xs
xsm
sm
md
lg

"สุรยุทธ์"ต้องทบทวนตัวเอง พันธมิตรฯเร่งปฏิรูปฯ - ผนึก คตส.ล้างทุจริต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อดีตแกนนำพันธมิตรฯเรียกร้อง"สุรยุทธ์"ใช้เวลาที่เหลือทบทวนบทบาทตัวเอง พิสูจน์พฤติกรรมน่าสงสัยร่วมมือกับระบอบทักษิณ จี้ทำตามพันธสัญญา 4 ข้อ โดยเฉพาะร่วมมือกับคตส.ปราบปรามทุจริตอย่างจริงจัง ร่วมมือคมช.-สนช.ผลักดันการปฏิรูปการเมือง-ปฏิรูปสื่อ เตือนหากไม่มีทางเลือก และประชาชนเรียกร้อง อาจมีการชุมนุมขับไล่ ด้านโฆษกรัฐบาลระบุข้อเรียกร้องพันธมิตรไม่เป็นการกดดันรัฐบาล ขณะที่"นพดล"อ้างนายกฯไม่มีสัญญาใจกับทักษิณ แต่ยังหนุนสุรยุทธ์ ชี้หากลาออกจะหาคนมาแทนยาก

เมื่อวานนี้ (10 เม.ย.)บรรดาอดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทั้ง 5 คน ประกอบด้วย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายพิภพ ธงไชย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ร่วมหารือถึงสถานการณ์ทางการเมือง และได้ร่วมกันแถลงข่าวหลังใช้เวลาในการหารือนานเกือบ 2 ชั่วโมง โดยเรียกร้องให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ทบทวนบทบาทของตัวเอง เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าไม่ได้มีข้อตกลงลับ หรือรู้เห็นเป็นใจกับกลุ่มอำนาจเก่า หรือระบอบทักษิณ

พร้อมกันนี้ อดีตแกนนำพันธมิตรฯ ยังเรียกร้องให้รัฐบาล และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ร่วมมือกันผลักดันให้มีการปฏิรูปการเมือง ปฏิรูปสื่อ และเร่งแก้ปัญหาของประชาชนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคนจน และเกษตรกร มากกว่าไปสนใจเฉพาะกลุ่มทุนเท่านั้น

ส่วนการชุมนุมนั้นอดีตแกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า ยังไม่เกิดขึ้นในขณะนี้ เนื่องจากยังต้องให้โอกาสนายกรัฐมนตรีได้ทบทวนตัวเอง หรือบทบาทของตัวเองในเวลาที่เหลืออยู่ เพื่อพิสูจน์ข้อสงสัยของประชาชนให้ได้ และลงมือปฏิบัติตามพันธสัญญา 4 ข้อของ คมช.โดยเร็ว

นายพิภพ ธงไชย ได้ย้ำว่าขอเรียกร้องให้ พล.อ.สุรยุทธ์ ทบทวนตัวเอง แม้ว่าจะเชื่อว่ามีความสุจริต แต่จากพฤติกรรมที่ผ่านมา ทำให้มีข้อสงสัยว่ากำลังเอื้อประโยชน์ให้กับอำนาจเก่า ดังนั้น จึงต้องพิสูจน์ตัวเอง และทำตามคำพูดที่ประเทศญิ่ปุ่น โดยเฉพาะการปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจัง และหวังว่าในเวลาที่เหลือนายกฯ จะแก้ไขปัญหาอย่างตรงไปตรงมา

นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวว่า สิ่งที่นายกฯน่าจะพิสูจน์ตัวเองได้เลยคือ การออกเป็นมติ ครม. สั่งการให้รัฐมนตรีและข้าราชการร่วมมือกับคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)รวมทั้งเสนอให้มีการต่ออายุ คตส.เพื่อปราบปรามทุจริตออกไปอีกอย่างน้อย 1-2 ปี

ขณะที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ย้ำว่า เวลานี้ยังไม่ถึงขั้นต้องมีการชุมนุมขับไล่รัฐบาล เพียงแต่มีความขัดเคือง และต้องการสะท้อนความเห็นของประชาชนให้ทราบ รวมทั้งแสดงท่าทีว่า อดีตแกนนำพันธมิตรฯคิดอย่างไร อย่างไรก็ตาม ทางอดีตแกนนำพันธมิตรฯ จะมีการพบปะหารือกันบ่อยมากขึ้น

พล.ต.จำลอง ยังให้ความเห็นส่วนตัวว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แม้เชื่อว่าจะดีกว่าฉบับเดิมเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีหลักประกันในเรื่องการเมืองว่าจะไม่ล้มลุกคลุกคลาน ตราบใดที่ยังไม่มีการปฏิรูปสื่อ โดยเฉพาะสื่อวิทยุ โทรทัศน์ รวมทั้งการปฏิรูปการเมือง

"ข้อแนะนำก็คือ ขอให้ประชาชนต้องพึ่งพาตัวเอง และรวมตัวให้เหนียวแน่น เพื่อเรียกร้องให้เกิดการปฏิรูปการเมือง สื่อ และประชาธิปไตยที่ และผมยืนยันว่า การชุมนุมไม่ใช่เป็นของน่ารื่นรมย์ แต่จะเกิดขึ้นเมื่อจำเป็นจริงๆเท่านั้น" พล.ต.จำลอง กล่าว

นายสมศักดิ์ โกศัยสุข กล่าวว่า การชุมนุมต้องฟังเสียงพี่น้องประชาชน และต้องไม่เผชิญหน้า รวมทั้งมีวัตถุประสงค์เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยจริงๆ แต่วันนี้เป็นเพียงข้อเสนอให้ นายกรัฐมนตรี ทบทวนบทบาทของตัวเอง แต่อย่างไรก็ตาม ถ้านายกฯลาออก ถือว่ามีความงดงาม และสง่างาม มีเกียรติภูมิ

นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ กล่าวว่า ถ้าพล.อ.สุรยุทธ์ ไม่ทบทวนบทบาทตัวเอง การปฏิรูปการเมืองก็จะมืดมน แต่ขณะเดียวกัน ถ้านายกฯต้องการอยู่ในตำแหน่งต่อไป ต้องมีการให้สัญญาในเรื่องการปฏิรูปการเมือง การปราบปรามการคอร์รัปชันให้ชัดเจน เพราะที่ผ่านมาท่านเปลี่ยนไปมาก

นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวถึงการชุมนุมว่า จะเกิดขึ้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนจะสะท้อนกลับมา ซึ่งขณะนี้มีเพียงบางส่วน แต่ส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าพล.อ.สุรยุทธ์ เป็นคนบริสุทธิ์ เป็นคนดี แต่ที่ผ่านมาเริ่มสงสัยในพฤติกรรม โดยเฉพาะเรื่องที่ไม่ให้ความร่วมมือกับ คตส. หรือมีพฤติกรรมเหมือนมีเจตนาไม่ต้องการให้คตส.ทำงานปราบปรามทุจริตได้สำเร็จ หรือแม้กระทั่งการกำหนดวันเลือกตั้ง ซึ่งดูเหมือนต้องการมอบอำนาจให้นักเลือกตั้ง หรือกลุ่มอำนาจเก่ากลับมาอีก

"การชุมนุมยังไม่ได้คิด แต่ยังเกาะกลุ่มให้เหนียวแน่น และฟังเสียงพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ"นายสนธิ ระบุ

โอกาสนี้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ได้กล่าวตำหนิกลุ่มที่กำลังเคลื่อนไหวจาบจ้วง และยื่นถวายฎีกาถอดถอน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ว่า เป็นการกระทำที่ไม่เคารพผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ซึ่งเปรียบเสมือนบ้านที่มีผู้ใหญ่แต่ถูกจาบจ้วงด่าทอโดยไม่มีเหตุผล ทำตามอำเภอใจ ต่อไปถ้ายังเป็นแบบนี้ บ้านเมืองก็จะยุ่งวุ่นวาย พร้อมทั้งขอให้กลุ่มที่กำลังเคลื่อนไหว หยุดการกระทำนั้นเสีย

นายสนธิ กล่าวเสริมว่า การกระทำดังกล่าวถือว่ากระทำผิดกฎหมายอาญา มาตรา 108 เป็นการละเมิดเสรีภาพของพระมหากษัตริย์ จะต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต และประหารชีวิต ขณะเดียวกัน การแต่งตั้งองคมนตรี และประธานองคมนตรี เป็นพระราชอำนาจ เป็นไปตามพระราชอัธยาศัย ตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ดังนั้นการยื่นถวายฎีกาถอดถอนประธานองคมนตรี ถือว่าละเมิดพระราชอำนาจ ดังนั้น นายกรัฐมนตรีต้องออกมาจัดการกับคนกลุ่มนี้

**อ้างรัฐบาลทำเต็มที่แล้ว

ด้านร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่อดีตแกนนำพันธมิตรฯ เสนอให้นายกรัฐมนตรี ทบทวนบทบาทของตัวเองว่า หากความคิดเห็นเหล่านั้นเป็นเรื่องที่สร้างสรรค์ เราก็ยินดีรับฟัง และจะนำไปปรับปรุงแก้ไขพิจารณา ถือว่าความคิดเห็นที่แตกต่าง เป็นเรื่องปกติของสังคมไทย เราก็รับไว้พิจารณา

"ยืนยันว่ารัฐบาลได้พยายามทุ่มเทดำเนินภารกิจอย่างเต็มที่แล้ว แต่บางเรื่องบางอย่างก็มีความล่าช้าไปบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาสักเล็กน้อย เช่น ปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือการสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง เป็นต้น ถือเป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะสื่อมวลชนจะต้องร่วมมือกันที่จะสร้างความสามัคคีขึ้นมาได้ เพราะสื่อมวลชนถือเป็นผู้ที่ถือทองอยู่ในมือ และเป็นผู้ถือช่องทางในการเข้าถึงประชาชน อีกทั้งเป็นผู้ถ่ายทอดข้อมูลให้ถึงประชาชน

ส่วนกรณีที่อดีตแกนนำพันธมิตรฯ กล่าวหาว่า มีรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ติดต่อกับกลุ่มอำนาจเก่าอยู่ตลอดเวลา นั้น หากมีข้อมูลก็ควรส่งมาให้เราได้รับทราบ หากเป็นความจริงก็ควรให้ผู้นำรัฐบาลได้รับทราบ ซึ่งไม่กังวลว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ นี้จะทำให้บานปลาย เพราะตนมองปัญหาในแง่ดีว่า การที่ทุกฝ่ายได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ โดยไม่ใช่ความรุนแรง ถือเป็นเรื่องดี ไม่ได้ใช้ความรุนแรง ไม่ได้ตะโกนด่ากัน ก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาของสังคม และความคิดเห็นของพันธมิตรฯ ก็ไม่ได้สร้างความกดดันให้รัฐบาลแต่อย่างใด

**ปฏิเสธนายกฯมีสัญญากับกับทักษิณ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการแถลงข่าวของอดีตแกนนำพันธมิตรฯ นายนิสิต สินธุไพร คณะทำงานติดตามตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดิน พรรคไทยรักไทย ก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า สถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้มาถึงทางตันแล้ว เพราะ คมช. กลุ่มพันธมิตรฯ สนช.และ ส.ส.ร.บางส่วน ต่างเห็นว่าไม่สามารถควบคุม และสั่งการรัฐบาลชุดนี้ได้ จึงร่วมมือกันบีบบังคับนายกรัฐมนตรีให้ลาออก เพื่อตั้งรัฐบาลชุดใหม่ขึ้นมา แต่เนื่องจากคมช.ดำเนินการเองไม่ได้ เพราะเกรงใจผู้ใหญ่ของบ้านเมือง จึงให้พันธมิตรฯ เป็นผู้กดดันแทน โดยชัดเจนว่ามีเป้าหมายให้พล.อ.สุรยุทธ์ ถอดใจลาออกให้ได้ มิเช่นนั้น คมช.จะต้องปฏิวัติซ้ำเพื่อล้างไพ่ใหม่ สถานการณ์ของพล.อ.สุรยุทธ์ ตอนนี้ถือว่าแย่มาก เพราะไม่มีคมช.คอยค้ำบัลลังก์ให้อีกแล้ว ความขัดแย้งเกิดขึ้นมากมาย วันนี้รัฐบาลแทบเสนอกฎหมายอะไรไม่ได้เลย หลายฉบับยังค้างอยู่ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการบริหารประเทศ กรณีที่นายกรัฐมนตรีป่วยนั้น ฟันธงได้เลยว่า ป่วยการเมือง ระหว่างพักรักษาตัวคงต่อรองอะไรบางอย่างกับ คมช.และกลุ่มพันธมิตรฯอย่างแน่นอน

"เมื่อทุกอย่างมาถึงทางตัน ปัญหาทุจริตหลายเรื่องไม่สามารถชี้แจงได้ ประชาชนเริ่มต่อต้านเผด็จการ การปฏิวัติ จึงเป็นทางออกของ คมช. ซึ่งวิธีนี้ยังสามารถจัดการคลื่นใต้น้ำได้เด็ดขาดด้วย กรณีที่แกนนำ คมช.ปฏิเสธว่าไม่มีการปฏิวัติซ้ำนั้น ผมไม่เชื่อ เพราะก่อนเกิดเหตุ 19 กันยา 49 พล.อ.สนธิ เคยปฏิเสธแล้วว่าไม่ทำ แต่สุดท้ายก็ทำ วันนี้จึงไม่มีใครเชื่อคำพูดคมช.อีกแล้ว" นายนิสิต กล่าว

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวที่ระบุว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี จะตัดสินใจลาออกว่า คิดว่าไม่น่าจะถอดใจ เพราะเชื่อว่าพล.อ.สุรยุทธ์ เป็นสุภาพบุรุษนักรบที่ไม่น่าจะยอมแพ้อะไรง่ายๆ ครั้งหนึ่งก็เคยประกาศว่าจะไม่ลาออก ก็เชื่อคำพูดท่านตลอดมา แม้ว่าขณะนี้จะมีคนบางกลุ่มอยากให้นายกฯ ลาออก โดยพยายามลดความน่าเชื่อถือของพล.อ.สุรยุทธ์ รวมทั้งมีการพยายามโยงว่า พล.อ.สุรยุทธ์ มีสัญญาบางอย่างกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งที่พ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันหลายครั้งแล้วว่าจะอยู่ต่างประเทศ ไม่เคลื่อนไหวการเมือง หรือทำอะไรที่จะกระทบต่อการสร้างความสมานฉันท์ภายในประเทศ และก็ได้ยืนยันกับพล.อ.สุรยุทธ์ ไปแล้วด้วย

ส่วนตัวคิดว่าถ้าในอนาคตพล.อ.สุรยุทธ์ ลาออกจริงก็จะกระทบต่อบ้านเมืองแน่นอน เพราะจะหาคนมาแทนได้ยาก คงไม่มีใครอยากมาเป็นนายกฯหลังรัฐประหาร ทั้งยังมีเวลาในการแก้ปัญหาประเทศน้อย ซึ่งไม่ต่างจากการพายเรือทวนน้ำ เข็นครกขึ้นภูเขา
กำลังโหลดความคิดเห็น