"วิจิตร"สั่งเลื่อนหาข้อสรุปเกณฑ์แอดมิชชั่นปี 2553 หวั่นทำนักเรียนสับสน เพราะข้อพิพาทโอเน็ตปีนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป ระบุปีการศึกษานี้ สพฐ.จะใช้เริ่มคะแนนโอเน็ตเป็นสัดส่วนวัดผลช่วงชั้น ม.6 ด้วย และจะเพิ่มสัดส่วนโอเน็ตในการวัดผล ม.6 มากขึ้นในปีต่อไป โดยทปอ.ต้องทบทวนเกณฑ์แอดมิชชั่นของปี 2553 ใหม่ เพราะถือว่าโอเน็ต เป็นองค์ประกอบเดียวกับจีพีเอ และจีพีเอเอ็กซ์
นายวิจิตร ศรีสอ้าน รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงความคืบหน้าในเรื่ององค์ประกอบในระบบกลางการรับนิสิต นักศึกษา หรือแอดมิชชั่น ประจำปีการศึกษา 2553ว่า เรื่องการหาข้อสรุปสัดส่วนองค์ประกอบแอดมิชชั่น ปีการศึกษา 2553ที่ตนอยากให้มีการหารือร่วมกันระหว่าง ทปอ. สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)และสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ(สทศ.) คงต้องเลื่อนไปหารือเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันหลังการประกาศผลแอดมิชชั่น ประจำปี 2550 ในวันที่ 15 พ.ค.นี้
“ผมไม่อยากให้สังคมเกิดความสับสน เพราะขณะนี้ยังมีปัญหาฟ้องร้องเกี่ยวกับการใช้คะแนนโอเน็ต ครั้งที่ 1 หรือครั้งที่ 2 ซึ่งยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลปกครอง ดังนั้น หากมีการประกาศองค์ประกอบแอดมิชชั่น ปี 2553 ใหม่ออกไป เกรงว่าจะไปสร้างความสับสนให้กับประชาชน อีกทั้งเรื่องนี้ยังไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน จึงควรจะรอให้เรื่องที่ยังมีการฟ้องร้องกันอยู่ขณะนี้มีข้อสรุปเป็นที่ยุติเสียก่อน”
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ตนได้หารือเบื้องต้นร่วมกับ รศ.ดร.วันชัย ศิริชนะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ในฐานะประธาน ทปอ. ถึงแนวทางของ สพฐ. ที่จะเริ่มนำคะแนนทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ(โอเน็ต) มาใช้เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการวัดและประเมินผลการจบช่วงชั้น ม.6 โดยในปี 2550 จะได้เริ่มนำคะแนนโอเน็ตร้อยละ 30 มารวมกับคะแนนสอบของโรงเรียนอีกร้อยละ 70 เพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้น ม.6 จากนั้น ในปีต่อไปก็จะเพิ่มโอเน็ตเป็นร้อยละ 40 และร้อยละ 50 ในปีต่อไปตามลำดับ
“หากนำคะแนนโอเน็ตไปใช้วัดผลในช่วงชั้น ม.6 ด้วย ก็จะทำให้ผลคะแนนโอเน็ต คะแนนเฉลี่ยสะสมรายกลุ่มสาระ(จีพีเอ) และคะแนนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตร ม.ปลาย(จีพีเอเอ็กซ์) เสมือนเป็นองค์ประกอบเดียวกันที่จะแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของนักเรียนในชั้น ม.ปลาย และเมื่อมีการนำคะแนนโอเน็ตไปถ่วงกับผลการสอบของโรงเรียน ก็จะทำให้คะแนนจีพีเอ และจีพีเอเอ็กซ์ของโรงเรียนมีความเชื่อถือมากขึ้นด้วย”
นายวิจิตร กล่าวอีกว่า ทปอ. คงจะต้องทบทวนองค์ประกอบที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ใหม่ เพราะสิ่งที่ ทปอ.กำหนดไว้เดิม คือ องค์ประกอบแอดมิชชั่นปี 2553 ประกอบด้วยคะแนนโอเน็ต จีพีเอเอ็กซ์ และข้อสอบวัดความถนัด หรือ แอพติจูดเทส ไม่ตรงกับที่ ศธ.ดำเนินการอยู่ เพราะในอนาคตคะแนนโอเน็ต จีพีเอ และจีพีเอเอ็กซ์ เปรียบเสมือนเป็นองค์ประกอบเดียวกัน ไม่ได้แยกส่วนเหมือนในขณะนี้ หาก ทปอ. จะนำไปใช้เป็นองค์ประกอบในแอดมิชชั่นก็ควรเป็นองค์ประกอบเดียวกัน โดยอาจคิดจากคะแนนจีพีเอ หรือจีพีเอเอ็กซ์ แล้วมีคะแนนทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นสูง(เอเน็ต) หรือคะแนนทดสอบความถนัด มาเพิ่มเติม ซึ่งจะใช้สัดส่วนอย่างไรเป็นเรื่องที่ต้องไปหารือในรายละเอียดให้รอบคอบต่อไป
นายวิจิตร ศรีสอ้าน รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงความคืบหน้าในเรื่ององค์ประกอบในระบบกลางการรับนิสิต นักศึกษา หรือแอดมิชชั่น ประจำปีการศึกษา 2553ว่า เรื่องการหาข้อสรุปสัดส่วนองค์ประกอบแอดมิชชั่น ปีการศึกษา 2553ที่ตนอยากให้มีการหารือร่วมกันระหว่าง ทปอ. สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)และสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ(สทศ.) คงต้องเลื่อนไปหารือเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันหลังการประกาศผลแอดมิชชั่น ประจำปี 2550 ในวันที่ 15 พ.ค.นี้
“ผมไม่อยากให้สังคมเกิดความสับสน เพราะขณะนี้ยังมีปัญหาฟ้องร้องเกี่ยวกับการใช้คะแนนโอเน็ต ครั้งที่ 1 หรือครั้งที่ 2 ซึ่งยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลปกครอง ดังนั้น หากมีการประกาศองค์ประกอบแอดมิชชั่น ปี 2553 ใหม่ออกไป เกรงว่าจะไปสร้างความสับสนให้กับประชาชน อีกทั้งเรื่องนี้ยังไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน จึงควรจะรอให้เรื่องที่ยังมีการฟ้องร้องกันอยู่ขณะนี้มีข้อสรุปเป็นที่ยุติเสียก่อน”
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ตนได้หารือเบื้องต้นร่วมกับ รศ.ดร.วันชัย ศิริชนะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ในฐานะประธาน ทปอ. ถึงแนวทางของ สพฐ. ที่จะเริ่มนำคะแนนทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ(โอเน็ต) มาใช้เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการวัดและประเมินผลการจบช่วงชั้น ม.6 โดยในปี 2550 จะได้เริ่มนำคะแนนโอเน็ตร้อยละ 30 มารวมกับคะแนนสอบของโรงเรียนอีกร้อยละ 70 เพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้น ม.6 จากนั้น ในปีต่อไปก็จะเพิ่มโอเน็ตเป็นร้อยละ 40 และร้อยละ 50 ในปีต่อไปตามลำดับ
“หากนำคะแนนโอเน็ตไปใช้วัดผลในช่วงชั้น ม.6 ด้วย ก็จะทำให้ผลคะแนนโอเน็ต คะแนนเฉลี่ยสะสมรายกลุ่มสาระ(จีพีเอ) และคะแนนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตร ม.ปลาย(จีพีเอเอ็กซ์) เสมือนเป็นองค์ประกอบเดียวกันที่จะแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของนักเรียนในชั้น ม.ปลาย และเมื่อมีการนำคะแนนโอเน็ตไปถ่วงกับผลการสอบของโรงเรียน ก็จะทำให้คะแนนจีพีเอ และจีพีเอเอ็กซ์ของโรงเรียนมีความเชื่อถือมากขึ้นด้วย”
นายวิจิตร กล่าวอีกว่า ทปอ. คงจะต้องทบทวนองค์ประกอบที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ใหม่ เพราะสิ่งที่ ทปอ.กำหนดไว้เดิม คือ องค์ประกอบแอดมิชชั่นปี 2553 ประกอบด้วยคะแนนโอเน็ต จีพีเอเอ็กซ์ และข้อสอบวัดความถนัด หรือ แอพติจูดเทส ไม่ตรงกับที่ ศธ.ดำเนินการอยู่ เพราะในอนาคตคะแนนโอเน็ต จีพีเอ และจีพีเอเอ็กซ์ เปรียบเสมือนเป็นองค์ประกอบเดียวกัน ไม่ได้แยกส่วนเหมือนในขณะนี้ หาก ทปอ. จะนำไปใช้เป็นองค์ประกอบในแอดมิชชั่นก็ควรเป็นองค์ประกอบเดียวกัน โดยอาจคิดจากคะแนนจีพีเอ หรือจีพีเอเอ็กซ์ แล้วมีคะแนนทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นสูง(เอเน็ต) หรือคะแนนทดสอบความถนัด มาเพิ่มเติม ซึ่งจะใช้สัดส่วนอย่างไรเป็นเรื่องที่ต้องไปหารือในรายละเอียดให้รอบคอบต่อไป