ผู้จัดการรายวัน - วงษ์อินเวนชั่น ลั่นขอจองแท่นผู้นำตลาดเครื่องนวดปีนี้ กวาดแชร์ 50% จากเดิมที่มี 40% งัดกลยุทธ์เปิดตัวสินค้าใหม่ตลอด อัดงบตลาด 25 ล้านบาท ลุยทั้งอะโบฟเดอะไลน์ บีโลว์เดอะไลน์ ล่าสุดส่งนวัตกรรมใหม่ ดัน I – Robot เครื่องนวดเท้า น่อง กระตุ้นตลาด
นายดำรงค์ วงษ์โชติปิ่นทอง ปรานกรรมการ บริษัท วงษ์ อินเวนชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเก้าอี้นวดและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เรสเตอร์ (Rester) เปิดเผยว่า บริษัทฯมีเป้าหมายว่าภายในสิ้นปีนี้จะต้องทำรายได้รวม 250 ล้านบาท และรั้งตำแหน่งที่หนึ่งของตลาดสินค้าอุปกรณ์เฉพาะนวดที่มีอยู่กว่า 500 ล้านหรือมีส่วนแบ่งตลาดกว่า 50% จากเดิมที่มีอยู่ 40% เท่านั้น
สำหรับกลยุทธ์ที่บริษัทฯจะนำมาใช้ก็เช่นเดียวกับทุกปีที่ผ่านมา คือ การเร่งออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆกระตุ้นตลาด 2-3 ชิ้น ต่อปี ทั้งในส่วนของเก้าอี้นวดและเครื่องนวดฝ่าเท้า จากปัจจุบันบริษัทฯมีสินค้า แบ่งเป็น 1.เก้าอี้นวด 20 รุ่น และเครื่องนวดฝ่าเท้าอีก 6 รุ่น ซึ่งช่องทางการจัดจำหน่ายและการกระจายสินค้าที่มีอยู่ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำกว่า 48 แห่ง ทั่วประเทศ
จากการแข่งขันในปีนี้บริษัทฯคาดว่ าตามภาวะการแข่งขันของเศรษฐกิจทั้งจากผู้ค้ารายเดิมและรายใหม่ที่พึ่งเข้ามาในตลาดนี้ ซึ่งคาดว่าปีหน้าจะมีคู่แข่งรายใหม่เพิ่มอีก ซึ่งรวมแล้วจะมีคู่แข่งในตลาดอยู่กว่า 25 รายทำให้ตลาดเริ่มแข่งขันกันสูงมากขึ้น
ล่าสุดบริษัทฯได้ส่งสินค้าใหม่ภายใต้แบรนด์ เรสเตอร์ รุ่น I – Robot นวัตกรรมในการนวดฝ่าเท้า และน่อง มีถุงลมเพิ่มการนวดกว่า 18 ถุง ราคาขายจริง 20,000 บาท แต่ช่วงแรกบริษัทฯจะลดราคาขายเหลือ 16,900 บาทรวมทั้งโปรโมชั่นของแถมถุงลมเพิ่มอีกด้วย เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดและสร้างความแปลกใหม่อยู่เสมอ ซึ่งเชื่อว่าสินค้าใหม่จะติดตลาดได้
พร้อมกันนี้เพื่อเป็นการโปรโมตสินค้าบริษัทฯได้จัดเตรียมงบในการทำตลาดทั้งตัวใหม่และเก่าไว้ 25 ล้านบาท ทั้งปี ทั้งสื่ออะโบฟเดอะไลน์และบีโลว์เดอะไลน์ควบคู่กันไป เพื่อประชาสัมพันธ์ถึงศักยภาพการใช้งานของตัวเครื่อง ทั้งนี้บริษัทฯจะทำตลาดแบบนิชมาร์เก็ต( เจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม) ร่วมกับบัตรเครดิต เซ็นทรัล ธนาคารซิตี้แบงค์ ลดราคาสินค้าบางช่วงอีกด้วย
“เรายังคงเน้นกลุ่มลูกค้าใหม่ที่สนใจสินค้าเพื่อสุขภาพเช่นเดิม แต่จะเพิ่มความโดดเด่นทางด้านการดีไซน์ และออกแบบผลิตภัณฑ์ให้โดดเด่น ทันสมัย เพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นอุปกรณ์การนวดที่ครบสูตรความสมบูรณ์ และคาดว่าการออกตัวสินค้าใหม่จากนี้ไปจะสามารถสร้างยอดขายได้ 5 ล้านบาทต่อเดือน หรือคิดเป็นมูลค่าเฉพาะตัวใหม่ 32 ล้านบาท ในสิ้นปี 2550
โดยสัดส่วนรายได้ของบริษัทฯจะขายได้ผ่าน ดีพาร์ทเม้นต์สโตร์ 50% งานแสดงสินค้า 30% ดีลเลอร์ 20% และแบ่งออกเป็นสัดส่วนการขายกรุงเทพฯ 70% ต่างจังหวัด 30%
นายดำรงค์ วงษ์โชติปิ่นทอง ปรานกรรมการ บริษัท วงษ์ อินเวนชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเก้าอี้นวดและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เรสเตอร์ (Rester) เปิดเผยว่า บริษัทฯมีเป้าหมายว่าภายในสิ้นปีนี้จะต้องทำรายได้รวม 250 ล้านบาท และรั้งตำแหน่งที่หนึ่งของตลาดสินค้าอุปกรณ์เฉพาะนวดที่มีอยู่กว่า 500 ล้านหรือมีส่วนแบ่งตลาดกว่า 50% จากเดิมที่มีอยู่ 40% เท่านั้น
สำหรับกลยุทธ์ที่บริษัทฯจะนำมาใช้ก็เช่นเดียวกับทุกปีที่ผ่านมา คือ การเร่งออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆกระตุ้นตลาด 2-3 ชิ้น ต่อปี ทั้งในส่วนของเก้าอี้นวดและเครื่องนวดฝ่าเท้า จากปัจจุบันบริษัทฯมีสินค้า แบ่งเป็น 1.เก้าอี้นวด 20 รุ่น และเครื่องนวดฝ่าเท้าอีก 6 รุ่น ซึ่งช่องทางการจัดจำหน่ายและการกระจายสินค้าที่มีอยู่ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำกว่า 48 แห่ง ทั่วประเทศ
จากการแข่งขันในปีนี้บริษัทฯคาดว่ าตามภาวะการแข่งขันของเศรษฐกิจทั้งจากผู้ค้ารายเดิมและรายใหม่ที่พึ่งเข้ามาในตลาดนี้ ซึ่งคาดว่าปีหน้าจะมีคู่แข่งรายใหม่เพิ่มอีก ซึ่งรวมแล้วจะมีคู่แข่งในตลาดอยู่กว่า 25 รายทำให้ตลาดเริ่มแข่งขันกันสูงมากขึ้น
ล่าสุดบริษัทฯได้ส่งสินค้าใหม่ภายใต้แบรนด์ เรสเตอร์ รุ่น I – Robot นวัตกรรมในการนวดฝ่าเท้า และน่อง มีถุงลมเพิ่มการนวดกว่า 18 ถุง ราคาขายจริง 20,000 บาท แต่ช่วงแรกบริษัทฯจะลดราคาขายเหลือ 16,900 บาทรวมทั้งโปรโมชั่นของแถมถุงลมเพิ่มอีกด้วย เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดและสร้างความแปลกใหม่อยู่เสมอ ซึ่งเชื่อว่าสินค้าใหม่จะติดตลาดได้
พร้อมกันนี้เพื่อเป็นการโปรโมตสินค้าบริษัทฯได้จัดเตรียมงบในการทำตลาดทั้งตัวใหม่และเก่าไว้ 25 ล้านบาท ทั้งปี ทั้งสื่ออะโบฟเดอะไลน์และบีโลว์เดอะไลน์ควบคู่กันไป เพื่อประชาสัมพันธ์ถึงศักยภาพการใช้งานของตัวเครื่อง ทั้งนี้บริษัทฯจะทำตลาดแบบนิชมาร์เก็ต( เจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม) ร่วมกับบัตรเครดิต เซ็นทรัล ธนาคารซิตี้แบงค์ ลดราคาสินค้าบางช่วงอีกด้วย
“เรายังคงเน้นกลุ่มลูกค้าใหม่ที่สนใจสินค้าเพื่อสุขภาพเช่นเดิม แต่จะเพิ่มความโดดเด่นทางด้านการดีไซน์ และออกแบบผลิตภัณฑ์ให้โดดเด่น ทันสมัย เพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นอุปกรณ์การนวดที่ครบสูตรความสมบูรณ์ และคาดว่าการออกตัวสินค้าใหม่จากนี้ไปจะสามารถสร้างยอดขายได้ 5 ล้านบาทต่อเดือน หรือคิดเป็นมูลค่าเฉพาะตัวใหม่ 32 ล้านบาท ในสิ้นปี 2550
โดยสัดส่วนรายได้ของบริษัทฯจะขายได้ผ่าน ดีพาร์ทเม้นต์สโตร์ 50% งานแสดงสินค้า 30% ดีลเลอร์ 20% และแบ่งออกเป็นสัดส่วนการขายกรุงเทพฯ 70% ต่างจังหวัด 30%