เอเอฟพี - คู่รักในเอเชียให้ความสำคัญกับเซ็กส์น้อยกว่าชาวโลกอื่นๆ โดยใช้เวลาในการร่วมรักน้อยกว่า อีกทั้งบรรลุถึงจุดสุดยอดต่ำกว่า เฉพาะคนไทยด้วยแล้ว เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่เห็นว่าเซ็กส์เป็นเรื่องสำคัญมีสัดส่วนต่ำที่สุดในโลกทีเดียว
ผลการสำรวจผู้คนกว่า 26,000 คนใน 26 ประเทศ ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทถุงยางอนามัย ดูเร็กซ์ และใช้ชื่อว่า เดอะ โกลบอล เซ็กชวล เวลล์บีอิง เซอร์เวย์ พบว่าชาวเอเชียอยู่ในหมู่ผู้พึงพอใจกับชีวิตทางเพศของตัวเองน้อยที่สุด
การสำรวจที่นำออกเผยแพร่วานนี้(17) ระหว่างการประชุมสมัชชาโลกว่าด้วยสุขภาพทางเพศ ที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ระบุว่า ผู้คนส่วนใหญ่ทั่วโลกมีเซ็กส์กัน 106 ครั้งต่อปี และคู่รักชาวญี่ปุ่นมีเพศสัมพันธ์กันน้อยที่สุดแค่ 48 ครั้งต่อปี ขณะที่ชาวกรีกเป็นแชมป์ด้วยจำนวน 164 ครั้ง
นอกจากนั้น คนญี่ปุ่นยังเป็นผู้พึงพอใจกับชีวิตทางเพศของตัวเองน้อยที่สุด นั่นคือมีเพียง 10% ตอบว่าอยู่ในระดับน่าตื่นเต้น ห่างชั้นเหลือเกินจากค่าเฉลี่ยของโลกซึ่งอยู่ที่ 49% สำหรับอันดับหนึ่งในเรื่องนี้ได้แก่ ไนจีเรีย อยู่ที่ 78%
อีกหลายชาติในเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ ฮ่องกง (32%) ,ออสเตรเลีย (40%), สิงคโปร์ (41%), ไทย (42%), และ นิวซีแลนด์ (43%) ล้วนอยู่ในหมู่ 10 ชาติที่มีสัดส่วนผู้ตอบว่าชีวิตเพศรสอยู่ในระดับน่าตื่นเต้น เป็นจำนวนน้อยที่สุด
ในเรื่องระยะเวลาการร่วมเพศ คู่รักอินเดียเป็นพวกเสร็จกิจเร็วสุด คือ 13.2 นาทีต่อครั้ง เปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของโลกซึ่งอยู่ที่ 18.3 นาที โดยอันดับหนึ่งในด้านนี้ยังเป็นของไนจีเรีย อยู่ที่ 24 นาที
สิงคโปร์, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, ไทย, และออสเตรเลีย ชาติเอเชียแปซิฟิกเหล่านี้มีค่าเฉลี่ยต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของโลกเช่นกัน ในเรื่องช่วงเวลาแห่งการทำรัก
อย่างไรก็ตาม บางชาติเอเชีย ได้แก่ จีน เบียดแย่งอันดับเจ็ดของโลกในด้านนี้มาได้ ด้วยค่าเฉลี่ย 20 นาที โดยมีมาเลเซียไล่หลังมาติดๆ ด้วยค่าเฉลี่ย 19.9 นาที
กระนั้นก็ดี มีผู้ตอบคำถามในฮ่องกงและจีนเพียง 24% ตอบว่าบรรลุจุดสุดยอดอยู่เสมอระหว่างมีเซ็กส์ ต่ำที่สุดในการสำรวจคราวนี้ ติดตามด้วยญี่ปุ่นซึ่งอยู่ที่ 27% และสิงคโปร์อยู่ที่ 36%
โดยเฉลี่ยทั่วโลกแล้ว ผู้ที่ตอบว่าเห็นด้วยอย่างแข็งขันว่าเซ็กส์เป็นเรื่องสำคัญสำหรับพวกเขามี 59% ชาติที่มีผู้ตอบแข็งขันระดับนี้น้อยที่สุดคือไทย มีแค่ 38% ถัดมาเป็นญี่ปุ่น (39%), และฮ่องกง (48%)
ผลการสำรวจผู้คนกว่า 26,000 คนใน 26 ประเทศ ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทถุงยางอนามัย ดูเร็กซ์ และใช้ชื่อว่า เดอะ โกลบอล เซ็กชวล เวลล์บีอิง เซอร์เวย์ พบว่าชาวเอเชียอยู่ในหมู่ผู้พึงพอใจกับชีวิตทางเพศของตัวเองน้อยที่สุด
การสำรวจที่นำออกเผยแพร่วานนี้(17) ระหว่างการประชุมสมัชชาโลกว่าด้วยสุขภาพทางเพศ ที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ระบุว่า ผู้คนส่วนใหญ่ทั่วโลกมีเซ็กส์กัน 106 ครั้งต่อปี และคู่รักชาวญี่ปุ่นมีเพศสัมพันธ์กันน้อยที่สุดแค่ 48 ครั้งต่อปี ขณะที่ชาวกรีกเป็นแชมป์ด้วยจำนวน 164 ครั้ง
นอกจากนั้น คนญี่ปุ่นยังเป็นผู้พึงพอใจกับชีวิตทางเพศของตัวเองน้อยที่สุด นั่นคือมีเพียง 10% ตอบว่าอยู่ในระดับน่าตื่นเต้น ห่างชั้นเหลือเกินจากค่าเฉลี่ยของโลกซึ่งอยู่ที่ 49% สำหรับอันดับหนึ่งในเรื่องนี้ได้แก่ ไนจีเรีย อยู่ที่ 78%
อีกหลายชาติในเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ ฮ่องกง (32%) ,ออสเตรเลีย (40%), สิงคโปร์ (41%), ไทย (42%), และ นิวซีแลนด์ (43%) ล้วนอยู่ในหมู่ 10 ชาติที่มีสัดส่วนผู้ตอบว่าชีวิตเพศรสอยู่ในระดับน่าตื่นเต้น เป็นจำนวนน้อยที่สุด
ในเรื่องระยะเวลาการร่วมเพศ คู่รักอินเดียเป็นพวกเสร็จกิจเร็วสุด คือ 13.2 นาทีต่อครั้ง เปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของโลกซึ่งอยู่ที่ 18.3 นาที โดยอันดับหนึ่งในด้านนี้ยังเป็นของไนจีเรีย อยู่ที่ 24 นาที
สิงคโปร์, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, ไทย, และออสเตรเลีย ชาติเอเชียแปซิฟิกเหล่านี้มีค่าเฉลี่ยต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของโลกเช่นกัน ในเรื่องช่วงเวลาแห่งการทำรัก
อย่างไรก็ตาม บางชาติเอเชีย ได้แก่ จีน เบียดแย่งอันดับเจ็ดของโลกในด้านนี้มาได้ ด้วยค่าเฉลี่ย 20 นาที โดยมีมาเลเซียไล่หลังมาติดๆ ด้วยค่าเฉลี่ย 19.9 นาที
กระนั้นก็ดี มีผู้ตอบคำถามในฮ่องกงและจีนเพียง 24% ตอบว่าบรรลุจุดสุดยอดอยู่เสมอระหว่างมีเซ็กส์ ต่ำที่สุดในการสำรวจคราวนี้ ติดตามด้วยญี่ปุ่นซึ่งอยู่ที่ 27% และสิงคโปร์อยู่ที่ 36%
โดยเฉลี่ยทั่วโลกแล้ว ผู้ที่ตอบว่าเห็นด้วยอย่างแข็งขันว่าเซ็กส์เป็นเรื่องสำคัญสำหรับพวกเขามี 59% ชาติที่มีผู้ตอบแข็งขันระดับนี้น้อยที่สุดคือไทย มีแค่ 38% ถัดมาเป็นญี่ปุ่น (39%), และฮ่องกง (48%)