รมช.พม.ยอมรับขบวนการลักเด็กไปค้ามนุษย์ ขายแรงงาน ยังเป็นปัญหาสำคัญที่ไม่สามารถแก้ให้หมดไปได้ ประสานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมหาแนวทางแก้ปัญหา 9 เมษายนนี้ ขณะที่สถิติในรอบ 3 ปี พบเด็กสูญหายกว่า 700 ราย อายุต่ำกว่า 18 ปีมากที่สุด โดยเฉพาะช่วงปิดเทอม 2549
นพ.พลเดช ปิ่นประทีป รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า ปัญหาเด็กหายโดยแก๊งลักเด็ก เพื่อนำไปค้ามนุษย์และขายแรงงาน เป็นปัญหาสำคัญที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมี แต่มีจริง และไม่มีแนวโน้มหมดไป จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง โดยอาศัยความร่วมมือทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการติดตามคนหายกลับมา ซึ่งได้หารือเบื้องต้นกับตำรวจท้องที่ ว่าจะต้องปรับให้มีความรวดเร็วและประสานกับเครือข่ายสังคม เช่น ถ้ามีกรณีเด็กหาย จะประสานศูนย์ประชาบดีของ พม.อย่างไร และต้องมีประกาศเด็กหาย โดยติดรูปที่ตามโรงพัก และสื่อต่าง ๆ
ทั้งนี้ ในวันที่ 9 เมษายนนี้ พม. จะจัดประชุมปัญหาแก๊งลักเด็ก เพื่อจุดประกายให้สังคมตระหนักถึงความรุนแรงของปัญหา พร้อมทั้งหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรุงเทพมหานคร
ทางด้านนายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัด พม. เปิดเผยว่า สถิติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า ตั้งแต่ปี 2547 มีเด็กสูญหายจำนวน 755 ราย เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีมากที่สุด ช่วงเวลาเกิดขึ้นมากในช่วงปิดเทอม ซึ่งเฉพาะปี 2549 มีเด็กสูญหายไป 82 ราย และในช่วงปิดเทอมตั้งแต่ตุลาคม 2549-มีนาคม 2550 เด็กหายไปแล้ว 14 ราย สำหรับมาตรการป้องกันและแก้ไข ประกอบด้วย 2 เรื่องสำคัญ คือ มาตรการที่ 1 การเฝ้าระวังตั้งแต่ครอบครัวและชุมชน โดยได้ทำหนังสือไปถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติและจังหวัดต่าง ๆ ให้ช่วยประสานไปยังผู้นำชุมชนและเครือข่ายอาสาสมัครแล้ว พร้อมทั้งให้สอนเด็ก ๆ อย่าเชื่อคนง่าย มาตรการที่ 2 คือการเฝ้าติดตาม โดยต้องมีการแจ้งหายโดยเร็วที่สุด พร้อมข้อมูล รูปภาพ เพื่อให้การติดตามเด็กกลับมาทำได้อย่างรวดเร็ว
นพ.พลเดช ปิ่นประทีป รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า ปัญหาเด็กหายโดยแก๊งลักเด็ก เพื่อนำไปค้ามนุษย์และขายแรงงาน เป็นปัญหาสำคัญที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมี แต่มีจริง และไม่มีแนวโน้มหมดไป จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง โดยอาศัยความร่วมมือทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการติดตามคนหายกลับมา ซึ่งได้หารือเบื้องต้นกับตำรวจท้องที่ ว่าจะต้องปรับให้มีความรวดเร็วและประสานกับเครือข่ายสังคม เช่น ถ้ามีกรณีเด็กหาย จะประสานศูนย์ประชาบดีของ พม.อย่างไร และต้องมีประกาศเด็กหาย โดยติดรูปที่ตามโรงพัก และสื่อต่าง ๆ
ทั้งนี้ ในวันที่ 9 เมษายนนี้ พม. จะจัดประชุมปัญหาแก๊งลักเด็ก เพื่อจุดประกายให้สังคมตระหนักถึงความรุนแรงของปัญหา พร้อมทั้งหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรุงเทพมหานคร
ทางด้านนายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัด พม. เปิดเผยว่า สถิติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า ตั้งแต่ปี 2547 มีเด็กสูญหายจำนวน 755 ราย เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีมากที่สุด ช่วงเวลาเกิดขึ้นมากในช่วงปิดเทอม ซึ่งเฉพาะปี 2549 มีเด็กสูญหายไป 82 ราย และในช่วงปิดเทอมตั้งแต่ตุลาคม 2549-มีนาคม 2550 เด็กหายไปแล้ว 14 ราย สำหรับมาตรการป้องกันและแก้ไข ประกอบด้วย 2 เรื่องสำคัญ คือ มาตรการที่ 1 การเฝ้าระวังตั้งแต่ครอบครัวและชุมชน โดยได้ทำหนังสือไปถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติและจังหวัดต่าง ๆ ให้ช่วยประสานไปยังผู้นำชุมชนและเครือข่ายอาสาสมัครแล้ว พร้อมทั้งให้สอนเด็ก ๆ อย่าเชื่อคนง่าย มาตรการที่ 2 คือการเฝ้าติดตาม โดยต้องมีการแจ้งหายโดยเร็วที่สุด พร้อมข้อมูล รูปภาพ เพื่อให้การติดตามเด็กกลับมาทำได้อย่างรวดเร็ว