เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ บุกรวบ 5 ผู้ต้องสงสัยแนวร่วม "อาร์เคเค" ขณะกบดานอยู่ในพื้นที่เทพา หลังได้เบาะแสจากชาวบ้าน เชื่อ เป็นทีมเดียวกับที่ปะทะกับทหารพรานบนเทือกเขาตะเว ควบคุมตัวแยกสอบเครียด ขณะเดียวกันยังส่งกำลังเข้าปิดล้อมเทือกเขาตะเวไล่ล่ากลุ่มอาร์เคเค ที่ยังหลบหนีต่อเนื่อง ด้านเหตุฆ่ารายวันยังเกิดขึ้นไม่หยุด ยิงชาวบ้านในพื้นที่ 3 จชต.วันเดียวเสียชีวิตและบาดเจ็บอีกหลายราย
ความคืบหน้าการสืบสวนและไล่ล่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แนวร่วมอาร์เคเค ที่ปะทะกับทหารพรานชุดเฉพาะกิจที่ 4509 นราธิวาส และทหารพรานชุดเฉพาะกิจที่ 4303 ปัตตานี ที่บริเวณบนเทือกเขาตะเว อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้กลุ่มแนวร่วมอาร์เคเค เสียชีวิตไป 5 ศพ และยังมีกลุ่มแนวร่วมหลบหนีไปได้บางส่วนนั้น
วานนี้ (5 มี.ค.)มีรายงานว่ากำลังเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ และทหาร ได้เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายในหมู่ที่ 3 บ้านเกาะแลหนัง ต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา เนื่องจากได้รับรายงานว่า มีการเคลื่อนไหวของบุคคลต้องสงสัย ซึ่งอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุปะทะบนเทือกเขาตะเว โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 5 คน ประกอบด้วย นายอับดุลเลาะ คอสอลี, นายมะนาเซ บือราเฮง, นายกามารูดิง ยูโซะ, นายมูฮำมัด หะยีเตะ และนายยาการียา หะยีเตะ ทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ จ.นราธิวาส
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวทั้ง 5 คนแยกสอบสวนตามโรงพักต่างๆ ใน จ.สงขลา โดยนายอับดุลเลาะ ควบคุมตัวไว้ที่ สภ.อ.เมืองสงขลา นายมะนาเซ ควบคุมตัวที่ สภ.อ.บางกล่ำ นายกามารูดิง ควบคุมตัวที่ สภ.อ.คลองหอยโข่ง นายมูฮำมัด ควบคุมที่ สภ.อ.หาดใหญ่ และนายยาการียา ควบคุมที่ สภ.ต.ทุ่งตำเสา เพื่อประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการสอบสวนและตรวจประสอบประวัติอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่โดยเฉพาะเหตุการณ์ปะทะบนเทือกเขาตะเว
ส่วนทางด้านกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ พร้อมอาสาสมัคร ใน จ.นราธิวาส ยังคงสนธิกำลังเข้าปิดล้อมเทือกเขาตะเว อ.ระแงะ อย่างต่อเนื่องเพื่อติดตามกลุ่มคนร้ายแนวร่วม อาร์เคเค ที่ยังหลบหนีหลังการปะทะ พร้อมกันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยังส่งชุดติดตามออกหาข่าวลงพื้นที่ อ.สุไหงปาดี อ.แว้ง และ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นที่อยู่ของแนวร่วมที่เสียชีวิตทั้ง 5 รายด้วย เพราะเชื่อว่ายังมีกลุ่มวัยรุ่นถูกผู้ไม่หวังดี ชักจูงให้ร่วมออกมาก่อเหตุอีกจำนวนมาก
ด้านสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยช่วงเช้าวานนี้ เวลาประมาณ 06.00 น.คนร้าย 2 คนขับขี่รถจักรยานยนต์ ประกบยิง นายมะรอยารี ยะลิง เสียชีวิตและนางสะรีนะ ยะลิง ซึ่งเป็นภรรยาได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใน อ.รามัน จ.ยะลา เหตุเกิดที่บนถนนภายในหมู่บ้าน หมู่ที่ 6 ต.เกะรอ อ.รามันขณะที่ทั้งคู่นั้นกลับจากการกรีดยางพารา
ในเวลาใกล้เคียงกันได้คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นประกบยิงนายเจ๊ะมุ ลอติ อายุ 52 ปี และนางอารีเย๊าะ ดูแล อายุ 42 ปีสองสามีภรรยาขณะกลับจากการกรีดยางพาราได้รับบาดเจ็บ ทั้ง 2 คนถูกส่งตัวนำส่งโรงพยาบาลใน อ.รามัน เหตุเกิดในพื้นที่หมู่ที่ 6 ต.เกะรอ อ.รามัน เช่นเดียวกัน
ส่วนที่ จ.ปัตตานี ในเวลาไล่เลียกันคนร้ายได้ลอบยิงราษฎรที่บ้านแม่กัง หมู่ที่ 7 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ เสียชีวิต 1 ราย คือ นายเดียง บุญรักษา อายุ 70 ปี เหตุเกิดขณะผู้ตายขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อเดินทางไปกรีดยางพารา
หากกันเพียงไม่ถึงชั่วโมง คนร้ายได้ยิงราษฎรเสียชีวิตอีก 2 ราย ที่บริเวณกลางทุ่งนา ถนนสายชลประทาน หมู่ที่ 5 ต.ท่าน้ำ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี คือ นายรัตนพล เจริญรัตน์ อยู่บ้านเลขที่ 55 หมู่ที่ 1 ต.ลานตะกาฟ้า อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม และนายพงษ์ ไม่ทราบนามสกุล ทั้งสองคนเป็นลูกจ้างเกี่ยวข้าว และยังมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 รายคือ นายชริน ดีสวัสดิ์ บ้านเลขที่ 39/4 หมู่ที่ 3 ต.คลองโยง อ.พุทธมลฑล จ.นครปฐม
ขณะที่ จ.นราธิวาส เวลา 13.30 น. คนร้ายได้ยิงชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย ที่บนถนนสายสุไหงปาดี-สุไหงโก-ลก บริเวณหัวสะพานบ้านจืองา บ้านทำเนียบ หมู่ 6 ต.ลำภู อ.เมืองนราธิวาส คือ นายจุมภฎ นุ่นดี อายุ 24 ปี พนักงานแผนกช่างซ่อมรถยนต์ บริษัทนิสสัน สาขานราธิวาส โดยถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 มม.ที่บริเวณกลางหลังทะลุหน้าอก 2 นัด และหน้าท้อง 2 นัด จนไส้ทะลัก ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
วันเดียวกันนายโสภณ ดำนุ้ย ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมคณะ เดินทางเข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของ ด.ญ.ไลลา มะเด็ง อายุ 11 ปี นักเรียนโรงเรียนบ้านไอโซร์ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็น 1 ใน 7 นักเรียน ที่ถูกคนร้ายลอบยิงระหว่างเดินทางโดยรถจีเอ็มซีของทหารกลับจากทัศนศึกษาที่สวนสัตว์จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยนายโสภณ ได้มอบเงินช่วยเหลือ และตุ๊กตา ให้กับ ด.ญ.ไลลา และเพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมทั้งกล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของ ด.ญ.ไลลา ด้วย
ส่วนที่ จ.สงขลา เวลา 09.30 น.วานนี้ ร.ต.ต.อดิศักดิ์ แกสมาน ร้อยเวร สภ.อ.จะนะ ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบเหตุ คนร้ายลอบเผารถยนต์ที่บ้านเลขที่ 39/4 หมู่ 5 ต.ขุนตัดหวาย อ.จะนะ โดยบ้านดังกล่าวเป็นบ้านของนายอรุณ โระศรี อายุ 63 ปีอาชีพทำสวนยาง บริเวณโรงรถด้านข้างตัวบ้าน พบรถกระบะมาสด้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ป-4910 สงขลา ถูกไฟเผาจนห้องเครื่องด้านหน้ารถได้รับความเสียหาย คาดว่าคนร้ายใช้น้ำมันราดแล้วจุดไฟเผา และน่าจะลอบก่อเหตุในช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่คนในบ้านกำลังหลับสนิท และเพิ่งมาทราบเรื่องในช่วงสาย ขณะจะออกไปทำธุระ
ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่คาดว่าอาจจะมาจากปัญหาความขัดแย้งส่วนตัว ซึ่งจะได้สอบสวนต่อไปว่า นายอรุณ มีความขัดแย้งกับใครหรือไม่ แต่ก็ยังไม่ทิ้งประเด็นในเรื่องของการสร้างสถานการณ์ไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ความคืบหน้าการสืบสวนและไล่ล่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แนวร่วมอาร์เคเค ที่ปะทะกับทหารพรานชุดเฉพาะกิจที่ 4509 นราธิวาส และทหารพรานชุดเฉพาะกิจที่ 4303 ปัตตานี ที่บริเวณบนเทือกเขาตะเว อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้กลุ่มแนวร่วมอาร์เคเค เสียชีวิตไป 5 ศพ และยังมีกลุ่มแนวร่วมหลบหนีไปได้บางส่วนนั้น
วานนี้ (5 มี.ค.)มีรายงานว่ากำลังเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ และทหาร ได้เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายในหมู่ที่ 3 บ้านเกาะแลหนัง ต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา เนื่องจากได้รับรายงานว่า มีการเคลื่อนไหวของบุคคลต้องสงสัย ซึ่งอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุปะทะบนเทือกเขาตะเว โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 5 คน ประกอบด้วย นายอับดุลเลาะ คอสอลี, นายมะนาเซ บือราเฮง, นายกามารูดิง ยูโซะ, นายมูฮำมัด หะยีเตะ และนายยาการียา หะยีเตะ ทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ จ.นราธิวาส
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวทั้ง 5 คนแยกสอบสวนตามโรงพักต่างๆ ใน จ.สงขลา โดยนายอับดุลเลาะ ควบคุมตัวไว้ที่ สภ.อ.เมืองสงขลา นายมะนาเซ ควบคุมตัวที่ สภ.อ.บางกล่ำ นายกามารูดิง ควบคุมตัวที่ สภ.อ.คลองหอยโข่ง นายมูฮำมัด ควบคุมที่ สภ.อ.หาดใหญ่ และนายยาการียา ควบคุมที่ สภ.ต.ทุ่งตำเสา เพื่อประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการสอบสวนและตรวจประสอบประวัติอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่โดยเฉพาะเหตุการณ์ปะทะบนเทือกเขาตะเว
ส่วนทางด้านกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ พร้อมอาสาสมัคร ใน จ.นราธิวาส ยังคงสนธิกำลังเข้าปิดล้อมเทือกเขาตะเว อ.ระแงะ อย่างต่อเนื่องเพื่อติดตามกลุ่มคนร้ายแนวร่วม อาร์เคเค ที่ยังหลบหนีหลังการปะทะ พร้อมกันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยังส่งชุดติดตามออกหาข่าวลงพื้นที่ อ.สุไหงปาดี อ.แว้ง และ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นที่อยู่ของแนวร่วมที่เสียชีวิตทั้ง 5 รายด้วย เพราะเชื่อว่ายังมีกลุ่มวัยรุ่นถูกผู้ไม่หวังดี ชักจูงให้ร่วมออกมาก่อเหตุอีกจำนวนมาก
ด้านสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยช่วงเช้าวานนี้ เวลาประมาณ 06.00 น.คนร้าย 2 คนขับขี่รถจักรยานยนต์ ประกบยิง นายมะรอยารี ยะลิง เสียชีวิตและนางสะรีนะ ยะลิง ซึ่งเป็นภรรยาได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใน อ.รามัน จ.ยะลา เหตุเกิดที่บนถนนภายในหมู่บ้าน หมู่ที่ 6 ต.เกะรอ อ.รามันขณะที่ทั้งคู่นั้นกลับจากการกรีดยางพารา
ในเวลาใกล้เคียงกันได้คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นประกบยิงนายเจ๊ะมุ ลอติ อายุ 52 ปี และนางอารีเย๊าะ ดูแล อายุ 42 ปีสองสามีภรรยาขณะกลับจากการกรีดยางพาราได้รับบาดเจ็บ ทั้ง 2 คนถูกส่งตัวนำส่งโรงพยาบาลใน อ.รามัน เหตุเกิดในพื้นที่หมู่ที่ 6 ต.เกะรอ อ.รามัน เช่นเดียวกัน
ส่วนที่ จ.ปัตตานี ในเวลาไล่เลียกันคนร้ายได้ลอบยิงราษฎรที่บ้านแม่กัง หมู่ที่ 7 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ เสียชีวิต 1 ราย คือ นายเดียง บุญรักษา อายุ 70 ปี เหตุเกิดขณะผู้ตายขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อเดินทางไปกรีดยางพารา
หากกันเพียงไม่ถึงชั่วโมง คนร้ายได้ยิงราษฎรเสียชีวิตอีก 2 ราย ที่บริเวณกลางทุ่งนา ถนนสายชลประทาน หมู่ที่ 5 ต.ท่าน้ำ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี คือ นายรัตนพล เจริญรัตน์ อยู่บ้านเลขที่ 55 หมู่ที่ 1 ต.ลานตะกาฟ้า อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม และนายพงษ์ ไม่ทราบนามสกุล ทั้งสองคนเป็นลูกจ้างเกี่ยวข้าว และยังมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 รายคือ นายชริน ดีสวัสดิ์ บ้านเลขที่ 39/4 หมู่ที่ 3 ต.คลองโยง อ.พุทธมลฑล จ.นครปฐม
ขณะที่ จ.นราธิวาส เวลา 13.30 น. คนร้ายได้ยิงชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย ที่บนถนนสายสุไหงปาดี-สุไหงโก-ลก บริเวณหัวสะพานบ้านจืองา บ้านทำเนียบ หมู่ 6 ต.ลำภู อ.เมืองนราธิวาส คือ นายจุมภฎ นุ่นดี อายุ 24 ปี พนักงานแผนกช่างซ่อมรถยนต์ บริษัทนิสสัน สาขานราธิวาส โดยถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 มม.ที่บริเวณกลางหลังทะลุหน้าอก 2 นัด และหน้าท้อง 2 นัด จนไส้ทะลัก ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
วันเดียวกันนายโสภณ ดำนุ้ย ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมคณะ เดินทางเข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของ ด.ญ.ไลลา มะเด็ง อายุ 11 ปี นักเรียนโรงเรียนบ้านไอโซร์ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็น 1 ใน 7 นักเรียน ที่ถูกคนร้ายลอบยิงระหว่างเดินทางโดยรถจีเอ็มซีของทหารกลับจากทัศนศึกษาที่สวนสัตว์จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยนายโสภณ ได้มอบเงินช่วยเหลือ และตุ๊กตา ให้กับ ด.ญ.ไลลา และเพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมทั้งกล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของ ด.ญ.ไลลา ด้วย
ส่วนที่ จ.สงขลา เวลา 09.30 น.วานนี้ ร.ต.ต.อดิศักดิ์ แกสมาน ร้อยเวร สภ.อ.จะนะ ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบเหตุ คนร้ายลอบเผารถยนต์ที่บ้านเลขที่ 39/4 หมู่ 5 ต.ขุนตัดหวาย อ.จะนะ โดยบ้านดังกล่าวเป็นบ้านของนายอรุณ โระศรี อายุ 63 ปีอาชีพทำสวนยาง บริเวณโรงรถด้านข้างตัวบ้าน พบรถกระบะมาสด้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ป-4910 สงขลา ถูกไฟเผาจนห้องเครื่องด้านหน้ารถได้รับความเสียหาย คาดว่าคนร้ายใช้น้ำมันราดแล้วจุดไฟเผา และน่าจะลอบก่อเหตุในช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่คนในบ้านกำลังหลับสนิท และเพิ่งมาทราบเรื่องในช่วงสาย ขณะจะออกไปทำธุระ
ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่คาดว่าอาจจะมาจากปัญหาความขัดแย้งส่วนตัว ซึ่งจะได้สอบสวนต่อไปว่า นายอรุณ มีความขัดแย้งกับใครหรือไม่ แต่ก็ยังไม่ทิ้งประเด็นในเรื่องของการสร้างสถานการณ์ไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้