xs
xsm
sm
md
lg

ตอนที่ 52 สมเด็จโตรักษาโรคอัมพาต (ตอน 1)

เผยแพร่:   โดย: เรืองวิทยาคม

การมากรุงเทพฯของแม่เที่ยวนั้นเป็นการเดินทางขึ้นมาเยี่ยมและดูแลความเป็นอยู่ของลูก ตลอดจนขอบคุณพระสงฆ์องค์เจ้าที่มีบุญคุณในการให้ที่อยู่อาศัยแก่ลูก และถือโอกาสไปนมัสการพระสงฆ์ตลอดจนศาสนสถานที่สำคัญอีกหลายแห่ง ทั้งมีผลพลอยได้ให้ได้มีโอกาสซื้อบ้านและที่ดินโดยไม่ได้คาดคิดมาก่อน

การขึ้นมากรุงเทพฯ ครั้งนี้ทำให้แม่ต้องตกใจและเศร้าใจเพราะปรากฏว่าคุณป้าบุญช่วยลูกสะใภ้ของคุณย่าละม้ายได้ป่วยด้วยโรคอัมพาตมากว่าครึ่งเดือนแล้ว ซีกซ้ายของลำตัวทั้งแขนขาเคลื่อนไหวไม่ได้ ต้องนอนอยู่กับที่ หมอบอกว่าเป็นโรคนี้แล้วยากที่จะรักษาให้หายได้

แม่มาเยี่ยมผมที่วัดระฆัง ผมจึงตามไปส่งแม่ที่บ้านของคุณย่าละม้าย แม่พาไปกราบคุณป้าบุญช่วยซึ่งป่วยนอนอยู่กับที่ ผมก็เข้าไปกราบตามคำแม่ ในขณะที่ผมกราบนั้นเห็นแม่บีบเคล้นนวดตามขาและมือให้กับคุณป้า ผมก็รู้สึกเวทนาในพยาธิที่บังเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ตัวผมไม่มีความรู้สึกผูกพันฉันท์ญาติแต่ประการใดเพราะผมห่างจากความเป็นญาติ ความรู้สึกผูกพันฉันท์ญาตินั้นคงมีอยู่เฉพาะตัวของแม่เนื่องจากมีความสนิทสนมกันมาแต่ก่อน

ผมเห็นคุณป้าบุญช่วยอยู่ในทุกขเวทนา และเห็นสีหน้าแม่เต็มไปด้วยความเศร้า น้ำใจก็สลดลง ในพลันนั้นผมเกิดอาการครั่นเนื้อครั่นตัว ขนลุกซู่ซ่า เป็นแบบเดียวกันกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อครั้งที่ไปขออาศัยอยู่วัดระฆัง รู้สึกว่ามีพลังมหัศจรรย์บังเกิดขึ้นในตัว ผมมีความรู้สึกว่าฝ่ามือทั้งสองข้างใหญ่เท่าใบตาล มีน้ำหนักมาก มีพลังที่กรุ่นประดังอยู่ในมือทั้งสองข้าง

ในพลันนั้นใจผมก็โน้มรำลึกไปถึงเจ้าประคุณสมเด็จ มือขวาได้ยกขึ้นมาแตะที่พระสมเด็จองค์ที่ลุงต๋อมให้โดยที่ไม่รู้สึกตัว และแวบความรู้สึกนั้นเองก็บังเกิดความคิดขึ้นว่าจะต้องรักษาคุณป้าบุญช่วยให้หาย ซึ่งถึงวันนี้ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่มั

ผมกล่าวขึ้นคล้าย ๆ กับมีสิ่งลี้ลับมาบังคับให้พูดว่าให้ไปหาน้ำมันมะพร้าวมา ผมจะรักษาให้หาย ทำให้แม่ คุณย่าละม้าย และลูกหลานในที่นั้นตกตะลึง แต่คงเห็นท่าทางของผมเปลี่ยนแปลงไปก็เป็นได้ ดังนั้นคุณย่าละม้ายซึ่งเป็นคนโบราณมีความเชื่อในเรื่องสิ่งลี้ลับอยู่แล้วจึงทำตาม โดยคุณย่าละม้ายได้สั่งให้คนในบ้านไปซื้อน้ำมันมะพร้าวจากร้านค้าในย่านนั้น ในระหว่างนั้นผมได้นวดเฟ้นให้คุณป้าบุญช่วยด้วยความรู้สึกว่ามีพลังลี้ลับในฝ่ามือทั้งสองแล่นไหลไปยังคุณป้าบุญช่วยอย่างไม่ขาดสาย

ตัวผมเมื่อน้อยช่วงที่ยังอยู่กับก๋งนั้นเคยได้รู้เห็นและร่ำเรียนเกี่ยวกับการนวดแบบโบราณ เนื่องจากก๋งมีหมอนวดประจำตัวอยู่คนหนึ่งเป็นลูกครึ่งจีน ตาบอดทั้งสองข้าง มีชื่อว่าเซ่งเลี่ยน หมอเซ่งเลี่ยนมานวดก๋งเป็นประจำ พอหมอเซ่งเลี่ยนมานวดก๋งผมก็ไปนอนหรือนั่งพูดคุยกับหมอ และไต่ถามเรื่องราวไปตามประสา

หมอเซ่งเลี่ยนแม้จะพิการตาบอดแต่ได้ร่ำเรียนในเรื่องเวทย์มนต์คาถา โดยเฉพาะวิชาเกี่ยวกับการนวดทั้งจากฝ่ายจีนและฝ่ายไทยโบราณ และมีจิตใจเต็มไปด้วยความเมตตามิได้รังเกียจว่าผมเป็นเด็ก เมื่อผมพูดจาสอบถามประการใดหมอเซ่งเลี่ยนก็พูดจาอธิบายให้ฟังทุกประการ ประหนึ่งว่าผมเป็นผู้ใหญ่ฉะนั้น

ครั้นรู้จักมักคุ้นบ่อยครั้งเข้าก็มีความสนิทสนมคุ้นเคยกันเหมือนญาติ ผมคิดว่าผมมีอายุมากขึ้นทุกวัน ก็คงจะปวดเมื่อยบ้างเป็นธรรมดา ดังนั้นหากได้เรียนวิชานวดไว้บ้างก็จะเป็นประโยชน์แก่ตัวและยังใช้ประโยชน์ในการช่วยนวดเฟ้นให้กับก๋งอีกด้วย จึงได้ขอเรียนวิชาการนวดและวิชาการทำน้ำมันมนต์สำหรับการนวดจากหมอเซ่งเลี่ยน

แม้ว่าผมยังเป็นเด็ก แต่เพราะความสนิทสนมคุ้นเคยประหนึ่งญาติ ทั้งยังมีความสนใจใฝ่ในวิชา หมอเซ่งเลี่ยนก็ให้ความเมตตาสอนวิธีนวดวิธีเฟ้นเป็นลำดับไป คือทุกครั้งที่มานวดก๋งเสร็จแล้ว ก็จะสอนให้ผมนวดคราวละท่าเป็นลำดับไป ตอนหลังก็ได้สอนมนต์บทพระคาถาคลายเส้นเอ็นซึ่งเป็นบทคาถาเสกน้ำมันมนต์ประจำตัว จึงทำให้ผมมีความรู้เรื่องการนวดแผนโบราณและการทำน้ำมันมนต์จากหมอเซ่งเลี่ยนด้วยประการฉะนี้

ในยามนั้นผมได้นวดเฟ้นคุณป้าบุญช่วยตามหลักวิชาที่ได้เล่าเรียนศึกษามาจากหมอเซ่งเลี่ยน

คุณป้าบุญช่วยก็คงจะสงสัยว่าไฉนเด็กน้อยที่ไม่เคยอยู่ในสายตาสนใจมาแต่ก่อนกลับเอาใจใส่ดูแลรักษาท่าน แต่คงจะเห็นอาการที่ผิดปกติไป คุณป้าบุญช่วยซึ่งคุ้นเคยอยู่ในพระศาสนาเหมือนกับคุณย่าละม้ายก็ได้พริ้มตาลงรับการรักษาโดยดุษณี ซึ่งผมคาดว่าคุณป้าบุญช่วยเองคงจะสัมผัสได้ถึงความลี้ลับและความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น

ครู่หนึ่งคนที่ไปซื้อน้ำมันมะพร้าวก็นำน้ำมันมะพร้าวมามอบให้ตามคำของคุณย่าละม้าย ผมขอถ้วยมาใบหนึ่งแล้วเทน้ำมันใส่ในถ้วยนั้น แล้วถอดเอาพระสมเด็จองค์ที่ลุงต๋อมมอบให้ออกจากคอ ใช้สร้อยคอสแตนเลสวนรอบถ้วยแทนสายสิญจน์ ตัวผมกุมพระสมเด็จไว้แล้วระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย สวดบทสรรเสริญพระรัตนตรัยแล้วน้อมใจรำลึกถึงเจ้าประคุณสมเด็จ ทำจิตให้มั่นแล้วภาวนาพระคาถาชินบัญชร

ผมตั้งจิตอธิษฐานขอบารมีเจ้าประคุณสมเด็จให้ทำน้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันมนต์ที่มีผลรักษาเยียวยาคุณป้าบุญช่วยให้หาย แล้วนิ่งภาวนาพระคาถาชินบัญชรไปโดยลำดับ

ผมตั้งจิตภาวนาพระคาถาชินบัญชรด้วยความสงบนิ่ง ทุกคนในที่นั้นจึงพากันสงบนิ่งตามไปด้วย ความสงบเงียบได้บังเกิดขึ้นภายในห้องนอนของคุณป้าบุญช่วย ราวกับว่าได้กลายเป็นสถานปฏิบัติธรรมไปแล้ว

ตัวผมเองภูมิธรรมยังน้อย พลังจิตยังต่ำ แต่ขณะนั้นรู้ตัวดีว่ามีสติที่มั่นคง มีความบริสุทธิ์ในใจและใคร่ให้คุณป้าบุญช่วยพ้นจากความทุกข์ มีความผ่องใสบังเกิดขึ้นอย่างมหัศจรรย์ รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามีพลังไหลเรื่อยดุจกระแสน้ำ แต่ไม่รู้ว่าพลังนั้นมาจากไหน ไหลไปรวมที่องค์พระสมเด็จแล้วถ่ายทอดไปที่ถ้วยน้ำมันนั้น

บางช่วงรู้สึกมีแสงวูบวาบขึ้นในห้วงแห่งสำนึก แต่พอได้กำหนดว่ารู้แล้ว สัมผัสแล้ว แสงวูบวาบนั้นก็หายไป สิ่งน่าประหลาดใจอยู่ตรงที่แสงวูบวาบซึ่งปรากฏในห้วงสำนึกนั้นมีลักษณะและสีสันเป็นอย่างเดียวกันกับแสงซึ่งเคยเห็นที่ตู้พระไตรปิฎกโบราณในคณะหนึ่งวัดระฆัง

ผมภาวนาพระคาถาชินบัญชรจบสามคาบก็รู้สึกว่าพอแก่การแล้ว จึงยกมือขึ้นไหว้รำลึกถึงเจ้าประคุณสมเด็จ แล้วเอาพระสมเด็จมาคล้องคอไว้ตามเดิม จากนั้นก็ตั้งใจรำลึกถึงพระคุณหมอเซ่งเลี่ยนที่เคยสอนวิชาการนวดและทำน้ำมันมนต์ แล้วภาวนามนต์คาถาเสกน้ำมันมะพร้าวตามที่ได้เล่าเรียนมา ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่นว่าขอให้คุณป้าบุญช่วยหายจากโรคอันเวทนานั้นเถิด

บรรยากาศในห้องนั้นยังคงเงียบกริบดุจดังเดิม สายตาทุกคู่จ้องมองมาที่ผมราวกับว่าผมเป็นผู้วิเศษ

ผมเองก็ไม่รู้ว่าผมทำไปได้อย่างไร รู้แต่อย่างเดียวว่าใจต้องการจะทำอย่างนั้น และทำไปตามที่ใจบ่งบอก เพื่อที่จะรักษาคุณป้าบุญช่วยให้หายเป็นปกติให้จงได้

ผมรู้สึกเองว่าน้ำมันมะพร้าวบัดนี้ได้กลายเป็นน้ำมันมนต์ด้วยบารมีแห่งเจ้าประคุณสมเด็จและมนต์วิธีของหมอเซ่งเลี่ยนแล้ว แต่ปัญหาก็บังเกิดขึ้นในความคิดของผมเองอีกว่าจะใช้น้ำมันมนต์นี้นวดเฟ้นคุณป้าบุญช่วยที่ใดบ้างจึงจะมีผลต่อสมุฏฐานของโรค เพราะอาการของโรคที่เป็นอยู่นี้มิใช่การปวดเมื่อยหรือเคล็ดยอกธรรมดาดังที่เคยร่ำเรียนมาแต่ประการใด.

โปรดติดตามตอนที่ 52 “สมเด็จโตรักษาโรคอัมพาต ตอน 2” ในวันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน 2550
กำลังโหลดความคิดเห็น