xs
xsm
sm
md
lg

‘ธรรมรักษ์’พยานยุบ ทรท. ปัดจ้างพรรคเล็กเลือกตั้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไต่สวนยุบ ทรท.นัด 11 “ธรรมรักษ์” อ้างรับผิดชอบภาคอีสาน ไม่จำเป็นต้องจ้างพรรคเล็กลงเลือกตั้งภาคใต้ หนีเกณฑ์ 20 % แถมไม่มีเงินจ่ายใครเพราะจนที่สุดใน ครม. ระบุไม่ให้ความสำคัญกับการเลือกตั้ง 2 เม.ย.เหตุถูกคว่ำบาตราจึงทำให้ไม่เป็นที่ยอมรับ ด้าน ทรท.เตรียมทำซีดีบันทึกคำให้การคดียุบพรรคแจกทั่วประเทศ

วานนี้ ( 27 มี.ค.) คณะตุลาการรัฐธรรรมนูญได้ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนครั้งที่ 11 ในคำร้องที่อัยการสูงสุดขอให้พิจารณาสั่งยุบพรรคไทยรักไทย พรรคพัฒนาชาติไทย และพรรคแผ่นดินไทย โดยเป็นการไต่สวนพยานฝ่ายพรรคไทยรักไทย ผู้ถูกร้อง รวม 7 ปาก

โดยในส่วนของพล.อ. ยุทธศักดิ์ ศศิประภา อดีตรมช.กลาโหม ได้ยื่นบันทึกคำให้การที่คู่กรณีไม่ติดใจสงสัย คณะตุลาการฯจึงได้ตัดพยานปากนี้ออก

พล.อ. ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีตรมว.กลาโหม และรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นพยานสำคัญเพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ว่าจ้างพรรคเล็ก ลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อหนีเกณฑ์ 20 % ให้การว่า เคยดำรงตำแหน่งประธานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) มีหน้าที่คัดเลือกผู้สมัครและจัดแผนรณรงค์เลือกตั้งในภาคอีกสานให้กับพรรค ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการหาผู้สมัครในภาคอื่นๆโดยเฉพาะภาคใต้ตามที่มีการกล่าวหาว่ามีการจ้างผู้สมัครพรรคเล็กลงสมัคร ส่วนค่าใช้จ่าย ในการเลือกตั้งของผู้สมัครนั้นเป็นหน้าที่ของเหรัญญิกพรรค ตนเองไม่เคยจ่ายและส.ส.มักไม่ค่อยมาขอความช่วยเหลือเพราะรู้ดีว่าตนเป็นรัฐมนตรีที่จนที่สุดในครม.

“ที่อ้างว่าผมให้นายทวี สุวรรณพัฒน์ เป็นตัวกลางไปติดต่อจ้างพรรคเล็กลงสมัครรับเลือกตั้งก็ไม่จริงเพราะพื้นที่ที่กล่าวอ้างอยู่ในภาคใต้ซึ่งนายวันมูฮะหมัดนอร์ มะทา ดูแลอยู่ ไม่ใช่ภาคอีสานที่รับผิดชอบซึ่งมั่นใจว่าแม้ผู้สมัครของพรรคไม่มีคู่แข่ง ก็ได้คะแนนเกินร้อยละ 20 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องไปจ้าง พรรคเล็กมาลง อีกทั้งประเมินสถานการณ์เลือกตั้ง 2 เม.ย. 2549 แล้วว่าระบบนี้จะไปไม่ได้ เพราะมีการคว่ำบาตรจากพรรคการเมืองอื่น ทำให้ไม่เกิดการยอมรับ จึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งครั้งนี้เท่าใดนัก”

ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดที่หน้าห้องทำงานในกระทรวงกลาโหมของตน ที่มีการระบุว่า นายทวีพาแกนนำพรรคเล็กไปพบเพื่อรับเงินนั้น กับนายทวี ก็รู้จักในฐานะผู้สื่อข่าวที่หาข่าวภาคใต้มาให้เท่านั้น ไม่ได้สนิทขนาดกอดคอกินเหล้า อย่างที่มีการอ้างกัน และกลุ่มดังกล่าวก็ไม่ได้เข้าไปพบ ซึ่งเรื่องดังกล่าวคิดว่ามีวัตถุประสงค์คือ1.พวกนายหน้าที่ไปติดต่อ คิดจะแสวงหาประโยชน์เพราะคิดว่าตนจะควักเงินจ่ายง่าย ก็เลยไปต้มหมูกัน เมื่อไม่ได้ตามประสงค์ ก็ไปหาอีกฝ่ายหนึ่ง 2.เป็นเรื่องของผลประโยชน์ทางการเมืองที่ต้องการทำลายตน

“กล้องวงจรปิดที่กระทรวงกลาโหมผมเป็นคนสั่งให้ติดตั้ง เพราะเห็นว่า บ้านเมือง มีปัญหาเรื่องความสงบเรียบร้อย ดังนั้นถ้าผมจะทำผิด คงไม่ไปทำที่หน้าห้อง ทำงานตัวเองที่ติดกล้องอยู่เด็ดขาด ที่ภาพวงจรปิดหลุดออกไปแต่ยังไม่ฟ้องร้อง ก็เพราะคิดว่า เมื่อหน่วยงานความมั่นคงมีเจ้าหน้าที่ที่ซื้อด้วยเงินได้ ประเทศก็จะไปไม่รอดจึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาตรวจสอบว่าหลุดออกไปได้อย่างไร”

ด้าน ล.ต. พฤณฑ์ สุวรรณทัต อดีต ผบ.พล.1 รอ. และนายสมาน วงศ์วรายุทธ ผู้ตรวจราชการ กรมการปกครอง อดีตปลัดจังหวัดหนองคาย ที่อ้างว่าเป็นผู้เข้าพบ พล.อ.ธรรมรักษ์ในห้องทำงานวันดังกล่าว ให้การตรงกันว่า ระหว่างเข้าพบพูดคุยกับพล.อ.ธรรมรักษ์ตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึง18.00 น.ไม่มีบุคคลอื่นเข้าพบ และระหว่างนั้นพล.อ.ธรรมรักษ์ก็ไม่ได้ออกไปจากห้องทำงานเลย

พล.อ. พีรพงษ์ จิระวงศ์ นายทหารฝ่ายเสธ.ประจำรมว.กลาโหม และพ.อ.เชิดพงษ์ บุณยเกียรติ นายทหารประสานงานด้านการข่าวความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้การยืนยันว่าวันดังกล่าวนายทวีพาพวกมารอพบ พล.อ.ธรรมรักษ์จริง แต่ไม่ได้เข้าพบ และไม่มีการมอบเงินให้กับหน้าห้องรมว.กลาโหมเด็ดขาด

ด้านพล.ต.มล.สุปรีดี ให้การว่า จากการสอบสวนภาพจากกล้องวงจรปิด หน้าห้องทำงาน รมว.กลาโหมขณะนั้น พบว่าเป็นการพิมพ์รูปดังกล่าวจากห้องควบคุม ที่กระทรวง อย่างไรก็ตามยอมรับว่าภาพที่มีการเผยแพร่ออกไปแตกต่างจากภาพที่บันทึกไว้ในซีดีที่อัยการสูงสุดนำมาเป็นหลักฐาน ซึ่งไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือตกแต่งภาพหลังจากที่นำซีดีดังกล่าวไปทำสำเนาหรือไม่

ภายหลังการไต่สวน พล.อ.ธรรมรักษ์ ให้สัมภาษณ์ว่า แม้ช่วงที่ผ่านมากระแสสังคมจะพุ่งเป้ามาที่ตน แต่ก็ไม่หนักใจ ส่วนที่คำให้การของพ.ต.ท ทักษิณ ในคดีนี้เหมือน เป็นการระบุว่าเป็นการการกระทำของบุคคลไม่เกี่ยวกับพรรคไทยรักไทย พล.อ.ธรรมรักษ์ กล่าวว่า “อันนั้นคุณ มองเอง ผมไม่ได้มอง ผมไม่ใช่ผู้ต้องหา ซึ่งพรรดก็ไม่มีความเกี่ยวข้อง”

นาย จาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า หลังจากนี้ แกนนำและสมาชิกพรรคคงจะมาฟังการไต่สวนทุกนัดเพื่อใช้เป็นประโยชน์ในการ เตรียมแถลงปิดคดี และเมื่อคณะตุลาการรัฐธรรมนูญอนุญาตให้เผยแพร่คำให้การได้ พรรคก็จะเตรียมจัดทำเอกสาร ซีดี โดยเลือกเฉพาะคำให้การพยานที่สำคัญๆ แจกจ่าย ให้ประชาชนและนักศึกษาวิชากฎหมายมหาชนที่สนใจเพื่อเรียนรู้ทำความเข้าใจ รวมทั้งเผยแพร่ผ่านเว็บไซด์ด้วย

อย่างไรก็ตามจากที่ได้รับการไต่สวน แม้ตอนแรกจะหนักใจกับการวิพากษ์ วิจารณ์ภายนอกรวมถึง คมช.ที่มักจะกล่าวในทำนองว่าพรรคถูกยุบแน่ แต่จะเห็นว่า คำให้การของพยานแม้แต่ของฝ่ายอัยการสูงสุดก็ให้การเป็นประโยชน์ต่อพรรค

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ในวันที่ 30 มี.ค จะไปให้ข้อมูลต่อ กกต.กรณีลงพื้นที่พบ ประชาชนภาคอีสาน ตามที่กกต.เชิญไปหารือ ซึ่งกกต.ไม่ควรมีหน้าที่สืบสวนตน เพราะหน้าที่ของกกต.คือการส่งเสริมพรรคการเมือง ซึ่งก็ควรจะมีการชี้แจงให้กับคมช. เข้าใจบทบาทพรรคการเมืองมากกว่านี้ การสอบสอบสวนเป็นหน้าที่ของตำรวจ
กำลังโหลดความคิดเห็น