ผู้จัดการรายวัน - ซันคัลเล่อร์ นำระบบไอทีมาใช้กับ ร้าน 108 ชอป หวังเพิ่มศักยภาพ ลดต้นทุน พร้อมชูระบบคีย์ออส วางเป้าปีนี้มีสาขา 1,000 แห่ง เปิดตัวตู้หยอดเหรียญรุ่นใหม่ดันยอด
นายเวทิต โชควัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซันคัลเล่อร์ จำกัด ผู้บริหารร้านค้าปลีกสะดวกซื้อ “108 ช็อป” กล่าวว่า บริษัทฯได้นำเอาระบบไอทีเข้ามาใช้ในกิจการร้าน 108 ชอป เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพและการบริการ ตามคอนเซ็ปท์ รีเทลอินโนเวชั่น ในด้านของการจัดการร้านค้า การจัดเก็บและส่งสินค้า
ธุรกิจที่บริษัทฯทำเป็นโมเดิร์นเทรดดังนั้นจึงต้องคิดแบบดีมานด์มาร์เก็ตติ้ง โดยวิธีการทำงานแบบใหม่ที่ใช้ไอทีเข้ามาช่วยนี้จะช่วยทำให้สามารถลดต้นทุนดำเนินการได้ส่วนหนึ่ง ขณะเดียวกันก็สามารถเพิ่มยอดขายได้ด้วย คาดว่าไม่ต่ำกว่า 30-100%
ทั้งนี้ระบบไอทีที่นำมาใช้ประกอบด้วย 3 ส่วนหลักคือ 1.ระบบ Picking Management and Control ช่วยทำให้ระบบการจัดเก็บและการสั่งซื้อสินค้าเกิดความสมดุลกัน ตัดปัญหาสินค้าเกินหรือขาดสต็อก 2. ระบบ QRMS เวอร์ชั่น 9 เป็นเรื่องเกี่ยวกับการจัดการหน้าร้าน การตั้งราคา และการจัดโปรโมชั่น โดยมีการคำนวณยอดขายอย่างเป็นระบบชัดเจน 3.ระบบ Auto Recorder เป็นระบบที่ทำให้ทราบถึงข้อมูลการขายสินค้าออกไปเท่าใดเพื่อให้มีการสต็อกสินค้าให้พอดีในแต่ละร้าน
นายเวทิตกล่าวด้วยว่า การนำไอทีมาใช้ครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโฉมของ 108 ชอป ครั้งใหญ่ และคาดว่าจะทำให้ธุรกิจขยายตัวเร็วขึ้น โดยปีนี้คาดว่าจะมีสาขาเพิ่มเป็น 1,000 สาขาจากปีที่แล้วที่มี 600 สาขา โดยขณะนี้มี 700 สาขาแล้ว ขณะเดียวกันการขยายตัวที่เร็วอีกส่วนหนึ่งจะมาจากการที่นำเสนอรูปแบบคีย์ออสด้วย ซึ่งใช้เงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 50,000 บาท ต่ำกว่กรูปแบบร้านเดิมเต็มรูปแบบที่ลงทุนกว่า 1.5 แสนบาท
สำหรับธุรกิจตู้หยอดเหรียญอัติโนมัตินั้น นายเวทิต กล่าวว่า ในปีนี้ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนตู้หยอดเหรียญมากกว่า 600 ตู้ จากปัจจุบันที่มีมากกว่า 3,000 ตู้แล้ว ทั้งนี้ในจำนวนดังกล่าวประมาณ 97% เป็นตู้ที่ขายสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม ส่วนอีก 3% ขายสินค้าอื่นๆที่ไม่ใช่อาหาร เนื่องจากปัจจัยหลักมาจากความสำเร็จของการเจรจากับทางซัปพลายเออร์ สินค้าและเจ้าของสถานที่ที่จะนำตู้ไปติดตั้งได้แล้วจำนวนมาก อีกทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ให้การยอมรับกับช่องทางดังกล่าวนี้มากขึ้น ซึ่งบริษัทฯคาดว่าจะสามารถเพิ่มตู้ได้เฉลี่ย 300 ตู้ต่อปี ล่าสุดได้เปิดตัวตู้หยอดเหรียญรุ่นใหม่ คอมโบ บ็อกซ์ ในงาน สหกรุ๊ปเอ็กซ์พอร์ต แอนด์ เทรด เอ็กซ์ซิบิชั่น ครั้งที่ 11 ที่สามารถเติมเงินสำหรับระบบโทรศัพท์ได้ด้วย
สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯเมื่อปีที่แล้วมีรายได้รวม 1,800 ล้านบาท โดยมาจากธุรกิจร้าน 108 ชอป ประมาณ 1,400 ล้านบาท ธุรกิจตู้หยอดเหรียญอัติโนมัติ ประมาณ 400 ล้านบาท
นายเวทิต โชควัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซันคัลเล่อร์ จำกัด ผู้บริหารร้านค้าปลีกสะดวกซื้อ “108 ช็อป” กล่าวว่า บริษัทฯได้นำเอาระบบไอทีเข้ามาใช้ในกิจการร้าน 108 ชอป เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพและการบริการ ตามคอนเซ็ปท์ รีเทลอินโนเวชั่น ในด้านของการจัดการร้านค้า การจัดเก็บและส่งสินค้า
ธุรกิจที่บริษัทฯทำเป็นโมเดิร์นเทรดดังนั้นจึงต้องคิดแบบดีมานด์มาร์เก็ตติ้ง โดยวิธีการทำงานแบบใหม่ที่ใช้ไอทีเข้ามาช่วยนี้จะช่วยทำให้สามารถลดต้นทุนดำเนินการได้ส่วนหนึ่ง ขณะเดียวกันก็สามารถเพิ่มยอดขายได้ด้วย คาดว่าไม่ต่ำกว่า 30-100%
ทั้งนี้ระบบไอทีที่นำมาใช้ประกอบด้วย 3 ส่วนหลักคือ 1.ระบบ Picking Management and Control ช่วยทำให้ระบบการจัดเก็บและการสั่งซื้อสินค้าเกิดความสมดุลกัน ตัดปัญหาสินค้าเกินหรือขาดสต็อก 2. ระบบ QRMS เวอร์ชั่น 9 เป็นเรื่องเกี่ยวกับการจัดการหน้าร้าน การตั้งราคา และการจัดโปรโมชั่น โดยมีการคำนวณยอดขายอย่างเป็นระบบชัดเจน 3.ระบบ Auto Recorder เป็นระบบที่ทำให้ทราบถึงข้อมูลการขายสินค้าออกไปเท่าใดเพื่อให้มีการสต็อกสินค้าให้พอดีในแต่ละร้าน
นายเวทิตกล่าวด้วยว่า การนำไอทีมาใช้ครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโฉมของ 108 ชอป ครั้งใหญ่ และคาดว่าจะทำให้ธุรกิจขยายตัวเร็วขึ้น โดยปีนี้คาดว่าจะมีสาขาเพิ่มเป็น 1,000 สาขาจากปีที่แล้วที่มี 600 สาขา โดยขณะนี้มี 700 สาขาแล้ว ขณะเดียวกันการขยายตัวที่เร็วอีกส่วนหนึ่งจะมาจากการที่นำเสนอรูปแบบคีย์ออสด้วย ซึ่งใช้เงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 50,000 บาท ต่ำกว่กรูปแบบร้านเดิมเต็มรูปแบบที่ลงทุนกว่า 1.5 แสนบาท
สำหรับธุรกิจตู้หยอดเหรียญอัติโนมัตินั้น นายเวทิต กล่าวว่า ในปีนี้ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนตู้หยอดเหรียญมากกว่า 600 ตู้ จากปัจจุบันที่มีมากกว่า 3,000 ตู้แล้ว ทั้งนี้ในจำนวนดังกล่าวประมาณ 97% เป็นตู้ที่ขายสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม ส่วนอีก 3% ขายสินค้าอื่นๆที่ไม่ใช่อาหาร เนื่องจากปัจจัยหลักมาจากความสำเร็จของการเจรจากับทางซัปพลายเออร์ สินค้าและเจ้าของสถานที่ที่จะนำตู้ไปติดตั้งได้แล้วจำนวนมาก อีกทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ให้การยอมรับกับช่องทางดังกล่าวนี้มากขึ้น ซึ่งบริษัทฯคาดว่าจะสามารถเพิ่มตู้ได้เฉลี่ย 300 ตู้ต่อปี ล่าสุดได้เปิดตัวตู้หยอดเหรียญรุ่นใหม่ คอมโบ บ็อกซ์ ในงาน สหกรุ๊ปเอ็กซ์พอร์ต แอนด์ เทรด เอ็กซ์ซิบิชั่น ครั้งที่ 11 ที่สามารถเติมเงินสำหรับระบบโทรศัพท์ได้ด้วย
สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯเมื่อปีที่แล้วมีรายได้รวม 1,800 ล้านบาท โดยมาจากธุรกิจร้าน 108 ชอป ประมาณ 1,400 ล้านบาท ธุรกิจตู้หยอดเหรียญอัติโนมัติ ประมาณ 400 ล้านบาท