xs
xsm
sm
md
lg

ทภ.3 สกัดพระ-ญาติโยมก่อนเข้ากรุง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รายงานข่าวแจ้งว่าเมื่อเวลา 23.00 น.คืนวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา พ.ท.นพดล วัชรจิตบวร ผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 9 ค่ายสมเด็จพระเอากาทศรถ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้นำกำลังทหารนอกเครื่องแบบไปตรวจสอบที่ศาลาการเปรียญวัดสันติวัน หมู่ 3 ต.บึงพระ อ.เมืองพิษณุโลก เพื่อเจรจากับพระและญาติโยมกว่า 100 คน หลังทราบข่าวว่ากลุ่มญาติโยมของวัดสันติวันเตรียมเคลื่อนเข้ากรุงเทพฯ ด้วยรถบัสปรับอากาศ 2 คัน เพื่อไปร่วมงานรับพระราชทานเสมาธรรมจักร โดยพระครูบุญมี เจ้าอาวาสวัดสันติวัน มีกำหนดรับที่สนามหลวงวานนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 9 และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสันติวัน ได้ชี้แจงต่อกลุ่มญาติโยมนับร้อยคนเป็นไปด้วยสงบเรียบร้อย แจงเหตุผลที่ต้องเข้ามาขอร้องกลุ่มพระและญาติโยมให้ระงับการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ครั้งนี้ แม้ว่าจะมีแผนเดินทางไว้นาน แต่ก็ไม่ได้ขออนุญาตจากกองทัพภาคที่ 3 ไว้ก่อน อีกทั้งการรับพระราชทานเสมาธรรมจักร ที่ท้องสนามหลวง ควรส่งตัวแทนไป หรือมาฉลองที่วัดสันติวันดีกว่าเดินทางไปกรุงเทพฯ เพราะช่วงนี้มีความวุ่นวายของสถานการณ์บ้านเมือง หากตัดสินใจเดินทางออกจากพิษณุโลกไป ก็เชื่อว่าไปไม่ถึงเป้าหมาย เพราะจะเข้าเขตพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 ที่ไม่อนุญาตเดินทางเป็นหมู่คณะได้ และเชื่อว่าด่านตรวจทหารร่วมกับตำรวจ จ.นครสวรรค์ คงไม่สามารถปล่อยให้รถบัสผ่านไปถึงเขตรับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 ได้แน่ ซึ่งเท่ากับสร้างความวุ่นวายซ้ำแก่คณะเดินทางเข้าไปอีก ฉะนั้นจึงขอให้พระและญาติโยมตัดสินใจกันเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังจากกลุ่มญาติโยมของวัดสันติวันรับฟังจากผู้ช่วยเจ้าอาวาส และ พ.ท.นพดล วัชรจิตรบวร และปรึกษาภายในกลุ่มประมาณ 1 ชั่งโมงได้ตัดสินใจงดการเดินทางครั้งนี้ โดยไม่มีความวุ่นวายใดๆ
ผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 9 กล่าวว่า สถานการณ์บ้านเมืองไม่ค่อยดีนัก จำเป็นต้องขอร้องประชาชนงดกิจกรรมเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร เป็นหมู่คณะ ทั้งนี้ ตนได้รับคำสั่งจากแม่ทัพภาคที่ 3 ซึ่งได้ปรึกษากับผวจ. พิษณุโลกในกรณีวัดสันติวันว่าให้ทำทุกวิถีทาง ไม่ให้กลุ่มญาติโยมเดินทางเข้ากรุง หากเดินทางไปก็ควรให้ส่งตัวแทน หรือเดินทางด้วยจำนวนคนน้อยที่สุด หากจะจัดงานฉลองก็ควรกระทำที่พิษณุโลกจะดีกว่า ช่วงนี้ต้องติดตามมวลชนอย่างเข้มงวด และทราบทิศทางการเคลื่อนไหวมวลชนทุกเรื่อง เพราะตนรับผิดชอบในเมืองพิษณุโลก มิให้กลุ่มบุคคลใดชักจูงหรือก่อความไม่สงบ เพราะล่าสุดแถบเขตเมืองพิษณุโลกก็ทราบว่ามีความพยายามจัดมวลชนเข้ากรุงเพฯ เช่นกัน โดยเฉพาะในพื้นที่เขต ต.บึงพระ ต.อรัญญิก ฯลฯ ซึ่งก็ต้องชี้แจงห้ามเคลื่อนไหวก่อน 30 พ.ค.นี้
ขณะที่ก่อนหน้านั้น พล.ท.จีรเดช คชรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวระหว่างเป็นประธานประชุมหัวหน้าส่วนราชการใน จ.เชียงราย ทุกหน่วยเมื่อ 22 พ.ค.50 ที่ผ่านมา ณ สโมสรค่ายเม็งรายมหาราช อ.เมืองเชียงราย ว่า ทางกองทัพภาคที่ 3 ขอความร่วมมือข้าราชการจังหวัดเชียงราย ดูแลประชาชนไม่ให้มีความเคลื่อนไหวที่จะสร้างความวุ่นวายแก่บ้านเมืองระยะนี้ เพราะต้องการให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่าน เพื่อจัดการเลือกตั้งขึ้นโดยเร็ววันประเทศชาติจะได้สงบสุข พร้อมยังย้ำให้ผู้บัญชาการเปลี่ยนแนวคิดเดิมในการทดแทนบุญคุณเพื่อให้มีการเลื่อนขั้น หรือเลื่อนตำแหน่ง สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติเสียใหม่ คนมีการทุจริตให้รีบกลับตัวโดยด่วน ไม่เช่นนั้นก็ต้องไปพิสูจน์ตัวเองในพื้นที่อื่น
นายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผวจ.เชียงราย เปิดเผยถึงกรณีที่หลายฝ่ายจับตามอง จ.เชียงราย เป็นพิเศษ หลังมีข่าวลือว่าจะมีกลุ่มการเมืองเก่าเกณฑ์ประชาชนเข้ากรุงเทพมหานคร เพื่อรับฟังคำวินิจฉัยคดียุบพรรคการเมือง ในวันที่ 30 พ.ค.นี้ว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเคลื่อนไหวผิดปกติ ทั้งในส่วนของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน รวมทั้งกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคการเมืองต่างๆ ในขณะที่ทางจังหวัดได้มีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปทำความเข้าใจกับประชาชนก่อนหน้านี้แล้ว
โดยทางเจ้าหน้าที่ยังมีการตั้งด่านตรวจบนถนนพหลโยธิน ตั้งแต่ อ.แม่สาย จนถึง อ.พาน ซึ่งเป็นรอยต่อ จ.พะเยา โดยจะเน้นการตรวจกลุ่มบุคคลที่เดินทางเป็นหมู่คณะอย่างเข้มงวดโดยเฉพาะเส้นทางขาออก จ.เชียงราย ซึ่งเป็นไปตามข้อปฏิบัติตามปกติ
นอกจากนี้ยังได้เตือนพี่น้องประชาชนชาว จ.เชียงราย อย่าหลงเชื่อบุคคลที่มาชักชวนเพื่อให้เดินทางไปรับฟังคำวินิจฉัยที่กรุงเทพมหานคร หรือก่อความวุ่นวาย ซึ่งประชาชนสามารถติดตามรับฟังคำวินิจฉัยอยู่ที่บ้านพร้อมกับประชาชนทั่วประเทศได้ โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร เพราะอาจเกิดความวุ่นวายจนทำให้การเลือกตั้งล่าช้าได้

**เด็กแม้วยันไม่นำสมาชิกก่อม็อบ
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตโฆษกศูนย์อำนวยการเลือกตั้งภาคเหนือพรรคไทยรักไทย แถลงจุดยืนของกลุ่ม ส.ส.ในพื้นที่ทั้ง 11 คน หลังจากมีข่าวอดีต ส.ส.ทางภาคเหนือ เตรียมขนสมาชิกของพรรคไปชุมนุมกดดันการตัดสินคดียุบพรรคในวันที่ 30 พ.ค.นี้ว่า ขอยืนยันไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ทั้งสิ้น รวมทั้งยังยกเลิกการจัดกิจกรรมร่วมชมการถ่ายทอดสดการตัดสินคดีดังกล่าว บริเวณสำนักงานพรรคไทยรักไทย สาขาภาคเหนือ ที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคงสบายใจ และป้องกันความวุ่นวายที่อาจจะเกิด โดยเฉพาะจากกลุ่มที่ไม่หวังดีที่จะฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ขึ้นได้ ซึ่งตลอด 8 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มอดีต ส.ส. และสมาชิกพรรคอยู่กันอย่างสงบ เพราะไม่อยากเห็นบ้านเมืองวุ่นวายมากกว่านี้
**สมัชชาคนจนลั่นชุมนุมยืดเยื้อ
นายนันทโชติ ชัยรัตน์ ที่ปรึกษาสมัชชาคนจน กล่าวถึงการเข้ามาชุมนุมเพื่อทวงสัญญาการเปิดเจรจาเร่งแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจน ว่า ยังไม่มีกำหนดว่าจะเลิกการชุมนุมเมื่อใด ทั้งนี้ขึ้นอยู่ผลของเจรจาเป็นสำคัญ สำหรับการเจรจากับกระทรวงเกษตรฯ มีความคืบหน้าในเรื่องประมงพื้นบ้าน โดยทางกระทรวงฯ รับปากจะยกเลิกซีฟู้ดแบงก์ และการขยายเขตการทำประมงของเรืออวนรุนห่างออกไปจากฝั่ง 3 ไมล์ทะเล หรือ 5.4 กม. ซึ่งในวันนี้ (28 พ.ค.) จะมีการลงนามข้อตกลงระหว่างสองฝ่าย ส่วนเรื่องที่ยังค้างอยู่คือ ร่าง พ.ร.บ.เกษตรกรรมทางเลือก และการออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก.เป็นต้น
นอกจากนั้น ในวันนี้จะมีการเจรจากับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงกระทรวงสาธารณสุข ในประเด็นเรื่องป่าไม้, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า, ร่าง พ.ร.บ.สุขภาพ และความปลอดภัยจากการทำงานของแรงงาน และผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ขณะที่การเจรจากับกระทรวงพลังงานในประเด็นเรื่องเขื่อนต่างๆ ทั้งที่สร้างแล้วและยังไม่สร้าง เวลานี้ยังไม่มีความคืบหน้าในการนัดหมายเจรจาแต่อย่างใด
“ เราจะรอผลการเจรจาที่ตกลงกันไว้แล้วว่าจะเข้าครม.อังคารนี้หรือไม่ รวมถึงการเจรจากับกระทรวงพลังงาน ก่อนว่าผลจะออกมาอย่างไร แล้วจึงจะตัดสินใจอีกทีหนึ่งว่าจะชุมนุมยืดเยื้อต่อหรือไม่” นายนันทโชติ กล่าว
ในวันนี้ อาจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์ ผู้ริเริ่มก่อตั้งมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน พร้อมด้วยอาจารย์ สมเกียรติ ตั้งนโม และคณะ ได้เดินทางมาให้กำลังใจในการชุมนุมเรียกร้องของสมัชชาคนจน พร้อมกับ อ่านแถลงการณ์ “การพัฒนาที่สมดุล ยั่งยืน และเป็นธรรม” พร้อมทั้งเรียกร้องให้สมัชชาคนจน ลงมติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ 2550 และ รณรงค์ให้นำรัฐธรรมนูญ ปี 2540 ที่ประชาชนเข้ามีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางมาประกาศใช้ โดยมีเงื่อนไขต้องเปิดเลือกตั้งภายใน 60 วัน และให้สมาชิกจากสองสภามาตั้งสภาร่างรธน.เพื่อแก้ไข รธน. ปี 2540 ในบางมาตราโดยไม่มีอำนาจกระบอกปืนอยู่เบื้องหลัง
กำลังโหลดความคิดเห็น