ตลาดสำนักงานให้เช่าเมืองขอนแก่นเฟื่อง "พิมานกรุ๊ป"ผุดโครงการหรูบึงแก่นนคร

ศูนย์ข่าวขอนแก่น-"พิมานกรุ๊ป" รุกตลาดสำนักงานให้เช่าเมืองขอนแก่น ทุ่มกว่า 30 ล้านบาท ผุด KO PARK ริมบึงแก่นนคร ชูคอนเซ็ปต์ สำนักงานให้เช่ารองรับธุรกรรมทันสมัย เผยกระแสตอบรับสูง องค์กรทั้งรัฐ/เอกชน ทำสัญญาเช่าเพียบ เชื่อลู่ทางตลาดขยายตัวสูง เหตุศักยภาพจังหวัดเป็นเมืองศูนย์กลางเอื้อประโยชน์ พร้อมเล็งขยายเฟส 2 ทุ่มอีก 100 ล้านบาท ขยายธุรกิจสำนักงานให้เช่า ในพื้นที่เดียวกัน

นายชาญณรงค์ บุริสตระกูล กรรมการผู้จัดการบริษัท อีสานพิมานกรุ๊ป จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของภาคอีสาน เปิดเผย "ผู้จัดการรายวัน" ถึงการลงทุนธุรกิจในเครือปี 2550 ว่า กลุ่มพิมานกรุ๊ป ขยายไลน์ธุรกิจนอกเหนือจากการพัฒนาบ้านจัดสรร ด้วยการทุ่มเงินลงทุนกว่า 30 ล้านบาท ผุดสำนักงานให้เช่า ภายใต้ชื่อ Kaen Nakorn Office หรือ KO PARK ริมบึงแก่นนคร ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น

พิมานกรุ๊ปเชื่อมั่นถึงศักยภาพจังหวัดขอนแก่น ทำเลที่ตั้งอยู่บริเวณจุดกึ่งกลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีถนนสายหลักตัดผ่านหลายเส้นทาง จึงเป็นเมืองศูนย์กลางคมนาคมขนส่งทางถนน การบริหารงานของหน่วยงานรัฐ/เอกชน ศูนย์กลางทางการศึกษา ของภาคฯ เกิดการเคลื่อนย้ายประชากรเข้ามาในจังหวัดอย่างต่อเนื่อง เศรษฐกิจเกิดการขยายตัวในระดับสูง

ส่งผลดีต่อการดำเนินงานของภาคธุรกิจต่างๆที่ลงทุนในจังหวัดขอนแก่น โดยเฉพาะธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่า ถือเป็นธุรกิจเด่นเกิดการขยายตัว สนองความต้องการตลาด มีผู้ประกอบการในพื้นที่และส่วนกลาง ลงทุนในธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่าหลายโครงการ ตามย่านชุมชน และถนนสายหลักของจังหวัด

รวมถึงโครงการของพิมานกรุ๊ป KO PARK อาคารสำนักงานให้เช่า 4 ชั้น ขนาดพื้นที่ใช้สอย 2,000 ตารางเมตร ริมบึงแก่นนคร โดยวางคอนเซ็ปต์ เป็นอาคารสำนักงานให้เช่ารองรับการทำธุรกรรมที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของภาคอีสาน ภายในอาคารถูกออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานด้านไอซีที ติดตั้งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ห้องโถงสำหรับจัดกิจกรรมไอซีที ห้องประชุมสัมมนาระบบ VDO Conference

ขณะเดียวกัน พิมานกรุ๊ป เตรียมกิจกรรม ที่สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์อาคาร จัดอบรมสัมมนาความรู้ด้านไอซีทีกับกลุ่มเป้าหมายที่สนใจ เช่น การอบรม Net Design อบรมการใช้ไอทีกับกิจการลอจิสติกส์ อบรมการซื้อขายสินค้าผ่านเครือข่ายออนไลน์ ฯลฯ โดยประสานความร่วมมือกับสมาคมซอฟต์แวร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และหน่วยงานที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ร่วมจัดฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง

"กระแสตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ปรากฏว่าได้รับความสนใจมาก ล่าสุดมีหน่วยงานเอกชน/รัฐ ติดต่อทำสัญญาแล้ว 5-6 บริษัท คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 70% อาทิ สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ สาขาขอนแก่น (ซิป้า) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด คาดว่าจะสามารถขายพื้นที่ให้เช่าภายในอาคาร KO PARK หมดภายในเร็วๆนี้"นายชาญณรงค์ กล่าวและว่า

สำหรับลู่ทางตลาดสำนักงานให้เช่า มีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก เนื่องจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ/เอกชน จากส่วนกลาง และบริษัทต่างประเทศ มีเป้าหมายขยายการดำเนินงานเข้ามาในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นและภาคอีสานอย่างต่อเนื่อง โดยจังหวัดขอนแก่นได้เปรียบทำเลที่ตั้ง อยู่จุดกึ่งกลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้จะมีการลงทุนมากกว่าจังหวัดอื่น

ทั้งนี้ พิมานกรุ๊ป เตรียมการลงทุนในเฟส 2 บนพื้นที่เดียวกับโครงการ KO PARK ที่มีพื้นที่รองรับการพัฒนาไว้ถึง 24 ไร่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบอาคารสำนักงาน ให้มีขนาดพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นกว่าเฟสแรก คาดว่าต้องใช้พื้นที่สร้างอาคารประมาณ 2-3 ไร่ และต้องใช้เงินลงทุนอาคารสำนักงานให้เช่าเฟส 2 ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

ทั้งนี้ จะชูจุดขายเป็นสำนักงานให้เช่า ที่มีระบบสาธารณูปโภครองรับการทำธุรกรรมที่ทันสมัยเหมือนกับโครงการแรก เน้นการออกแบบอาคารให้มีความสวยงาม ไล่ระดับกับอาคาร KO PARK เดิม และที่สำคัญทำเลที่ตั้งอาคาร อยู่บริเวณริมบึงแก่นนคร มีความได้เปรียบในแง่ของทัศนียภาพที่สวยงาม แวดล้อมด้วยธรรมชาติจากต้นไม้และแหล่งน้ำสาธารณะขนาดใหญ่ เชื่อมั่นว่า จะได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในระดับสูง ไม่ต่างจากโครงการ KO PARK

นายชาญณรงค์ กล่าวถึงการลงทุนในธุรกิจหลัก คือ การพัฒนาบ้านจัดสรรว่า ปี 2550 พิมานกรุ๊ป จะลดน้ำหนักการลงทุนในโครงการพัฒนาบ้านจัดสรรไว้ก่อน เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาดบ้านจัดสรร ที่กำลังเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว จึงไม่มีการลงทุนพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรเพิ่มเติมในระยะนี้ โดยเน้นขายบ้านจัดสรร ที่คงเหลือในโครงการต่างๆของพิมานกรุ๊ป

สำหรับบริษัท อีสานพิมานกรุ๊ป จำกัด เป็นผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจังหวัดขอนแก่นและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายแรกของจังหวัด ที่ผ่านมาได้ริเริ่มพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรหลายทำเลทั่วเขตอำเภอเมืองขอนแก่น มียอดการพัฒนาถึง 4,000 ยูนิตเมื่อปลายปี 2547 คิดเป็นมูลค่าตลาดมากกว่า 4,000 ล้านบาท