"ไพบูลย์"เผยวงจรอุบาทว์ แค่ 25 วินาที เด็กไทยท่องเว็บโป๊ ดูคลิปฉาว ซื้อหนังเอ็กซ์ โทร.1900 คุยซื้อบริการทางเพศ เผยอาจสั่งปิดบริการ 1900 หลังทำให้เด็กหายไปแล้วนับ 10 ราย ขณะที่เด็ก 1 ใน 10 คน มีแนวโน้มมีเซ็กซ์กับคนที่รู้จักทางเน็ตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ระบุ ม.ค.เดือนเดียว คนไทยเจาะเน็ตค้นคำว่า “เซ็กซ์” 5 แสนกว่าครั้ง “รัฐบาลขิงแก่” ประกาศตั้งคณะกรรมระดับชาติสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ คุมทั้งระบบ ทีวี-วิทยุ-โทรศัพท์-เน็ต-หนัง ล้อมคอก
วานนี้(28 มี.ค.)นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)กล่าวว่า ปัจจุบันสื่อสมัยใหม่ อันได้แก่ อินเทอร์เน็ต วีซีดี หรือแม้กระทั่งสื่อดั้งเดิมทั้งหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ และวิทยุ กลายเป็นที่มาปัญหาสำคัญในสังคมไทยที่จะต้องนำไปสู่การดำเนินมาตรการจัดการสื่อที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะสื่ออินเทอร์เน็ต ที่กลายเป็นช่องทางที่เด็กและเยาวชนเข้าถึงได้ง่าย
ปัจจุบันพบว่าในประเทศไทย มีเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม ในเชิงยั่วยุเรื่องเพศราว 5 แสนหน้าเว็บ และสิ่งที่ระบาดเร็วที่สุดขณะนี้คือ คลิปวิดีโอ แสดงภาพนุ่งน้อยห่มน้อยของเด็กสาว ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ มีข่าวผู้ที่หน้าเหมือนดาราถ่ายคลิปไม่เหมาะสม โดยในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ กลับมีผู้เข้าดูคลิปนี้ผ่านอินเทอร์เน็ตแล้วกว่า 3 แสนครั้ง
ที่สำคัญคือการเผยแพร่คลิปลักษณะนี้จะทำกันเป็นขบวนการ การตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบเว็บไซต์ที่เผยแพร่คลิปโป๊ เปลือยของเด็กวัยรุ่น แบบโจ่งแจ้งอย่างน้อย 250 เว็บไซต์ และมีสปอนเซอร์สนับสนุนมากกว่า 250 ราย
“เด็กและเยาวชนไทยจึงกลายเป็นทั้งผู้แสดง และผู้ดู เมื่อต่ออินเทอร์เน็ตแล้วใช้เวลาเพียง 25 วินาทีเท่านั้น ในการเข้าเว็บไม่เหมาะสม เช่น เว็บโป๊ ต่างจากสมัยก่อนที่กว่าจะเจอหนังสือ หรือวิดีโอโป๊ ต้องใช้เวลานาน งานวิจัยล่าสุดพบว่าเด็กเจอสื่อลามกผ่านทางอินเทอร์เน็ตมากเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมา คือ วีซีดี และหนังสือในอัตราส่วน 4 ต่อ 3 ต่อ 1 ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า สื่ออินเทอร์เน็ตที่ไม่เหมาะสม นำไปสู่ปัญหาทางเพศ ความรุนแรง อาชญากรรม ของเยาวชน ที่ถูกกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นช่องทางล่อลวงของมิจฉาชีพ เพราะเครือข่ายเว็บคลิปวิดีโอ เหล่านี้ จะรวบรวมรายชื่อ ข้อมูลเบื้องต้น อายุ เพศ อีเมล์ ให้ติดต่อถึงตัวเด็กได้ทันที ศูนย์ข้อมูลคนหายของมูลนิธิกระจกเงา ระบุว่า มีเด็กหายเพราะถูกล่อลวงผ่านเว็บแล้ว 19 คน อายุแค่ 13-15 ปีเท่านั้น" นายไพบูลย์ กล่าว
นอกจากนี้ บริการ 1900 ได้กลายเป็นภัยร้ายสำหรับเยาวชน ซึ่งส่วนใหญ่จะโฆษณาเชิญชวนยั่วยุเรื่องเพศ ขายบริการ อย่างเปิดเผยไม่เกรงกลัวกฎหมาย อาทิ “โทร.เบอร์นี้ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์เรื่องเพศ” “นักศึกษาทำงาน side-line ขายตัว ... โทร.1900 xxx xxxx" ที่กระตุ้นให้เด็กอยากลอง อยากรู้ ซึ่งจากกรณีนี้มีเด็กหายแล้ว 10 ราย โดยที่หายไปเพราะการโทร.คุยกับคนแปลกหน้าผ่านทางบริการนี้ แล้วถูกล่อลวง
ขณะเดียวกันอีกบริการในเว็บ ก็คือ การแลกเปลี่ยน ซื้อขาย วีซีดี ดีวิดี โป๊ ธุรกิจทั้ง 2 ชนิด ทำรายได้มหาศาล ขณะที่เด็กไทยถูกล่อลวง หรือไม่ก็ตัดสินใจใช้ชีวิตแบบผิดๆ ตามข้อมูลที่ได้รับ เรื่องนี้จึงเป็นเพียงกระบวนการสื่อที่ไม่เหมาะสม ทั้งทางอินเทอร์เน็ต และโทรศัพท์ ที่กำลังทำร้ายเด็กไทย และที่สำคัญเด็ก 1 ใน 10 คน มีแนวโน้มมีเพศสัมพันธ์กับคนที่รู้จักทางเน็ตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่เด็ก 1 ใน 3 คน เคยถูกผู้ที่ไม่รู้จักติดต่อมาหา ซึ่งตนถือว่าสถานการณ์เข้าขั้นรุนแรงและยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในสังคมไทย
“จากข้อมูลของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ระบุว่า ปี 49 มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วประเทศไทย 8.4 ล้านคน ครึ่งหนึ่งคือเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 25 ปี ซึ่งคาดการณ์ว่า ในปี 50 ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจะเพิ่มเป็น 13 ล้านคน ดังนั้น จะมีเด็กใช้อินเทอร์เน็ตราว 6.5 ล้าน ที่จะกลายเป็นกลุ่มเสี่ยง ข้อมูลระบุด้วยว่าปี 49 คนไทย ค้นหาคำว่าเซ็กซ์ผ่านอินเทอร์เน็ต 5 ล้าน 8 แสนครั้ง ขณะที่เพียงเดือนเดียวของปีนี้ คือเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ค้นหาคำว่าเซ็กซ์แล้ว 5 แสน 2 หมื่นกว่าครั้ง จึงถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันสร้างสังคมที่ดีสำหรับเด็ก โดยเริ่มจากสื่อรอบตัวเด็กก่อน" นายไพบูลย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาสื่อมาเหมาะสมอย่างเป็นระบบทั้งสื่อหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ อินเทอร์เน็ต โดยได้ตั้งคณะกรรมกรรมสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เพื่อขจัดสื่อร้าย ขยายสื่อดี ประมวลสถานการณ์ กำหนดมาตรการดำเนินการ ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีก็เห็นชอบโดยให้มี รมต.และตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการทั้งภาครัฐ และ เอกชน อาทิ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ Search engines ต่างๆ ทั้ง Google MSN เพื่อระดมความร่วมมือทั้งภาครัฐและประชาชน โดยอาศัยพลังทางสังคมเป็นหลัก ที่จะดูแลสื่อทุกชนิด อาทิ ทีวี วิทยุ โทรศัพท์ นิตยสาร ภาพยนตร์ เพราะสื่อไม่เหมาะสมกับเด็ก กว้างขวางเกินที่แต่ละหน่วยงานจะจัดการเอง อีกทั้งหลายกรณีเป็นเรื่องข้ามกระทรวง หรือข้ามไปสู่ผู้ประกอบการในการตรวจสอบ ควบคุม และบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างมีประสิทธิภาพ ระยะแรกจะเริ่มจากเรื่องเร่งด่วน เช่น สื่อในระบบอินเทอร์เน็ต และสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศก่อน โดยจะประชุมครั้งแรก วันที่ 30 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาร่วมกัน ซึ่งตนยินดีเปิดรับทุกคำแนะนำผ่าน blog ของตนที่ paiboon.gotoknow.org
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการปิดบริการ 1900 หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า คงเป็นประเด็นหนึ่งที่จะต้องพิจารณา
วานนี้(28 มี.ค.)นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)กล่าวว่า ปัจจุบันสื่อสมัยใหม่ อันได้แก่ อินเทอร์เน็ต วีซีดี หรือแม้กระทั่งสื่อดั้งเดิมทั้งหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ และวิทยุ กลายเป็นที่มาปัญหาสำคัญในสังคมไทยที่จะต้องนำไปสู่การดำเนินมาตรการจัดการสื่อที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะสื่ออินเทอร์เน็ต ที่กลายเป็นช่องทางที่เด็กและเยาวชนเข้าถึงได้ง่าย
ปัจจุบันพบว่าในประเทศไทย มีเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม ในเชิงยั่วยุเรื่องเพศราว 5 แสนหน้าเว็บ และสิ่งที่ระบาดเร็วที่สุดขณะนี้คือ คลิปวิดีโอ แสดงภาพนุ่งน้อยห่มน้อยของเด็กสาว ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ มีข่าวผู้ที่หน้าเหมือนดาราถ่ายคลิปไม่เหมาะสม โดยในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ กลับมีผู้เข้าดูคลิปนี้ผ่านอินเทอร์เน็ตแล้วกว่า 3 แสนครั้ง
ที่สำคัญคือการเผยแพร่คลิปลักษณะนี้จะทำกันเป็นขบวนการ การตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบเว็บไซต์ที่เผยแพร่คลิปโป๊ เปลือยของเด็กวัยรุ่น แบบโจ่งแจ้งอย่างน้อย 250 เว็บไซต์ และมีสปอนเซอร์สนับสนุนมากกว่า 250 ราย
“เด็กและเยาวชนไทยจึงกลายเป็นทั้งผู้แสดง และผู้ดู เมื่อต่ออินเทอร์เน็ตแล้วใช้เวลาเพียง 25 วินาทีเท่านั้น ในการเข้าเว็บไม่เหมาะสม เช่น เว็บโป๊ ต่างจากสมัยก่อนที่กว่าจะเจอหนังสือ หรือวิดีโอโป๊ ต้องใช้เวลานาน งานวิจัยล่าสุดพบว่าเด็กเจอสื่อลามกผ่านทางอินเทอร์เน็ตมากเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมา คือ วีซีดี และหนังสือในอัตราส่วน 4 ต่อ 3 ต่อ 1 ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า สื่ออินเทอร์เน็ตที่ไม่เหมาะสม นำไปสู่ปัญหาทางเพศ ความรุนแรง อาชญากรรม ของเยาวชน ที่ถูกกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นช่องทางล่อลวงของมิจฉาชีพ เพราะเครือข่ายเว็บคลิปวิดีโอ เหล่านี้ จะรวบรวมรายชื่อ ข้อมูลเบื้องต้น อายุ เพศ อีเมล์ ให้ติดต่อถึงตัวเด็กได้ทันที ศูนย์ข้อมูลคนหายของมูลนิธิกระจกเงา ระบุว่า มีเด็กหายเพราะถูกล่อลวงผ่านเว็บแล้ว 19 คน อายุแค่ 13-15 ปีเท่านั้น" นายไพบูลย์ กล่าว
นอกจากนี้ บริการ 1900 ได้กลายเป็นภัยร้ายสำหรับเยาวชน ซึ่งส่วนใหญ่จะโฆษณาเชิญชวนยั่วยุเรื่องเพศ ขายบริการ อย่างเปิดเผยไม่เกรงกลัวกฎหมาย อาทิ “โทร.เบอร์นี้ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์เรื่องเพศ” “นักศึกษาทำงาน side-line ขายตัว ... โทร.1900 xxx xxxx" ที่กระตุ้นให้เด็กอยากลอง อยากรู้ ซึ่งจากกรณีนี้มีเด็กหายแล้ว 10 ราย โดยที่หายไปเพราะการโทร.คุยกับคนแปลกหน้าผ่านทางบริการนี้ แล้วถูกล่อลวง
ขณะเดียวกันอีกบริการในเว็บ ก็คือ การแลกเปลี่ยน ซื้อขาย วีซีดี ดีวิดี โป๊ ธุรกิจทั้ง 2 ชนิด ทำรายได้มหาศาล ขณะที่เด็กไทยถูกล่อลวง หรือไม่ก็ตัดสินใจใช้ชีวิตแบบผิดๆ ตามข้อมูลที่ได้รับ เรื่องนี้จึงเป็นเพียงกระบวนการสื่อที่ไม่เหมาะสม ทั้งทางอินเทอร์เน็ต และโทรศัพท์ ที่กำลังทำร้ายเด็กไทย และที่สำคัญเด็ก 1 ใน 10 คน มีแนวโน้มมีเพศสัมพันธ์กับคนที่รู้จักทางเน็ตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่เด็ก 1 ใน 3 คน เคยถูกผู้ที่ไม่รู้จักติดต่อมาหา ซึ่งตนถือว่าสถานการณ์เข้าขั้นรุนแรงและยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในสังคมไทย
“จากข้อมูลของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ระบุว่า ปี 49 มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วประเทศไทย 8.4 ล้านคน ครึ่งหนึ่งคือเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 25 ปี ซึ่งคาดการณ์ว่า ในปี 50 ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจะเพิ่มเป็น 13 ล้านคน ดังนั้น จะมีเด็กใช้อินเทอร์เน็ตราว 6.5 ล้าน ที่จะกลายเป็นกลุ่มเสี่ยง ข้อมูลระบุด้วยว่าปี 49 คนไทย ค้นหาคำว่าเซ็กซ์ผ่านอินเทอร์เน็ต 5 ล้าน 8 แสนครั้ง ขณะที่เพียงเดือนเดียวของปีนี้ คือเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ค้นหาคำว่าเซ็กซ์แล้ว 5 แสน 2 หมื่นกว่าครั้ง จึงถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันสร้างสังคมที่ดีสำหรับเด็ก โดยเริ่มจากสื่อรอบตัวเด็กก่อน" นายไพบูลย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาสื่อมาเหมาะสมอย่างเป็นระบบทั้งสื่อหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ อินเทอร์เน็ต โดยได้ตั้งคณะกรรมกรรมสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เพื่อขจัดสื่อร้าย ขยายสื่อดี ประมวลสถานการณ์ กำหนดมาตรการดำเนินการ ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีก็เห็นชอบโดยให้มี รมต.และตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการทั้งภาครัฐ และ เอกชน อาทิ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ Search engines ต่างๆ ทั้ง Google MSN เพื่อระดมความร่วมมือทั้งภาครัฐและประชาชน โดยอาศัยพลังทางสังคมเป็นหลัก ที่จะดูแลสื่อทุกชนิด อาทิ ทีวี วิทยุ โทรศัพท์ นิตยสาร ภาพยนตร์ เพราะสื่อไม่เหมาะสมกับเด็ก กว้างขวางเกินที่แต่ละหน่วยงานจะจัดการเอง อีกทั้งหลายกรณีเป็นเรื่องข้ามกระทรวง หรือข้ามไปสู่ผู้ประกอบการในการตรวจสอบ ควบคุม และบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างมีประสิทธิภาพ ระยะแรกจะเริ่มจากเรื่องเร่งด่วน เช่น สื่อในระบบอินเทอร์เน็ต และสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศก่อน โดยจะประชุมครั้งแรก วันที่ 30 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาร่วมกัน ซึ่งตนยินดีเปิดรับทุกคำแนะนำผ่าน blog ของตนที่ paiboon.gotoknow.org
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการปิดบริการ 1900 หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า คงเป็นประเด็นหนึ่งที่จะต้องพิจารณา