สธ.เตรียมเพิ่ม รมช.อีก 1 ตำแหน่ง "วัลลภ ไทยเหนือ"เข้าวิน ด้าน"หมอมงคล"ประกาศยินดีรับน้องใหม่ เชื่อไม่ขัดแย้ง คุยกันได้พี่น้องกันทั้งนั้น ด้าน"ยงยุทธ"ดึง"โชติชัย สุวรรณภรณ์"ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจ-การคลัง เสริมทีมโฆษกฯ หลังถูกวิจารณ์งานประชาสัมพันธ์เหลว
นพ.วัลลภ ไทยเหนือ อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้รับการทาบทามจากผู้ใหญ่นอกกระทรวงสาธารณสุขให้เข้ามาดำรงตำแหน่ง รมช.สาธารณสุข ประมาณ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมาแล้ว โดยให้เหตุผลว่า เป็นการช่วยชาติบ้านเมืองทำงานให้ลุล่วงไป ซึ่งตนก็ยินดีตอบตกลง ทั้งนี้คงไม่เหมาะที่จะสามารถเปิดเผยรายละเอียดใดๆ มากกว่านี้ เพราะยังไม่มีความแน่ชัดใดๆ ในเรื่องนี้ จึงไม่อยากพูดอะไรมาก
ด้าน นพ.มงคล ณ สงขลา รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ทราบข่าวการเพิ่ม รมช.สาธารณสุขแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่มีการโปรดเกล้าฯ คงไม่สามารถตอบอะไรได้มาก แต่หากมีการเพิ่มคนมาช่วยกันทำงาน ก็ถือเป็นเรื่องดี
ต่อข้อถามว่า หาก นพ.วัลลภ ไทยเหนือ ซึ่งมีชื่อว่าได้รับการทามทาบเข้ามาดำรงตำแหน่ง จะทำให้เกิดความขัดแย้งในกระทรวงสาธารณสุขขึ้นหรือไม่ นพ.มงคล กล่าวว่า ตราบใดที่ตนยังอยู่ไม่ต้องเป็นห่วง ตนจะเป็นคนกลางเอง เรื่องความขัดแย้งที่ผ่านมาเชื่อว่า สามารถลืมกันได้ เริ่มต้นใหม่ได้ และเชื่อว่าคงไม่มีเพราะต่างเป็นเพื่อนฝูง พี่น้องกันทั้งนั้น
แหล่งข่าวระดับสูง กล่าวว่า สาเหตุที่มีกระแสข่าวว่า นพ.วัลลภ จะเข้ามาเป็นรมช.สาธารณสุข เนื่องจากการทำงานที่ผ่านของ นพ.มงคล ทำให้เกิดผลในแง่ลบกับรัฐบาลในหลายเรื่อง โดยที่ พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ไม่สามารถห้ามปรามได้ ปัจจัยหลัก คือ เรื่องการประกาศบังคับใช้สิทธิผลิตยาที่ติดสิทธิบัตรอยู่ในยา 3 รายการ ทำให้เกิดความกระทบกระเทือนด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ระหว่างประเทศไทยกับประเทศแม่ของบริษัทยา โดยเฉพาะสหรัฐฯ รวมไปถึงเรื่องธุรกิจ การค้าขายเชิงพาณิชย์ระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ยังมีเรื่องการผลักดัน พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่นพ.มงคล ผลักดันอย่างเต็มกำลังเพื่อให้พ.ร.บ.นี้มีผลบังคับใช้ ซึ่งเนื้อหาหลักของพ.ร.บ.นี้คือการห้ามโฆษณาทุกรูปแบบในทุกสื่อตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้สร้างปัญหาและความขัดแย้งให้กับกลุ่มทุนที่เป็นบริษัทเอกชนด้านน้ำเมาอย่างมาก
“ด้วยเหตุนี้เองจึงได้ชักชวน นพ.วัลลภ เข้ามาทำหน้าที่รมช.สธ.เพื่อถ่วงดุลอำนาจในการทำงานดังกล่าว เพราะในสมัยที่ นพ.วัลลภ ดำรงตำแหน่งปลัดสธ. มีสไตล์การทำงานที่เด็ดขาด เป็นที่รักใคร่ของกลุ่มนายแพทย์สาธรณสุขจังหวัดต่างๆ และเป็นไม้เบื่อไม้เมากับกลุ่มแพทย์ชนบท ที่ขณะนี้ได้ทำงานในระดับแถวหน้าของกระทรวงในยุครัฐบาลนี้ การดึงตัวนพ.วัลลภ มาในครั้งนี้จึงเป็นการถ่วงดุลการทำงานของ นพ.มงคล ไม่ให้ดำเนินงานโดยไม่ฟังเสียงรอบข้างดั่งเช่นที่เป็นอยู่" แหล่งข่าว กล่าว
ด้านร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตนได้หารือกับ พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ถึงการแต่งตั้งผู้ช่วยโฆษกฯ เข้ามาเสริมทีมโฆษกฯ ในปัจจุบัน ซึ่งจะเป็นบุคคลที่มีความชำนาญด้านเศรษฐกิจ-การคลัง โดยรัฐบาลจะมีการทำเรื่องขอยืมตัวมาจากกระทรวงการคลัง เนื่องจากการแถลงข่าวที่ผ่านมาทีมโฆษกยังไม่มีผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของเศรษฐกิจเท่าใดนัก ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการหารือกับเลขาธิการนายกฯ ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุป อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการทำงานของทีมโฆษกฯ ในปัจจุบันไม่ได้มีความติดขัดประการใด แต่เราต้องการหาคนมาเสริมเพื่อให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับบุคคลที่ถูกทาบทามให้มาเป็นผู้ช่วยโฆษกฯ ครั้งนี้ คือ ดร.โชติชัย สุวรรณาภรณ์ ผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงการคลัง
นพ.วัลลภ ไทยเหนือ อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้รับการทาบทามจากผู้ใหญ่นอกกระทรวงสาธารณสุขให้เข้ามาดำรงตำแหน่ง รมช.สาธารณสุข ประมาณ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมาแล้ว โดยให้เหตุผลว่า เป็นการช่วยชาติบ้านเมืองทำงานให้ลุล่วงไป ซึ่งตนก็ยินดีตอบตกลง ทั้งนี้คงไม่เหมาะที่จะสามารถเปิดเผยรายละเอียดใดๆ มากกว่านี้ เพราะยังไม่มีความแน่ชัดใดๆ ในเรื่องนี้ จึงไม่อยากพูดอะไรมาก
ด้าน นพ.มงคล ณ สงขลา รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ทราบข่าวการเพิ่ม รมช.สาธารณสุขแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่มีการโปรดเกล้าฯ คงไม่สามารถตอบอะไรได้มาก แต่หากมีการเพิ่มคนมาช่วยกันทำงาน ก็ถือเป็นเรื่องดี
ต่อข้อถามว่า หาก นพ.วัลลภ ไทยเหนือ ซึ่งมีชื่อว่าได้รับการทามทาบเข้ามาดำรงตำแหน่ง จะทำให้เกิดความขัดแย้งในกระทรวงสาธารณสุขขึ้นหรือไม่ นพ.มงคล กล่าวว่า ตราบใดที่ตนยังอยู่ไม่ต้องเป็นห่วง ตนจะเป็นคนกลางเอง เรื่องความขัดแย้งที่ผ่านมาเชื่อว่า สามารถลืมกันได้ เริ่มต้นใหม่ได้ และเชื่อว่าคงไม่มีเพราะต่างเป็นเพื่อนฝูง พี่น้องกันทั้งนั้น
แหล่งข่าวระดับสูง กล่าวว่า สาเหตุที่มีกระแสข่าวว่า นพ.วัลลภ จะเข้ามาเป็นรมช.สาธารณสุข เนื่องจากการทำงานที่ผ่านของ นพ.มงคล ทำให้เกิดผลในแง่ลบกับรัฐบาลในหลายเรื่อง โดยที่ พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ไม่สามารถห้ามปรามได้ ปัจจัยหลัก คือ เรื่องการประกาศบังคับใช้สิทธิผลิตยาที่ติดสิทธิบัตรอยู่ในยา 3 รายการ ทำให้เกิดความกระทบกระเทือนด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ระหว่างประเทศไทยกับประเทศแม่ของบริษัทยา โดยเฉพาะสหรัฐฯ รวมไปถึงเรื่องธุรกิจ การค้าขายเชิงพาณิชย์ระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ยังมีเรื่องการผลักดัน พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่นพ.มงคล ผลักดันอย่างเต็มกำลังเพื่อให้พ.ร.บ.นี้มีผลบังคับใช้ ซึ่งเนื้อหาหลักของพ.ร.บ.นี้คือการห้ามโฆษณาทุกรูปแบบในทุกสื่อตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้สร้างปัญหาและความขัดแย้งให้กับกลุ่มทุนที่เป็นบริษัทเอกชนด้านน้ำเมาอย่างมาก
“ด้วยเหตุนี้เองจึงได้ชักชวน นพ.วัลลภ เข้ามาทำหน้าที่รมช.สธ.เพื่อถ่วงดุลอำนาจในการทำงานดังกล่าว เพราะในสมัยที่ นพ.วัลลภ ดำรงตำแหน่งปลัดสธ. มีสไตล์การทำงานที่เด็ดขาด เป็นที่รักใคร่ของกลุ่มนายแพทย์สาธรณสุขจังหวัดต่างๆ และเป็นไม้เบื่อไม้เมากับกลุ่มแพทย์ชนบท ที่ขณะนี้ได้ทำงานในระดับแถวหน้าของกระทรวงในยุครัฐบาลนี้ การดึงตัวนพ.วัลลภ มาในครั้งนี้จึงเป็นการถ่วงดุลการทำงานของ นพ.มงคล ไม่ให้ดำเนินงานโดยไม่ฟังเสียงรอบข้างดั่งเช่นที่เป็นอยู่" แหล่งข่าว กล่าว
ด้านร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตนได้หารือกับ พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ถึงการแต่งตั้งผู้ช่วยโฆษกฯ เข้ามาเสริมทีมโฆษกฯ ในปัจจุบัน ซึ่งจะเป็นบุคคลที่มีความชำนาญด้านเศรษฐกิจ-การคลัง โดยรัฐบาลจะมีการทำเรื่องขอยืมตัวมาจากกระทรวงการคลัง เนื่องจากการแถลงข่าวที่ผ่านมาทีมโฆษกยังไม่มีผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของเศรษฐกิจเท่าใดนัก ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการหารือกับเลขาธิการนายกฯ ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุป อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการทำงานของทีมโฆษกฯ ในปัจจุบันไม่ได้มีความติดขัดประการใด แต่เราต้องการหาคนมาเสริมเพื่อให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับบุคคลที่ถูกทาบทามให้มาเป็นผู้ช่วยโฆษกฯ ครั้งนี้ คือ ดร.โชติชัย สุวรรณาภรณ์ ผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงการคลัง