"บิ๊กบัง"พูดชัดไม่เหมาะกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ยันไม่มีปัญหากับรัฐบาลและนายกฯ มั่นใจคตส.ไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง เอาผิดทักษิณได้แน่ ด้าน"สุรยุทธ์"ไม่หวั่น สนช.เตรียมเคลื่อนไหวซักฟอก พร้อมชี้แจงทุกข้อสงสัย "บรรหาร"ชม"สนธิ"น่ารัก เชื่อไม่สืบทอดอำนาจ
หลังจากที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ระหว่างการแถลงผลงานครบรอบ 6 เดือน เมื่อวันที่ 20มี.ค.ที่ผ่านมา ด้วยคำพูดในลักษณะที่ต้องตีความ ถึงเรื่องการสืบทอดอำนาจในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมามากมาย
เมื่อเช้าวานนี้ (21มี.ค.)พล.อ.สนธิ ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษ รายการสยามยามเช้านี้ ทาง ททบ.5 ถึงการสืบทอดอำนาจของ คมช.โดยเฉพาะเรื่องตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในอนาคต ว่า ประเทศชาติบ้านเมืองเป็นของเรา ถ้าเผื่อเราไปคิดว่าไม่ใช่ของเรา เป็นของทุกคนในชาติความมุ่งมั่นที่จะทำงานมันก็น้อยลง แต่ถ้าบอกว่าเป็นของเรา ก็อยากทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ชาติบ้านเมืองเรามีความเข้มแข็งให้มั่นคง อะไรก็แล้วแต่ที่เราสามารถที่จะช่วยได้ แม้จะเกษียณแล้วเราก็จะช่วย ไม่ได้หมายความว่า เราต้องเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นอะไรก็ได้ เยอะแยะไป
เมื่อถามว่า เคยคิดหรือไม่ในเรื่องบทบาททางการเมือง พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ด้วยวัตถุประสงค์และความตั้งใจของตัวเอง และสิ่งแวดล้อมแล้ว มีความเป็นไปได้ยาก เมื่อถามย้ำว่า หากมีคนอื่นปูทางให้จะรับหรือปฏิเสธ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าเป็นแค่ผบ.ทบ.และ มารับภาระในบทบาทของประธาน คมช.ก็ยากยิ่งสิ่งใด
"หากถามว่าเป็นตำแหน่งที่สูงขึ้น และมีความรับผิดชอบขนาดนั้น เป็นความสามารถเราหรือเปล่า เรามุ่งหวังเหลือเกินที่อยากเห็นนายกรัฐมนตรีที่มีทุกอย่างสมบูรณ์พร้อม ซึ่งผมเองไม่เหมาะที่จะเป็นอย่างนั้น ผมคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้"พล.อ.สนธิ กล่าว
ส่วนสมาชิก คมช.มีความคิดที่จะเล่นการเมืองหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ตนคุยกับเพื่อนๆและน้องใน คมช.ทุกคนไม่ได้ใฝ่ฝันทะเยอทะยาน ทุกคนมีนิสัยอย่างนั้น คนเราที่มีลักษณะคิดอยากเป็นใหญ่เป็นโตอะไรอย่างนี้บุคลิกภาพนิสัยไม่ใช่อย่างนี้ ทุกคนในคมช.ดูแล้วเป็นคนสมถะ
เมื่อถามว่า เดือนตุลาคมนี้ ท่านจะเกษียณจากตำแหน่ง ผบ.ทบ.มีคนพยายามต่ออายุราชการให้ท่านหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า"ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร" เมื่อถามว่า แล้วบทบาทใน คมช.จะเป็นอย่างไร พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ตนก็เป็นประธาน คมช.อยู่ เมื่อถามว่าได้เลือก ผบ.ทบ.คนต่อไปในใจแล้วหรือยัง พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ก็เลือกหลายคนที่มีส่วนร่วมกัน ซึ่งในกองทัพบกมี 5 คน เกษียณไป 2 เหลือ 3 การพิจารณาในการคัดเลือกคงไม่ยากนัก ซึ่งยังไม่ปักใจว่าจะเอาใคร ซึ่งบุคลิกควรจะเป็นคนที่เวลาไหนควรจะนิ่มก็นิ่ม เวลาไหนควรจะแข็งก็ต้องแข็ง
เมื่อถามว่า มีบางคนใน คมช.ไปประสานกับพรรคการเมืองบางพรรคจริงหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของคมช. ถ้าเรานั่งทำงานอยู่ แต่ในห้องโดยไม่ได้ไปดูว่าโลกหรือสังคมเป็นอย่างไรที่เราควรจะศึกษาตนว่ามันคับแคบ ดังนั้นการแก้ปัญหาภาพรวมก็แก้ไม่ได้ เราต้องไปคุยกันว่าพรรคการเมืองแต่ละพรรค เผื่อเรามีโอกาสสัมผัส เราจะรู้ว่าแต่ละพรรคคิดอย่างไร และการเดินทางของแต่ละพรรคเขาคิดอย่างไร เราจะได้หาหนทางในการแก้
"ปัจจัยที่ คมช.มองอีกอย่างคือ การลงประชามติรัฐธรรมนูญยิ่งใกล้เข้ามา ถามว่าใครช่วยเราได้ การทำความเข้าใจรัฐธรรมนูญไปสู่ประชาชนไปสู่รากแก้ว ใครดีที่สุดที่จะช่วยเรา พรรคการเมืองที่มองเห็นเขาก็สามารถช่วยเราได้ การที่เราสัมผัสนักการเมืองได้ประโยชน์ ทั้งนี้ การรู้จักหลายคนกับนักการเมืองก็พูดคุยกันตามปกติ ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณว่ากำลังจะสานต่อกับพรรคการเมือง"ประธาน คมช.กล่าว
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ คมช.ไม่พอใจผลงานรัฐบาล ถึงขั้นจะมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี จริงหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ไม่น่าจะใช่ รัฐบาลต้องเข้าใจว่า คมช.กำลังเดินไปทางไหน ตนไปก็เล่าให้ฟังว่า คมช.กำลังเดินไปทางไหน ประชาชนมีความรู้สึกอย่างไร เพื่อจะมองภาพให้ตรงกันแล้วทางครม.จะได้มาเสริมการทำงานให้ตรงกับที่ทาง คมช.ทำไว้
เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์ระหว่างตัวท่านกับนายกรัฐมนตรี มีปัญหากันหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวยืนยันว่า ไม่เคยมี ตนยังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นตรงไหน เจอกันทีก็คุยกันเป็นชั่วโมง สองชั่วโมง เรื่องโน้นเรื่องนี้ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อย เราเป็นทหาร บางทีกระแสลักษณะแบบนี้เป็นเรื่องที่เราไม่มีประสบการณ์ สิ่งที่เข้ามาถ้าเราไปอ่อนไหวกับมันก็จะกระเทือนความรู้สึก ส่วนที่มีข่าวว่านายกรัฐมนตรีจะอยู่ไม่ครบวาระนั้น พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ไม่มีปัจจัยไหนที่บ่งชี้ว่าจะต้องไปก่อนครบเทอม
เมื่อถามว่า คมช.ประเมินผลงานรัฐบาลชุดนี้อย่างไร พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ปัจจัยบ่งชี้คงลำบาก ถามว่าไปได้หรือไม่ ก็ไปได้ แต่ที่ผมพยายามเน้นตลอดเวลาว่า วัตถุประสงค์ของการปฏิรูปมี 4-5 ข้อ เอาเรื่องที่ประชาชนต้องการมาทำก็จะเกิดเป็นผลดีกับประชาชนทั้งประเทศ เมื่อถามย้ำว่า คิดถูกหรือไม่ที่เชิญ พล.อ.สุรยุทธ์ มาเป็นนายกฯ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า แล้วจะเอาใคร ตนยืนยันว่ายังหาตัวคนไม่ได้ ถ้ามองย้อนกลับมีทางเลือกใหม่ ก็ต้องเป็น พล.อ.สุรยุทธ์ อยู่
เมื่อถามว่า หลายคนเป็นห่วงว่าสถานการณ์การเมืองอาจเกิดการเผชิญหน้า พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะตัวบทกฎหมายในการควบคุมดำเนินการอยู่ และประชาชนส่วนใหญ่ก็เป็นกำลังใจให้เราอยู่ เชื่อว่าถึงขั้นที่จะมาปะทะกันอย่างที่จะเคยเกิดเมื่อ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา คงไม่น่าเป็นไปได้
เมื่อถามถึงการแถลงผลงานครบรอบ 6 เดือนของ คมช.โดยเฉพาะมีคดีใดบางที่สามารถเอาผิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พล.อ.สนธิ กล่าวว่า จากที่ได้คุยกับคณะกรรมการคตส. มีหลายคดีที่ถึงตัวอดีตท่านนายกฯ ชัดเจน เชื่อมั่นว่าเป้าประสงค์ที่ประชาชนอยากเห็น เป็นความตั้งใจของ คตส.อยู่แล้ว
**รัฐบาลพร้อมให้ สนช.ซักฟอก
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)มีการเคลื่อนไหวเพื่อจะเปิดอภิปรายทั่วไป ซักฟอกการทำงานรัฐบาลในรอบ 6 เดือน ว่า รัฐบาลพร้อมจะชี้แจงอยู่แล้ว และจะไม่ใช่การชี้แจงผลงานของรัฐบาลเพียงอย่างเดียว แต่จะชี้แจงทุกข้อสงสัยที่ สนช.มี
ด้านนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า พร้อมจะชี้แจง แต่ขณะนี้ไม่ทราบว่า สนช.ได้ประสานงานมาอย่างไร หรือไม่ ซึ่งการทำงานที่ผ่านมา แม้ประชาชนจะวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ว่าแก้ปัญหาสังคม เศรษฐกิจ การเมืองไม่ได้นั้น ก็ต้องขอชี้แจงว่า ครม.ชุดนี้ ไม่ได้เป็นนักการเมือง จึงไม่มีใครเข้าถึงหัวใจประชาชนได้แบบนักการเมือง เพราะส่วนใหญ่เป็นนักบริหารที่มีเครืองมือ และกลไกในการทำงานอยู่เดิม ในสภา ปกติการแก้ไขของนักบริหารจะไม่เกิดปัญหาแต่ในความเป็นจริงรัฐมนตรีต้องปรับตัวอย่างมาก เพราะการทำงานมีลักษณะแตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่ารัฐมนตรีทุกคนได้พยามยามทำงานอย่างเต็มที่
**ไม่ห่วงม็อบสนามหลวง
พล.อ.มนตรี สังขทรัพย์ เสนาธิการทหารบก และเลขาธิการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.)กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆในกทม.ที่พุ่งเป้าโจมตีรัฐบาล และคมช.ว่า การปฏิบัติต่างๆ เราได้มอบนโยบายให้กับกองทัพภาคที่ 1ไว้ทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว และกองทัพภาคที่ 1 ปฏิบัติตามแผน คำแนะนำตามนโยบายทุกอย่างเป็นอย่างดี ไม่มีอะไรเพิ่มเติมมาก
เมื่อถามว่า กรณีพีทีวีประกาศว่าถ้าไม่สามารถออกอากาศได้จะยืดพื้นที่ชุมนุมที่สนามหลวงเพื่อปราศัยมีความเป็นห่วงหรือไม่ พล.อ.มนตรี กล่าวว่า"ไม่ห่วง ไม่สนใจด้วย"เมื่อถามว่า เกรงหรือไม่ว่าจะทำให้คนมารวมตัวกันและขยายวงมากไป จะทำให้สถานการณ์บานปลายหรือไม่ พล.อ.มนตรี กล่าวว่า ไม่ห่วง และมีความเชื่อมั่นว่าสามารถควบคุมได้
เมื่อถามว่า จากข้อมูลในขณะนี้มีกลุ่มกองทัพมดที่จะเดินทางจากต่างจังหวัดเข้ามาในกทม. พล.อ.มนตรี กล่าวว่า “ตอนนี้ยังไม่มี หลังจากที่สอบถามและตรวจสอบแล้ว ทั้งนี้เรามีวิธีการดูแล” เมื่อถามว่า กรณีที่แท็กซี่จะกลับภูมิลำเนาแล้วจะรับคนเข้า กทม. ตรงนี้จะตรวจสอบอย่างไร พล.อ.มนตรี กล่าวว่า มีวิธีการดูแล
**"บรรหาร"ชม"สนธิ"น่ารัก
นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงการให้สัมภาษณ์ของพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เรื่องจะไม่สืบทอดอำนาจจริงหรือไม่ว่า "ผมดูท่านเป็นคนน่ารัก ผมตอบได้แค่นี้ ท่านน่ารัก พูดจายิ้มแย้มแจ่มใส ผมก็รักท่านจะให้ทำอย่างไร" เมื่อถามว่า แล้วเมื่อไรจะไปขอ นายบรรหาร กล่าวและหัวเราะเสียงดังว่า"ตายแล้ว ผมไม่ใช่ตุ๊ด คุณนี่แย่จริงเลย"
เมื่อถามว่า หากพล.อ.สนธิ รับเป็นนายกฯ หรือลงเล่นการเมืองจะให้การสนับสนุนหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ตอบไม่ได้ว่าสนับสนุน แต่คิดว่า พล.อ.สนธิ เป็นคนน่ารัก และรู้สึกชอบ แต่การชอบไม่ได้หมายความว่าจะต้องสนับสนุน หรือไม่สนับสนุน แต่ชอบเพราะท่านน่ารัก ยิ้มของท่านยิ้มเหมือนผู้หญิง ซึ่งตนเชื่อว่า แม้แต่สื่อก็คงชอบ
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า พล.อ.สนธิ ยืนยันว่าจะไม่สืบทอดอำนาจ นายบรรหาร กล่าวว่า ก็ต้องเชื่อเพราะท่านบอกว่า ไม่สืบทอด แต่ใครอย่าไปยุท่านก็แล้วกัน เมื่อถามว่าอีก 6 เดือนต่อไปนี้ จะมีอะไรแนะนำคมช.หรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ตอนนี้ตนอึดอัด อึดอัดกับการทำงานของคมช.และรัฐบาล ซึ่งเห็นว่าต้องไปในทิศทางเดียวกัน และรับลูกซึ่งกันและกัน ขณะนี้ไม่ได้รับลูกเลย เหมือนกับการทำงานปราบทุจริต ที่ครม.ไม่ยอมออกมติ ครม.สั่งการให้หน่วยงานทุกหน่วยให้ความร่วมมือกับ คตส.
"ผมพยายามประคองรัฐบาล อยากให้ช่วยผลักดันรัฐธรรมนูญออกมาให้เสร็จ และมีการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด จะช่วยทำให้สถานการณ์การเมืองคลี่คลายได้ดีที่สุด ผมประคองตรงนี้ว่า อย่าให้ล้มกลางคัน ถ้าล้มกลางคันก็ตัวใครตัวมัน"นายบรรหาร กล่าว
นายบรรหาร ยังกล่าวถึง ม็อบกลุ่มต่างๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหวว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีผลกระทบมาจากการตรวจสอบของ คตส.ที่รุกไปถึงตัว จึงก็ออกมาเคลื่อนไหว กลุ่มนั้นกลุ่มนี้ ทุกคนล้วนมีเพาเวอร์ เรื่องคตส.ก็ถือเป็นส่วนหนึ่ง บางคนก็เคยเป็นลูกป๋า ไม่น่าออกมาเป็นอย่างนี้เลย เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ก็เกาะติดบ้านสี่เสา เป็นลูกป๋า ไม่น่าจะไปว่าป๋าเลย ความจริงท่านไม่เกี่ยวข้องเลย ไปโยงท่านมาเกี่ยวข้องทำไม มันไม่ถูกต้อง ไม่ควรไปสร้างกระแส หากกิดเหตุวุ่นวายขึ้น คนที่ออกมาเคลื่อนไหวต้องรับผิดชอบ ขณะนี้เศรษฐกิจ ชะลอตัวลงมากแล้ว อย่าให้ชะลอมากกว่านี้เลย ม็อบกลุ่มต่างๆ ที่มีอยู่ต้องถามว่า มาได้อย่างไร ใครอยู่เบื้องหลัง และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่าง ๆทั้งหมดทีจัดให้มีการชุมนุมมาจากไหน เชื่อว่าสืบได้ไม่ยาก ข้อมูลมีอยู่ เช่น บางม็อบในอดีตเคยอยู่หน้ารัฐสภา เคยอดข้าว ใครเป็นแบ็คก็รู้หมด คงไม่ยากที่จะหาว่า ใครเป็นคนสนับสนุน
หลังจากที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ระหว่างการแถลงผลงานครบรอบ 6 เดือน เมื่อวันที่ 20มี.ค.ที่ผ่านมา ด้วยคำพูดในลักษณะที่ต้องตีความ ถึงเรื่องการสืบทอดอำนาจในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมามากมาย
เมื่อเช้าวานนี้ (21มี.ค.)พล.อ.สนธิ ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษ รายการสยามยามเช้านี้ ทาง ททบ.5 ถึงการสืบทอดอำนาจของ คมช.โดยเฉพาะเรื่องตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในอนาคต ว่า ประเทศชาติบ้านเมืองเป็นของเรา ถ้าเผื่อเราไปคิดว่าไม่ใช่ของเรา เป็นของทุกคนในชาติความมุ่งมั่นที่จะทำงานมันก็น้อยลง แต่ถ้าบอกว่าเป็นของเรา ก็อยากทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ชาติบ้านเมืองเรามีความเข้มแข็งให้มั่นคง อะไรก็แล้วแต่ที่เราสามารถที่จะช่วยได้ แม้จะเกษียณแล้วเราก็จะช่วย ไม่ได้หมายความว่า เราต้องเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นอะไรก็ได้ เยอะแยะไป
เมื่อถามว่า เคยคิดหรือไม่ในเรื่องบทบาททางการเมือง พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ด้วยวัตถุประสงค์และความตั้งใจของตัวเอง และสิ่งแวดล้อมแล้ว มีความเป็นไปได้ยาก เมื่อถามย้ำว่า หากมีคนอื่นปูทางให้จะรับหรือปฏิเสธ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าเป็นแค่ผบ.ทบ.และ มารับภาระในบทบาทของประธาน คมช.ก็ยากยิ่งสิ่งใด
"หากถามว่าเป็นตำแหน่งที่สูงขึ้น และมีความรับผิดชอบขนาดนั้น เป็นความสามารถเราหรือเปล่า เรามุ่งหวังเหลือเกินที่อยากเห็นนายกรัฐมนตรีที่มีทุกอย่างสมบูรณ์พร้อม ซึ่งผมเองไม่เหมาะที่จะเป็นอย่างนั้น ผมคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้"พล.อ.สนธิ กล่าว
ส่วนสมาชิก คมช.มีความคิดที่จะเล่นการเมืองหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ตนคุยกับเพื่อนๆและน้องใน คมช.ทุกคนไม่ได้ใฝ่ฝันทะเยอทะยาน ทุกคนมีนิสัยอย่างนั้น คนเราที่มีลักษณะคิดอยากเป็นใหญ่เป็นโตอะไรอย่างนี้บุคลิกภาพนิสัยไม่ใช่อย่างนี้ ทุกคนในคมช.ดูแล้วเป็นคนสมถะ
เมื่อถามว่า เดือนตุลาคมนี้ ท่านจะเกษียณจากตำแหน่ง ผบ.ทบ.มีคนพยายามต่ออายุราชการให้ท่านหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า"ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร" เมื่อถามว่า แล้วบทบาทใน คมช.จะเป็นอย่างไร พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ตนก็เป็นประธาน คมช.อยู่ เมื่อถามว่าได้เลือก ผบ.ทบ.คนต่อไปในใจแล้วหรือยัง พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ก็เลือกหลายคนที่มีส่วนร่วมกัน ซึ่งในกองทัพบกมี 5 คน เกษียณไป 2 เหลือ 3 การพิจารณาในการคัดเลือกคงไม่ยากนัก ซึ่งยังไม่ปักใจว่าจะเอาใคร ซึ่งบุคลิกควรจะเป็นคนที่เวลาไหนควรจะนิ่มก็นิ่ม เวลาไหนควรจะแข็งก็ต้องแข็ง
เมื่อถามว่า มีบางคนใน คมช.ไปประสานกับพรรคการเมืองบางพรรคจริงหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของคมช. ถ้าเรานั่งทำงานอยู่ แต่ในห้องโดยไม่ได้ไปดูว่าโลกหรือสังคมเป็นอย่างไรที่เราควรจะศึกษาตนว่ามันคับแคบ ดังนั้นการแก้ปัญหาภาพรวมก็แก้ไม่ได้ เราต้องไปคุยกันว่าพรรคการเมืองแต่ละพรรค เผื่อเรามีโอกาสสัมผัส เราจะรู้ว่าแต่ละพรรคคิดอย่างไร และการเดินทางของแต่ละพรรคเขาคิดอย่างไร เราจะได้หาหนทางในการแก้
"ปัจจัยที่ คมช.มองอีกอย่างคือ การลงประชามติรัฐธรรมนูญยิ่งใกล้เข้ามา ถามว่าใครช่วยเราได้ การทำความเข้าใจรัฐธรรมนูญไปสู่ประชาชนไปสู่รากแก้ว ใครดีที่สุดที่จะช่วยเรา พรรคการเมืองที่มองเห็นเขาก็สามารถช่วยเราได้ การที่เราสัมผัสนักการเมืองได้ประโยชน์ ทั้งนี้ การรู้จักหลายคนกับนักการเมืองก็พูดคุยกันตามปกติ ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณว่ากำลังจะสานต่อกับพรรคการเมือง"ประธาน คมช.กล่าว
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ คมช.ไม่พอใจผลงานรัฐบาล ถึงขั้นจะมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี จริงหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ไม่น่าจะใช่ รัฐบาลต้องเข้าใจว่า คมช.กำลังเดินไปทางไหน ตนไปก็เล่าให้ฟังว่า คมช.กำลังเดินไปทางไหน ประชาชนมีความรู้สึกอย่างไร เพื่อจะมองภาพให้ตรงกันแล้วทางครม.จะได้มาเสริมการทำงานให้ตรงกับที่ทาง คมช.ทำไว้
เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์ระหว่างตัวท่านกับนายกรัฐมนตรี มีปัญหากันหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวยืนยันว่า ไม่เคยมี ตนยังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นตรงไหน เจอกันทีก็คุยกันเป็นชั่วโมง สองชั่วโมง เรื่องโน้นเรื่องนี้ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อย เราเป็นทหาร บางทีกระแสลักษณะแบบนี้เป็นเรื่องที่เราไม่มีประสบการณ์ สิ่งที่เข้ามาถ้าเราไปอ่อนไหวกับมันก็จะกระเทือนความรู้สึก ส่วนที่มีข่าวว่านายกรัฐมนตรีจะอยู่ไม่ครบวาระนั้น พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ไม่มีปัจจัยไหนที่บ่งชี้ว่าจะต้องไปก่อนครบเทอม
เมื่อถามว่า คมช.ประเมินผลงานรัฐบาลชุดนี้อย่างไร พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ปัจจัยบ่งชี้คงลำบาก ถามว่าไปได้หรือไม่ ก็ไปได้ แต่ที่ผมพยายามเน้นตลอดเวลาว่า วัตถุประสงค์ของการปฏิรูปมี 4-5 ข้อ เอาเรื่องที่ประชาชนต้องการมาทำก็จะเกิดเป็นผลดีกับประชาชนทั้งประเทศ เมื่อถามย้ำว่า คิดถูกหรือไม่ที่เชิญ พล.อ.สุรยุทธ์ มาเป็นนายกฯ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า แล้วจะเอาใคร ตนยืนยันว่ายังหาตัวคนไม่ได้ ถ้ามองย้อนกลับมีทางเลือกใหม่ ก็ต้องเป็น พล.อ.สุรยุทธ์ อยู่
เมื่อถามว่า หลายคนเป็นห่วงว่าสถานการณ์การเมืองอาจเกิดการเผชิญหน้า พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะตัวบทกฎหมายในการควบคุมดำเนินการอยู่ และประชาชนส่วนใหญ่ก็เป็นกำลังใจให้เราอยู่ เชื่อว่าถึงขั้นที่จะมาปะทะกันอย่างที่จะเคยเกิดเมื่อ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา คงไม่น่าเป็นไปได้
เมื่อถามถึงการแถลงผลงานครบรอบ 6 เดือนของ คมช.โดยเฉพาะมีคดีใดบางที่สามารถเอาผิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พล.อ.สนธิ กล่าวว่า จากที่ได้คุยกับคณะกรรมการคตส. มีหลายคดีที่ถึงตัวอดีตท่านนายกฯ ชัดเจน เชื่อมั่นว่าเป้าประสงค์ที่ประชาชนอยากเห็น เป็นความตั้งใจของ คตส.อยู่แล้ว
**รัฐบาลพร้อมให้ สนช.ซักฟอก
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)มีการเคลื่อนไหวเพื่อจะเปิดอภิปรายทั่วไป ซักฟอกการทำงานรัฐบาลในรอบ 6 เดือน ว่า รัฐบาลพร้อมจะชี้แจงอยู่แล้ว และจะไม่ใช่การชี้แจงผลงานของรัฐบาลเพียงอย่างเดียว แต่จะชี้แจงทุกข้อสงสัยที่ สนช.มี
ด้านนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า พร้อมจะชี้แจง แต่ขณะนี้ไม่ทราบว่า สนช.ได้ประสานงานมาอย่างไร หรือไม่ ซึ่งการทำงานที่ผ่านมา แม้ประชาชนจะวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ว่าแก้ปัญหาสังคม เศรษฐกิจ การเมืองไม่ได้นั้น ก็ต้องขอชี้แจงว่า ครม.ชุดนี้ ไม่ได้เป็นนักการเมือง จึงไม่มีใครเข้าถึงหัวใจประชาชนได้แบบนักการเมือง เพราะส่วนใหญ่เป็นนักบริหารที่มีเครืองมือ และกลไกในการทำงานอยู่เดิม ในสภา ปกติการแก้ไขของนักบริหารจะไม่เกิดปัญหาแต่ในความเป็นจริงรัฐมนตรีต้องปรับตัวอย่างมาก เพราะการทำงานมีลักษณะแตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่ารัฐมนตรีทุกคนได้พยามยามทำงานอย่างเต็มที่
**ไม่ห่วงม็อบสนามหลวง
พล.อ.มนตรี สังขทรัพย์ เสนาธิการทหารบก และเลขาธิการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.)กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆในกทม.ที่พุ่งเป้าโจมตีรัฐบาล และคมช.ว่า การปฏิบัติต่างๆ เราได้มอบนโยบายให้กับกองทัพภาคที่ 1ไว้ทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว และกองทัพภาคที่ 1 ปฏิบัติตามแผน คำแนะนำตามนโยบายทุกอย่างเป็นอย่างดี ไม่มีอะไรเพิ่มเติมมาก
เมื่อถามว่า กรณีพีทีวีประกาศว่าถ้าไม่สามารถออกอากาศได้จะยืดพื้นที่ชุมนุมที่สนามหลวงเพื่อปราศัยมีความเป็นห่วงหรือไม่ พล.อ.มนตรี กล่าวว่า"ไม่ห่วง ไม่สนใจด้วย"เมื่อถามว่า เกรงหรือไม่ว่าจะทำให้คนมารวมตัวกันและขยายวงมากไป จะทำให้สถานการณ์บานปลายหรือไม่ พล.อ.มนตรี กล่าวว่า ไม่ห่วง และมีความเชื่อมั่นว่าสามารถควบคุมได้
เมื่อถามว่า จากข้อมูลในขณะนี้มีกลุ่มกองทัพมดที่จะเดินทางจากต่างจังหวัดเข้ามาในกทม. พล.อ.มนตรี กล่าวว่า “ตอนนี้ยังไม่มี หลังจากที่สอบถามและตรวจสอบแล้ว ทั้งนี้เรามีวิธีการดูแล” เมื่อถามว่า กรณีที่แท็กซี่จะกลับภูมิลำเนาแล้วจะรับคนเข้า กทม. ตรงนี้จะตรวจสอบอย่างไร พล.อ.มนตรี กล่าวว่า มีวิธีการดูแล
**"บรรหาร"ชม"สนธิ"น่ารัก
นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงการให้สัมภาษณ์ของพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เรื่องจะไม่สืบทอดอำนาจจริงหรือไม่ว่า "ผมดูท่านเป็นคนน่ารัก ผมตอบได้แค่นี้ ท่านน่ารัก พูดจายิ้มแย้มแจ่มใส ผมก็รักท่านจะให้ทำอย่างไร" เมื่อถามว่า แล้วเมื่อไรจะไปขอ นายบรรหาร กล่าวและหัวเราะเสียงดังว่า"ตายแล้ว ผมไม่ใช่ตุ๊ด คุณนี่แย่จริงเลย"
เมื่อถามว่า หากพล.อ.สนธิ รับเป็นนายกฯ หรือลงเล่นการเมืองจะให้การสนับสนุนหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ตอบไม่ได้ว่าสนับสนุน แต่คิดว่า พล.อ.สนธิ เป็นคนน่ารัก และรู้สึกชอบ แต่การชอบไม่ได้หมายความว่าจะต้องสนับสนุน หรือไม่สนับสนุน แต่ชอบเพราะท่านน่ารัก ยิ้มของท่านยิ้มเหมือนผู้หญิง ซึ่งตนเชื่อว่า แม้แต่สื่อก็คงชอบ
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า พล.อ.สนธิ ยืนยันว่าจะไม่สืบทอดอำนาจ นายบรรหาร กล่าวว่า ก็ต้องเชื่อเพราะท่านบอกว่า ไม่สืบทอด แต่ใครอย่าไปยุท่านก็แล้วกัน เมื่อถามว่าอีก 6 เดือนต่อไปนี้ จะมีอะไรแนะนำคมช.หรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ตอนนี้ตนอึดอัด อึดอัดกับการทำงานของคมช.และรัฐบาล ซึ่งเห็นว่าต้องไปในทิศทางเดียวกัน และรับลูกซึ่งกันและกัน ขณะนี้ไม่ได้รับลูกเลย เหมือนกับการทำงานปราบทุจริต ที่ครม.ไม่ยอมออกมติ ครม.สั่งการให้หน่วยงานทุกหน่วยให้ความร่วมมือกับ คตส.
"ผมพยายามประคองรัฐบาล อยากให้ช่วยผลักดันรัฐธรรมนูญออกมาให้เสร็จ และมีการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด จะช่วยทำให้สถานการณ์การเมืองคลี่คลายได้ดีที่สุด ผมประคองตรงนี้ว่า อย่าให้ล้มกลางคัน ถ้าล้มกลางคันก็ตัวใครตัวมัน"นายบรรหาร กล่าว
นายบรรหาร ยังกล่าวถึง ม็อบกลุ่มต่างๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหวว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีผลกระทบมาจากการตรวจสอบของ คตส.ที่รุกไปถึงตัว จึงก็ออกมาเคลื่อนไหว กลุ่มนั้นกลุ่มนี้ ทุกคนล้วนมีเพาเวอร์ เรื่องคตส.ก็ถือเป็นส่วนหนึ่ง บางคนก็เคยเป็นลูกป๋า ไม่น่าออกมาเป็นอย่างนี้เลย เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ก็เกาะติดบ้านสี่เสา เป็นลูกป๋า ไม่น่าจะไปว่าป๋าเลย ความจริงท่านไม่เกี่ยวข้องเลย ไปโยงท่านมาเกี่ยวข้องทำไม มันไม่ถูกต้อง ไม่ควรไปสร้างกระแส หากกิดเหตุวุ่นวายขึ้น คนที่ออกมาเคลื่อนไหวต้องรับผิดชอบ ขณะนี้เศรษฐกิจ ชะลอตัวลงมากแล้ว อย่าให้ชะลอมากกว่านี้เลย ม็อบกลุ่มต่างๆ ที่มีอยู่ต้องถามว่า มาได้อย่างไร ใครอยู่เบื้องหลัง และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่าง ๆทั้งหมดทีจัดให้มีการชุมนุมมาจากไหน เชื่อว่าสืบได้ไม่ยาก ข้อมูลมีอยู่ เช่น บางม็อบในอดีตเคยอยู่หน้ารัฐสภา เคยอดข้าว ใครเป็นแบ็คก็รู้หมด คงไม่ยากที่จะหาว่า ใครเป็นคนสนับสนุน