โฆษกรัฐบาลนำทัพสื่อมวลชนส่วนกลาง 60 ชีวิตลงพื้นที่พิสูจน์ของจริง 3 จังหวัดชายแดนใต้ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยเข้มทั้งทหาร ฮ.ติดอาวุธปืนกล พร้อมฉายภาพพื้นที่สีขาว "สุคิริน" ไร้เหตุร้าย และพาชมการฝึกอาวุธของ อรบ.-ชรบ.ไทยพุทธ-มุสลิมให้สื่อดู ด้านนายกฯ ลงใต้ตามสมทบคณะสื่อวันนี้
วานนี้ (19 เม.ย.) ร.ท.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้นำคณะสื่อมวลชนจากส่วนกลางจำนวน 59 คนจากสำนักข่าวหนังสือพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์ทั้งในและต่างประเทศ เดินทางลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นวันแรก โดยเมื่อเวลา 10.00 น. คณะได้เดินทางถึงสนามบินบ้านทอน อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ก่อนที่จะเดินทางด้วยรถบัส 2 คัน เข้าพื้นที่ อ.แว้ง และ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส อันเป็นเขตรับผิดชอบของชุดเฉพาะกิจที่ 35 (ฉก.35) ทั้งนี้ คณะต้องผ่านเส้นทางที่เพิ่งเกิดเหตุระเบิดหลายจุดเมื่อเช้าวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา
ระหว่างการเดินทางลงพื้นที่ตลอดทั้งวันมีการรักษาความปลอดภัยคณะสื่อมวลชนอย่างเข้มงวด โดยมีทหารชุดปฏิบัติการพิเศษร้อยลาดตระเวนไกลที่ 51 สังกัดกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 หรือชุดรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ 1 ชุด และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด กองทัพบกอีก 1 ชุด รถตัดสัญญาณโทรศัพท์ 1 คัน พร้อมทั้งเฮลิคอปเตอร์ติดปืนกลอีก 1 เครื่อง ติดตามคณะเดินทางตลอดเส้นทาง ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ทหารจากชุดเฉพาะกิจประจำพื้นที่ทั้ง ฉก.36 และ ฉก.35 ยังนำกำลังพลประจำตามจุดต่างๆ อย่างหนาแน่นด้วย
เวลา 12.00 น.คณะสื่อมวลชนได้เดินทางถึงพระตำหนักสมเด็จย่า อ.สุคิริน อันเป็นฐานที่ตั้งของชุด ฉก.35 พร้อมฟังบรรยายสรุปจาก พ.ท.ร่มเกล้า ธุวธรรม ผบ.ฉก.35 ก่อนเดินทางไปยังบ้านโนนสมบูรณ์ ม.5 ต.ภูเขาทอง อ.สุคิริน เพื่อเยี่ยมชมการแข่งข้นยิงปืนของกองพันราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน (อรบ.) ของชาวไทยพุทธ อ.สุคิริน ต่อจากนั้นจึงเดินทางไปยังโรงเรียนนิคมพัฒนา 5 เพื่อชมศิลปะพื้นบ้านดีเกฮูรูและปัญจศีละและการฝึกของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ร่วมกันระหว่างชาวบ้านพุทธและมุสลิมของ 3 หมู่บ้านใน อ.สุคิริน ก่อนที่จะเดินทางไปบริเวณท่าข้ามแพขนานยนต์ ด่านตรวจคนเข้าเมือง อ.ตากใบและเดินทางกลับเข้าที่พัก ณ โรงแรมอิมพีเรียล อ.เมืองนราธิวาส
พ.ท.ร่มเกล้า ระบุว่า พื้นที่รับผิดชอบของ ฉก.36 ไม่เกิดเหตุร้ายมาเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือนแล้ว เพราะมีพลังมวลชนคอยเฝ้าระวังเหตุต่างๆ โดยยึดหลักติดอาวุธให้ชาวพุทธเพื่อป้องกันตัวเองและดึงชาวมุสลิมที่กลางๆ มาร่วมมือกับรัฐ ถือได้ว่าพื้นที่นี้เป็นความสำเร็จของแนวทางการเมืองนำการทหารได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ข้อมูลที่มีอยู่ทำให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าผู้ปฏิบัติการของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่มีอยู่เพียง 4 คน แต่พยายามก่อเหตุให้ดูเหมือนมีจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปเกาะติดจนไม่สามารถจะก่อเหตุได้
พ.ท.ร่มเกล้า ยืนยันว่า ชาวมุสลิมในพื้นที่เป็นคนน่ารัก แต่มีคนเพียง 5% เท่านั้นที่พยายามจะจะก่อเหตุ สร้างภาพความขัดแย้งในพื้นที่ให้เป็นเรื่องระหว่างพุทธกับมุสลิมและทำให้คนพุทธในพื้นที่และคนไทยทั้งประเทศรู้สึกเกลียดชังชาวมุสลิม ทั้งๆ ที่พวกเขาเป็นคนไทยเหมือนกัน
สำหรับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีนั้นมีกำหนดการเดินทางไปปฏิบัติราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในวันนี้ (20) โดยในเวลา 08.00 น.นายกรัฐมนตรีและคณะ จะเดินออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหารกองบิน 6 ไปยัง จ.นราธิวาส เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นจะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ ไปยังค่ายสิรินธร จ.ยะลา เพื่อรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์และรับประทานอาหารกลางวัน รวมทั้งพบปะกับสื่อมวลชนจากส่วนกลางที่เดินทางล่วงหน้ามาก่อนเมื่อวานนี้ จากนั้นในช่วงบ่าย จะเดินทางไปปฏิบัติภารกิจต่อที่ จ.ปัตตานี แต่ไม่เปิดเผยในรายละเอียด ก่อนที่จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในเวลาประมาณ 18.35 น.
วานนี้ (19 เม.ย.) ร.ท.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้นำคณะสื่อมวลชนจากส่วนกลางจำนวน 59 คนจากสำนักข่าวหนังสือพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์ทั้งในและต่างประเทศ เดินทางลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นวันแรก โดยเมื่อเวลา 10.00 น. คณะได้เดินทางถึงสนามบินบ้านทอน อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ก่อนที่จะเดินทางด้วยรถบัส 2 คัน เข้าพื้นที่ อ.แว้ง และ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส อันเป็นเขตรับผิดชอบของชุดเฉพาะกิจที่ 35 (ฉก.35) ทั้งนี้ คณะต้องผ่านเส้นทางที่เพิ่งเกิดเหตุระเบิดหลายจุดเมื่อเช้าวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา
ระหว่างการเดินทางลงพื้นที่ตลอดทั้งวันมีการรักษาความปลอดภัยคณะสื่อมวลชนอย่างเข้มงวด โดยมีทหารชุดปฏิบัติการพิเศษร้อยลาดตระเวนไกลที่ 51 สังกัดกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 หรือชุดรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ 1 ชุด และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด กองทัพบกอีก 1 ชุด รถตัดสัญญาณโทรศัพท์ 1 คัน พร้อมทั้งเฮลิคอปเตอร์ติดปืนกลอีก 1 เครื่อง ติดตามคณะเดินทางตลอดเส้นทาง ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ทหารจากชุดเฉพาะกิจประจำพื้นที่ทั้ง ฉก.36 และ ฉก.35 ยังนำกำลังพลประจำตามจุดต่างๆ อย่างหนาแน่นด้วย
เวลา 12.00 น.คณะสื่อมวลชนได้เดินทางถึงพระตำหนักสมเด็จย่า อ.สุคิริน อันเป็นฐานที่ตั้งของชุด ฉก.35 พร้อมฟังบรรยายสรุปจาก พ.ท.ร่มเกล้า ธุวธรรม ผบ.ฉก.35 ก่อนเดินทางไปยังบ้านโนนสมบูรณ์ ม.5 ต.ภูเขาทอง อ.สุคิริน เพื่อเยี่ยมชมการแข่งข้นยิงปืนของกองพันราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน (อรบ.) ของชาวไทยพุทธ อ.สุคิริน ต่อจากนั้นจึงเดินทางไปยังโรงเรียนนิคมพัฒนา 5 เพื่อชมศิลปะพื้นบ้านดีเกฮูรูและปัญจศีละและการฝึกของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ร่วมกันระหว่างชาวบ้านพุทธและมุสลิมของ 3 หมู่บ้านใน อ.สุคิริน ก่อนที่จะเดินทางไปบริเวณท่าข้ามแพขนานยนต์ ด่านตรวจคนเข้าเมือง อ.ตากใบและเดินทางกลับเข้าที่พัก ณ โรงแรมอิมพีเรียล อ.เมืองนราธิวาส
พ.ท.ร่มเกล้า ระบุว่า พื้นที่รับผิดชอบของ ฉก.36 ไม่เกิดเหตุร้ายมาเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือนแล้ว เพราะมีพลังมวลชนคอยเฝ้าระวังเหตุต่างๆ โดยยึดหลักติดอาวุธให้ชาวพุทธเพื่อป้องกันตัวเองและดึงชาวมุสลิมที่กลางๆ มาร่วมมือกับรัฐ ถือได้ว่าพื้นที่นี้เป็นความสำเร็จของแนวทางการเมืองนำการทหารได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ข้อมูลที่มีอยู่ทำให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าผู้ปฏิบัติการของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่มีอยู่เพียง 4 คน แต่พยายามก่อเหตุให้ดูเหมือนมีจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปเกาะติดจนไม่สามารถจะก่อเหตุได้
พ.ท.ร่มเกล้า ยืนยันว่า ชาวมุสลิมในพื้นที่เป็นคนน่ารัก แต่มีคนเพียง 5% เท่านั้นที่พยายามจะจะก่อเหตุ สร้างภาพความขัดแย้งในพื้นที่ให้เป็นเรื่องระหว่างพุทธกับมุสลิมและทำให้คนพุทธในพื้นที่และคนไทยทั้งประเทศรู้สึกเกลียดชังชาวมุสลิม ทั้งๆ ที่พวกเขาเป็นคนไทยเหมือนกัน
สำหรับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีนั้นมีกำหนดการเดินทางไปปฏิบัติราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในวันนี้ (20) โดยในเวลา 08.00 น.นายกรัฐมนตรีและคณะ จะเดินออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหารกองบิน 6 ไปยัง จ.นราธิวาส เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นจะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ ไปยังค่ายสิรินธร จ.ยะลา เพื่อรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์และรับประทานอาหารกลางวัน รวมทั้งพบปะกับสื่อมวลชนจากส่วนกลางที่เดินทางล่วงหน้ามาก่อนเมื่อวานนี้ จากนั้นในช่วงบ่าย จะเดินทางไปปฏิบัติภารกิจต่อที่ จ.ปัตตานี แต่ไม่เปิดเผยในรายละเอียด ก่อนที่จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในเวลาประมาณ 18.35 น.