xs
xsm
sm
md
lg

การเมืองถล่มหุ้นชินคอร์ปรูดกราว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ดัชนีตลาดหุ้นไทยรูด 10 จุดนักลงทุนห่วงสถานการณ์ประท้วงบานปลาย ขณะที่เครือชินคอร์ปไม่รอด SATTEL หนักสุดกว่า 12% ส่วน ADVANC เกือบ 4% นักวิเคราะห์ฟันธงเลี่ยงลงทุนทั้งกลุ่ม "ฉลองภพ" โบ้ยเหตุหุ้นตกเป็นเพราะปัจจัยนอกประเทศกระทบ ไม่ยอมรับพิษการเมืองฉุดความมั่นใจ ขณะที่โบรกฯห่วงดัชนีหลุด 740 จุดไหลยาว
 
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์วานนี้ (12 มิ.ย.) สถานการณ์ทางการเมืองกลับมาเป็นประเด็นกดดันตลาดหุ้นอีกครั้งหลังมีการคาดการณ์ว่าอาจจะเกิดความรุนแรงขึ้นหลังคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) มีมติให้อายัดทรัพย์พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกว่า 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งอาจจะส่งผลทำให้กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการทำงานของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.)ออกมาประท้วงจนเกิดการปะทะหรือมีสถานการณ์ที่บานปลายจนเกิดเหตุนองเลือด โดยดัชนีปรับตัวลดลงมาปิดที่จุดต่ำสุดของวันที่ 743.42 จุด ลดลง 10.73 จุด หรือ 1.42% โดยจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ 753.78 จุด มูลค่าการซื้อขาย 14,798.30 ล้านบาท
 
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,037.37 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 1,088.95 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 948.42 ล้านบาท
 
สำหรับหุ้นที่ได้รับผลกระทบอย่างชัดเจนคือกลุ่มที่มีความเกี่ยวข้องกับอดีตนายกรัฐมนตรีแม้ว่าปัจจุบันจะมีการขายหุ้นออกมาแล้ว โดยหุ้นบมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น หรือ SHIN ราคาปิดที่ 28 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.88% , บมจ.ชินแซทเทลไลท์ หรือ SATTEL ราคาปิดที่ 10.20 บาท ลดลง 1.40 บาท หรือ 12.07 % , บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ ADVANC ราคาปิดที่ 86 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือ 3.91% และ บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น หรือ SC ราคาปิดที่ 9.5 บาท ลดลง 0.5 บาท หรือ 5%
 
นางสาวมยุรี โชวิกรานต์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.นครหลวงไทย กล่าวว่า หุ้นในกลุ่ม SHIN ได้รับผลกระทบจากจิตวิทยา จากคำสั่งอายัดทรัพย์อดีตนายกรัฐมนตรี แต่เรื่องดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานต่อหุ้นในกลุ่ม SHIN เพราะไม่ใช่ประเด็นที่ระบุว่าบริษัทได้มีการทำสัญญาสัมปทานแล้วทำผิดหรือต้องมีการยึดสัมปทาน
 
ทั้งนี้ ผลกระทบที่เกิดขึ้นคงแค่ช่วงสั้นมากกว่า โดยก่อนหน้านี้ฝ่ายวิจัยก็แนะหลีกเลี่ยงหุ้นกลุ่ม SHIN ทั้งหมดอยู่แล้ว เพราะมีปัจจัยเสี่ยงหลายเรื่องซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นในอนาคตได้อีก
 
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด กล่าวว่า หุ้น ADVANC, SATTEL, SHIN ที่ปรับตัวลดลงในวานนี้ปัจจุบันไม่ใช่ของอดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่เป็นของเทมาเส็ก แต่ยังมีการขายออกมาค่อนข้างมากเนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลต่อผลกระทบที่จะได้รับจากกรณีการอายัดทรัพย์สินของอดีตนายกรัฐมนตรี

**"กิมเอ็ง"ชี้ ADVANC หนักสุด
 
บทวิเคราะห์บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า คาดว่าคำสั่งของ คตส. จะกระทบกับหุ้นบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส (ADVANC) บริษัท ชินแซทเทลไลท์ (SATTEL) และหุ้นบริษัท เอสซีแอสเซท คอร์ปอเรชั่น (SC) โดยคาดว่าADVANC จะตกเป็นเป้าการเทขายมากที่สุด เนื่องจากมีความเสี่ยงเกี่ยวกับการแก้ไขสัญญาสัมปทาน ในช่วงที่พ.ต.ท.ทักษิณ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
 
นอกจากนี้หุ้น SATTEL จะเผชิญกับแรงเทขายกดดัน ในกรณีให้บมจ.ทีโอทีเช่าช่องสัญญาณดาวเทียมของ SATTEL

***"ฉลองภพ"โบ้ยหุ้นตกปัจจัย ตปท.
 
นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวลดลง 10.73 จุดนั้น ปัจจัยการเมืองเป็นแค่ส่วนหนึ่ง ตนมองว่าปัจจัยสำคัญวานนี้เป็นปัจจัยแนวโน้มตลาดโลกที่อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะยาวอายุ 10 ปี ปรับตัวสูงขึ้มมากกว่า 5.0% เป็นครั้งแรกในรอบปีและสูงกว่าพันธบัตรระยะสั้น ทำให้ตลาดทั่วโลกเกิดการช็อกและปรับตัวลดลงตาม
 
“เรื่องคดียุบพรรคและการอายัดทรัพย์อดีตผู้นำเป็นเพียงองค์ประกอบบางส่วนที่ทำให้ตลาดผันผวน แต่หากการเมืองภายหลังการเลือกตั้งมีความชัดเจนไม่มีความขัดแย้งรุนแรงในสังคมเศรษฐกิจก็คงเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งเรื่องการเมืองนั้นฝ่ายความมั่นคงมีหน้าที่ดูแลและน่าจะควบคุมสถานการณ์ได้หากมีแนวโน้มรุนแรงก็คงต้องหามาตรการมาเสริมเพื่อให้สู่ภาวะปกติ” นายฉลองภพ กล่าว
 
*** โบรกหวั่นดัชนีหลุด 740
 
นางสาวจิตติมา อังสุวรังษี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายที่ปรึกษาการลงทุน บล.ฟาร์อีสท์ กล่าวว่าระยะสั้นดัชนีตลาดหุ้นมีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงหลุดแนวรับที่ ระดับ 740 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังมีความกังวลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกลุ่ม ผู้ชุมนุมทางการเมืองที่อาจจะทวีความรุนแรงมากขึ้นขณะเดียวกันไม่มีปัจจัยบวก ใหม่เข้ามาสนับสนุนการลงทุนด้วย
 
ทั้งนี้ในระยะยาวหากได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปรับตัวลดลง มองว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวลดลงมาทดสอบแนวรับทางเทคนิคที่ระดับ 730-735 จุด โดยคำแนะนำให้นักลงทุนติดตามการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นต่างประเทศและการชุมนุม ต่อจากนี้ว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งจะส่งผลกับจิตวิทยาการลงทุน โดยประเมินแนวรับที่ 740 จุด และแนวต้านที่ 745 จุด
 
นายฉัตรชัย กิจธิคุณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.สินเอเซีย กล่าวว่า เหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลไม่ควรยืดเยื้อไปกว่านี้ เนื่องจากหากมีการยืดเยื้อไปมากกว่านี้จะส่งผลเสียกับทั้ง 2 ฝ่าย และจะส่งผลกระทบในส่วนของการตัดสินใจเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นได้ แม้ว่าปัจจุบันต่างชาติยังคงเข้ามาซื้อสุทธิต่อเนื่องก็ตาม
กำลังโหลดความคิดเห็น