บอร์ด ทอท.ให้โอกาสล็อกซ์เล่ย์ปรับปรุงประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัยอีก 1 เดือนพร้อมทั้งให้ทอท.จ่ายค่าจ้าง 2 งวดแรก 90 ล้านบาททั้งที่การทำงานไม่ผ่าน โดยให้ทอท.ยื่นโนติสต์ 3 ข้อ ควบคุมจำนวนเจ้าหน้าที่และคุณภาพตามสัญญา ห้ามเกิดเหตุร้าย พร้อมประสานตำรวจหรือทหารเข้าพื้นที่กำกับตรวจสอบทุกจุดเพิ่มความมั่นใจให้ประชาชน ย้ำ มีปัญหาหรือ 1 เดือนยังไม่ดีขึ้นยกเลิกสัญญาแน่
นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง กรรมการและโฆษกคณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท.เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ทอท.ที่มีพลเอกสพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกเป็นประธานวานนี้ (3 เม.ย) ยังไม่มีมติบอกเลิกสัญญาสัมปทานการให้บริการรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของกลุ่มบริษัทล็อกซเล่ย์– ไอซีทีเอสคอนซอร์เตียม พร้อมทั้งอนุมัติให้ทอท.จ่ายเงินค่าจ้าง 2 เดือนแรกเดือนละประมาณ 45 ล้านบาท ให้กลุ่มล็อกซเล่ย์ที่บริษัทเรียกเก็บโดยหักค่าปรับกรณีที่คุณภาพงานไม่ครบตามเงื่อนไขไว้ด้วย โดยให้ทอท. ทำหนังสือบอกกล่าว (โนติสต์) ถึงกลุ่มล็อกซเล่ย์ให้ปรับปรุงแก้ไขประสิทธิภาพการทำงานให้เป็นไปตามเงื่อนไขสัญญาใน 1 เดือน นับจากวันที่ 3 เม.ย.2550 เป็นต้นไป
โดยหนังสือบอกกล่าวจะมีสาระสำคัญ 3 เรื่อง คือ 1. ล็อกซเล่ย์ต้องดูแลปริมาณของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้เป็นไปตามที่เงื่อนไขกำหนดไม่ให้ขาดและปรับปรุงคุณภาพและคุณสมบัติของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้วย 2. ต้องไม่ให้มีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด 3. บอร์ดทอท.ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือทหารเข้ามากำกับตรวจสอบการทำงานในทุกจุด โดยทอท.ยอมเสียค่าใช้จ่ายหรือเบี้ยเลี้ยงที่เกิดขึ้นในส่วนนี้ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดให้เกิดความมั่นใจต่อการใช้บริการของประชาชนในด้านความปลอดภัย
“ หากในระหว่างนี้หรือครบ 1 เดือนแล้ว คุณภาพงานยังไม่ได้ตามมาตรฐานหรือมีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้น ก็จะต้องเลิกสัญญาจ้างกับล็อกซเล่ย์ทันที ซึ่งการที่บอร์ดยังไม่เลิกสัญญาทันทีก็ถือเป็นความกรุณาเพื่อให้เวลาในการปรับตัว หากครบกำหนด 1 เดือนคุณภาพของล็อกซเล่ย์ยังไม่ได้มาตรฐานและยืนยันว่า ฝ่ายบริหารทอท.เสนอให้มีการยกเลิกสัญญานี้ด้วย”นายเจิมศักดิ์กล่าว
ด้านพลเอกสพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานคณะกรรมการ ทอท. กล่าวภายหลังการประชุมว่า การพิจารณาสัญญาของล็อกซเล่ย์ นั้น บอร์ดทอท.ให้ความห่วงใยในคุณภาพของการรักษาความปลอดภัย ซึ่งสัญญามีขั้นตอน ทั้งเรื่องการปรับการท้วงติงการทำงาน โดย 1 เดือนเป็นการให้โอกาสปรับปรุง หากการทำงานไม่ดีขึ้นก็ต้องทำตามสัญญาซึ่งสามารถยกเลิกได้ ส่วนกรณีบริษัทคิงเพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนลทำหนังสือขอความเป็นธรรมมานั้น ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีอะไรเลวร้ายไปถึงขั้นแก้ไขอะไรไม่ได้ และคิงเพาเวอร์ฯ สามารถใช้ช่องทางที่ควรจะทำ ซึ่งเอกชนรู้ดี ไปถามคุณวิชัย รักศรีอักษร ประธานคิงเพาเวอร์ฯ และนายจุลจิตต์ บุญเกตุ รองประธานคิงเพาเวอร์ ได้คำพูดจากผมว่า เราให้ความเป็นธรรมเสมอ และโอกาสใดที่จะทำให้เขาได้กลับไปสู่การเริ่มต้นใหม่ ถ้าเป็นช่องทางที่ทำได้เราเปิดทางให้อยู่แล้ว
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า ล็อกซเล่ย์ได้ทำหนังสือทวงค่าจ้างมา 4 เดือนแต่จากการตรวจสอบการทำงานของคณะกรรมการตรวจการจ้างแล้วและเสนอบอร์ดเห็นชอบให้จ่ายค่าจ้างใน 2 เดือนแรก คือ 27ก.ย.-27พ.ย. 2549 งวดละ 45 ล้านบาท รวม 2 งวด เป็นเงิน 90 ล้านบาทโดยมีการหักค่าปรับเบื้องต้นไว้ประมาณ 8 ล้านบาท ทำให้ทอท.ต้องจ่ายค่าจ้างให้ล้อกซเล่ย์ 2 งวดแรก ประมาณ 82 ล้านบาท จากที่ก่อนหน้านี้ ล็อกซเล่ย์ได้ทำหนังสือถึงทอท.เพื่อขอรับค่าจ้างงวดที่ 1- 4
ด้านนายกาจน์ ทองใหญ่ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอเชียซิเคียวริตี้ เมเนจเม้นท์ จำกัด (ASM) ซึ่งให้บริการรักษาความปลอดภัยในสนามบินสุวรรณภูมิในกลุ่มล็อกเลย์- ไอซีทีเอส คอนซอร์เตียม กล่าวว่า พอใจต่อมติบอร์ดทอท.ที่เห็นใจและเข้าใจในการพิจารณาจ่ายเงินค่าจ้างใน 2งวดแรก ช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้กับบริษัทได้ส่วนการยื่นเงื่อนไขให้ปรับปรุงแก้ไขคุณภาพและมาตรฐานการทำงานภายใน1 เดือนนั้นบริษัทฯพร้อมรับข้อเสนอและยินดีปรับปรุงแก้ไข
ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯได้พยายามปรับปรุงแก้ไข เรื่องการขาดแคลนพนักงานแล้ว ส่วนการเพิ่มมาตรฐานการทำงานนั้นเป็นเรื่องที่ตระหนักและพยามเร่งแก้ไข ซึ่งที่ผ่านมาได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมรับการฝึกอบรมจากทอท. ก่อนจะปฏิบัติหน้าที่หลังจากนี้จะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการฝึกอบรมและการคัดเลือกพนักงานที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ซึ่งตามสัญญากำหนดว่าทางบริษัทล็อกซ์เล่ยจะต้องจัดหาพนักงานรวม 2,000 คน แบ่งเป็นพนักงานตรวจค้น 1,250 คนพนักงานรักษาความปลอดภัย 700 คน ส่วนที่เหลือเป็นพนักงานด้านธุรการและประจำสำนักงาน ส่วนช่วงเทศกาลสงกรานต์มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่อีก20 % ด้วย
นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง กรรมการและโฆษกคณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท.เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ทอท.ที่มีพลเอกสพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกเป็นประธานวานนี้ (3 เม.ย) ยังไม่มีมติบอกเลิกสัญญาสัมปทานการให้บริการรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของกลุ่มบริษัทล็อกซเล่ย์– ไอซีทีเอสคอนซอร์เตียม พร้อมทั้งอนุมัติให้ทอท.จ่ายเงินค่าจ้าง 2 เดือนแรกเดือนละประมาณ 45 ล้านบาท ให้กลุ่มล็อกซเล่ย์ที่บริษัทเรียกเก็บโดยหักค่าปรับกรณีที่คุณภาพงานไม่ครบตามเงื่อนไขไว้ด้วย โดยให้ทอท. ทำหนังสือบอกกล่าว (โนติสต์) ถึงกลุ่มล็อกซเล่ย์ให้ปรับปรุงแก้ไขประสิทธิภาพการทำงานให้เป็นไปตามเงื่อนไขสัญญาใน 1 เดือน นับจากวันที่ 3 เม.ย.2550 เป็นต้นไป
โดยหนังสือบอกกล่าวจะมีสาระสำคัญ 3 เรื่อง คือ 1. ล็อกซเล่ย์ต้องดูแลปริมาณของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้เป็นไปตามที่เงื่อนไขกำหนดไม่ให้ขาดและปรับปรุงคุณภาพและคุณสมบัติของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้วย 2. ต้องไม่ให้มีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด 3. บอร์ดทอท.ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือทหารเข้ามากำกับตรวจสอบการทำงานในทุกจุด โดยทอท.ยอมเสียค่าใช้จ่ายหรือเบี้ยเลี้ยงที่เกิดขึ้นในส่วนนี้ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดให้เกิดความมั่นใจต่อการใช้บริการของประชาชนในด้านความปลอดภัย
“ หากในระหว่างนี้หรือครบ 1 เดือนแล้ว คุณภาพงานยังไม่ได้ตามมาตรฐานหรือมีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้น ก็จะต้องเลิกสัญญาจ้างกับล็อกซเล่ย์ทันที ซึ่งการที่บอร์ดยังไม่เลิกสัญญาทันทีก็ถือเป็นความกรุณาเพื่อให้เวลาในการปรับตัว หากครบกำหนด 1 เดือนคุณภาพของล็อกซเล่ย์ยังไม่ได้มาตรฐานและยืนยันว่า ฝ่ายบริหารทอท.เสนอให้มีการยกเลิกสัญญานี้ด้วย”นายเจิมศักดิ์กล่าว
ด้านพลเอกสพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานคณะกรรมการ ทอท. กล่าวภายหลังการประชุมว่า การพิจารณาสัญญาของล็อกซเล่ย์ นั้น บอร์ดทอท.ให้ความห่วงใยในคุณภาพของการรักษาความปลอดภัย ซึ่งสัญญามีขั้นตอน ทั้งเรื่องการปรับการท้วงติงการทำงาน โดย 1 เดือนเป็นการให้โอกาสปรับปรุง หากการทำงานไม่ดีขึ้นก็ต้องทำตามสัญญาซึ่งสามารถยกเลิกได้ ส่วนกรณีบริษัทคิงเพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนลทำหนังสือขอความเป็นธรรมมานั้น ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีอะไรเลวร้ายไปถึงขั้นแก้ไขอะไรไม่ได้ และคิงเพาเวอร์ฯ สามารถใช้ช่องทางที่ควรจะทำ ซึ่งเอกชนรู้ดี ไปถามคุณวิชัย รักศรีอักษร ประธานคิงเพาเวอร์ฯ และนายจุลจิตต์ บุญเกตุ รองประธานคิงเพาเวอร์ ได้คำพูดจากผมว่า เราให้ความเป็นธรรมเสมอ และโอกาสใดที่จะทำให้เขาได้กลับไปสู่การเริ่มต้นใหม่ ถ้าเป็นช่องทางที่ทำได้เราเปิดทางให้อยู่แล้ว
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า ล็อกซเล่ย์ได้ทำหนังสือทวงค่าจ้างมา 4 เดือนแต่จากการตรวจสอบการทำงานของคณะกรรมการตรวจการจ้างแล้วและเสนอบอร์ดเห็นชอบให้จ่ายค่าจ้างใน 2 เดือนแรก คือ 27ก.ย.-27พ.ย. 2549 งวดละ 45 ล้านบาท รวม 2 งวด เป็นเงิน 90 ล้านบาทโดยมีการหักค่าปรับเบื้องต้นไว้ประมาณ 8 ล้านบาท ทำให้ทอท.ต้องจ่ายค่าจ้างให้ล้อกซเล่ย์ 2 งวดแรก ประมาณ 82 ล้านบาท จากที่ก่อนหน้านี้ ล็อกซเล่ย์ได้ทำหนังสือถึงทอท.เพื่อขอรับค่าจ้างงวดที่ 1- 4
ด้านนายกาจน์ ทองใหญ่ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอเชียซิเคียวริตี้ เมเนจเม้นท์ จำกัด (ASM) ซึ่งให้บริการรักษาความปลอดภัยในสนามบินสุวรรณภูมิในกลุ่มล็อกเลย์- ไอซีทีเอส คอนซอร์เตียม กล่าวว่า พอใจต่อมติบอร์ดทอท.ที่เห็นใจและเข้าใจในการพิจารณาจ่ายเงินค่าจ้างใน 2งวดแรก ช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้กับบริษัทได้ส่วนการยื่นเงื่อนไขให้ปรับปรุงแก้ไขคุณภาพและมาตรฐานการทำงานภายใน1 เดือนนั้นบริษัทฯพร้อมรับข้อเสนอและยินดีปรับปรุงแก้ไข
ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯได้พยายามปรับปรุงแก้ไข เรื่องการขาดแคลนพนักงานแล้ว ส่วนการเพิ่มมาตรฐานการทำงานนั้นเป็นเรื่องที่ตระหนักและพยามเร่งแก้ไข ซึ่งที่ผ่านมาได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมรับการฝึกอบรมจากทอท. ก่อนจะปฏิบัติหน้าที่หลังจากนี้จะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการฝึกอบรมและการคัดเลือกพนักงานที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ซึ่งตามสัญญากำหนดว่าทางบริษัทล็อกซ์เล่ยจะต้องจัดหาพนักงานรวม 2,000 คน แบ่งเป็นพนักงานตรวจค้น 1,250 คนพนักงานรักษาความปลอดภัย 700 คน ส่วนที่เหลือเป็นพนักงานด้านธุรการและประจำสำนักงาน ส่วนช่วงเทศกาลสงกรานต์มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่อีก20 % ด้วย