xs
xsm
sm
md
lg

“ทีวีไดเร็ค”แพ้พิษเศรษฐกิจ หั่นเป้า-ตัดสินค้า-งดขยายโชว์รูม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทีวี ไดเร็ค หดเป้าเหลือ 800 ล้านบาท หลังพบบอมบ์ทำให้เศรษฐกิจถดถอยพร้อมรัดเข็มขัดสุดตัว งดขยายโชว์รูม มุ่งทำคาราวานสินค้าสู่ต่างจังหวัดแทน พร้อมสกรีนสินค้าจาก 200 เอสเคยู เหลือเพียง 70 เอสเคยู ในการทำตลาดแต่ละปี

นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด เปิดเผยว่า จากเดิมตามแผนที่วางไว้ว่าในปีนี้ทางบริษัทฯจะต้องมีผลประกอบการกว่า 1,000 ล้านบาทนั้น มองว่าคงจะต้องลดเป้าลงเล็กน้อย เหลือเพียง 800 ล้านบาทเท่านั้น เนื่องจากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา เป็นผลให้เศรษฐกิจถดถอย ทำให้ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่าย นั้นเอง
นอกจากทางบริษัทฯเตรียมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวด้วยการลดเป้ารายได้แล้ว ในส่วนของแผนการขยายโชว์รูมให้ได้ 45 สาขา จากเดิมที่มีอยู่ 30 สาขาทั่วประเทศนั้น ขณะนี้ทางบริษัทฯมองว่า การขยายสาขาในช่วงนี้อาจจะไม่ดีเท่าไร จึงได้นำงบการขยายสาขา 15 สาขาที่เหลือ หรือประมาณสาขาละ 5 ล้านบาทนั้น มาใช้ในส่วนของการทำตลาดในปีนี้แทน
โดยการทำการตลาดในรูปแบบการจัดกองคาราวานนั้น จะพยายามจัดให้ได้จังหวัดละ 1 ครั้ง ในจำนวน 20 จังหวัดที่วางไว้ ภายใต้รถคาราวานกว่า 100 คัน นอกจากนี้ทางบริษัทฯยังจะทำรีเทลมาร์เก็ตติ้งมากขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นตามร้านขายยา ที่มีการจำหน่ายอาหารเสริม รวมไปถึงการจัดอีเว้นท์มาร์เก็ตติ้ง ในรูปแบบของการจัดการแสดงคอนเสิร์ตอีก 2-3 ครั้งในปีนี้ ผ่านศิลปิน คือ โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร นอกจากนี้ทางบริษัทฯจะมุ่งมาใช้เคเบิ้ลทีวี ของต่างจังหวัดในการทำตลาดมากขึ้นด้วย
ส่วนช่องทางสื่อวิทยุนั้น หลังจากที่เคยทำมาแล้วประสบการขาดทุนไปเมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ทางบริษัทฯยังไม่มีแผนกลับมาทำอีก เนื่องจากมองว่า ช่องทางวิทยุทำยาก อีกทั้งการที่จะทำให้ผู้ฟังติดตามได้นั้น ระยะแรกทำยากกว่าโทรทัศน์ ต้องใช้เวลาเป็นปี แต่ถ้าหากมองว่าถึงเวลาที่เหมาะสมที่จะทำนั้น ทางบริษัทฯก็จะรีบทำทันที โดยมีทุนสำรองในการลงทุนทางช่องทางวิทยุไว้อยู่แล้ว โดยคาดว่าเบื้องต้นน่าจะใช้เม็ดเงินประมาณ 200 ล้านบาท
สำหรับกลุ่มลูกค้าในปีนี้นั้น ทางบริษัทฯมองว่าควรจะเน้นในกลุ่มลูกค้าเก่าที่มีอยู่ในมือก่อน โดยจะเริ่มเก็บข้อมูลใหม่ เตรียมให้พร้อมก่อนที่ พรบ.คุ้มครองสิทธิส่วนบุคคล จะมีผลบังคับใช้ โดยคาดว่าน่าจะใช้เวลาเก็บข้อมูลผ่านทางโทรศัพท์ประมาณ 6 เดือนถึงจะแล้วเสร็จ
ขณะเดียวกันทางด้านสินค้า จากเดิมที่เคยมีสินค้าออกมาจำหน่ายกว่า 200 เอสเคยูในปีที่ผ่านมา ในปีนี้ทางบริษัทฯจะลดให้เหลือเพียง 70 เอสเคยูเท่านั้น เพราะจาก 200 เอสเคยู ทำให้บริษัทฯพบว่า ยิ่งมีสินค้ามากความจำเป็นในการทำตลาดก็มากขึ้น ขณะที่เวลาปล่อยสินค้าออกอากาศในแต่ละชิ้นก็มีความถี่ลดลง อาจจะเหลือเพียง 1 ครั้งเท่านั้น ดังนั้นการลดเหลือเพียง 70 เอสเคยู มองว่าพอดีกับระยะเวลาการทำตลาด และการใช้งบทำตลาดแต่ละสินค้าก็จะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย
“สินค้ากว่า 200 เอสเคยู ที่ทำตลาดในปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯเรียนรู้ว่า มีสินค้ามากเกินไปก็ไม่ได้ช่วยให้ยอดรายได้เพิ่มสูงขึ้นเท่าไรนัก ดังนั้นการปรับการทำตลาดให้เหลือเพียง 70 เอสเคยู มีระดับราคาเฉลี่ยที่ 4,000-5,000 บาท แล้วทำตลาดอย่างเต็มที่เป็นสิ่งที่ดีกว่า เพราะเป็นไซส์ที่จะเห็นกำไรได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ทางบริษัทฯก็ยังจะนำสินค้าใหม่เข้ามาอยู่เรื่อยๆ แต่จะต้องให้มีสินค้าที่สร้างรายได้อยู่ที่ 70 เอสเคยูเท่าเดิม นั้นหมายความว่า เมื่อมีสินค้าใหม่เข้ามาก็จะต้องมีสินค้าบางตัวถูกถอดออกไปนั้นเอง”
อย่างไรก็ตามปัจจุบันบริษัทฯมีรายได้หลักๆมาจาก 1.โทรทัศน์ หรือ ทีวีไดเร็ค 54% 2.ไดเร็คเมลล์ 16% 3.ค้าปลีก รีเทล 12% 4.เซอร์วิส มาร์เก็ตติ้ง 6% และ 5.อีเว้นท์ อีกประมาณ 2% โดยในปีนี้ตั้งเป้ารายได้ที่ 800 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น