ทปอ.ยันมติเดิมใช้โอเน็ตครั้งแรกพิจารณาแอดมิชชัน เร่งชี้แจงศาลปกครองให้ชัดเจน ส่วนคำอุทธรณ์ สกอ.ขอเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองศาลปกครอง จ.ขอนแก่น อยู่ระหว่างส่งให้เด็กซิลเขียนคำค้าน โดยจะพิจารณาเฉพาะประเด็นที่ สกอ.ยื่นอุทธรณ์ไป คาดวินิจฉัยได้ทันเส้นตายแอดมิชชัน 15 พ.ค.นี้
วานนี้ (25 เม.ย.) ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.)มีการประชุมถึงกรณีที่ศาลปกครอง จ.ขอนแก่น มีคำสั่งคุ้มครองให้ผู้ที่ทำการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) ครั้งที่ 2 ใช้คะแนนมาสมัครสอบแอดมิชชั่นได้ โดย รศ.ดร.วันชัย ศิริชนะ ประธาน ทปอ. กล่าวภายหลังการประชุมว่า ทปอ.ยืนยันเกณฑ์เดิมที่ให้ใช้คะแนนโอเน็ตครั้งแรกเพียงครั้งเดียวในการสมัครแอดมิชชั่น เนื่องจากเห็นว่าเกณฑ์ที่ใช้คัดเลือกยังมีการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นสูง (เอเน็ต)เข้ามาเป็นคะแนนถ่วงด้วย และให้สอบกี่ครั้งก็ได้ไม่จำกัด สำหรับโอเน็ตเป็นการวัดผลสัมฤทธิ์การเรียนในระดับ ม.ปลาย และเป็นกระบวนการสอบเพื่อตรวจสอบการให้เกรดเฟ้อของโรงเรียน จึงไม่ใช่เหตุผลที่จะมาฟ้องว่ามติของ ทปอ.ไปลิดรอนสิทธิ์ของเด็ก
"ยืนยันขอใช้เกณฑ์เดิม หากศาลมีคำสั่งออกมาอย่างไร ทปอ.ยินดีที่จะปฏิบัติตาม และหาแนวทางเพื่อให้การรับนักศึกษาสำเร็จลุล่วง เชื่อว่าศาลคงติดตาม และไม่ประวิงเวลาแน่นอน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ามหาวิทยาลัยทุกแห่งจะมีทางออกในเรื่องนี้แล้ว"
ทั้งนี้ ทปอ.จะทำคำชี้แจงไปยังศาลปกครองสูงสุด โดยชี้แจงถึงความจำเป็นและเหตุผลที่ต้องใช้เกณฑ์ดังกล่าว หากศาลมีคำพิพากษาออกมาให้เพิกถอนคำสั่งของศาลปกครอง จ.ขอนแก่น ก็ดำเนินเรื่องต่อไปได้เลย แต่ถ้ามีมติให้ระงับคำสั่งชั่วคราว ก็ต้องรอให้การดำเนินการคัดเลือกแอดมิชชั่นเสร็จก่อนแล้วค่อยพิจารณากันอีกครั้ง
วันเดียวกันช่วงบ่าย นายทศพล เชี่ยวชาญประพันธ์ นิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี 4 กล่าวภายหลังเข้ายื่นหนังสือต่อ ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน รมว.ศึกษาธิการ เพื่อสนับสนุนให้ใช้คะแนนโอเน็ต ครั้งที่ 2 สมัครแอดมิชชั่นว่า เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาที่ไปเรียนในมหาวิทยาลัยแล้วคิดว่าไม่เหมาะมีโอกาสแอดมิชชั่นอีกครั้ง เพื่อเปลี่ยนคณะไปเรียนในสิ่งที่ต้องการ หากไม่อนุญาตให้ใช้โอเน็ต ครั้งที่ 2 คงไปเรียนกับคณะที่ต้องการเรียนไม่ได้ คนไหนมีคะแนนโอเน็ตต่ำ ไม่ได้ตามเกณฑ์ก็เข้าเรียนไม่ได้ เท่ากับเขาสูญเสียโอกาสที่จะเข้าคณะที่อยากเรียนไปทั้งชีวิต และต้องก้มหน้าเรียนคณะที่ไม่อยากเรียนต่อไป
ส่วนความคืบหน้าหลังสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.)ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ขอให้เพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลปกครองขอนแก่น รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้คำอุทธรณ์ดังกล่าวอยู่ในการพิจารณาขององค์คณะตุลาการศาลปกครองสูงสุดที่มี นายวรพจน์ วิศรุตพิชญ์ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด เป็นตุลาการเจ้าของสำนวน และวานนี้ (25 เม.ย.)ได้ส่งคำอุทธรณ์ของ สกอ.ไปให้กับผู้ฟ้องคดีที่เป็นนักศึกษาซึ่งกลับมายื่นแอดมิชชั่นในปีการศึกษานี้ใหม่หรือ เด็กซิล รวม 25 คน ได้จัดทำคำคัดค้านคำอุทธรณ์ของ สกอ.ส่งกลับมายังองค์คณะตุลาการฯ เมื่อองค์คณะได้รับแล้ว จึงจะพิจารณา โดยไม่ต้องเรียกคู่กรณีมาไต่สวนอีก
ส่วนการมีคำสั่งใดๆ ออกมานั้นโดยปกติศาลปกครองจะมีคำสั่งก่อนวันที่หน่วยราชการต่างๆ กำหนดไว้ว่าจะต้องปฏิบัติ ดังนั้น กรณีนี้ก็น่ามีคำสั่งออกมาก่อนวันที่ 15 พ.ค. ที่สกอ.กำหนดว่าจะมีการประกาศผลแอดมิชชั่น ปี 2550 อย่างไรก็ตาม ศาลปกครองสูงสุดจะพิจารณาเฉพาะคำอุทธรณ์ของ สกอ.ที่ให้เพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลปกครองขอนแก่นเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับกรณีที่ผู้ฟ้องคดีฟ้องขอให้ศาลปกครอง จ.ขอนแก่น เพิกถอนกฎของ สทศ.ที่กำหนดให้ดำเนินการจัดสอบโอเน็ตแก่นักเรียนชั้น ม. 6 หรือเทียบเท่าได้เพียงคนละครั้ง และให้รับสมัครผู้ฟ้องคดีเข้าสอบโอเน็ต ประจำปีการศึกษา 2549 ด้วย เพราะคดีดังกล่าวจะเป็นอำนาจหน้าที่ของศาลปกครองขอนแก่นที่จะพิจารณาและมีคำพิพากษา
วานนี้ (25 เม.ย.) ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.)มีการประชุมถึงกรณีที่ศาลปกครอง จ.ขอนแก่น มีคำสั่งคุ้มครองให้ผู้ที่ทำการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) ครั้งที่ 2 ใช้คะแนนมาสมัครสอบแอดมิชชั่นได้ โดย รศ.ดร.วันชัย ศิริชนะ ประธาน ทปอ. กล่าวภายหลังการประชุมว่า ทปอ.ยืนยันเกณฑ์เดิมที่ให้ใช้คะแนนโอเน็ตครั้งแรกเพียงครั้งเดียวในการสมัครแอดมิชชั่น เนื่องจากเห็นว่าเกณฑ์ที่ใช้คัดเลือกยังมีการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นสูง (เอเน็ต)เข้ามาเป็นคะแนนถ่วงด้วย และให้สอบกี่ครั้งก็ได้ไม่จำกัด สำหรับโอเน็ตเป็นการวัดผลสัมฤทธิ์การเรียนในระดับ ม.ปลาย และเป็นกระบวนการสอบเพื่อตรวจสอบการให้เกรดเฟ้อของโรงเรียน จึงไม่ใช่เหตุผลที่จะมาฟ้องว่ามติของ ทปอ.ไปลิดรอนสิทธิ์ของเด็ก
"ยืนยันขอใช้เกณฑ์เดิม หากศาลมีคำสั่งออกมาอย่างไร ทปอ.ยินดีที่จะปฏิบัติตาม และหาแนวทางเพื่อให้การรับนักศึกษาสำเร็จลุล่วง เชื่อว่าศาลคงติดตาม และไม่ประวิงเวลาแน่นอน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ามหาวิทยาลัยทุกแห่งจะมีทางออกในเรื่องนี้แล้ว"
ทั้งนี้ ทปอ.จะทำคำชี้แจงไปยังศาลปกครองสูงสุด โดยชี้แจงถึงความจำเป็นและเหตุผลที่ต้องใช้เกณฑ์ดังกล่าว หากศาลมีคำพิพากษาออกมาให้เพิกถอนคำสั่งของศาลปกครอง จ.ขอนแก่น ก็ดำเนินเรื่องต่อไปได้เลย แต่ถ้ามีมติให้ระงับคำสั่งชั่วคราว ก็ต้องรอให้การดำเนินการคัดเลือกแอดมิชชั่นเสร็จก่อนแล้วค่อยพิจารณากันอีกครั้ง
วันเดียวกันช่วงบ่าย นายทศพล เชี่ยวชาญประพันธ์ นิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี 4 กล่าวภายหลังเข้ายื่นหนังสือต่อ ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน รมว.ศึกษาธิการ เพื่อสนับสนุนให้ใช้คะแนนโอเน็ต ครั้งที่ 2 สมัครแอดมิชชั่นว่า เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาที่ไปเรียนในมหาวิทยาลัยแล้วคิดว่าไม่เหมาะมีโอกาสแอดมิชชั่นอีกครั้ง เพื่อเปลี่ยนคณะไปเรียนในสิ่งที่ต้องการ หากไม่อนุญาตให้ใช้โอเน็ต ครั้งที่ 2 คงไปเรียนกับคณะที่ต้องการเรียนไม่ได้ คนไหนมีคะแนนโอเน็ตต่ำ ไม่ได้ตามเกณฑ์ก็เข้าเรียนไม่ได้ เท่ากับเขาสูญเสียโอกาสที่จะเข้าคณะที่อยากเรียนไปทั้งชีวิต และต้องก้มหน้าเรียนคณะที่ไม่อยากเรียนต่อไป
ส่วนความคืบหน้าหลังสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.)ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ขอให้เพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลปกครองขอนแก่น รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้คำอุทธรณ์ดังกล่าวอยู่ในการพิจารณาขององค์คณะตุลาการศาลปกครองสูงสุดที่มี นายวรพจน์ วิศรุตพิชญ์ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด เป็นตุลาการเจ้าของสำนวน และวานนี้ (25 เม.ย.)ได้ส่งคำอุทธรณ์ของ สกอ.ไปให้กับผู้ฟ้องคดีที่เป็นนักศึกษาซึ่งกลับมายื่นแอดมิชชั่นในปีการศึกษานี้ใหม่หรือ เด็กซิล รวม 25 คน ได้จัดทำคำคัดค้านคำอุทธรณ์ของ สกอ.ส่งกลับมายังองค์คณะตุลาการฯ เมื่อองค์คณะได้รับแล้ว จึงจะพิจารณา โดยไม่ต้องเรียกคู่กรณีมาไต่สวนอีก
ส่วนการมีคำสั่งใดๆ ออกมานั้นโดยปกติศาลปกครองจะมีคำสั่งก่อนวันที่หน่วยราชการต่างๆ กำหนดไว้ว่าจะต้องปฏิบัติ ดังนั้น กรณีนี้ก็น่ามีคำสั่งออกมาก่อนวันที่ 15 พ.ค. ที่สกอ.กำหนดว่าจะมีการประกาศผลแอดมิชชั่น ปี 2550 อย่างไรก็ตาม ศาลปกครองสูงสุดจะพิจารณาเฉพาะคำอุทธรณ์ของ สกอ.ที่ให้เพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลปกครองขอนแก่นเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับกรณีที่ผู้ฟ้องคดีฟ้องขอให้ศาลปกครอง จ.ขอนแก่น เพิกถอนกฎของ สทศ.ที่กำหนดให้ดำเนินการจัดสอบโอเน็ตแก่นักเรียนชั้น ม. 6 หรือเทียบเท่าได้เพียงคนละครั้ง และให้รับสมัครผู้ฟ้องคดีเข้าสอบโอเน็ต ประจำปีการศึกษา 2549 ด้วย เพราะคดีดังกล่าวจะเป็นอำนาจหน้าที่ของศาลปกครองขอนแก่นที่จะพิจารณาและมีคำพิพากษา