขยายกำลังการผลิตและตั้งจุด outlet ของผลิตภัณฑ์เอยาดา รวมถึงเป็นจุดแวะชมการสาธิตการทำสบู่ให้แก่ผู้สนใจอีกด้วย
สนใจติดต่อ 0-2668-9265-6, 0-2241-1913 ต่อ 105 หรือที่ www.ayadasoap.com
และนี่เองทำให้นักออกแบบกราฟิกให้กับองค์กรต่างๆ เริ่มต้นธุรกิจด้วยรูปลักษณ์สินค้าที่เน้นความแตกต่าง และทำให้ผู้พบเห็นต้องเหลียวหลังและเข้ามาสอบถามรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ในครั้งแรก ซึ่งก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงในการนำให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักได้รวดเร็วขึ้น
จิตินันท์ บุญสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอยาดา โปรดักส์ จำกัด เล่าว่า ธุรกิจนี้เกิดจากความชอบส่วนตัวที่สนใจในผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ จึงได้อาศัยเวลาว่างจากงานออกแบบ เรียนวิชาชีพด้านการทำสบู่ จนได้มีโอกาสแสดงฝีมือให้กับลูกค้าขององค์กรหนึ่งที่ตนเองเป็นผู้ออกแบบงานกราฟิกให้ ด้วยการผลิตสบู่ก้อนจากธรรมชาติให้กับองค์กรนั้น เพื่อนำไปเป็นของขวัญให้กับลูกค้า ซึ่งก็ได้รับการตอบรับดี และมีเริ่มมีออเดอร์จากบุคคลทั่วไปสั่งซื้อโดยตรง จึงคิดว่าธุรกิจนี้หากทำอย่างจริงจังน่าจะมีโอกาสไปรอดได้
“เมื่อเราเริ่มมองเห็นลู่ทางการดำเนินธุรกิจนี้ จึงได้เริ่มทดลองตลาด ด้วยการสร้างแบรนด์ที่ชื่อว่า Ayada (มาจากคำว่า Ayurveda แปลว่า อายุรเวช) และเข้าร่วมงานกับกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ในงาน Thailand Health & Beauty และงาน BIG & BIH ก็ประสบความสำเร็จ ลูกค้าต่างให้ความสนใจในผลิตภัณฑ์ จึงได้เริ่มผลิตสบู่อย่างจริงจังกัลป์พนักงานเพียง 2 คน เน้นการเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป”
โดยจุดเด่นสบู่ธรรมชาติของ เอยาดา อยู่ที่ความหอมสดชื่น และการออกแบบ ที่เน้นความสนุกสนาน และกลมกลืนกับบรรจุภัณฑ์ที่เรียบง่าย แต่คงคุณค่าความเป็นธรรมชาติ จากทีมงานออกแบบ และจิตินันท์ เป็นผู้ออกแบบเอง ซึ่งจะเริ่มจากการกำหนดคอนเซ็ปท์ ด้วยการศึกษาหลักเกณฑ์แห่งความสมดุลแบบตะวันออกในแบบต่างๆ หรือส่วนผสมจากธรรมชาติต่างที่จะสามารถนำมาใส่ลงในสบู่ก้อนได้
“เราจะพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบ การผลิตเพื่อให้ได้รูปแบบตามต้องการ ไปจนถึงบรรจุภัณฑ์ รวมถึงศึกษาเทรนด์สินค้าในกลุ่มอื่นเพื่อเพิ่มความสีสันความสนุกให้กับสินค้า ไม่ว่าจะเป็น สบู่ในรูปแบบของช็อกโกแลต เค้ก (วิธีใช้หั่นเป็นชิ้นเค้กก่อนนำไปใช้งาน หรือนำไปตั้งโชว์) บิสกิต คุกกี้ และเนยแข็ง เป็นต้น ทำให้สามารถความแตกต่างให้กับวงการสบู่ของไทยเป็นอย่างมาก รวมถึงยังเป็นสบู่แฮนด์เมดอย่างแท้จริง”
นอกจากรูปลักษณ์ที่สื่อถึงความสนุกสนาน และคล้ายกับขนมทานเล่นแล้ว ในเรื่องสมนุไพรที่นำมาใช้ก็มีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับรูปแบบของสบู่ และการนำไปใช้งาน เช่น สบู่ล้างหน้า สบู่สำหรับใช้ในครัว สบู่เพิ่มความสดชื่นยามเช้า อย่าง สบู่ช็อกโกแลต เป็นต้น
ส่วนการทำตลาดทาง เอยาดา จะเน้นตลาดในต่างประทศเป็นหลัก เนื่องจากการทำตลาดในไทย จะมีคู่แข่งมาก และใช้กลยุทธ์ทางการตลาดด้วยสงครามราคาเป็นส่วนใหญ่ ทำให้สินค้าต้องลดคุณภาพในเรื่องของวัตถุดิบตามไปด้วย ซึ่งสัดส่วนการส่งออกประมาณ 95% ในกลุ่มประเทศยุโรป เช่น อังกฤษ เยอรมนี สเปน สวิสเซอร์แลนด์ ส่วนตลาดใหม่ที่เข้ามาในปีนี้คือ สหรัฐฯ แคนาดา และญี่ปุ่น ส่วนประเทศในแถบเอเชีย ได้แก่ ไต้หวัน และอาหรับเอมิเรสต์ ส่วนที่เหลืออีก 5% เป็นลูกค้าในโรงแรม และสปา ของไทยเป็นหลัก
“เราคิดว่าเรามีศักยภาพเพียงพอในการผลิตสบู่ในต่างชาติยอมรับในคุณภาพได้ จึงได้มุ่งทำตลาดต่างประเทศเป็นหลัก แต่ก็ต้องเผชิญกับอุปสรรคด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในเรื่องการห้องแล็ปในรับรองคุณภาพสบู่ที่มีหลายขั้นตอน และมีหลายหัวข้อที่ทางไทยยังไม่มีความพร้อม ส่งผลให้ขณะนี้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยหลายรายต้องส่งตัวอย่างสบู่ตัวใหม่ไปการันตีคุณภาพยังต่างประเทศ โดยราคาค่าใช้จ่ายทั้งหมดหลายหมื่นบาทต่อ 1 ผลิตภัณฑ์ ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้ภาครัฐฯ เข้ามาช่วยเหลือในการสร้างศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์อย่างสบู่ หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่สินค้าส่งออกหลักของไทยอย่าง ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้ธุรกิจเอสเอ็มอีไทยอยู่รอดได้อีกหลายราย”
สำหรับกำลังการผลิตโดยประมาณอยู่ที่ 1,600 ก้อน/วัน ซึ่งออเดอร์มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ภายในปี 2551 ทางเอยาดา จะสร้างโรงงานผลิตขึ้นใหม่ บนเนื้อที่ 2 ไร่เศษ ย่านพุทธมณฑล เพื่อขยายกำลังการผลิตและตั้งจุด outlet ของผลิตภัณฑ์เอยาดา รวมถึงเป็นจุดแวะชมการสาธิตการทำสบู่ให้แก่ผู้สนใจอีกด้วย
สนใจติดต่อ 0-2668-9265-6, 0-2241-1913 ต่อ 105 หรือที่ www.ayadasoap.com