ปชป. เตรียมจัดเสวนาระดมสมองปฏิรูปการศึกษาไทย 9พ.ค.นี้ เผยตัวเลขคะแนนเฉลี่ยเอ็นที และโอ-เน็ต นร.ชั้น ป.6 และ ม.3 เข้าขั้นวิกฤติ ชี้ขีดความสามารถของไทยด้านการศึกษารั้งท้าย
นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า สถานการณ์การศึกษาของประเทศไทยอยู่ในขั้นวิกฤติ จากรายงานของสถาบันนานาชาติเพื่อพัฒนาการจัดการ (ไอเอ็มดี) ประจำปี 2006 ระบุว่าปัจจุบัน ระบบการศึกษาของประเทศไทยโดยรวมอยู่ในลำดับที่ 48 จาก 61 ประเทศ โดยแยกแยะตัวชี้วัด 5 ด้านในมุมความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ได้แก่ 1. การลงทุนงบประมาณในด้านการศึกษาอยู่ในลำดับที่ 49 2. ความสามารถของระบบการศึกษาในการสร้างศักยภาพการแข่งขัน ลำดับที่ 35 3. การพัฒนาทักษะภาษาต่างประเทศ ลำดับที่ 47 4. ความสามารถของวิศวกรที่ผลิตออกมา ลำดับที่ 46 5. การถ่ายทอดวิทยาการจากมหาวิทยาลัยสู่ภาคเอกชน ลำดับที่ 36
นอกจากนี้ ในรายงานล่าสุดของคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน(เอ็นที) และคะแนนแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน(โอ-เน็ต) พบว่า ผลการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ มัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2549/2550 ต่ำกว่าร้อยละ 50 อยู่ในเกณฑ์วิกฤติ ในวิชาภาษาไทย สังคมศึกษา วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และคณิตศาสตร์
นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า จากปัญหานี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จึงได้เชิญนักวิชาการ นักบริหารการศึกษา ตัวแทนองค์กรผู้ปกครอง ตัวแทนองค์กรครู และตัวแทนนักเรียนนักศึกษา มาร่วมเสวนาเชิงวิชาการปฎิรูปการศึกษาไทย ที่พรรคประชาธิปัตย์ ในวันที่ 9 พ.ค.นี้ เวลา 09.00-12.30 น. ตามแนวทางวาระประชาชน "คนไทยฉลาดแข็งแรง" เพราะเล็งเห็นว่าปรัชญา "สร้างคนสร้างชาติ" คือ ยุทธศาสตร์สำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพคนไทย และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศชาติ
นอกจากนี้ ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันหน้ามาร่วมกันผลักดันยุทธศาสตร์สร้างคนสร้างชาติ แทนการสร้างความแตกแยก เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่อนาคตที่ก้าวหน้ามั่นคงอย่างยั่งยืน
ด้านนายวิจิตร ศรีสอ้าน รมว.ศึกษาธิการ ได้ลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น มอบนโยบายให้กับผู้เข้าอบรมหลักสูตร "ผู้นำการเปลี่ยนแปลงเพื่อรองรับการกระจายอำนาจ" เพื่อรองรับการปฏิรูปการศึกษา และยกระดับคุณภาพการศึกษาให้สูงขึ้น โดยให้โรงเรียนต่างๆ มีความใกล้เคียงกันในเรื่องคุณภาพมาตรฐาน เพราะปัจจุบันเป็นยุคของการแข่งขัน ดังนั้น คุณภาพประชากรจึงเป็นหัวใจสำคัญของประเทศ
พร้อมกันนี้ นายวิจิตร ยังเป็นห่วงการศึกษาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่รัฐบาลประกาศให้เป็นพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษ โดยให้บุคลากรทางการศึกษาเพิ่มความเข้มข้นเรื่องเนื้อหาสาระที่ต้องศึกษาต่อ และเรื่องอาชีวศึกษา เพื่อให้ผู้ที่จบออกมาสามารถมีงานทำได้ นอกจากนี้ยังเน้นการเสริมสร้างความเป็นไทยให้มากขึ้น โดยเฉพาะภาษาไทยที่ต้องใช้สื่อสารกัน
นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า สถานการณ์การศึกษาของประเทศไทยอยู่ในขั้นวิกฤติ จากรายงานของสถาบันนานาชาติเพื่อพัฒนาการจัดการ (ไอเอ็มดี) ประจำปี 2006 ระบุว่าปัจจุบัน ระบบการศึกษาของประเทศไทยโดยรวมอยู่ในลำดับที่ 48 จาก 61 ประเทศ โดยแยกแยะตัวชี้วัด 5 ด้านในมุมความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ได้แก่ 1. การลงทุนงบประมาณในด้านการศึกษาอยู่ในลำดับที่ 49 2. ความสามารถของระบบการศึกษาในการสร้างศักยภาพการแข่งขัน ลำดับที่ 35 3. การพัฒนาทักษะภาษาต่างประเทศ ลำดับที่ 47 4. ความสามารถของวิศวกรที่ผลิตออกมา ลำดับที่ 46 5. การถ่ายทอดวิทยาการจากมหาวิทยาลัยสู่ภาคเอกชน ลำดับที่ 36
นอกจากนี้ ในรายงานล่าสุดของคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน(เอ็นที) และคะแนนแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน(โอ-เน็ต) พบว่า ผลการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ มัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2549/2550 ต่ำกว่าร้อยละ 50 อยู่ในเกณฑ์วิกฤติ ในวิชาภาษาไทย สังคมศึกษา วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และคณิตศาสตร์
นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า จากปัญหานี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จึงได้เชิญนักวิชาการ นักบริหารการศึกษา ตัวแทนองค์กรผู้ปกครอง ตัวแทนองค์กรครู และตัวแทนนักเรียนนักศึกษา มาร่วมเสวนาเชิงวิชาการปฎิรูปการศึกษาไทย ที่พรรคประชาธิปัตย์ ในวันที่ 9 พ.ค.นี้ เวลา 09.00-12.30 น. ตามแนวทางวาระประชาชน "คนไทยฉลาดแข็งแรง" เพราะเล็งเห็นว่าปรัชญา "สร้างคนสร้างชาติ" คือ ยุทธศาสตร์สำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพคนไทย และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศชาติ
นอกจากนี้ ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันหน้ามาร่วมกันผลักดันยุทธศาสตร์สร้างคนสร้างชาติ แทนการสร้างความแตกแยก เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่อนาคตที่ก้าวหน้ามั่นคงอย่างยั่งยืน
ด้านนายวิจิตร ศรีสอ้าน รมว.ศึกษาธิการ ได้ลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น มอบนโยบายให้กับผู้เข้าอบรมหลักสูตร "ผู้นำการเปลี่ยนแปลงเพื่อรองรับการกระจายอำนาจ" เพื่อรองรับการปฏิรูปการศึกษา และยกระดับคุณภาพการศึกษาให้สูงขึ้น โดยให้โรงเรียนต่างๆ มีความใกล้เคียงกันในเรื่องคุณภาพมาตรฐาน เพราะปัจจุบันเป็นยุคของการแข่งขัน ดังนั้น คุณภาพประชากรจึงเป็นหัวใจสำคัญของประเทศ
พร้อมกันนี้ นายวิจิตร ยังเป็นห่วงการศึกษาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่รัฐบาลประกาศให้เป็นพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษ โดยให้บุคลากรทางการศึกษาเพิ่มความเข้มข้นเรื่องเนื้อหาสาระที่ต้องศึกษาต่อ และเรื่องอาชีวศึกษา เพื่อให้ผู้ที่จบออกมาสามารถมีงานทำได้ นอกจากนี้ยังเน้นการเสริมสร้างความเป็นไทยให้มากขึ้น โดยเฉพาะภาษาไทยที่ต้องใช้สื่อสารกัน