.
คู่ต่อสู้ยังไม่มั่นใจในผลแพ้ชนะ ถึงแพ้แล้วก็ยังคงติดใจ จึงขอเล่นต่อแต่ไม่ใช่ขอเล่นต่อเฉยๆ กลับขอเพิ่มเดิมพันด้วย ซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไรและไม่ได้ออกความเห็นอะไรเพราะไม่มีส่วนได้เสียในเรื่องเดิมพันนั้น
ผมเพียงแต่คิดเฉลียวใจว่าหรือว่าเราจะเจอเซียนหมากฮอสที่แกล้งแพ้แล้วขอเพิ่มเดิมพันแบบนายเป๋เข้าอีกแล้ว ถึงกระนั้นก็ยังมั่นใจว่าไม่ว่าคู่ต่อสู้จะมีฝีมือระดับเซียนหรือไม่เซียนก็ไม่กลัวกันแล้วเพราะตัวเราในบัดนี้ก็เป็นศิษย์มีครูที่มีความรู้เชิงชั้นหมากฮอสจัดจ้าน
ส่วนพวกขาหมากฮอสเจ้าถิ่นมั่นใจในฝีมือผมอยู่แต่ก่อน จัดเป็นพวกหมูไม่กลัวน้ำร้อน เมื่อถูกท้าก็รับคำท้า มูลค่าการพนันจึงสูงขึ้นถึงระดับกระดานละเกือบห้าร้อยบาทซึ่งนับว่าเป็นเงินมากในสมัยนั้น เพราะในขณะนั้นผมได้รับเงินเดือนจากทางบ้านเพียงเดือนละสามร้อยบาท และทองคำก็มีราคาเพียงแค่บาทละสามร้อยกว่าเท่านั้น
ผมตั้งหน้าตั้งตาเล่นไปตามปกติ แต่คราวนี้เพราะรู้ว่ามูลค่าการพนันสูงกว่าก่อน ดังนั้นจึงคุมสติตั้งมั่นมิได้ประมาท ด้วยระมัดระวังเผื่อว่าคู่ต่อสู้อาจเป็นเซียนที่แปลงร่างมาเป็นหมูเหมือนกับนายเป๋
พวกเราเล่นกันสามกระดานผ่านไปเซียนหน้าใหม่จากต่างถิ่นก็แพ้เรียบทั้งสามกระดาน และเป็นการพ่ายแพ้ในลักษณะที่แพ้ขาดลอย เพราะทั้งสามกระดานนี้การเดินหมากต้องด้วยตากลที่ผมเคยฝึกฝนมาอย่างช่ำชองก่อนแล้ว
ขาหมากฮอสเจ้าถิ่นชนะพนันก็พากันเฮฮา และเลี้ยงโอเลี้ยงผมสำหรับวันนั้น แถมยังมีการมอบเงินเป็นสินน้ำใจให้อีกสองร้อยบาท ผมก็รับไว้ด้วยไม่อยากขัดศรัทธาใคร และความจริงเงินสองร้อยบาทก็เป็นจำนวนที่น่าพิสมัย ทั้งเป็นธรรมคุ้มกับค่าแรงในการเล่น ไม่เห็นจะน่ารังเกียจที่ตรงไหน
คู่ต่อสู้ที่พ่ายแพ้ก็นับว่าเป็นนักเลงแท้ เพราะแพ้ครั้งนี้แล้วก็ยอมรับความพ่ายแพ้ด้วยความเต็มใจ ขอทำความรู้จักถามชื่อเสียงเรียงนามแล้วยังขอคบเป็นสหายอีก ผมก็มีความยินดีที่ได้เพื่อนใหม่ หลังจากวันนั้นแล้วเซียนหน้าใหม่ได้แวะเวียนมาเล่นหมากฮอสกับผมเป็นครั้งคราวตามควรแก่โอกาส
ในปลายปีนั้นพระมหาทรงธรรม์ก็ได้เก็บข้าวของจำเป็นสำหรับสมณะตามพระวินัยคือไตรจีวร บาตร เข็มสำหรับเย็บผ้า และยารักษาโรคเล็กๆ น้อยๆ ข้าวของอย่างอื่นนอกจากนี้แล้วพระมหาทรงธรรม์ได้จัดแบ่งให้นำไปถวายพระสงฆ์ในคณะหนึ่งจนหมดสิ้น จากนั้นพระมหาทรงธรรม์ก็ออกจากวัดเดินทางไปธุดงค์ตามที่ได้บอกไว้ โดยได้มอบให้พระมหาวิสุทธิ์มาครองกุฏิธรรมนิวาสปกครองพระเณรและเด็กวัดสืบต่อไป
พระมหาทรงธรรม์นั้นแม้ว่าจะเป็นพระภิกษุเจ้าระเบียบเคร่งเครียดกับทุกสิ่งทุกอย่างแต่มีน้ำใจเต็มไปด้วยความเมตตาและดีงาม ก่อนจะออกเดินทางได้นิมนต์พระมหาวิสุทธิ์มาสนทนาฝากฝังลูกศิษย์ลูกหา และว่าท่านออกธุดงค์ครั้งนี้จะไม่กลับเข้าเมืองอีก เพราะชีวิตสมณเพศทางคันถธุระนั้นได้ประพฤติปฏิบัติอยู่ในพระธรรมวินัยเคร่งครัดสักเพียงไหนก็ไม่เกินกว่าที่เป็นอยู่นี้แล้ว จึงอยากจะประสบกับความก้าวหน้าในทางพระพุทธศาสนา จะมุ่งหาวิเวกสุขและมรรคผลนิพพานตามรอยพระบาทพระบรมศาสดาในเส้นทางวิปัสสนาธุระต่อไป
หลังจากพระมหาทรงธรรม์ออกธุดงค์ครั้งนั้นแล้วผมได้รับข่าวคราวของท่านเพียงครั้งหรือสองครั้งว่ามีผู้พบเห็นที่ต่างจังหวัดแต่ไม่มีวัดพำนัก ซึ่งเข้าใจว่าพระมหาทรงธรรม์ออกธุดงค์อยู่ตามป่าเขาหรือวัดในชนบทห่างไกล ที่เข้าเมืองให้คนพบเห็นก็คงมีความจำเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง ผมได้แต่เพียงข่าวแต่ไม่มีโอกาสได้พบหน้ากับพระมหาทรงธรรม์อีกเลยจนกระทั่งบัดนี้ ทั้งๆ ที่ยังระลึกถึงพระคุณอยู่เสมอ
พระมหาวิสุทธิ์ได้ย้ายจากกุฏิแถวแนวทิศใต้มาอยู่ที่กุฏิธรรมนิวาส และได้ให้หลานซึ่งมาอาศัยเรียนอยู่สองคนเข้ามาพักอาศัยที่กุฏิธรรมนิวาสด้วย เนื่องจากพระมหาวิสุทธิ์เป็นคนบ้านเดียวกันกับผมและคุ้นเคยกับพ่อแม่ผมมาแต่ก่อน ดังนั้นท่านจึงให้ความเมตตา ให้ความกรุณาเป็นพิเศษ
แต่เพราะเหตุที่พระมหาวิสุทธิ์ก็เป็นคนเจ้าระเบียบและเคร่งครัด ที่สำคัญคือกวดขันแม้กระทั่งในเรื่องเล็กเรื่องน้อย ดังนั้นไม่นานนักสมปราชญ์และสินจึงได้ออกจากวัดไป และมีเณรจากบ้านเดียวกับผมซึ่งมาเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯ ได้ย้ายเข้ามาอยู่แทน ส่วนหมอปานซึ่งมาอาศัยวัดอยู่เพราะพระมหาทรงธรรม์ ครั้นพระมหาทรงธรรม์ละกุฏิไปแล้ว หมอปานจึงย้ายไปสำนักอาศัยอยู่ที่วัดมหาธาตุ
พระมหาวิสุทธิ์คงจะเห็นว่าผมเป็นคนตั้งใจเรียน และสามารถเข้าเรียนที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาได้ ดังนั้นท่านจึงเอาใจใส่ผมเป็นพิเศษ และใช้วิธีพิเศษ
ตอนเช้าหลังกลับจากบิณฑบาตแล้วท่านก็ตักข้าวให้ผมกินก่อนเพื่อจะได้ไปเรียนหนังสือให้ทันเวลา ผมจึงมีอภิสิทธิ์กินข้าวก่อนพระเหมือนกับสมัยพระมหาทรงธรรม์ ครั้นกลับจากโรงเรียนผมก็ยังคงมีวัตรปฏิบัติเหมือนเดิมแต่ต้องรีบกลับกุฏิก่อนสามทุ่ม เพราะพระมหาวิสุทธิ์กลับจากสอนหนังสือที่มหาจุฬาฯ ประมาณทุ่มเศษ พอเวลาใกล้สามทุ่มก็จะเรียกผมขึ้นไปนวด ครู่หนึ่งก็จะให้ผมอ่านหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ซึ่งเป็นหนังสือภาษาอังกฤษให้ท่านฟัง
ท่านให้อ่านหนังสือพิมพ์วันละเพียงคอลัมน์เดียวเท่านั้น ตอนแรกผมไม่ทราบวัตถุประสงค์ แต่นานวันเข้าก็รู้เจตนาของท่านว่าต้องการให้ผมคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษ และเมื่อผมอ่านหนังสือจบแล้วท่านก็จะมอบขนมหรือของหวานซึ่งเก็บไว้จากตอนเช้าให้เป็นรางวัล
ปกติผมไม่ค่อยได้กินของหวาน เพราะมีคนใส่บาตรของหวานไม่มากนัก ถึงมีบ้างพระก็ฉันหมด หรือแม้จะเหลือก็ไม่เหลือมาถึงผม เพราะกว่าจะกลับจากโรงเรียนก็เป็นเวลาเย็น ดังนั้นการได้รับรางวัลเป็นของหวานจึงนับเป็นเรื่องพิเศษสำหรับภาวะเด็กวัดเช่นนั้น แต่ที่พิเศษกว่านั้นก็คือผมได้ซึมซับความรู้ภาษาอังกฤษโดยไม่รู้ตัว
พระมหาวิสุทธิ์มีวิธีอบรมสั่งสอนแบบไม่ต้องบอกวิธี แต่จะสั่งให้ทำไปเลยทีเดียว ท่านคงเกรงว่าผมจะไปเที่ยวเตร่ในวันอาทิตย์ ดังนั้นพอถึงวันศุกร์ท่านจึงมอบหมายให้ผมทำการบ้านอยู่เสมอ
การบ้านในครั้งแรก ท่านเอากุญแจตู้พระไตรปิฎกส่งให้กับผม แล้วสั่งว่าท่านจะต้องใช้ข้อมูลไปสอนพระภิกษุนักเรียน ให้ผมช่วยค้นและสรุปพระสูตรหรือหัวข้อพระอภิธรรมหรือหัวข้อพระวินัย โดยบอกแต่หัวข้อเรื่องและปิฎกที่จะต้องไปตรวจค้น และสั่งว่าให้ผมทำให้เสร็จก่อนค่ำวันอาทิตย์
ผมมีอัชฌาสัยเชื่อฟังผู้ใหญ่และเคารพครูบาอาจารย์ คิดว่าได้มาอาศัยวัด อาศัยข้าวก้นบาตรพระ เมื่อพระสั่งงานเพียงเท่านี้อยู่ในวิสัยที่จะทำได้ ดังนั้นจึงตั้งใจทำถวายด้วยความยินดี
ในชั้นแรกเป็นเรื่องยากเพราะไม่รู้ว่าพระไตรปิฎกเล่มไหนเป็นส่วนของพระสูตร พระวินัยและพระอภิธรรม เพราะพระไตรปิฎกทั้ง 45 เล่มนั้นได้จัดเก็บในลักษณะปะปนกัน ไม่เรียบเรียงเป็นเล่มเป็นหมวด ราวกับว่ามีคนมาสลับสับเปลี่ยนหมวดหมู่ให้ผมต้องจัดการเรียงเล่มเสียใหม่ ผมจึงจำเป็นต้องเอาพระไตรปิฎกทั้ง 45 เล่มมาเรียงจัดลำดับเล่มใหม่เป็นชุดๆ คือชุดพระสูตร พระอภิธรรม และพระวินัย เพียงแค่นี้ก็ใช้เวลาไปเกือบครึ่งวัน
โปรดติดตามตอนที่ 49 “เด็กวัดน้อยกับการศึกษาพระไตรปิฎก ตอน 2” ในวันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคม 2550
คู่ต่อสู้ยังไม่มั่นใจในผลแพ้ชนะ ถึงแพ้แล้วก็ยังคงติดใจ จึงขอเล่นต่อแต่ไม่ใช่ขอเล่นต่อเฉยๆ กลับขอเพิ่มเดิมพันด้วย ซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไรและไม่ได้ออกความเห็นอะไรเพราะไม่มีส่วนได้เสียในเรื่องเดิมพันนั้น
ผมเพียงแต่คิดเฉลียวใจว่าหรือว่าเราจะเจอเซียนหมากฮอสที่แกล้งแพ้แล้วขอเพิ่มเดิมพันแบบนายเป๋เข้าอีกแล้ว ถึงกระนั้นก็ยังมั่นใจว่าไม่ว่าคู่ต่อสู้จะมีฝีมือระดับเซียนหรือไม่เซียนก็ไม่กลัวกันแล้วเพราะตัวเราในบัดนี้ก็เป็นศิษย์มีครูที่มีความรู้เชิงชั้นหมากฮอสจัดจ้าน
ส่วนพวกขาหมากฮอสเจ้าถิ่นมั่นใจในฝีมือผมอยู่แต่ก่อน จัดเป็นพวกหมูไม่กลัวน้ำร้อน เมื่อถูกท้าก็รับคำท้า มูลค่าการพนันจึงสูงขึ้นถึงระดับกระดานละเกือบห้าร้อยบาทซึ่งนับว่าเป็นเงินมากในสมัยนั้น เพราะในขณะนั้นผมได้รับเงินเดือนจากทางบ้านเพียงเดือนละสามร้อยบาท และทองคำก็มีราคาเพียงแค่บาทละสามร้อยกว่าเท่านั้น
ผมตั้งหน้าตั้งตาเล่นไปตามปกติ แต่คราวนี้เพราะรู้ว่ามูลค่าการพนันสูงกว่าก่อน ดังนั้นจึงคุมสติตั้งมั่นมิได้ประมาท ด้วยระมัดระวังเผื่อว่าคู่ต่อสู้อาจเป็นเซียนที่แปลงร่างมาเป็นหมูเหมือนกับนายเป๋
พวกเราเล่นกันสามกระดานผ่านไปเซียนหน้าใหม่จากต่างถิ่นก็แพ้เรียบทั้งสามกระดาน และเป็นการพ่ายแพ้ในลักษณะที่แพ้ขาดลอย เพราะทั้งสามกระดานนี้การเดินหมากต้องด้วยตากลที่ผมเคยฝึกฝนมาอย่างช่ำชองก่อนแล้ว
ขาหมากฮอสเจ้าถิ่นชนะพนันก็พากันเฮฮา และเลี้ยงโอเลี้ยงผมสำหรับวันนั้น แถมยังมีการมอบเงินเป็นสินน้ำใจให้อีกสองร้อยบาท ผมก็รับไว้ด้วยไม่อยากขัดศรัทธาใคร และความจริงเงินสองร้อยบาทก็เป็นจำนวนที่น่าพิสมัย ทั้งเป็นธรรมคุ้มกับค่าแรงในการเล่น ไม่เห็นจะน่ารังเกียจที่ตรงไหน
คู่ต่อสู้ที่พ่ายแพ้ก็นับว่าเป็นนักเลงแท้ เพราะแพ้ครั้งนี้แล้วก็ยอมรับความพ่ายแพ้ด้วยความเต็มใจ ขอทำความรู้จักถามชื่อเสียงเรียงนามแล้วยังขอคบเป็นสหายอีก ผมก็มีความยินดีที่ได้เพื่อนใหม่ หลังจากวันนั้นแล้วเซียนหน้าใหม่ได้แวะเวียนมาเล่นหมากฮอสกับผมเป็นครั้งคราวตามควรแก่โอกาส
ในปลายปีนั้นพระมหาทรงธรรม์ก็ได้เก็บข้าวของจำเป็นสำหรับสมณะตามพระวินัยคือไตรจีวร บาตร เข็มสำหรับเย็บผ้า และยารักษาโรคเล็กๆ น้อยๆ ข้าวของอย่างอื่นนอกจากนี้แล้วพระมหาทรงธรรม์ได้จัดแบ่งให้นำไปถวายพระสงฆ์ในคณะหนึ่งจนหมดสิ้น จากนั้นพระมหาทรงธรรม์ก็ออกจากวัดเดินทางไปธุดงค์ตามที่ได้บอกไว้ โดยได้มอบให้พระมหาวิสุทธิ์มาครองกุฏิธรรมนิวาสปกครองพระเณรและเด็กวัดสืบต่อไป
พระมหาทรงธรรม์นั้นแม้ว่าจะเป็นพระภิกษุเจ้าระเบียบเคร่งเครียดกับทุกสิ่งทุกอย่างแต่มีน้ำใจเต็มไปด้วยความเมตตาและดีงาม ก่อนจะออกเดินทางได้นิมนต์พระมหาวิสุทธิ์มาสนทนาฝากฝังลูกศิษย์ลูกหา และว่าท่านออกธุดงค์ครั้งนี้จะไม่กลับเข้าเมืองอีก เพราะชีวิตสมณเพศทางคันถธุระนั้นได้ประพฤติปฏิบัติอยู่ในพระธรรมวินัยเคร่งครัดสักเพียงไหนก็ไม่เกินกว่าที่เป็นอยู่นี้แล้ว จึงอยากจะประสบกับความก้าวหน้าในทางพระพุทธศาสนา จะมุ่งหาวิเวกสุขและมรรคผลนิพพานตามรอยพระบาทพระบรมศาสดาในเส้นทางวิปัสสนาธุระต่อไป
หลังจากพระมหาทรงธรรม์ออกธุดงค์ครั้งนั้นแล้วผมได้รับข่าวคราวของท่านเพียงครั้งหรือสองครั้งว่ามีผู้พบเห็นที่ต่างจังหวัดแต่ไม่มีวัดพำนัก ซึ่งเข้าใจว่าพระมหาทรงธรรม์ออกธุดงค์อยู่ตามป่าเขาหรือวัดในชนบทห่างไกล ที่เข้าเมืองให้คนพบเห็นก็คงมีความจำเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง ผมได้แต่เพียงข่าวแต่ไม่มีโอกาสได้พบหน้ากับพระมหาทรงธรรม์อีกเลยจนกระทั่งบัดนี้ ทั้งๆ ที่ยังระลึกถึงพระคุณอยู่เสมอ
พระมหาวิสุทธิ์ได้ย้ายจากกุฏิแถวแนวทิศใต้มาอยู่ที่กุฏิธรรมนิวาส และได้ให้หลานซึ่งมาอาศัยเรียนอยู่สองคนเข้ามาพักอาศัยที่กุฏิธรรมนิวาสด้วย เนื่องจากพระมหาวิสุทธิ์เป็นคนบ้านเดียวกันกับผมและคุ้นเคยกับพ่อแม่ผมมาแต่ก่อน ดังนั้นท่านจึงให้ความเมตตา ให้ความกรุณาเป็นพิเศษ
แต่เพราะเหตุที่พระมหาวิสุทธิ์ก็เป็นคนเจ้าระเบียบและเคร่งครัด ที่สำคัญคือกวดขันแม้กระทั่งในเรื่องเล็กเรื่องน้อย ดังนั้นไม่นานนักสมปราชญ์และสินจึงได้ออกจากวัดไป และมีเณรจากบ้านเดียวกับผมซึ่งมาเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯ ได้ย้ายเข้ามาอยู่แทน ส่วนหมอปานซึ่งมาอาศัยวัดอยู่เพราะพระมหาทรงธรรม์ ครั้นพระมหาทรงธรรม์ละกุฏิไปแล้ว หมอปานจึงย้ายไปสำนักอาศัยอยู่ที่วัดมหาธาตุ
พระมหาวิสุทธิ์คงจะเห็นว่าผมเป็นคนตั้งใจเรียน และสามารถเข้าเรียนที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาได้ ดังนั้นท่านจึงเอาใจใส่ผมเป็นพิเศษ และใช้วิธีพิเศษ
ตอนเช้าหลังกลับจากบิณฑบาตแล้วท่านก็ตักข้าวให้ผมกินก่อนเพื่อจะได้ไปเรียนหนังสือให้ทันเวลา ผมจึงมีอภิสิทธิ์กินข้าวก่อนพระเหมือนกับสมัยพระมหาทรงธรรม์ ครั้นกลับจากโรงเรียนผมก็ยังคงมีวัตรปฏิบัติเหมือนเดิมแต่ต้องรีบกลับกุฏิก่อนสามทุ่ม เพราะพระมหาวิสุทธิ์กลับจากสอนหนังสือที่มหาจุฬาฯ ประมาณทุ่มเศษ พอเวลาใกล้สามทุ่มก็จะเรียกผมขึ้นไปนวด ครู่หนึ่งก็จะให้ผมอ่านหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ซึ่งเป็นหนังสือภาษาอังกฤษให้ท่านฟัง
ท่านให้อ่านหนังสือพิมพ์วันละเพียงคอลัมน์เดียวเท่านั้น ตอนแรกผมไม่ทราบวัตถุประสงค์ แต่นานวันเข้าก็รู้เจตนาของท่านว่าต้องการให้ผมคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษ และเมื่อผมอ่านหนังสือจบแล้วท่านก็จะมอบขนมหรือของหวานซึ่งเก็บไว้จากตอนเช้าให้เป็นรางวัล
ปกติผมไม่ค่อยได้กินของหวาน เพราะมีคนใส่บาตรของหวานไม่มากนัก ถึงมีบ้างพระก็ฉันหมด หรือแม้จะเหลือก็ไม่เหลือมาถึงผม เพราะกว่าจะกลับจากโรงเรียนก็เป็นเวลาเย็น ดังนั้นการได้รับรางวัลเป็นของหวานจึงนับเป็นเรื่องพิเศษสำหรับภาวะเด็กวัดเช่นนั้น แต่ที่พิเศษกว่านั้นก็คือผมได้ซึมซับความรู้ภาษาอังกฤษโดยไม่รู้ตัว
พระมหาวิสุทธิ์มีวิธีอบรมสั่งสอนแบบไม่ต้องบอกวิธี แต่จะสั่งให้ทำไปเลยทีเดียว ท่านคงเกรงว่าผมจะไปเที่ยวเตร่ในวันอาทิตย์ ดังนั้นพอถึงวันศุกร์ท่านจึงมอบหมายให้ผมทำการบ้านอยู่เสมอ
การบ้านในครั้งแรก ท่านเอากุญแจตู้พระไตรปิฎกส่งให้กับผม แล้วสั่งว่าท่านจะต้องใช้ข้อมูลไปสอนพระภิกษุนักเรียน ให้ผมช่วยค้นและสรุปพระสูตรหรือหัวข้อพระอภิธรรมหรือหัวข้อพระวินัย โดยบอกแต่หัวข้อเรื่องและปิฎกที่จะต้องไปตรวจค้น และสั่งว่าให้ผมทำให้เสร็จก่อนค่ำวันอาทิตย์
ผมมีอัชฌาสัยเชื่อฟังผู้ใหญ่และเคารพครูบาอาจารย์ คิดว่าได้มาอาศัยวัด อาศัยข้าวก้นบาตรพระ เมื่อพระสั่งงานเพียงเท่านี้อยู่ในวิสัยที่จะทำได้ ดังนั้นจึงตั้งใจทำถวายด้วยความยินดี
ในชั้นแรกเป็นเรื่องยากเพราะไม่รู้ว่าพระไตรปิฎกเล่มไหนเป็นส่วนของพระสูตร พระวินัยและพระอภิธรรม เพราะพระไตรปิฎกทั้ง 45 เล่มนั้นได้จัดเก็บในลักษณะปะปนกัน ไม่เรียบเรียงเป็นเล่มเป็นหมวด ราวกับว่ามีคนมาสลับสับเปลี่ยนหมวดหมู่ให้ผมต้องจัดการเรียงเล่มเสียใหม่ ผมจึงจำเป็นต้องเอาพระไตรปิฎกทั้ง 45 เล่มมาเรียงจัดลำดับเล่มใหม่เป็นชุดๆ คือชุดพระสูตร พระอภิธรรม และพระวินัย เพียงแค่นี้ก็ใช้เวลาไปเกือบครึ่งวัน
โปรดติดตามตอนที่ 49 “เด็กวัดน้อยกับการศึกษาพระไตรปิฎก ตอน 2” ในวันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคม 2550