แนวโน้มตลาดเครื่องเสียงรถยนต์ปีนี้หดตัวต่อเนื่องอีก20% หลังปีที่ผ่านมาดิ่งลงแล้วเช่นกันที่ 20 % ไพโอเนียร์เห็นโอกาส ลุยทำตลาดดีวีดีรถยนต์ ผ่านเม็ดเงินกว่า 60 ล้านบาท หลังพบเป็นเซกเมนต์เดียว ที่จะช่วยต่อชีวิตรายได้ให้เติบโตขึ้น หวังช่วยผลักรายได้รวมโตขึ้น10% จาก 800 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา
นายซาโตรุ คุโรซากิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนียร์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้คาดว่าตลาดเครื่องเสียงรถยนต์มีแนวโน้มลดลงอีกประมาณ 20 % ดูจากในไตรมาสหนี่งที่ผ่านมาตลาดเครื่องเสียงรถยนต์ ลดลงไปแล้วกว่า 20 % แต่ของบริษัทฯลดลงเพียง 10 % เท่านั้น ซึ่งเป็นตัวเลขที่คาดว่า ยังจะสามารถทำให้มีรายได้เติบโตขึ้นได้ ในอีก 3 ไตรมาสที่เหลือนี้
โดยสาเหตุที่ทำให้ตลาดหดตัวลงนั้น มาจากภาวะเศรษฐกิจที่หดตัว ทำให้ยอดจำหน่ายรถยนต์ที่ลดน้อยลงไป อีกทั้งวิทยุติดรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ก็มีคุณภาพที่สูงขึ้น ทำให้ลูกค้าที่จะเปลี่ยนเครื่องเสียงติดรถยนต์ใหม่มีน้อยลง บริษัทจะต้องหาสินค้าใหม่ๆ เข้ามาตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไปโดยเฉพาะเครื่องเสียงติดรถยนต์ในกลุ่มกลุ่มดีวีดี มีแนวโน้มเป็นสินค้าที่ได้รับความสนใจอย่างมากในปีนี้ โดยคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 50 % และน่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดไม่น้อยกว่า 20% ของตลาดเครื่องเสียงรถยนต์ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีการหดตัวกว่า 20% ก็ตามที
ดังนั้นในปีนี้ทางบริษัทฯได้เปิดตัวเครื่องเล่นดีวีดีติดรถยนต์รุ่นใหม่ 3 รุ่น ได้แก่ AVH-P5950DVD เครื่องเส่นดีวีดี/วีซ๊ดี/ซีดี พร้อมจอแสดงผลแบบแอลซีดี ป๊อปอัพ ขนาด 7 นิ้ว , DVH-P4950MP เครื่องเล่นดีวีดี/วีซีดี/ดับเบิ้ลยูเอ็มเอ/เอ็มพี3/ซีดี พร้อมภาคขยายคุณภาพสูง4 ชาแนล และช่องต่อสัญญาณปรีเอาท์ 2 ชุด และรุ่น DVH-P5950MP เครื่องเล่นดีวีดี/วีซ๊ดี/ดับเบิ้ลยูเอ็มเอ/เอ็มพี3/ซีดี พร้อมภาคขยายคุณภาพสูง4 ชาแนล และช่องต่อสัญญาณปรีเอาท์ 3 ชุด และจอมอนิเตอร์ โดยวางจำหน่ายในราคา 10,000-40,000 บาท เปรียบเทียบกับรุ่นเดิมที่วางจำหน่ายที่ 13,000-90,000บาท จับกลุ่มลูกค้าตั้งแต่ระดับกลางถึงบน
ทั้งนี้บริษัทได้เตรียมงบประมาณทางการตลาดกว่า 60 ล้านบาท ในการทำกิจกรรมทางการตลาดครบวงจร พร้อมทั้งเพิ่มสื่อใหม่ๆให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้น เช่น เคเบิ้ลทีวีท้องถิ่น สำหรับลูกค้าในต่างจังหวัด คาดว่าจะช่วยให้รายได้รวมในกลุ่มคาร์ออดิโอเติบโตขึ้นอีกอย่างน้อย 10 % จาก 800 ล้านบาท ของปีที่ผ่านมา และมีอัตราการเติบโตลดลง คิดเป็นส่วนแบ่งรายได้ประมาณ 50 % จากรายได้รวมทั้งหมดของบริษัท โดยอีก 50 %1 มาจากกลุ่มเครื่องเสียงบ้าน
นายซาโตรุ กล่าวต่อว่า การหันมารุกตลาดดีวีดีรถยนต์นั้น เป็น 1 ใน 4 นโยบายการตลาดของเครื่องเสียงของไพโอเนียร์ในปีนี้โดยที่เหลือประกอบด้วยการรักษาความเป็นเจ้าตลาด ที่มีส่วนแบ่งการตลาดราว 30%อย่างต่อเนื่อง การสร้างกิจกรรมกับดีลเลอร์อย่างต่อเนื่องและการสร้างตลาดไฮเอนด์ให้กับสินค้ากลุ่ม ลำโพงและแอมปิฟลายเออร์ ซึ่งในส่วนของดีวีดีติดรถยนต์ในปีนี้ จะทำการตลาดภายใต้แนวคิดจอยไรด์ หรือความสนุกสนานในการขับขี่โดยจะเริ่มแคมเปญอย่างเป็นทางการในเดือนนี้
นายซาโตรุ คุโรซากิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนียร์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้คาดว่าตลาดเครื่องเสียงรถยนต์มีแนวโน้มลดลงอีกประมาณ 20 % ดูจากในไตรมาสหนี่งที่ผ่านมาตลาดเครื่องเสียงรถยนต์ ลดลงไปแล้วกว่า 20 % แต่ของบริษัทฯลดลงเพียง 10 % เท่านั้น ซึ่งเป็นตัวเลขที่คาดว่า ยังจะสามารถทำให้มีรายได้เติบโตขึ้นได้ ในอีก 3 ไตรมาสที่เหลือนี้
โดยสาเหตุที่ทำให้ตลาดหดตัวลงนั้น มาจากภาวะเศรษฐกิจที่หดตัว ทำให้ยอดจำหน่ายรถยนต์ที่ลดน้อยลงไป อีกทั้งวิทยุติดรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ก็มีคุณภาพที่สูงขึ้น ทำให้ลูกค้าที่จะเปลี่ยนเครื่องเสียงติดรถยนต์ใหม่มีน้อยลง บริษัทจะต้องหาสินค้าใหม่ๆ เข้ามาตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไปโดยเฉพาะเครื่องเสียงติดรถยนต์ในกลุ่มกลุ่มดีวีดี มีแนวโน้มเป็นสินค้าที่ได้รับความสนใจอย่างมากในปีนี้ โดยคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 50 % และน่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดไม่น้อยกว่า 20% ของตลาดเครื่องเสียงรถยนต์ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีการหดตัวกว่า 20% ก็ตามที
ดังนั้นในปีนี้ทางบริษัทฯได้เปิดตัวเครื่องเล่นดีวีดีติดรถยนต์รุ่นใหม่ 3 รุ่น ได้แก่ AVH-P5950DVD เครื่องเส่นดีวีดี/วีซ๊ดี/ซีดี พร้อมจอแสดงผลแบบแอลซีดี ป๊อปอัพ ขนาด 7 นิ้ว , DVH-P4950MP เครื่องเล่นดีวีดี/วีซีดี/ดับเบิ้ลยูเอ็มเอ/เอ็มพี3/ซีดี พร้อมภาคขยายคุณภาพสูง4 ชาแนล และช่องต่อสัญญาณปรีเอาท์ 2 ชุด และรุ่น DVH-P5950MP เครื่องเล่นดีวีดี/วีซ๊ดี/ดับเบิ้ลยูเอ็มเอ/เอ็มพี3/ซีดี พร้อมภาคขยายคุณภาพสูง4 ชาแนล และช่องต่อสัญญาณปรีเอาท์ 3 ชุด และจอมอนิเตอร์ โดยวางจำหน่ายในราคา 10,000-40,000 บาท เปรียบเทียบกับรุ่นเดิมที่วางจำหน่ายที่ 13,000-90,000บาท จับกลุ่มลูกค้าตั้งแต่ระดับกลางถึงบน
ทั้งนี้บริษัทได้เตรียมงบประมาณทางการตลาดกว่า 60 ล้านบาท ในการทำกิจกรรมทางการตลาดครบวงจร พร้อมทั้งเพิ่มสื่อใหม่ๆให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้น เช่น เคเบิ้ลทีวีท้องถิ่น สำหรับลูกค้าในต่างจังหวัด คาดว่าจะช่วยให้รายได้รวมในกลุ่มคาร์ออดิโอเติบโตขึ้นอีกอย่างน้อย 10 % จาก 800 ล้านบาท ของปีที่ผ่านมา และมีอัตราการเติบโตลดลง คิดเป็นส่วนแบ่งรายได้ประมาณ 50 % จากรายได้รวมทั้งหมดของบริษัท โดยอีก 50 %1 มาจากกลุ่มเครื่องเสียงบ้าน
นายซาโตรุ กล่าวต่อว่า การหันมารุกตลาดดีวีดีรถยนต์นั้น เป็น 1 ใน 4 นโยบายการตลาดของเครื่องเสียงของไพโอเนียร์ในปีนี้โดยที่เหลือประกอบด้วยการรักษาความเป็นเจ้าตลาด ที่มีส่วนแบ่งการตลาดราว 30%อย่างต่อเนื่อง การสร้างกิจกรรมกับดีลเลอร์อย่างต่อเนื่องและการสร้างตลาดไฮเอนด์ให้กับสินค้ากลุ่ม ลำโพงและแอมปิฟลายเออร์ ซึ่งในส่วนของดีวีดีติดรถยนต์ในปีนี้ จะทำการตลาดภายใต้แนวคิดจอยไรด์ หรือความสนุกสนานในการขับขี่โดยจะเริ่มแคมเปญอย่างเป็นทางการในเดือนนี้