ศิษย์เก่ามหาวชิราวุธสงขลา และพลังมวลชน ประกาศปกป้องเกียรติภูมิ เกียรติยศ เกียรติศักดิ์ ของ"ป๋าเปรม"ด้วยชีวิต ขณะที่คนโคราช ออกแถลงการณ์ พร้อมล่ารายชื่อให้กำลังใป๋า "อภิสิทธิ์"เตือนม็อบให้มีจิตสำนึกว่าสิ่งใดควร ไม่ควร ขณะที่รมว.กลาโหม ระบุมีข้อมูลกลุ่มป่วนเมืองจ้างม็อบเข้ากรุง ผบช.น.มั่นใจรับมือม็อบต่อต้านรัฐบาลและคมช.ได้ ด้าน ผบ.สส.ยันไม่มีปฏิวัติซ้ำ ถามกลับทำแล้วได้อะไร
เมื่อเวลา 08.30 น.วานนี้ (6เม.ย.)ที่ลานพระราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โรงเรียนมหาวชิราวุธสงขลา คณะศิษย์เก่าโรงเรียนมหาวชิราวุธสงขลา ผู้ปกครองนักเรียนฯ อาจารย์ นักเรียนและพลังมวลชนกว่า 1,000 คน ได้รวมตัวกันเพื่อแสดงพลังมวลชนคนรักพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ โดยมีนายอุทิศ ชูช่วย นายกเทศมนตรีเทศบาลนครสงขลา ในฐานะศิษย์เก่าโรงเรียนมหาวชิราวุธสงขลาเป็นแกนนำในการรวมพลังมวลชนในครั้งนี้
นายอุทิศ กล่าวว่า การรวมตัวกันครั้งนี้เพื่อแสดงจุดยืนและเจตนารมณ์ ในการยกย่องเชิดชูเกียรติ พล.อ.เปรม ในฐานะนักเรียนมหาวชิราวุธ ซึ่งเป็นผลผลิตอันสำคัญยิ่งของสถาบัน และเป็นผู้มีคุณค่ายิ่งต่อสังคม เกื้อกูลและบำเพ็ญประโยชน์แก่ชาติบ้านเมืองนานัปการ เป็นคนดีศรีมหาวชิราวุธ เป็นตัวอย่าง แบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ปัจจุบันและอนุชนรุ่นหลังที่จะดำเนินรอยตาม"ป๋าเปรม"
"เพราะฉะนั้น เพื่อพิทักษ์ คนดีศรีมหาวชิราวุธและเอกบุรุษชาวมหาฯ และความเป็นศรีสง่าของสถาบัน พวกเราชาวมหาวชิราวุธ และชาวสงขลา ขอปกป้องเกียรติภูมิ เกียรติยศ เกียรติศักดิ์ ด้วยชีวิต"นายอุทิศ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีพิธีถวายราชสักการะพระราชนุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เพื่อขอให้อำนวยพรให้กับพล.อ.เปรม มีความสุข เพิ่มพูนความศรัทธา บารมี ความภาคภูมิใจให้กับชาวมหาวชิราวุธและประชาชนชาวสงขลา รวมทั้งขอบารมีแห่งคุณความดีที่เกิดมาเพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายต่างๆออกไปด้วย
ขณะเดียวกันพลังมวลชนทั้งหมดได้เคลื่อนขบวนออกจากโรงเรียนมหาวชิราวุธสงขลา ไปตามถนนสายต่างๆ โดยถือแผ่นป้ายผ้าให้กำลัง พล.อ.เปรม มีข้อความว่า"หยุดพาดพิง...ป๋า" "ชาวสงขลารักและภูมิใจในตัวป๋า" "การเมืองอย่ายุ่งกับป๋า" "เกิดมาต้องทดแทนบุญคุณแผ่นดิน" "ป๋าเปรม ร่ำรวยคุณงามความดี""ป๋าเปรม รักชาติ รักแผ่นดิน" เป็นต้น เพื่อเป็นการแสดงพลังให้คนทั้งประเทศรู้ว่า ชาวมหาวชิราวุธ และประชาชนชาวสงขลา จะปกป้องคนดีศรีมหาวชิราวุธและเอกบุรุษของชาวสงขลา
**คนโคราชล่าชื่อให้กำลังใจป๋า
วันเดียวกันนี้ ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม)ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครราชสีมา กลุ่มคนโคราชรักป๋าเปรม นำโดยนายไพบูลย์ พฤกษ์พนาเวศ เจ้าของโรงแรมราชพฤกษ์ แกรนด์โฮเทล และสมาชิกสภาเทศบาลนครนครราชสีมา,นายกฤตย์ ขวัญโภคา ประธานชมรมคนสงขลา(โคราช)และกลุ่มภาคีมวลชนคนโคราชรักประชาธิปไตย กว่า 50 คน ได้ร่วมชุมนุมพร้อมชูป้ายให้กำลังใจ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ โดยเรียกร้องให้กลุ่มผู้ไม่หวังดี ยุติการกระทำในการจาบจ้วง ล่ารายชื่อถอดถอนประธานองคมนตรี และให้ยุติการชุมนุมสร้างความวุ่นวายให้กับประเทศชาติโดยเร็ว
พร้อมกันนี้กลุ่มคนโคราชรักป๋าเปรม ได้ตั้งโต๊ะรับลงรายชื่อเพื่อให้กำลังใจ พล.อ.เปรม ที่บริเวณด้านหน้าลานอนุสาวรีย์ย่าโมด้วย ซึ่งได้มีบรรดาข้าราชการ นักธุรกิจ พ่อค้า นักเรียน นักศึกษา เยาวชน และประชาชนทั่วไป เดินทางมาร่วมลงนามให้กำลังใจ พล.อ.เปรม อย่างต่อเนื่อง
จากนั้นกลุ่มคนโคราชรักป๋าเปรม ได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ ต่อหน้าอนุสาวรีย์ย่าโม มีสาระสำคัญระบุว่า คนโคราช และคนทั่วทุกภูมิภาคที่อาศัยอยู่ใน จ.นครราชสีมา มีความรัก ห่วงใย และปรารถนาดีต่อ พล.อ.เปรม รู้สึกเจ็บปวด ไม่สบายใจและ อึดอัดใจทุกครั้งที่ได้รับข่าวสารในทางที่ไม่ดีนำเสนอทางสื่อ ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าไม่ใช่เรื่องจริง ตลอดชีวิตของป๋าเปรม ได้อุทิศให้กับประเทศชาติ และรับใช้องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน
เมื่อครั้ง พล.อ.เปรม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้แก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ นำพาประเทศไทยได้รอดพ้นจากการล่มสลายทางเศรษฐกิจ และพล.อ.เปรม ได้แก้ปัญหาวิกฤติความมั่นคงของชาติจนเป็นปึกแผ่นทำให้บ้านเมืองสงบสุขมาเป็นเวลานาน และมีอีกนานัปการที่ พล.อ.เปรม ได้ช่วยเหลือประเทศชาติเอาไว้ แต่ผลงานความดีเหล่านี้ทำไมยังมีกลุ่มคนบางกลุ่มหลงลืม ไม่สำนึก ทั้งที่หากไม่มี พล.อ.เปรมในวันนั้น เมืองไทยเราคงไม่มีวันนี้ให้อยู่กันอย่างสงบสุขได้
ฉะนั้น จึงขอเรียกร้องให้กลุ่มคนที่กระทำการไม่บังควรดังกล่าว หยุดการกระทำที่ให้ร้าย จาบจ้วงต่อรัฐบุรุษผู้มีบุญคุณต่อแผ่นดิน หันมาร่วมกันสร้างระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ให้บ้านเมืองสงบสุขร่วมเย็นกันดีกว่า อย่าได้ซ้ำเติมทำร้ายประเทศไทยให้บอบช้ำไปมากกว่านี้เลย
นายไพบูลย์ พฤกษ์พนาเวศ แกนนำกลุ่มคนโคราชรักป๋าเปรม เปิดเผยว่า เนื่องจากมีคนกลุ่มหนึ่งได้กระทำการลบหลู่ดูหมิ่น ให้ร้าย และจาบจ้วง พล.อ.เปรม ซึ่งถือเป็นปูชนียบุคคลที่ทำความดีสร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติอย่างมหาศาล เป็นที่รักและเคารพของประชาชน พวกเราชาวโคราชมองว่า การกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม จึงอยากเรียกร้องให้กลุ่มคนดังกล่าวหยุดการกระทำ รวมถึงกลุ่มที่มีการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลที่กรุงเทพฯ ควรหยุดสร้างความวุ่นวายให้ประเทศชาติบ้านเมือง เพื่อให้กลไกที่รัฐบาลดำเนินการอยู่เดินหน้าต่อไป โดยเฉพาะการร่างรัฐธรรมนูญ หากเสร็จสิ้นแล้วจะได้มีการเลือกตั้ง และจัดตั้งรัฐบาลต่อไป
"กลุ่มผู้ชุมนุมสร้างความวุ่นวายที่กรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้นั้น เชื่อว่า มีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างแน่นอน ส่วนใครจะอยู่เบื้องหลังนั้นก็เป็นที่รู้ ๆ กันอยู่ แต่อยากเรียกร้องให้ยุติการสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายต่างๆ ได้แล้ว เพื่อที่จะให้บ้านเมืองสงบสุข รัฐบาลสามารถทำงานบริหารประเทศชาติได้อย่างเต็มที่เพื่อเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมและเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงโดยเร็ว" นายไพบูลย์ กล่าว
ด้านนายกฤตย์ ขวัญโภคา ประธานชมรมคนสงขลา (โคราช)กล่าวว่า ขณะนี้พี่น้องชาวใต้ที่อาศัยอยู่ที่จ.นครราชสีมาได้หารือกันถึงกรณีที่เกิดขึ้นและรู้สึกไม่สบายใจ จึงอยากแสดงพลังให้กลุ่มผู้ไม่หวังดีว่า การกระทำนั้นไม่เหมาะสมอย่างยิ่งและหมิ่นเหม่ต่อสถาบันเบื้องสูง เพราะ พล.อ.เปรม ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งโดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ฉะนั้นการก้าวร้าวจาบจ้วง ต่อ พล.อ.เปรม ก็เสมือนเป็นการกระทำต่อสถาบันเบื้องสูงด้วย
"หากกลุ่มบุคคลดังกล่าวยังไม่หยุดการกระทำอีก พวกเราชาวใต้ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดต่างๆ ของภาคอีสานจะรวมตัวกันกับประชาชนทั่วประเทศเพื่อแสดงพลังต่อต้านคัดค้านจนถึงที่สุด ซึ่งขณะนี้ได้ประสานกับกลุ่มคนใต้ในจังหวัดต่างๆ ของภาคอีสานแล้ว" นายกฤตย์ กล่าว
**เตือนม็อบกล่าวหา"ป๋า"ให้มีจิตสำนึก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่เริ่มมีผู้ชุมนุมกลุ่มต่างๆ ออกมาเคลื่อนไหวขับไล่และโจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ กับพล.อ.สนธิ บุญรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะบานปลายว่า เนื้อหาสาระของการชุมนุมต้องถูกกำกับโดยกฎหมาย ซึ่งตนอยากให้คนที่ไปร่วมชุมนุม หรือขึ้นปราศรัยใช้จิตสำนึกว่า อะไรควร อะไรไม่ควร เพราะตำแหน่งประธานองคมนตรีนั้น ไม่ใช่สิ่งที่จะมาดำเนินการกันทางการเมือง จึงอยากให้ทุกฝ่ายอยู่ในกรอบ
ส่วนการต่อต้าน คมช.และรัฐบาลนั้นทุกคนมีสิทธิเสรีภาพที่จะแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ อะไรถูกไม่ถูกมีความไม่ชอบมาพากลอย่างไรก็เสนอข้อมูลได้ แต่ต้องรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองพูดด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทันทีที่คมช.อนุญาตให้พรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรมได้ สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์จะทำตอนนั้นมีอะไร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องที่อยากทำมากที่สุดตอนนี้คือ มาเปิดเวทีประชาธิปไตยบนพื้นฐานของปัญหาบ้านเมืองที่จะต้องมาแก้ไขในปีหน้า ซึ่งตนเรียกร้องมาตลอดว่า ขอให้ กกต.ทำเรื่องไปถึง ครม.และ ครม.ควรจะมีมติในเรื่องนี้ แต่ถ้าถามว่าขออนุญาต คมช.ตนยังมองไม่เห็นว่า คมช.จะมีอำนาจในทางกฎหมายทำอะไรได้ ส่วนถามว่าเราอยากทำอะไร ตรงนั้นเตรียมไว้หมดแล้ว คือ เรามุ่งไปที่ปัญหาของบ้านเมือง เพราะเรื่องเหล่านี้ถึงเวลาที่จะต้องมาพูดคุยทำความเข้าใจกัน ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ต้องแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับประชาชนถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหา
"คำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.)เป็นกฎหมาย ดังนั้น คมช.จะใช้อำนาจอะไรมาอนุญาต เพราะในกฎหมายนั้นระบุว่าห้ามพรรคการเมืองประชุม หรือดำเนินกิจกรรมใดๆ ทางการเมืองจนกว่าคณะรัฐมนตรีจะมีมติเป็นอย่างอื่น คำว่าเป็นอย่างอื่นนั้น อาจจะเป็นการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลง "หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
**กลาโหมยันมีการจ้างม็อบเข้ากรุง
พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มต่างๆ ยังคงยืนยันจะนัดชุมนุมที่สนามหลวง ว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)ได้ประสานกับกรุงเทพมหานคร (กทม.)แล้วว่า หากผู้ชุมนุมดำเนินการอยู่ในกรอบของกฎหมาย ก็ต้องจัดสถานที่ให้คนเหล่านั้นได้ชุมนุมกัน อย่างไรก็ตาม ไม่ทราบว่าในช่วงเวลาดังกล่าว จะมีการใช้สถานที่จัดงานอะไรหรือไม่
"ที่ลานคนเมืองก็ทราบว่า กลุ่มพีทีวีไม่ชอบ เนื่องจากคับแคบ เราไม่ได้ห้ามไม่ให้เขาชุมนุมเลย แล้วก็ยังมีอีกหลายกลุ่มที่จะออกมาชุมนุม ทุกกลุ่มก็ต้องการใช้พื้นที่สนามหลวง ยังไม่ทราบว่าเขาจะให้ใครใช้" รมว.กลาโหม กล่าว
เมื่อถามว่า จะมีการสกัดม็อบที่จะเดินทางมาจากต่างจังหวัดหรือไม่ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ดูแลอยู่แล้ว ถ้าเป็นม็อบในลักษณะที่รับเงินเข้ามาในกทม.ก็ต้องจัดการ เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่ามีข้อมูลเรื่องการว่าจ้างคนให้เข้ามาชุมนุมใน กทม. พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า มี ส่วนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาต่างๆจริง รัฐบาลก็พยายามเข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่อยู่แล้ว แต่อาจจะยังไม่เป็นผลในทันที เพราะการอนุมัติเงินต่างๆ ต้องให้ถูกต้องตามกฎหมาย
**ผบช.น.ประชุมรับมือม็อบ
พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ประชุมร่วมกับกองทัพภาคที่ 1 และกรุงเทพมหานคร รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือวางแผนในการรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาล และคมช.ที่บริเวณท้องสนามหลวง โดยเปิดเผยว่า การใช้วิธีการเดินเท้าเข้าไปชุมนุมในท้องสนามหลวงของกลุ่มผู้ชุมนุม"คนวันเสาร์ ไม่เอาเผด็จการ" เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ ซึ่งการชุมนุมผ่านไปได้ด้วยดี ไม่มีการปะทะกับเจ้าหน้าที่เกิดขึ้น โดยผู้ชุมนุมไม่ได้มีการตั้งเวทีปราศรัยแบบถาวร และไม่ได้ใช้เครื่องขยายเสียงรบกวนประชาชนกลุ่มอื่น
ส่วนการนัดชุมนุมของกลุ่มพีทีวี ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 8 เม.ย.นี้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่ากรุงเทพมหานคร มีท่าทีที่จะให้เข้าใช้พื้นที่ได้ โดยทางตำรวจได้จัดเตรียมกำลังไว้ดูแลการชุมนุมแล้ว อย่างไรก็ตาม ต้องขอความร่วมมือกลุ่มผู้ชุมนุมให้ใช้สถานที่อย่างรอบคอบ เพราะต้องแบ่งพื้นที่ให้กับประชาชนกลุ่มอื่นที่จะเข้ามาใช้พื้นที่จัดกิจกรรมต่างๆด้วย
**บุญสร้างโต้ทรท.ไม่มีปฎิวัติรอบ 2
พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.ทหารสูงสุด กล่าวถึงกรณีที่พรรคไทยรักไทย ระบุว่า อาจจะมีการปฏิวัติรอบ 2 เนื่องจากสถานการณ์การเมืองมีการเคลื่อนไหวผิดปกติ นำไปสูความวุ่นวายเหมือนก่อนวันที่ 19 ก.ย.49 ว่า เรื่องของการปฏิวัติซ้อน ก็เห็นพูดกันมาเรื่อย แต่ไม่มีท่าทีที่จะเป็นอย่างนั้น แต่หากจะเอาเรื่องของกลุ่มม็อบสองกลุ่มมาเจอกัน และบอกว่าจะเกิดการปะทะกันนั้นก็เป็นธรรมดา เพราะคนสองกลุ่มไม่ชอบกัน มาเจอกันก็ต้องปะทะกัน
"หากมีการปฏิวัติรอบ 2 ถามว่าทำแล้วได้อะไร จะใช้รัฐธรรมนูญฉบับใด หากฉีกรัฐธรรมนูญไหนทิ้งในเมื่อของเก่าก็ไม่มี และของใหม่ก็ยังไม่เสร็จ จะต้องตั้งรัฐบาลใหม่กันไปเรื่อยๆ ใช่หรือไม่ คนเราบางครั้งไม่มีข้อมูลก็พูดกันไปเรื่อย เป็นการตั้งทฤษฎีใหม่ขึ้นมา เป็นทฤษฎีที่น่ากลัว เป็นทฤษฎีในอากาศ ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่ข้อมูลข่าวสารมีหรือไม่ เป็นข่าวลือไม่มีเหตุผล คนเชื่อก็วุ่นวายไปหมด"ผบ.สส.กล่าว
เมื่อถามว่าที่ผ่านมาทาง คมช.บอกให้กลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวให้รอรัฐธรรมนูญเสร็จก่อน แต่ดูเหมือนว่ากลุ่มที่เคลื่อนไหวจะไม่เข้าใจ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ไม่ใช่การพยายามไม่เข้าใจ เขาเข้าใจ แต่ไม่ต้องการ ถ้าทุกคนนึกถึงบ้านเมืองก็หมดห่วง ที่เกิดปัญหาเพราะเขาไม่ได้นึกถึงบ้านเมือง นึกถึงตัวเขาเอง ที่เกิดเรื่องยุ่งๆ ทุกวันเพราะเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรที่มีการนำเรื่องส่วนตัวมาโจมตีคนใน คมช.เพื่อต้องการดิสเครดิต พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า การที่สื่อนำเอาเรื่องส่วนตัวมาเขียนนั้น ถือเป็นอาหารอันโอชะของผู้บริโภคข่าวสารที่ชอบอ่านเรื่องส่วนตัวของคนอื่นอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม การจะบอกว่าเรื่องส่วนตัวแล้วไม่เกี่ยวกับการบริหารประเทศก็ไม่ใช่ บางคนโกงอยู่ในสันดานประวัติเคยโกงมาเป็นแสนล้าน แล้วบอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยว มันไม่ได้ ทั้งนี้เราต้องดูประวัติของคนๆ นั้นด้วยว่า ที่ผ่านมาเป็นอย่างไร
"บางครั้งต้องดูด้วยว่า เรื่องส่วนตัวที่นำมาโจมตีเป็นเรื่องเลวร้ายหรือไม่ หรือเกี่ยวข้องกับการปกครอง การบริหารประเทศหรือไม่ คนที่เป็นผู้ใหญ่ต้องมีความซื่อสัตย์ ถ้าตัวเองไม่มีความซื่อสัตย์จะปกครองได้อย่างไร ผลประโยชน์มากมายมหาศาลมาล่อตาล่อใจเยอะ ก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรง การปกครองบ้านเมืองต้องมีคุณธรรม การที่คนนำเรื่องส่วนตัวมาขุดคุ้ยเพื่อหวังให้คนเสื่อมศรัทธา เมื่อเสื่อมศรัทธาก็ปกครองไม่ได้ สิ่งสำคัญต้องดูว่าที่เขาพูดเรื่องจริงหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องไม่จริงแล้วมาพูดสร้างความเสียหายให้กับคนอื่น ซึ่งกฎหมายบ้านเราก็ยังไม่ดีพอ มากสุดก็ฟ้องหมิ่นประมาท ซึ่งใครก็ไม่อยากจะฟ้อง"พล.อ.บุญสร้าง กล่าว
**ทรท.ชี้เหตุ 3 ข้อ ก่อปฏิวัติซ้ำ
ด้านนายสุทิน คลังแสง รักษาการโฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า คณะติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองพรรคไทยรักไทย ได้ประชุมหารือมีข้อสรุปที่เชื่อได้ว่าจะมีการทำรัฐประหารในอนาคตอันใกล้ โดยมีปัจจัยบ่งชี้ 3 ประการ คือ 1. เกิดความแตกแยกและขัดแย้งระหว่าง คมช. รัฐบาล และสนช. ซึ่งนับวันจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ 2.มีกลุ่มบุคคลโดยเฉพาะกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เคลื่อนไหวสอดรับกับ คมช.,สนช.,ส.ส.ร.และสื่อบางฉบับในลักษณะสร้างเงื่อนไข และยุยงให้เป็นข้ออ้างในการทำรัฐประหาร คล้ายคลึงกับเหตุการณ์ก่อนการทำรัฐประหาร 19 ก.ย.49 และ 3. กลุ่มบุคคลดังกล่าวมีเป้าหมายชัดเจนที่จะล้มล้างรัฐบาล และเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี พรรคไทยรักไทย เห็นว่าหากความพยายามของกลุ่มบุคคลดังกล่าวบรรลุเป้าหมาย สามารถทำการรัฐประหารได้อีกครั้ง จะทำให้ประเทศชาติเสียหายเพิ่มขึ้นทวีคูณ และดำดิ่งสู่วิกฤติไม่จบสิ้น
**ล่ารายชื่อทั่วประเทศฟ้องคนปฏิวัติ
นายสุทิน กล่าวว่า พรรคไทยรักไทยขอแสดงจุดยืนว่า 1. พรรคไทยรักไทยไม่เห็นด้วยและจะไม่ให้ความร่วมมือกับการกระทำรัฐประหาร ไม่ว่าจะกระทำโดยกลุ่มบุคคลใด และเมื่อใด 2. พรรคไทยรักไทย จะต่อต้านการกระทำดังกล่าวอย่างสุดกำลังด้วยสันติวิธี และยึดวิถีทางประชาธิปไตย และ 3.พรรคไทยรักไทย เห็นว่าปัญหาวิกฤติของประเทศขณะนี้สามารถหาทางออกได้ โดยกลไกของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว และสนับสนุนให้ประเทศเดินหน้าสู่การเลือกตั้งตามที่รัฐบาลได้ประกาศไว้
นายนิสิต สินธุไพร อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยรักไทย กล่าวเสริมว่าเราจะรณรงค์ต่อต้านการปฏิวัติ ทุกจังหวัด อำเภอ และ ตำบล ทั่วประเทศ โดยจะร่วมกันลงชื่อคัดค้านการทำรัฐประหาร เสนอให้ประชาชนทุกจังหวัดเป็นโจทย์ฟ้องผู้ที่ทำการปฏิวัติ ทั้งนี้ ได้นำเรื่องเสนอให้นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรค รับทราบแล้ว ซึ่งก็เห็นชอบในหลักการ และจะดำเนินการกันในเร็วๆนี้ โดยหากมีการปฏิวัติซ้ำเกิดขึ้นจริง นายจาตุรนต์ จะเป็นคนนำในการยื่นฟ้องผู้ก่อการ คิดว่าตรงนี้จะเป็นภูมิต้านทานในการปกป้องประชาธิปไตยได้
เมื่อเวลา 08.30 น.วานนี้ (6เม.ย.)ที่ลานพระราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โรงเรียนมหาวชิราวุธสงขลา คณะศิษย์เก่าโรงเรียนมหาวชิราวุธสงขลา ผู้ปกครองนักเรียนฯ อาจารย์ นักเรียนและพลังมวลชนกว่า 1,000 คน ได้รวมตัวกันเพื่อแสดงพลังมวลชนคนรักพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ โดยมีนายอุทิศ ชูช่วย นายกเทศมนตรีเทศบาลนครสงขลา ในฐานะศิษย์เก่าโรงเรียนมหาวชิราวุธสงขลาเป็นแกนนำในการรวมพลังมวลชนในครั้งนี้
นายอุทิศ กล่าวว่า การรวมตัวกันครั้งนี้เพื่อแสดงจุดยืนและเจตนารมณ์ ในการยกย่องเชิดชูเกียรติ พล.อ.เปรม ในฐานะนักเรียนมหาวชิราวุธ ซึ่งเป็นผลผลิตอันสำคัญยิ่งของสถาบัน และเป็นผู้มีคุณค่ายิ่งต่อสังคม เกื้อกูลและบำเพ็ญประโยชน์แก่ชาติบ้านเมืองนานัปการ เป็นคนดีศรีมหาวชิราวุธ เป็นตัวอย่าง แบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ปัจจุบันและอนุชนรุ่นหลังที่จะดำเนินรอยตาม"ป๋าเปรม"
"เพราะฉะนั้น เพื่อพิทักษ์ คนดีศรีมหาวชิราวุธและเอกบุรุษชาวมหาฯ และความเป็นศรีสง่าของสถาบัน พวกเราชาวมหาวชิราวุธ และชาวสงขลา ขอปกป้องเกียรติภูมิ เกียรติยศ เกียรติศักดิ์ ด้วยชีวิต"นายอุทิศ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีพิธีถวายราชสักการะพระราชนุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เพื่อขอให้อำนวยพรให้กับพล.อ.เปรม มีความสุข เพิ่มพูนความศรัทธา บารมี ความภาคภูมิใจให้กับชาวมหาวชิราวุธและประชาชนชาวสงขลา รวมทั้งขอบารมีแห่งคุณความดีที่เกิดมาเพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายต่างๆออกไปด้วย
ขณะเดียวกันพลังมวลชนทั้งหมดได้เคลื่อนขบวนออกจากโรงเรียนมหาวชิราวุธสงขลา ไปตามถนนสายต่างๆ โดยถือแผ่นป้ายผ้าให้กำลัง พล.อ.เปรม มีข้อความว่า"หยุดพาดพิง...ป๋า" "ชาวสงขลารักและภูมิใจในตัวป๋า" "การเมืองอย่ายุ่งกับป๋า" "เกิดมาต้องทดแทนบุญคุณแผ่นดิน" "ป๋าเปรม ร่ำรวยคุณงามความดี""ป๋าเปรม รักชาติ รักแผ่นดิน" เป็นต้น เพื่อเป็นการแสดงพลังให้คนทั้งประเทศรู้ว่า ชาวมหาวชิราวุธ และประชาชนชาวสงขลา จะปกป้องคนดีศรีมหาวชิราวุธและเอกบุรุษของชาวสงขลา
**คนโคราชล่าชื่อให้กำลังใจป๋า
วันเดียวกันนี้ ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม)ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครราชสีมา กลุ่มคนโคราชรักป๋าเปรม นำโดยนายไพบูลย์ พฤกษ์พนาเวศ เจ้าของโรงแรมราชพฤกษ์ แกรนด์โฮเทล และสมาชิกสภาเทศบาลนครนครราชสีมา,นายกฤตย์ ขวัญโภคา ประธานชมรมคนสงขลา(โคราช)และกลุ่มภาคีมวลชนคนโคราชรักประชาธิปไตย กว่า 50 คน ได้ร่วมชุมนุมพร้อมชูป้ายให้กำลังใจ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ โดยเรียกร้องให้กลุ่มผู้ไม่หวังดี ยุติการกระทำในการจาบจ้วง ล่ารายชื่อถอดถอนประธานองคมนตรี และให้ยุติการชุมนุมสร้างความวุ่นวายให้กับประเทศชาติโดยเร็ว
พร้อมกันนี้กลุ่มคนโคราชรักป๋าเปรม ได้ตั้งโต๊ะรับลงรายชื่อเพื่อให้กำลังใจ พล.อ.เปรม ที่บริเวณด้านหน้าลานอนุสาวรีย์ย่าโมด้วย ซึ่งได้มีบรรดาข้าราชการ นักธุรกิจ พ่อค้า นักเรียน นักศึกษา เยาวชน และประชาชนทั่วไป เดินทางมาร่วมลงนามให้กำลังใจ พล.อ.เปรม อย่างต่อเนื่อง
จากนั้นกลุ่มคนโคราชรักป๋าเปรม ได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ ต่อหน้าอนุสาวรีย์ย่าโม มีสาระสำคัญระบุว่า คนโคราช และคนทั่วทุกภูมิภาคที่อาศัยอยู่ใน จ.นครราชสีมา มีความรัก ห่วงใย และปรารถนาดีต่อ พล.อ.เปรม รู้สึกเจ็บปวด ไม่สบายใจและ อึดอัดใจทุกครั้งที่ได้รับข่าวสารในทางที่ไม่ดีนำเสนอทางสื่อ ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าไม่ใช่เรื่องจริง ตลอดชีวิตของป๋าเปรม ได้อุทิศให้กับประเทศชาติ และรับใช้องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน
เมื่อครั้ง พล.อ.เปรม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้แก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ นำพาประเทศไทยได้รอดพ้นจากการล่มสลายทางเศรษฐกิจ และพล.อ.เปรม ได้แก้ปัญหาวิกฤติความมั่นคงของชาติจนเป็นปึกแผ่นทำให้บ้านเมืองสงบสุขมาเป็นเวลานาน และมีอีกนานัปการที่ พล.อ.เปรม ได้ช่วยเหลือประเทศชาติเอาไว้ แต่ผลงานความดีเหล่านี้ทำไมยังมีกลุ่มคนบางกลุ่มหลงลืม ไม่สำนึก ทั้งที่หากไม่มี พล.อ.เปรมในวันนั้น เมืองไทยเราคงไม่มีวันนี้ให้อยู่กันอย่างสงบสุขได้
ฉะนั้น จึงขอเรียกร้องให้กลุ่มคนที่กระทำการไม่บังควรดังกล่าว หยุดการกระทำที่ให้ร้าย จาบจ้วงต่อรัฐบุรุษผู้มีบุญคุณต่อแผ่นดิน หันมาร่วมกันสร้างระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ให้บ้านเมืองสงบสุขร่วมเย็นกันดีกว่า อย่าได้ซ้ำเติมทำร้ายประเทศไทยให้บอบช้ำไปมากกว่านี้เลย
นายไพบูลย์ พฤกษ์พนาเวศ แกนนำกลุ่มคนโคราชรักป๋าเปรม เปิดเผยว่า เนื่องจากมีคนกลุ่มหนึ่งได้กระทำการลบหลู่ดูหมิ่น ให้ร้าย และจาบจ้วง พล.อ.เปรม ซึ่งถือเป็นปูชนียบุคคลที่ทำความดีสร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติอย่างมหาศาล เป็นที่รักและเคารพของประชาชน พวกเราชาวโคราชมองว่า การกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม จึงอยากเรียกร้องให้กลุ่มคนดังกล่าวหยุดการกระทำ รวมถึงกลุ่มที่มีการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลที่กรุงเทพฯ ควรหยุดสร้างความวุ่นวายให้ประเทศชาติบ้านเมือง เพื่อให้กลไกที่รัฐบาลดำเนินการอยู่เดินหน้าต่อไป โดยเฉพาะการร่างรัฐธรรมนูญ หากเสร็จสิ้นแล้วจะได้มีการเลือกตั้ง และจัดตั้งรัฐบาลต่อไป
"กลุ่มผู้ชุมนุมสร้างความวุ่นวายที่กรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้นั้น เชื่อว่า มีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างแน่นอน ส่วนใครจะอยู่เบื้องหลังนั้นก็เป็นที่รู้ ๆ กันอยู่ แต่อยากเรียกร้องให้ยุติการสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายต่างๆ ได้แล้ว เพื่อที่จะให้บ้านเมืองสงบสุข รัฐบาลสามารถทำงานบริหารประเทศชาติได้อย่างเต็มที่เพื่อเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมและเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงโดยเร็ว" นายไพบูลย์ กล่าว
ด้านนายกฤตย์ ขวัญโภคา ประธานชมรมคนสงขลา (โคราช)กล่าวว่า ขณะนี้พี่น้องชาวใต้ที่อาศัยอยู่ที่จ.นครราชสีมาได้หารือกันถึงกรณีที่เกิดขึ้นและรู้สึกไม่สบายใจ จึงอยากแสดงพลังให้กลุ่มผู้ไม่หวังดีว่า การกระทำนั้นไม่เหมาะสมอย่างยิ่งและหมิ่นเหม่ต่อสถาบันเบื้องสูง เพราะ พล.อ.เปรม ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งโดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ฉะนั้นการก้าวร้าวจาบจ้วง ต่อ พล.อ.เปรม ก็เสมือนเป็นการกระทำต่อสถาบันเบื้องสูงด้วย
"หากกลุ่มบุคคลดังกล่าวยังไม่หยุดการกระทำอีก พวกเราชาวใต้ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดต่างๆ ของภาคอีสานจะรวมตัวกันกับประชาชนทั่วประเทศเพื่อแสดงพลังต่อต้านคัดค้านจนถึงที่สุด ซึ่งขณะนี้ได้ประสานกับกลุ่มคนใต้ในจังหวัดต่างๆ ของภาคอีสานแล้ว" นายกฤตย์ กล่าว
**เตือนม็อบกล่าวหา"ป๋า"ให้มีจิตสำนึก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่เริ่มมีผู้ชุมนุมกลุ่มต่างๆ ออกมาเคลื่อนไหวขับไล่และโจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ กับพล.อ.สนธิ บุญรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะบานปลายว่า เนื้อหาสาระของการชุมนุมต้องถูกกำกับโดยกฎหมาย ซึ่งตนอยากให้คนที่ไปร่วมชุมนุม หรือขึ้นปราศรัยใช้จิตสำนึกว่า อะไรควร อะไรไม่ควร เพราะตำแหน่งประธานองคมนตรีนั้น ไม่ใช่สิ่งที่จะมาดำเนินการกันทางการเมือง จึงอยากให้ทุกฝ่ายอยู่ในกรอบ
ส่วนการต่อต้าน คมช.และรัฐบาลนั้นทุกคนมีสิทธิเสรีภาพที่จะแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ อะไรถูกไม่ถูกมีความไม่ชอบมาพากลอย่างไรก็เสนอข้อมูลได้ แต่ต้องรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองพูดด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทันทีที่คมช.อนุญาตให้พรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรมได้ สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์จะทำตอนนั้นมีอะไร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องที่อยากทำมากที่สุดตอนนี้คือ มาเปิดเวทีประชาธิปไตยบนพื้นฐานของปัญหาบ้านเมืองที่จะต้องมาแก้ไขในปีหน้า ซึ่งตนเรียกร้องมาตลอดว่า ขอให้ กกต.ทำเรื่องไปถึง ครม.และ ครม.ควรจะมีมติในเรื่องนี้ แต่ถ้าถามว่าขออนุญาต คมช.ตนยังมองไม่เห็นว่า คมช.จะมีอำนาจในทางกฎหมายทำอะไรได้ ส่วนถามว่าเราอยากทำอะไร ตรงนั้นเตรียมไว้หมดแล้ว คือ เรามุ่งไปที่ปัญหาของบ้านเมือง เพราะเรื่องเหล่านี้ถึงเวลาที่จะต้องมาพูดคุยทำความเข้าใจกัน ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ต้องแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับประชาชนถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหา
"คำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.)เป็นกฎหมาย ดังนั้น คมช.จะใช้อำนาจอะไรมาอนุญาต เพราะในกฎหมายนั้นระบุว่าห้ามพรรคการเมืองประชุม หรือดำเนินกิจกรรมใดๆ ทางการเมืองจนกว่าคณะรัฐมนตรีจะมีมติเป็นอย่างอื่น คำว่าเป็นอย่างอื่นนั้น อาจจะเป็นการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลง "หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
**กลาโหมยันมีการจ้างม็อบเข้ากรุง
พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มต่างๆ ยังคงยืนยันจะนัดชุมนุมที่สนามหลวง ว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)ได้ประสานกับกรุงเทพมหานคร (กทม.)แล้วว่า หากผู้ชุมนุมดำเนินการอยู่ในกรอบของกฎหมาย ก็ต้องจัดสถานที่ให้คนเหล่านั้นได้ชุมนุมกัน อย่างไรก็ตาม ไม่ทราบว่าในช่วงเวลาดังกล่าว จะมีการใช้สถานที่จัดงานอะไรหรือไม่
"ที่ลานคนเมืองก็ทราบว่า กลุ่มพีทีวีไม่ชอบ เนื่องจากคับแคบ เราไม่ได้ห้ามไม่ให้เขาชุมนุมเลย แล้วก็ยังมีอีกหลายกลุ่มที่จะออกมาชุมนุม ทุกกลุ่มก็ต้องการใช้พื้นที่สนามหลวง ยังไม่ทราบว่าเขาจะให้ใครใช้" รมว.กลาโหม กล่าว
เมื่อถามว่า จะมีการสกัดม็อบที่จะเดินทางมาจากต่างจังหวัดหรือไม่ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ดูแลอยู่แล้ว ถ้าเป็นม็อบในลักษณะที่รับเงินเข้ามาในกทม.ก็ต้องจัดการ เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่ามีข้อมูลเรื่องการว่าจ้างคนให้เข้ามาชุมนุมใน กทม. พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า มี ส่วนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาต่างๆจริง รัฐบาลก็พยายามเข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่อยู่แล้ว แต่อาจจะยังไม่เป็นผลในทันที เพราะการอนุมัติเงินต่างๆ ต้องให้ถูกต้องตามกฎหมาย
**ผบช.น.ประชุมรับมือม็อบ
พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ประชุมร่วมกับกองทัพภาคที่ 1 และกรุงเทพมหานคร รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือวางแผนในการรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาล และคมช.ที่บริเวณท้องสนามหลวง โดยเปิดเผยว่า การใช้วิธีการเดินเท้าเข้าไปชุมนุมในท้องสนามหลวงของกลุ่มผู้ชุมนุม"คนวันเสาร์ ไม่เอาเผด็จการ" เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ ซึ่งการชุมนุมผ่านไปได้ด้วยดี ไม่มีการปะทะกับเจ้าหน้าที่เกิดขึ้น โดยผู้ชุมนุมไม่ได้มีการตั้งเวทีปราศรัยแบบถาวร และไม่ได้ใช้เครื่องขยายเสียงรบกวนประชาชนกลุ่มอื่น
ส่วนการนัดชุมนุมของกลุ่มพีทีวี ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 8 เม.ย.นี้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่ากรุงเทพมหานคร มีท่าทีที่จะให้เข้าใช้พื้นที่ได้ โดยทางตำรวจได้จัดเตรียมกำลังไว้ดูแลการชุมนุมแล้ว อย่างไรก็ตาม ต้องขอความร่วมมือกลุ่มผู้ชุมนุมให้ใช้สถานที่อย่างรอบคอบ เพราะต้องแบ่งพื้นที่ให้กับประชาชนกลุ่มอื่นที่จะเข้ามาใช้พื้นที่จัดกิจกรรมต่างๆด้วย
**บุญสร้างโต้ทรท.ไม่มีปฎิวัติรอบ 2
พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.ทหารสูงสุด กล่าวถึงกรณีที่พรรคไทยรักไทย ระบุว่า อาจจะมีการปฏิวัติรอบ 2 เนื่องจากสถานการณ์การเมืองมีการเคลื่อนไหวผิดปกติ นำไปสูความวุ่นวายเหมือนก่อนวันที่ 19 ก.ย.49 ว่า เรื่องของการปฏิวัติซ้อน ก็เห็นพูดกันมาเรื่อย แต่ไม่มีท่าทีที่จะเป็นอย่างนั้น แต่หากจะเอาเรื่องของกลุ่มม็อบสองกลุ่มมาเจอกัน และบอกว่าจะเกิดการปะทะกันนั้นก็เป็นธรรมดา เพราะคนสองกลุ่มไม่ชอบกัน มาเจอกันก็ต้องปะทะกัน
"หากมีการปฏิวัติรอบ 2 ถามว่าทำแล้วได้อะไร จะใช้รัฐธรรมนูญฉบับใด หากฉีกรัฐธรรมนูญไหนทิ้งในเมื่อของเก่าก็ไม่มี และของใหม่ก็ยังไม่เสร็จ จะต้องตั้งรัฐบาลใหม่กันไปเรื่อยๆ ใช่หรือไม่ คนเราบางครั้งไม่มีข้อมูลก็พูดกันไปเรื่อย เป็นการตั้งทฤษฎีใหม่ขึ้นมา เป็นทฤษฎีที่น่ากลัว เป็นทฤษฎีในอากาศ ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่ข้อมูลข่าวสารมีหรือไม่ เป็นข่าวลือไม่มีเหตุผล คนเชื่อก็วุ่นวายไปหมด"ผบ.สส.กล่าว
เมื่อถามว่าที่ผ่านมาทาง คมช.บอกให้กลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวให้รอรัฐธรรมนูญเสร็จก่อน แต่ดูเหมือนว่ากลุ่มที่เคลื่อนไหวจะไม่เข้าใจ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ไม่ใช่การพยายามไม่เข้าใจ เขาเข้าใจ แต่ไม่ต้องการ ถ้าทุกคนนึกถึงบ้านเมืองก็หมดห่วง ที่เกิดปัญหาเพราะเขาไม่ได้นึกถึงบ้านเมือง นึกถึงตัวเขาเอง ที่เกิดเรื่องยุ่งๆ ทุกวันเพราะเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรที่มีการนำเรื่องส่วนตัวมาโจมตีคนใน คมช.เพื่อต้องการดิสเครดิต พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า การที่สื่อนำเอาเรื่องส่วนตัวมาเขียนนั้น ถือเป็นอาหารอันโอชะของผู้บริโภคข่าวสารที่ชอบอ่านเรื่องส่วนตัวของคนอื่นอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม การจะบอกว่าเรื่องส่วนตัวแล้วไม่เกี่ยวกับการบริหารประเทศก็ไม่ใช่ บางคนโกงอยู่ในสันดานประวัติเคยโกงมาเป็นแสนล้าน แล้วบอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยว มันไม่ได้ ทั้งนี้เราต้องดูประวัติของคนๆ นั้นด้วยว่า ที่ผ่านมาเป็นอย่างไร
"บางครั้งต้องดูด้วยว่า เรื่องส่วนตัวที่นำมาโจมตีเป็นเรื่องเลวร้ายหรือไม่ หรือเกี่ยวข้องกับการปกครอง การบริหารประเทศหรือไม่ คนที่เป็นผู้ใหญ่ต้องมีความซื่อสัตย์ ถ้าตัวเองไม่มีความซื่อสัตย์จะปกครองได้อย่างไร ผลประโยชน์มากมายมหาศาลมาล่อตาล่อใจเยอะ ก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรง การปกครองบ้านเมืองต้องมีคุณธรรม การที่คนนำเรื่องส่วนตัวมาขุดคุ้ยเพื่อหวังให้คนเสื่อมศรัทธา เมื่อเสื่อมศรัทธาก็ปกครองไม่ได้ สิ่งสำคัญต้องดูว่าที่เขาพูดเรื่องจริงหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องไม่จริงแล้วมาพูดสร้างความเสียหายให้กับคนอื่น ซึ่งกฎหมายบ้านเราก็ยังไม่ดีพอ มากสุดก็ฟ้องหมิ่นประมาท ซึ่งใครก็ไม่อยากจะฟ้อง"พล.อ.บุญสร้าง กล่าว
**ทรท.ชี้เหตุ 3 ข้อ ก่อปฏิวัติซ้ำ
ด้านนายสุทิน คลังแสง รักษาการโฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า คณะติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองพรรคไทยรักไทย ได้ประชุมหารือมีข้อสรุปที่เชื่อได้ว่าจะมีการทำรัฐประหารในอนาคตอันใกล้ โดยมีปัจจัยบ่งชี้ 3 ประการ คือ 1. เกิดความแตกแยกและขัดแย้งระหว่าง คมช. รัฐบาล และสนช. ซึ่งนับวันจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ 2.มีกลุ่มบุคคลโดยเฉพาะกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เคลื่อนไหวสอดรับกับ คมช.,สนช.,ส.ส.ร.และสื่อบางฉบับในลักษณะสร้างเงื่อนไข และยุยงให้เป็นข้ออ้างในการทำรัฐประหาร คล้ายคลึงกับเหตุการณ์ก่อนการทำรัฐประหาร 19 ก.ย.49 และ 3. กลุ่มบุคคลดังกล่าวมีเป้าหมายชัดเจนที่จะล้มล้างรัฐบาล และเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี พรรคไทยรักไทย เห็นว่าหากความพยายามของกลุ่มบุคคลดังกล่าวบรรลุเป้าหมาย สามารถทำการรัฐประหารได้อีกครั้ง จะทำให้ประเทศชาติเสียหายเพิ่มขึ้นทวีคูณ และดำดิ่งสู่วิกฤติไม่จบสิ้น
**ล่ารายชื่อทั่วประเทศฟ้องคนปฏิวัติ
นายสุทิน กล่าวว่า พรรคไทยรักไทยขอแสดงจุดยืนว่า 1. พรรคไทยรักไทยไม่เห็นด้วยและจะไม่ให้ความร่วมมือกับการกระทำรัฐประหาร ไม่ว่าจะกระทำโดยกลุ่มบุคคลใด และเมื่อใด 2. พรรคไทยรักไทย จะต่อต้านการกระทำดังกล่าวอย่างสุดกำลังด้วยสันติวิธี และยึดวิถีทางประชาธิปไตย และ 3.พรรคไทยรักไทย เห็นว่าปัญหาวิกฤติของประเทศขณะนี้สามารถหาทางออกได้ โดยกลไกของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว และสนับสนุนให้ประเทศเดินหน้าสู่การเลือกตั้งตามที่รัฐบาลได้ประกาศไว้
นายนิสิต สินธุไพร อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยรักไทย กล่าวเสริมว่าเราจะรณรงค์ต่อต้านการปฏิวัติ ทุกจังหวัด อำเภอ และ ตำบล ทั่วประเทศ โดยจะร่วมกันลงชื่อคัดค้านการทำรัฐประหาร เสนอให้ประชาชนทุกจังหวัดเป็นโจทย์ฟ้องผู้ที่ทำการปฏิวัติ ทั้งนี้ ได้นำเรื่องเสนอให้นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรค รับทราบแล้ว ซึ่งก็เห็นชอบในหลักการ และจะดำเนินการกันในเร็วๆนี้ โดยหากมีการปฏิวัติซ้ำเกิดขึ้นจริง นายจาตุรนต์ จะเป็นคนนำในการยื่นฟ้องผู้ก่อการ คิดว่าตรงนี้จะเป็นภูมิต้านทานในการปกป้องประชาธิปไตยได้