การุณ ใสงาม karoonsen@hotmail.com
การเมืองกับการบริหารเคยมีคนเปรียบเทียบว่าเหมือนเหรียญที่อยู่ด้วยกันแต่มีสองด้าน การที่เราจะเลือกใช้ด้านใดนั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของบุคคลนั้น บางคนบอกว่าการเมืองเป็นเรื่องที่น่ากลัว บุคคลที่ยังไม่มีอำนาจเมื่อมีอำนาจจะมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป จนคนรอบข้างแปลกใจและไม่เชื่อว่านี่จะเป็นบุคคลที่เคยรู้จักเคยนับถือ
การเมืองไม่มีมิตรและศัตรูที่ถาวร ดูเหมือนยังใช้ได้อยู่ในทุกยุคทุกสมัย เพราะในทางการเมืองการที่บอกว่า ไม่ นั่นคือ ใช่ การที่บอกว่า อาจจะ หมายถึง ไม่แน่
วันนี้ผมอยากจะบอกอะไรท่านผู้อ่าน หรือแลกเปลี่ยนความเห็นกับท่านผู้อ่านในเรื่องการเมือง หรือจะให้ดีคือมาวิเคราะห์การเมืองขณะนี้ผ่านตัวผู้นำ การที่ผมเขียนบทความฉบับนี้ขึ้นมา เป็นเพราะหลังๆ ผมมักได้รับคำทักทายหรือน้ำเสียงที่เป็นห่วงเป็นใยจากเพื่อนฝูง คนสนิทหลายต่อหลายคนว่า ไม่กลัวหรือที่พูดตรงอย่างนี้
ด้วยความเคารพครับ ท่านที่ถามคงลืมไปว่า แค่ชื่อรายการที่ผมจัด ผมก็ตั้งชื่อว่า ตรงไปตรงมา ชื่อคอลัมน์นี้ก็เช่นกัน เพราะฉะนั้น คนอย่างผมจึงไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อม หรือแสดงลีลา มีพิธีกรรมอะไรมากมายนัก ดังที่เคยมีคนส่งข้อความมาหาผมบอกว่า ออกจากตัวคือตรงไป ออกจากใจคือตรงมา
ครับ ความจริงเป็นสิ่งที่ไม่ตาย แต่เราเองก็เห็นหลายต่อหลายคนตายเพราะความจริงมาบ้างแล้ว อีกอย่างความจริงเป็นเรื่องที่คนทั่วไปจะยอมรับไม่ได้ กลัวจะเสียใจ กลัวจะทำให้ผู้อื่นไม่พอใจ แต่ผมกลับมองว่า การที่เราพูดความจริง บอกความจริงแก่เขาจะเป็นการให้สติแก่เขา และปัญญาก็จะเกิดขึ้นตามมา ถ้าผู้นั้นยอมรับและน้อมนำไปปรับใช้
ที่ผมกล่าวมาเยิ่นเย้อในวันนี้ มิใช่อะไร เพียงแต่ผมจะวิพากษ์นายกรัฐมนตรี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ไม่ได้วิพากษ์ลอยๆ ผมนำเอาแนวคิดของนักปรัชญาการเมืองทางรัฐศาสตร์ ที่คนส่วนใหญ่กล่าวถึงแต่ไม่ได้ไปในทางที่นิยมชมชอบมากนัก เพราะเขาไม่ได้อ้างอิงหลักคุณธรรมจริยธรรมทางการเมืองเท่าไหร่นัก
เขาบอกว่า การที่เราจะบอกว่าการเมืองที่ควรจะเป็น นั้นเป็นอย่างไร เราต้องรู้เสียก่อนว่า การเมืองที่จริงนั้นเป็นอย่างไร
สถานการณ์บ้านเมืองของเราในตอนนี้ เป็นภาวะที่แต่ละฝ่าย ต่างอึดอัดขัดข้อง ไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบเสียเปรียบ การทำงานของรัฐบาลและ คมช. มีแต่เสียงสะท้อนออกมาว่าไม่ได้ดั่งใจ
ข้อหา 4 ข้อ มีแต่คนออกมาเรียกร้อง แต่ตอนนี้ป่วยการที่จะพูดเพราะ 6 เดือนที่ผ่านมา ก็แทบไม่มีอะไรคืบหน้า ความหวังที่ให้ไว้แก่ท่านฤาษีที่จะขับเคลื่อนรัฐนาวา ไปได้เริ่มริบหรี่เต็มที
เราลองมาไล่เรียงดูทีละประเด็น ว่า การที่ พล.อ.สุรยุทธ์ มีท่าทีที่เปลี่ยนไป เป็นเพราะมีใครมาบอกอะไรท่านหรือเปล่า ผมได้อ่านงานเขียนของมาเคียเวลลี่แล้วช่างน่าตกใจ ไม่น่าเชื่อว่าขณะนี้ผู้นำผู้ปกครองของเราจะยึดตำรา The Prince ไปแล้วหรือเปล่า
ผู้ปกครองต้องแบ่งแยกแล้วปกครอง ตอนนี้บ้านเมืองเราแตกออกเป็น 3 ก๊ก 10 กว่าฝ่ายไปเรียบร้อยแล้ว คณะรัฐมนตรีก็ทำงานไม่ประสานสอดคล้องกัน เห็นมีแต่ความสามัคคีเรื่องเดียวคือ ใส่เกียร์ว่างเหมือนกัน ทั้งเจ้ากระทรวงและข้าราชการ คอยนับแต่วันเวลาถอยหลัง รอคอยว่าเมื่อไหร่จะเลือกตั้งเพื่อที่ตัวเองจะหมดภาระเสียที
ผู้ปกครองหลายคนที่อยู่ในอำนาจได้เพราะความพยายามสร้างพันธมิตรกับฝ่ายต่างๆ ตลอดเวลา จึงไม่ต้องแปลกใจที่เห็นการกลับมาของ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ การโยกย้ายข้าราชการ การให้คุณสนธิจัดรายการที่ช่อง 11 การให้พีทีวีใช้เวทีปราศรัยที่ท้องสนามหลวง การที่ท่านทำอย่างนี้ได้เพราะมีคาถาดี ที่ว่าสมานฉันท์
ผู้ปกครองต้องเป็นสุนัขจิ้งจอกและราชสีห์ หมายความว่าผู้ปกครองต้องเป็นคนที่น่าเกรงขามแบบราชสีห์ และต้องเฉลียวฉลาดเจ้าเล่ห์แบบสุนัขจิ้งจอก เรื่องที่ท่านน่าเกรงขามคงไม่มีผู้ใดปฏิเสธ ด้วยบุคลิกของท่าน ประวัติการทำงานของท่าน แล้วตอนนี้ท่านก็ไปเซ็นสัญญาการค้ากับประเทศญี่ปุ่น โดยไม่ฟังเสียงทัดทานจากผู้ที่ตระหนักถึงผลเสียจากการเซ็นสัญญาครั้งนี้ กลุ่ม FTA watch พยายามยื่นเรื่องร้องไปที่ศาลปกครอง แต่ศาลก็จำหน่ายคดีทำให้ต้องไปร้องต่อศาลหลักเมือง
ผู้ปกครองบางครั้งต้องเมตตาบางครั้งต้องเด็ดขาด ท่านใช้ความเมตตากับพนักงานไอทีวี แต่ใช้ความเด็ดขาดกับม็อบเกษตรกรที่อยู่หน้าทำเนียบคือ ไม่ทำอะไรให้โดยเด็ดขาด
ผู้ปกครองควรใช้ความโอบอ้อมอารีให้เป็นประโยชน์ ตรงนี้ผมว่าเป็นข้อดีของท่าน ที่ท่านใจดีไม่แยกมิตรแยกศัตรู คิดว่า ที่ผ่านมาแล้วก็แล้วไป เขาคงเข้าใจแล้ว เขาไม่เล่นการเมืองแล้ว อนาคตลูกเมียก็ฝากไว้ให้ท่าน
ผู้ปกครองต้องรักษาคำพูด สิ่งนี้พิสูจน์ได้ชัดคือเรื่องการที่ท่านรับปากกับพนักงานไอทีวี ว่าจะไม่ตกงาน จอไม่ดำ แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
แล้วก็ไม่ทราบว่ารับปากอะไรไว้กับทักษิณบ้างหรือเปล่า แต่ดูอาการแล้วเหมือนจะมีอะไรรับปากรับคำกันไว้อยู่
ระหว่างคนรอบข้างที่ฉลาดกับจงรักภักดี ผู้ปกครองควรเลือกคนรอบข้างที่จงรักภักดีมากกว่า เราจึงไม่แปลกใจที่การทำงานของรัฐบาลชุดนี้ไม่เข้าเป้าเข้าตา ถนัดแต่ทำเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง อยู่ในกรอบของ ครม. ไม่กล้าแตกแถว
การที่ผมเขียนมาอย่างนี้มิใช่จะมาตำหนิท่านฝ่ายเดียว แต่อยากจะให้ท่านใช้เวลาที่เหลืออยู่อีกไม่กี่เดือนนี้ กลับมาเอาจริงเอาจังในการทำงานเพื่อชาติมากขึ้น ผมใจหายครับ ผลสำรวจวันนี้ของเอแบคโพลล์คะแนนความนิยมในตัวท่านเริ่มลดลงอย่างน่าใจหาย ถึงขั้นอยากเปลี่ยนนายกฯ กันเลยทีเดียว
สิ่งที่ท่านอาจทำได้ขณะนี้ คือการทำในสิ่งที่ควรทำ จัดการในสิ่งที่ควรจัดการ ผมไม่ได้เรียกร้องอะไรมากนักใช่ไหมครับ
การเมืองกับการบริหารเคยมีคนเปรียบเทียบว่าเหมือนเหรียญที่อยู่ด้วยกันแต่มีสองด้าน การที่เราจะเลือกใช้ด้านใดนั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของบุคคลนั้น บางคนบอกว่าการเมืองเป็นเรื่องที่น่ากลัว บุคคลที่ยังไม่มีอำนาจเมื่อมีอำนาจจะมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป จนคนรอบข้างแปลกใจและไม่เชื่อว่านี่จะเป็นบุคคลที่เคยรู้จักเคยนับถือ
การเมืองไม่มีมิตรและศัตรูที่ถาวร ดูเหมือนยังใช้ได้อยู่ในทุกยุคทุกสมัย เพราะในทางการเมืองการที่บอกว่า ไม่ นั่นคือ ใช่ การที่บอกว่า อาจจะ หมายถึง ไม่แน่
วันนี้ผมอยากจะบอกอะไรท่านผู้อ่าน หรือแลกเปลี่ยนความเห็นกับท่านผู้อ่านในเรื่องการเมือง หรือจะให้ดีคือมาวิเคราะห์การเมืองขณะนี้ผ่านตัวผู้นำ การที่ผมเขียนบทความฉบับนี้ขึ้นมา เป็นเพราะหลังๆ ผมมักได้รับคำทักทายหรือน้ำเสียงที่เป็นห่วงเป็นใยจากเพื่อนฝูง คนสนิทหลายต่อหลายคนว่า ไม่กลัวหรือที่พูดตรงอย่างนี้
ด้วยความเคารพครับ ท่านที่ถามคงลืมไปว่า แค่ชื่อรายการที่ผมจัด ผมก็ตั้งชื่อว่า ตรงไปตรงมา ชื่อคอลัมน์นี้ก็เช่นกัน เพราะฉะนั้น คนอย่างผมจึงไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อม หรือแสดงลีลา มีพิธีกรรมอะไรมากมายนัก ดังที่เคยมีคนส่งข้อความมาหาผมบอกว่า ออกจากตัวคือตรงไป ออกจากใจคือตรงมา
ครับ ความจริงเป็นสิ่งที่ไม่ตาย แต่เราเองก็เห็นหลายต่อหลายคนตายเพราะความจริงมาบ้างแล้ว อีกอย่างความจริงเป็นเรื่องที่คนทั่วไปจะยอมรับไม่ได้ กลัวจะเสียใจ กลัวจะทำให้ผู้อื่นไม่พอใจ แต่ผมกลับมองว่า การที่เราพูดความจริง บอกความจริงแก่เขาจะเป็นการให้สติแก่เขา และปัญญาก็จะเกิดขึ้นตามมา ถ้าผู้นั้นยอมรับและน้อมนำไปปรับใช้
ที่ผมกล่าวมาเยิ่นเย้อในวันนี้ มิใช่อะไร เพียงแต่ผมจะวิพากษ์นายกรัฐมนตรี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ไม่ได้วิพากษ์ลอยๆ ผมนำเอาแนวคิดของนักปรัชญาการเมืองทางรัฐศาสตร์ ที่คนส่วนใหญ่กล่าวถึงแต่ไม่ได้ไปในทางที่นิยมชมชอบมากนัก เพราะเขาไม่ได้อ้างอิงหลักคุณธรรมจริยธรรมทางการเมืองเท่าไหร่นัก
เขาบอกว่า การที่เราจะบอกว่าการเมืองที่ควรจะเป็น นั้นเป็นอย่างไร เราต้องรู้เสียก่อนว่า การเมืองที่จริงนั้นเป็นอย่างไร
สถานการณ์บ้านเมืองของเราในตอนนี้ เป็นภาวะที่แต่ละฝ่าย ต่างอึดอัดขัดข้อง ไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบเสียเปรียบ การทำงานของรัฐบาลและ คมช. มีแต่เสียงสะท้อนออกมาว่าไม่ได้ดั่งใจ
ข้อหา 4 ข้อ มีแต่คนออกมาเรียกร้อง แต่ตอนนี้ป่วยการที่จะพูดเพราะ 6 เดือนที่ผ่านมา ก็แทบไม่มีอะไรคืบหน้า ความหวังที่ให้ไว้แก่ท่านฤาษีที่จะขับเคลื่อนรัฐนาวา ไปได้เริ่มริบหรี่เต็มที
เราลองมาไล่เรียงดูทีละประเด็น ว่า การที่ พล.อ.สุรยุทธ์ มีท่าทีที่เปลี่ยนไป เป็นเพราะมีใครมาบอกอะไรท่านหรือเปล่า ผมได้อ่านงานเขียนของมาเคียเวลลี่แล้วช่างน่าตกใจ ไม่น่าเชื่อว่าขณะนี้ผู้นำผู้ปกครองของเราจะยึดตำรา The Prince ไปแล้วหรือเปล่า
ผู้ปกครองต้องแบ่งแยกแล้วปกครอง ตอนนี้บ้านเมืองเราแตกออกเป็น 3 ก๊ก 10 กว่าฝ่ายไปเรียบร้อยแล้ว คณะรัฐมนตรีก็ทำงานไม่ประสานสอดคล้องกัน เห็นมีแต่ความสามัคคีเรื่องเดียวคือ ใส่เกียร์ว่างเหมือนกัน ทั้งเจ้ากระทรวงและข้าราชการ คอยนับแต่วันเวลาถอยหลัง รอคอยว่าเมื่อไหร่จะเลือกตั้งเพื่อที่ตัวเองจะหมดภาระเสียที
ผู้ปกครองหลายคนที่อยู่ในอำนาจได้เพราะความพยายามสร้างพันธมิตรกับฝ่ายต่างๆ ตลอดเวลา จึงไม่ต้องแปลกใจที่เห็นการกลับมาของ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ การโยกย้ายข้าราชการ การให้คุณสนธิจัดรายการที่ช่อง 11 การให้พีทีวีใช้เวทีปราศรัยที่ท้องสนามหลวง การที่ท่านทำอย่างนี้ได้เพราะมีคาถาดี ที่ว่าสมานฉันท์
ผู้ปกครองต้องเป็นสุนัขจิ้งจอกและราชสีห์ หมายความว่าผู้ปกครองต้องเป็นคนที่น่าเกรงขามแบบราชสีห์ และต้องเฉลียวฉลาดเจ้าเล่ห์แบบสุนัขจิ้งจอก เรื่องที่ท่านน่าเกรงขามคงไม่มีผู้ใดปฏิเสธ ด้วยบุคลิกของท่าน ประวัติการทำงานของท่าน แล้วตอนนี้ท่านก็ไปเซ็นสัญญาการค้ากับประเทศญี่ปุ่น โดยไม่ฟังเสียงทัดทานจากผู้ที่ตระหนักถึงผลเสียจากการเซ็นสัญญาครั้งนี้ กลุ่ม FTA watch พยายามยื่นเรื่องร้องไปที่ศาลปกครอง แต่ศาลก็จำหน่ายคดีทำให้ต้องไปร้องต่อศาลหลักเมือง
ผู้ปกครองบางครั้งต้องเมตตาบางครั้งต้องเด็ดขาด ท่านใช้ความเมตตากับพนักงานไอทีวี แต่ใช้ความเด็ดขาดกับม็อบเกษตรกรที่อยู่หน้าทำเนียบคือ ไม่ทำอะไรให้โดยเด็ดขาด
ผู้ปกครองควรใช้ความโอบอ้อมอารีให้เป็นประโยชน์ ตรงนี้ผมว่าเป็นข้อดีของท่าน ที่ท่านใจดีไม่แยกมิตรแยกศัตรู คิดว่า ที่ผ่านมาแล้วก็แล้วไป เขาคงเข้าใจแล้ว เขาไม่เล่นการเมืองแล้ว อนาคตลูกเมียก็ฝากไว้ให้ท่าน
ผู้ปกครองต้องรักษาคำพูด สิ่งนี้พิสูจน์ได้ชัดคือเรื่องการที่ท่านรับปากกับพนักงานไอทีวี ว่าจะไม่ตกงาน จอไม่ดำ แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
แล้วก็ไม่ทราบว่ารับปากอะไรไว้กับทักษิณบ้างหรือเปล่า แต่ดูอาการแล้วเหมือนจะมีอะไรรับปากรับคำกันไว้อยู่
ระหว่างคนรอบข้างที่ฉลาดกับจงรักภักดี ผู้ปกครองควรเลือกคนรอบข้างที่จงรักภักดีมากกว่า เราจึงไม่แปลกใจที่การทำงานของรัฐบาลชุดนี้ไม่เข้าเป้าเข้าตา ถนัดแต่ทำเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง อยู่ในกรอบของ ครม. ไม่กล้าแตกแถว
การที่ผมเขียนมาอย่างนี้มิใช่จะมาตำหนิท่านฝ่ายเดียว แต่อยากจะให้ท่านใช้เวลาที่เหลืออยู่อีกไม่กี่เดือนนี้ กลับมาเอาจริงเอาจังในการทำงานเพื่อชาติมากขึ้น ผมใจหายครับ ผลสำรวจวันนี้ของเอแบคโพลล์คะแนนความนิยมในตัวท่านเริ่มลดลงอย่างน่าใจหาย ถึงขั้นอยากเปลี่ยนนายกฯ กันเลยทีเดียว
สิ่งที่ท่านอาจทำได้ขณะนี้ คือการทำในสิ่งที่ควรทำ จัดการในสิ่งที่ควรจัดการ ผมไม่ได้เรียกร้องอะไรมากนักใช่ไหมครับ