“สนธิ” อบรม ผู้บังคับหน่วยคุมกำลังทำงานมวลชน เลือกคนดีเข้าไปเกาะติดประชาชนรากแก้ว แนะจะให้คนรักต้องซื้อใจ รู้จักให้ ระบุสถานการณ์การเมืองพัฒนามาถึงจุดสำคัญต้องเร่งทำงานเพื่อให้ประชาชนเข้าใจกองทัพและรัฐบาล ยันกองทัพเป็นปึกแผ่น เพราะมีจุดยืนเดียวกันคือชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เตือนอย่าตั้งคนไม่ดีเข้าทำงาน เตรียมรื้อใหญ่กำลังพลใน กอ.รมน.หลังพบมีปัญหา
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบกและประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) บรรยายพิเศษหัวข้อ “ทหารในใจประชาชน” ให้นายทหารระดับผู้บัญชาการกองพล ผู้บังคับการกรม ผู้บังคับกองพัน ในหน่วยกำลังรบ และ หน่วยด้านกิจการพลเรือน ที่ได้รับเลือกเข้ารับการอบรมครั้งที่ 1ตอนหนึ่งว่า ตนให้ นโยบาย การทำงาน 3 เกาะติด เราต้องแยกคน ระหว่างคนที่ทำงานด้านการเมืองกับคนที่ทำงานด้านการทหาร ไม่ใช่ทำงานการเมืองได้ เพราะบุคลิกของทหาร คือความเข้มแข็ง บางที่กลายเป็นความกระด้าง
ดังนั้น เราต้องสร้างบุคลิกภาพการเป็นนักการเมืองให้กับทหาร ที่ต้องคัดบุคคลที่มีความเหมาะสมในการทำงาน คนที่ทำงานการเมืองนั้นต้องมีความฉลาด รู้จักพูด รู้จักคิด ดังนั้นการเลือกคนไปทำงานใน 3 เกาะติด เราต้องเอาชนะกันที่ใจของประชาชน ซึ่งประชาชนที่เราเรียกว่ารากแก้ว เป็นประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ที่มีความยากลำบากในขณะนี้ โดยเฉพาะสภาวะเศรษฐกิจที่มีปัญหา เพราะความยากไร้ กำลังเกิดขึ้นกับประชาชน ดังนั้น กำลังพลที่จะลงไปในพื้นที่ต้องมีความรู้ ความเข้าใจละเอียดอ่อนในการทำงาน สิ่งที่ต้องสิ่งแรกคือ ให้ใจ และความตั้งใจจริงที่เราต้องการเข้าไปช่วยเหลือประชาชน
“ปัญหางานการเมืองนั้นเป็นปัญหาของการซื้อใจกัน เพราะหากเราต้องการทำให้อีกคนรักเราต้องมีขั้นตอน ที่สำคัญคือใจ การซื้อใจ และการให้ เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำงานต่อไป การเป็นผู้แพ้วันนี้ เพื่อชนะวันหน้าเป็นปรัชญาหนึ่งในการทำงาน เมื่อมีประชาชนไม่พอใจเจ้าหน้าที่ เราต้องทำอย่างไรจะไม่พอใจตอบหรืออดทนนิ่งไว้ ต้องเอาชนะใจให้ได้ สิ่งเหล่านี้เป็นการทำงานทางการเมือง เราไม่จำเป็นต้องชนะเดี่ยวนี้อีก 7 วันเราค่อยเป็นผู้ชนะก็ได้ เพราะถึงอย่างไรเราก็ได้เป็นผู้ชนะ ดังนั้นต้องมีความอดทน อดกลั้น เดินไปถึงที่หมายให้ได้ อย่าวอกแวก อะไรที่ข้องแวะมาข้างกายข้างความรู้สึก จงจำไว้ว่าเล็กน้อยอย่าทิ้งเป้าหมายสำคัญหรือภารกิจหลักจงเดินต่อไป การทำงานเราต้องมีวัตถุประสงค์ชัดเจน"พล.อ.สนธิ กล่าว
พล.อ.สนธิ กล่าวว่า การบริหารจัดการเรื่องคนเป็นเรื่องที่สำคัญ เช่น การเลือก ผอ.รมน.จังหวัดต้องเลือกให้ดี การส่งคนเข้าไปทำงานในลักษณะ 3 เกาะติดนั้นต้องมีกฎเหล็ก 3 ข้อคือ 1.ห้ามกินเหล้า 2.ห้ามกู้หนี้ยืมสิน และ 3.ห้ามข้องแวะกับสตรีผู้หญิง เพราะงานมวลชนอย่างนี้ หากฝืนกฎเหล็กต้องปลดกันอย่างเดียว ดังนั้น กติกาต้องเป็นกติกา งานมวลชนกติกาเป็นสิ่งสำคัญ กฎเหล็กที่ตั้งไว้เป็นสิ่งที่ไม่มีการให้อภัย ดังนั้น คนที่จะทำสิ่งต่างๆเหล่านี้แสดงว่าเจตนาขัดขืนคำสั่ง ซึ่งการทำงานด้านกิจการพลเรือนหรืองานการเมืองมีความละเอียดอ่อน และต้องมีมาตรการที่ชัดเจน
“การทำงานในพื้นที่อย่าลืมว่า หลายคนมีผลประโยชน์ ดังนั้น การเข้าไปทำงานขัดผลประโยชน์กับคนในพื้นที่ มีการค้ายาเสพติด ค้าคนผิดกฎหมาย มีการตัดไม้ทำลายป่า เป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่กระจายในพื้นที่ เราต้องรู้สิ่งเหล่านี้ เพราะต้องมีความขัดแย้งกับคนเหล่านี้ ทำอย่างไรที่จะทำให้คนเหล่านั้นยุติและมาช่วยเหลือเรา ซึ่งการเลือกคนมาใช้งานเป็นสิ่งสำคัญ คนที่เราเลือกไปนั้นเหมาะกับการทำงานหรือยัง เลือกคนเก่งและคนดีมาทำงาน ซึ่งงานนี้ไม่ใช่งานรบแต่เป็นงานที่ใช้หลายอย่างเป็นเอกลักษณ์”
พล.อ.สนธิ กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นเวลานี้ กำลังพัฒนาไปตามขั้นตอนที่เคยวาดภาพไว้ทุกขั้นตอน คิดว่าเวลานี้เราต้องเร่งการทำงาน เพื่อให้ประชาชนเข้าใจกองทัพและรัฐบาลยิ่งขึ้น ในสภาวะที่รัฐบาลหรือประเทศชาติขาดงบประมาณเวลานี้ จำเป็นที่ข้าราชการต้องพยายามให้กำลังใจประชาชน เขาเกิดความว้าเหว่ เขามีปัญหาความยากจน เราต้องช่วยทำให้แก้ปัญหาให้เขาสบายใจ
“ขณะนี้มีปัญหาความยากจน ซึ่งการให้ความรู้คือการแก้ปัญหาความยากจน ที่ถาวร เวลานี้รัฐบาลพยายามหาหนทางแก้ปัญหา สิ่งแรกที่ คมช. เสนอรัฐบาล คือ ให้การศึกษากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในฐานะเป็นคนปกครองคนในท้องถิ่น ต้องมีความรู้เรื่องต่างๆ ที่เข้าไปแนะนำ ขณะนี้ขอให้รัฐบาลเปิดการอบรมแก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อนำความรู้ต่างๆ เหล่านั้นไปสอนกับประชาชน คิดว่าน่าจะเป็นเครื่องมือส่วนประกอบหนึ่งที่จะทำให้แก้ปัญหาความยากจนได้”
พล.อ.สนธิ กล่าวว่าความเข้มแข็งของกองทัพ เป็นจุดที่มีความสำคัญยิ่งในเวลาวิกฤติของประเทศ ตนจึงพยายามดึงเหล่าทัพต่างๆ มาเป็นเนื้อเดียวกับกองทัพบก ขณะนี้กองทัพไทยเป็นปึกแผ่น มีความรักกัน เข้าใจกัน เพราะมีจุดยืนอันเดียวกันคือชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เพราะฉะนั้นอย่าไปมองจุดอื่น เราต้องมองจุดตรงนี้ การที่เราเข้มแข็ง ไม่มีใครทำอะไรเราได้ ขอให้เราได้ทุ่มเท บอกกับเด็กๆ ทุกๆ คนว่า เราเป็นข้าของแผ่นดิน เรารับเงินเดือนของแผ่นดิน เงินทุกบาททุกสตางค์ เป็นภาษีอากรของประชาชนทั้งชาติ จะทำอะไรต้องนึกถึงในสองสิ่งนี้ เมื่อวานได้พูดตรงนี้ว่า ทหาร และกองทัพไม่ได้ยิ่งใหญ่ ส่วนที่ยิ่งใหญ่กว่าคือประชาชน เราต้องสำนึกว่าเราเป็นทหาร เป็นทหารที่ดีของประชาชน เราชนะใครได้ แต่เราชนะประชาชนไม่ได้ จำไว้ตรงนี้ครับ ประเทศชาติต้องเป็นประชาธิปไตย รูปแบบต้องเป็นอย่างนั้นิ
พล.อ.สนธิ กล่าวว่า เราต้องยอมรับว่า ถ้าเราบรรจุคนไม่ดีไปทำงาน ถ้าเราเกรงใจ รับรองได้ว่าเราจะเสียใจ เหมือนกับตอนนี้ กอ.รมน. ทุกคนพูดเสมอว่ามีปัญหาเรื่องคนที่ทำให้การทำงานของกอ.รมน.ไม่ได้ผล ตนกำลังจะแก้ไข ด้วยการสร้างคนในกอ.รมน.ใหม่ เอาคนที่มีคุณภาพเข้าไปทำงาน ขณะนี้ยังไม่ได้บรรจุย้าย ในกอ.รมน.แต่จะมีการปรับครั้งใหญ่ โดยการนำคนดีเข้าไปทำงาน คนที่มีความตั้งใจลงไปทำงาน แล้ว กอ.รมน.จะได้เป็นรูปเป็นร่าง เพราะฉะนั้นน้องๆ ทุกคนที่จะเลื่อนยศปลดย้าย การให้บำเหน็จสองขั้น ตอบแทนอะไรต่างๆ ผู้ใต้บังคับบัญชา ขอให้นึกถึงคุณธรรม และประโยชน์ของชาติบ้านเมือง จำไว้นะ อย่านึกถึงตัวเอง ไม่ใช่จะย้ายจากผู้บัญชาการกองพลแล้ว ต้องเอาคนนั้นมาวางตรงนี้ คนนี้ไปวางตรงนั้น เพื่อต่อไปจะได้พึ่งพาอาศัย นั่นหมายถึงว่าท่านกำลังทำลายชาติบ้านเมือง จงเอาคนดีคนเก่งมาวาง แล้วความเข้มแข็งจะเกิดกับหน่วย และ ชาติบ้านเมือง แล้วเราจะสบายใจ
“ตัวผู้บัญชาการฯ(พล.อ.สนธิ.) เคยพูดเสมอว่าเมื่อคนเกษียณไปแล้ว ไม่ต้องห่วง จะไม่ต้องการพึ่งพาอาศัยใคร เพราะเราต้องเตรียมตัวของเราให้พร้อม ก่อนเกษียณ พวกท่านเหมือนกันที่เป็นผบ.พล ที่ต้องย้ายจาก ผบ.พล พร้อมเสมอที่จะออกมา มายืนบนขาของตัวเองสองข้าง ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยใคร ถ้าเราเป็นอย่างนี้ ก็จะเหมือนทหารในประเทศที่เจริญแล้ว แต่ตอนที่เราอยู่ต้องสร้างอุดมการณ์ของกำลังพลในกองทัพให้เป็นหนึ่งเดียว และรักกัน ถ้าเขารักชาติบ้านเมือง ทำทุกอย่างเพื่อชาติบ้านเมือง เราจะมีความสุข”
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบกและประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) บรรยายพิเศษหัวข้อ “ทหารในใจประชาชน” ให้นายทหารระดับผู้บัญชาการกองพล ผู้บังคับการกรม ผู้บังคับกองพัน ในหน่วยกำลังรบ และ หน่วยด้านกิจการพลเรือน ที่ได้รับเลือกเข้ารับการอบรมครั้งที่ 1ตอนหนึ่งว่า ตนให้ นโยบาย การทำงาน 3 เกาะติด เราต้องแยกคน ระหว่างคนที่ทำงานด้านการเมืองกับคนที่ทำงานด้านการทหาร ไม่ใช่ทำงานการเมืองได้ เพราะบุคลิกของทหาร คือความเข้มแข็ง บางที่กลายเป็นความกระด้าง
ดังนั้น เราต้องสร้างบุคลิกภาพการเป็นนักการเมืองให้กับทหาร ที่ต้องคัดบุคคลที่มีความเหมาะสมในการทำงาน คนที่ทำงานการเมืองนั้นต้องมีความฉลาด รู้จักพูด รู้จักคิด ดังนั้นการเลือกคนไปทำงานใน 3 เกาะติด เราต้องเอาชนะกันที่ใจของประชาชน ซึ่งประชาชนที่เราเรียกว่ารากแก้ว เป็นประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ที่มีความยากลำบากในขณะนี้ โดยเฉพาะสภาวะเศรษฐกิจที่มีปัญหา เพราะความยากไร้ กำลังเกิดขึ้นกับประชาชน ดังนั้น กำลังพลที่จะลงไปในพื้นที่ต้องมีความรู้ ความเข้าใจละเอียดอ่อนในการทำงาน สิ่งที่ต้องสิ่งแรกคือ ให้ใจ และความตั้งใจจริงที่เราต้องการเข้าไปช่วยเหลือประชาชน
“ปัญหางานการเมืองนั้นเป็นปัญหาของการซื้อใจกัน เพราะหากเราต้องการทำให้อีกคนรักเราต้องมีขั้นตอน ที่สำคัญคือใจ การซื้อใจ และการให้ เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำงานต่อไป การเป็นผู้แพ้วันนี้ เพื่อชนะวันหน้าเป็นปรัชญาหนึ่งในการทำงาน เมื่อมีประชาชนไม่พอใจเจ้าหน้าที่ เราต้องทำอย่างไรจะไม่พอใจตอบหรืออดทนนิ่งไว้ ต้องเอาชนะใจให้ได้ สิ่งเหล่านี้เป็นการทำงานทางการเมือง เราไม่จำเป็นต้องชนะเดี่ยวนี้อีก 7 วันเราค่อยเป็นผู้ชนะก็ได้ เพราะถึงอย่างไรเราก็ได้เป็นผู้ชนะ ดังนั้นต้องมีความอดทน อดกลั้น เดินไปถึงที่หมายให้ได้ อย่าวอกแวก อะไรที่ข้องแวะมาข้างกายข้างความรู้สึก จงจำไว้ว่าเล็กน้อยอย่าทิ้งเป้าหมายสำคัญหรือภารกิจหลักจงเดินต่อไป การทำงานเราต้องมีวัตถุประสงค์ชัดเจน"พล.อ.สนธิ กล่าว
พล.อ.สนธิ กล่าวว่า การบริหารจัดการเรื่องคนเป็นเรื่องที่สำคัญ เช่น การเลือก ผอ.รมน.จังหวัดต้องเลือกให้ดี การส่งคนเข้าไปทำงานในลักษณะ 3 เกาะติดนั้นต้องมีกฎเหล็ก 3 ข้อคือ 1.ห้ามกินเหล้า 2.ห้ามกู้หนี้ยืมสิน และ 3.ห้ามข้องแวะกับสตรีผู้หญิง เพราะงานมวลชนอย่างนี้ หากฝืนกฎเหล็กต้องปลดกันอย่างเดียว ดังนั้น กติกาต้องเป็นกติกา งานมวลชนกติกาเป็นสิ่งสำคัญ กฎเหล็กที่ตั้งไว้เป็นสิ่งที่ไม่มีการให้อภัย ดังนั้น คนที่จะทำสิ่งต่างๆเหล่านี้แสดงว่าเจตนาขัดขืนคำสั่ง ซึ่งการทำงานด้านกิจการพลเรือนหรืองานการเมืองมีความละเอียดอ่อน และต้องมีมาตรการที่ชัดเจน
“การทำงานในพื้นที่อย่าลืมว่า หลายคนมีผลประโยชน์ ดังนั้น การเข้าไปทำงานขัดผลประโยชน์กับคนในพื้นที่ มีการค้ายาเสพติด ค้าคนผิดกฎหมาย มีการตัดไม้ทำลายป่า เป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่กระจายในพื้นที่ เราต้องรู้สิ่งเหล่านี้ เพราะต้องมีความขัดแย้งกับคนเหล่านี้ ทำอย่างไรที่จะทำให้คนเหล่านั้นยุติและมาช่วยเหลือเรา ซึ่งการเลือกคนมาใช้งานเป็นสิ่งสำคัญ คนที่เราเลือกไปนั้นเหมาะกับการทำงานหรือยัง เลือกคนเก่งและคนดีมาทำงาน ซึ่งงานนี้ไม่ใช่งานรบแต่เป็นงานที่ใช้หลายอย่างเป็นเอกลักษณ์”
พล.อ.สนธิ กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นเวลานี้ กำลังพัฒนาไปตามขั้นตอนที่เคยวาดภาพไว้ทุกขั้นตอน คิดว่าเวลานี้เราต้องเร่งการทำงาน เพื่อให้ประชาชนเข้าใจกองทัพและรัฐบาลยิ่งขึ้น ในสภาวะที่รัฐบาลหรือประเทศชาติขาดงบประมาณเวลานี้ จำเป็นที่ข้าราชการต้องพยายามให้กำลังใจประชาชน เขาเกิดความว้าเหว่ เขามีปัญหาความยากจน เราต้องช่วยทำให้แก้ปัญหาให้เขาสบายใจ
“ขณะนี้มีปัญหาความยากจน ซึ่งการให้ความรู้คือการแก้ปัญหาความยากจน ที่ถาวร เวลานี้รัฐบาลพยายามหาหนทางแก้ปัญหา สิ่งแรกที่ คมช. เสนอรัฐบาล คือ ให้การศึกษากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในฐานะเป็นคนปกครองคนในท้องถิ่น ต้องมีความรู้เรื่องต่างๆ ที่เข้าไปแนะนำ ขณะนี้ขอให้รัฐบาลเปิดการอบรมแก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อนำความรู้ต่างๆ เหล่านั้นไปสอนกับประชาชน คิดว่าน่าจะเป็นเครื่องมือส่วนประกอบหนึ่งที่จะทำให้แก้ปัญหาความยากจนได้”
พล.อ.สนธิ กล่าวว่าความเข้มแข็งของกองทัพ เป็นจุดที่มีความสำคัญยิ่งในเวลาวิกฤติของประเทศ ตนจึงพยายามดึงเหล่าทัพต่างๆ มาเป็นเนื้อเดียวกับกองทัพบก ขณะนี้กองทัพไทยเป็นปึกแผ่น มีความรักกัน เข้าใจกัน เพราะมีจุดยืนอันเดียวกันคือชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เพราะฉะนั้นอย่าไปมองจุดอื่น เราต้องมองจุดตรงนี้ การที่เราเข้มแข็ง ไม่มีใครทำอะไรเราได้ ขอให้เราได้ทุ่มเท บอกกับเด็กๆ ทุกๆ คนว่า เราเป็นข้าของแผ่นดิน เรารับเงินเดือนของแผ่นดิน เงินทุกบาททุกสตางค์ เป็นภาษีอากรของประชาชนทั้งชาติ จะทำอะไรต้องนึกถึงในสองสิ่งนี้ เมื่อวานได้พูดตรงนี้ว่า ทหาร และกองทัพไม่ได้ยิ่งใหญ่ ส่วนที่ยิ่งใหญ่กว่าคือประชาชน เราต้องสำนึกว่าเราเป็นทหาร เป็นทหารที่ดีของประชาชน เราชนะใครได้ แต่เราชนะประชาชนไม่ได้ จำไว้ตรงนี้ครับ ประเทศชาติต้องเป็นประชาธิปไตย รูปแบบต้องเป็นอย่างนั้นิ
พล.อ.สนธิ กล่าวว่า เราต้องยอมรับว่า ถ้าเราบรรจุคนไม่ดีไปทำงาน ถ้าเราเกรงใจ รับรองได้ว่าเราจะเสียใจ เหมือนกับตอนนี้ กอ.รมน. ทุกคนพูดเสมอว่ามีปัญหาเรื่องคนที่ทำให้การทำงานของกอ.รมน.ไม่ได้ผล ตนกำลังจะแก้ไข ด้วยการสร้างคนในกอ.รมน.ใหม่ เอาคนที่มีคุณภาพเข้าไปทำงาน ขณะนี้ยังไม่ได้บรรจุย้าย ในกอ.รมน.แต่จะมีการปรับครั้งใหญ่ โดยการนำคนดีเข้าไปทำงาน คนที่มีความตั้งใจลงไปทำงาน แล้ว กอ.รมน.จะได้เป็นรูปเป็นร่าง เพราะฉะนั้นน้องๆ ทุกคนที่จะเลื่อนยศปลดย้าย การให้บำเหน็จสองขั้น ตอบแทนอะไรต่างๆ ผู้ใต้บังคับบัญชา ขอให้นึกถึงคุณธรรม และประโยชน์ของชาติบ้านเมือง จำไว้นะ อย่านึกถึงตัวเอง ไม่ใช่จะย้ายจากผู้บัญชาการกองพลแล้ว ต้องเอาคนนั้นมาวางตรงนี้ คนนี้ไปวางตรงนั้น เพื่อต่อไปจะได้พึ่งพาอาศัย นั่นหมายถึงว่าท่านกำลังทำลายชาติบ้านเมือง จงเอาคนดีคนเก่งมาวาง แล้วความเข้มแข็งจะเกิดกับหน่วย และ ชาติบ้านเมือง แล้วเราจะสบายใจ
“ตัวผู้บัญชาการฯ(พล.อ.สนธิ.) เคยพูดเสมอว่าเมื่อคนเกษียณไปแล้ว ไม่ต้องห่วง จะไม่ต้องการพึ่งพาอาศัยใคร เพราะเราต้องเตรียมตัวของเราให้พร้อม ก่อนเกษียณ พวกท่านเหมือนกันที่เป็นผบ.พล ที่ต้องย้ายจาก ผบ.พล พร้อมเสมอที่จะออกมา มายืนบนขาของตัวเองสองข้าง ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยใคร ถ้าเราเป็นอย่างนี้ ก็จะเหมือนทหารในประเทศที่เจริญแล้ว แต่ตอนที่เราอยู่ต้องสร้างอุดมการณ์ของกำลังพลในกองทัพให้เป็นหนึ่งเดียว และรักกัน ถ้าเขารักชาติบ้านเมือง ทำทุกอย่างเพื่อชาติบ้านเมือง เราจะมีความสุข”