พ่อค้า-แม่ค้าวัตถุมงคล “จตุคามรามเทพ” ภายในวัดพระมหาธาตุเมืองคอนทำป่วน ! หลังโดนไล่พ้นเขตพุทธาวาส ถูกสั่งห้ามจำหน่ายวัตถุมงคลภายในวัด ยกพวกบุกพบเจ้าอาวาสขอความเป็นธรรม ท่ามกลาง “อปพร.-อส.” ต้องยกพลตรึงพื้นที่เฝ้ารักษาความปลอดภัยเข้ม ขณะที่ห้างสรรพสินค้า-หมูกะทะไอเดียกระฉูดแจกกระหน่ำ “จตุคามรามเทพ” ดึงลูกค้าเข้าห้าง-ร้าน
ความเคลื่อนไหวในแง่มุมต่างๆ เกี่ยวกับวัตถุมงคล "จตุคามรามเทพ" ซึ่งเป็นประเด็นที่สังคมยังคงให้ความสนใจอย่างต่อเนื่องและในหลายประเด็นยังคงเป็นปัญหาอย่างไม่หยุดหย่อน โดยล่าสุดส่อเค้าในเรื่องของความขัดแย้งระหว่างกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าเร่ขายวัตถุมงคลภายในเขตพุทธาวาส วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช รวมทั้งหาบเร่แผงลอยที่ตั้งบริเวณฟุตบาทหน้าวัดนับร้อยราย
โดยเมื่อเวลา 11.00 น.วานนี้ (1 พ.ค.50) ได้เกิดความโกลาหลขึ้นในบริเวณเขตจำหน่ายสินค้าที่ระลึกและในเขตพุทธาวาส ซึ่งเป็นพื้นที่ของหาดทรายแก้ว และลานวิหารหลวง เมื่อเจ้าหน้าที่ อส.จาก จ.นครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่ อปพร.ได้เข้าเชิญกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่จำหน่ายวัตถุมงคล "จตุคามรามเทพ" ให้ออกจากบริเวณดังกล่าว โดยหากรายใดไม่ออกไปจะถูกยึดวัตถุมงคลและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไปไว้ยังกุฏิเจ้าอาวาสทันที
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากการพยายามจัดระเบียบในพื้นที่บริเวณวัดและบริเวณฟุตบาทหลังจากที่พ่อค้าแม่ค้าได้นำวัตถุมงคลจตุคามรามเทพรุ่นต่างๆ มาตั้งโต๊ะจำหน่ายจำนวนมาก รวมทั้งโต๊ะบริการรับปัดทองวัตถุมงคลด้วย ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มพ่อค้าแม่ที่มีอยู่เป็นจำนวนมากอย่างมาก
ต่อมากกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าได้รวมตัวกันเพื่อประท้วงต่อกรณีดังกล่าวท่ามกลางกำลัง อปพร.และ อส.เข้าตรึงพื้นที่อย่างเข้มงวดเพื่อไม่ให้พ่อค้าแม่ค้าย้อนกลับเข้ามาขายของภายในบริเวณดังกล่าวอีกและมีแผ่นป้ายเตือนขนาดใหญ่ถูกติดตั้งย้ำว่าหากฝ่าฝืนจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
ขณะที่อีกด้านหนึ่งได้มีพ่อค้าแม่ค้าราว 30 รายไปรวมตัวกันที่หน้ากุฏิพระราชธรรมสุธี เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช (ธรรมยุติ) ในฐานะเจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เพื่อร้องขอความเป็นธรรมในการเข้ามาค้าขายในบริเวณวัดต่อไป ในขณะที่พระราชธรรมสุธี ไม่อยู่ในกุฏิเนื่องจากติดกิจนิมนต์มีเพียงเจ้าหน้าที่ อปพร.ที่มารักษาความปลอดภัยเท่านั้น
นายปรมินทร์ รัตนะ อายุ 28 ปี อยู่ 22 ม.6 ต.นาเขลียง อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช พ่อค้าสร้อยสำหรับห้อยวัตถุมงคลจตุคามรามเทพ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกขับไล่ออกจากบริเวณวัด เปิดเผยว่า วัดได้ห้ามเด็ดขาดไม่ให้เข้าไปขายของ ทำให้แม่ค้า 60-70 คนได้รับความเดือดร้อน แท้จริงแล้วเป็นคนยากจนที่พยายามเข้ามาหารายได้ในช่วงนี้อย่างสุจริต แม้กระทั่งเด็กวัยรุ่นที่ประวัติไม่ดี เกเรหลายคนได้เข้ามารับปัดทองหารายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำอย่างสุจริตไม่เป็นภาระให้กับสังคมควรที่จะส่งเสริมมากกว่า ซึ่งขอเพียงที่ให้พวกเราขายของตรงไหนก็ได้ ซึ่งหากไม่ให้ขายก็ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรคงจะต้องหารือกันในกลุ่มอีกครั้ง
ขณะที่กรรมการวัดรายหนึ่งเปิดเผยว่า สาเหตุที่ต้องจัดระเบียบนั้นเนื่องจากพ่อค้าแม่ค้าเข้ามาปักหลักจำนวนมาก จนขาดความเป็นระเบียบเรียบร้อยและไม่เหมาะสมในเขตพุทธาวาส ซึ่งอยู่โดยรอบบริเวณวิหารหลวง หากปล่อยไว้จะยึดเป็นส่วนตัวและเมื่อไม่มีการแก้ไขปัญหาจะคาราคาซังมีการเซ้งกันต่อๆเมื่อนั้นจะแก้ได้ลำบาก ขณะที่บริเวณทางเท้าหน้าวัดก็มีพ่อค้าแม่ค้าเหล่านี้จับจองพื้นที่จนแทบไม่มีทางเดินสำหรับผู้ที่เข้ามาสักการะพระบรมธาตุ การจราจรติดขัดอย่างหนักซึ่งต้องพยายามแก้ไขก่อนที่ภาพลักษณ์จะเสียหายไปมากกว่านี้
นอกจากนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า ห้างสรรพสินค้า ตลอดจนร้านค้าของผู้ประกอบการต่างๆ เช่น ห้าวงสรรพสินค้า ร้านหมูกะทะ มีการนำจตุคามรามเทพ มาแจกจ่ายสมนาคุณให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อเรียกลุกค้าเข้าร้านเช่นห้างลัคกี้ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ โดยนายต่อพงศ์ เอื้อวงศ์ประยูร ผู้บริหารห้าง เปิดเผยว่า การแจกวัตถุมงคลเป็นส่วนหนึ่งของการสมนาคุณลูกค้า เน้นความพึงพอใจของลูกค้าเป็นสำคัญ และเพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งเมื่อมีลูกค้าอยากได้ห้างก็ต้องตอบแทนลูกค้าโดยการจัดหามาแจกแถม
ส่วนร้านหมูกะทะรายหนึ่งย่านถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้แจกจตุคามรามเทพให้กับลูกค้าเมื่อมีลูกค้าเข้าใช้บริการต่อโต๊ะเกิน 8 ราย ในราคาหัวละ 89 บาท จะได้รับจตุคามรามเทพ 1 องค์ ซึ่งสามารถเรียกลูกค้าได้แน่นร้านทุกวัน
ความเคลื่อนไหวในแง่มุมต่างๆ เกี่ยวกับวัตถุมงคล "จตุคามรามเทพ" ซึ่งเป็นประเด็นที่สังคมยังคงให้ความสนใจอย่างต่อเนื่องและในหลายประเด็นยังคงเป็นปัญหาอย่างไม่หยุดหย่อน โดยล่าสุดส่อเค้าในเรื่องของความขัดแย้งระหว่างกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าเร่ขายวัตถุมงคลภายในเขตพุทธาวาส วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช รวมทั้งหาบเร่แผงลอยที่ตั้งบริเวณฟุตบาทหน้าวัดนับร้อยราย
โดยเมื่อเวลา 11.00 น.วานนี้ (1 พ.ค.50) ได้เกิดความโกลาหลขึ้นในบริเวณเขตจำหน่ายสินค้าที่ระลึกและในเขตพุทธาวาส ซึ่งเป็นพื้นที่ของหาดทรายแก้ว และลานวิหารหลวง เมื่อเจ้าหน้าที่ อส.จาก จ.นครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่ อปพร.ได้เข้าเชิญกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่จำหน่ายวัตถุมงคล "จตุคามรามเทพ" ให้ออกจากบริเวณดังกล่าว โดยหากรายใดไม่ออกไปจะถูกยึดวัตถุมงคลและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไปไว้ยังกุฏิเจ้าอาวาสทันที
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากการพยายามจัดระเบียบในพื้นที่บริเวณวัดและบริเวณฟุตบาทหลังจากที่พ่อค้าแม่ค้าได้นำวัตถุมงคลจตุคามรามเทพรุ่นต่างๆ มาตั้งโต๊ะจำหน่ายจำนวนมาก รวมทั้งโต๊ะบริการรับปัดทองวัตถุมงคลด้วย ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มพ่อค้าแม่ที่มีอยู่เป็นจำนวนมากอย่างมาก
ต่อมากกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าได้รวมตัวกันเพื่อประท้วงต่อกรณีดังกล่าวท่ามกลางกำลัง อปพร.และ อส.เข้าตรึงพื้นที่อย่างเข้มงวดเพื่อไม่ให้พ่อค้าแม่ค้าย้อนกลับเข้ามาขายของภายในบริเวณดังกล่าวอีกและมีแผ่นป้ายเตือนขนาดใหญ่ถูกติดตั้งย้ำว่าหากฝ่าฝืนจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
ขณะที่อีกด้านหนึ่งได้มีพ่อค้าแม่ค้าราว 30 รายไปรวมตัวกันที่หน้ากุฏิพระราชธรรมสุธี เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช (ธรรมยุติ) ในฐานะเจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เพื่อร้องขอความเป็นธรรมในการเข้ามาค้าขายในบริเวณวัดต่อไป ในขณะที่พระราชธรรมสุธี ไม่อยู่ในกุฏิเนื่องจากติดกิจนิมนต์มีเพียงเจ้าหน้าที่ อปพร.ที่มารักษาความปลอดภัยเท่านั้น
นายปรมินทร์ รัตนะ อายุ 28 ปี อยู่ 22 ม.6 ต.นาเขลียง อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช พ่อค้าสร้อยสำหรับห้อยวัตถุมงคลจตุคามรามเทพ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกขับไล่ออกจากบริเวณวัด เปิดเผยว่า วัดได้ห้ามเด็ดขาดไม่ให้เข้าไปขายของ ทำให้แม่ค้า 60-70 คนได้รับความเดือดร้อน แท้จริงแล้วเป็นคนยากจนที่พยายามเข้ามาหารายได้ในช่วงนี้อย่างสุจริต แม้กระทั่งเด็กวัยรุ่นที่ประวัติไม่ดี เกเรหลายคนได้เข้ามารับปัดทองหารายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำอย่างสุจริตไม่เป็นภาระให้กับสังคมควรที่จะส่งเสริมมากกว่า ซึ่งขอเพียงที่ให้พวกเราขายของตรงไหนก็ได้ ซึ่งหากไม่ให้ขายก็ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรคงจะต้องหารือกันในกลุ่มอีกครั้ง
ขณะที่กรรมการวัดรายหนึ่งเปิดเผยว่า สาเหตุที่ต้องจัดระเบียบนั้นเนื่องจากพ่อค้าแม่ค้าเข้ามาปักหลักจำนวนมาก จนขาดความเป็นระเบียบเรียบร้อยและไม่เหมาะสมในเขตพุทธาวาส ซึ่งอยู่โดยรอบบริเวณวิหารหลวง หากปล่อยไว้จะยึดเป็นส่วนตัวและเมื่อไม่มีการแก้ไขปัญหาจะคาราคาซังมีการเซ้งกันต่อๆเมื่อนั้นจะแก้ได้ลำบาก ขณะที่บริเวณทางเท้าหน้าวัดก็มีพ่อค้าแม่ค้าเหล่านี้จับจองพื้นที่จนแทบไม่มีทางเดินสำหรับผู้ที่เข้ามาสักการะพระบรมธาตุ การจราจรติดขัดอย่างหนักซึ่งต้องพยายามแก้ไขก่อนที่ภาพลักษณ์จะเสียหายไปมากกว่านี้
นอกจากนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า ห้างสรรพสินค้า ตลอดจนร้านค้าของผู้ประกอบการต่างๆ เช่น ห้าวงสรรพสินค้า ร้านหมูกะทะ มีการนำจตุคามรามเทพ มาแจกจ่ายสมนาคุณให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อเรียกลุกค้าเข้าร้านเช่นห้างลัคกี้ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ โดยนายต่อพงศ์ เอื้อวงศ์ประยูร ผู้บริหารห้าง เปิดเผยว่า การแจกวัตถุมงคลเป็นส่วนหนึ่งของการสมนาคุณลูกค้า เน้นความพึงพอใจของลูกค้าเป็นสำคัญ และเพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งเมื่อมีลูกค้าอยากได้ห้างก็ต้องตอบแทนลูกค้าโดยการจัดหามาแจกแถม
ส่วนร้านหมูกะทะรายหนึ่งย่านถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้แจกจตุคามรามเทพให้กับลูกค้าเมื่อมีลูกค้าเข้าใช้บริการต่อโต๊ะเกิน 8 ราย ในราคาหัวละ 89 บาท จะได้รับจตุคามรามเทพ 1 องค์ ซึ่งสามารถเรียกลูกค้าได้แน่นร้านทุกวัน