ออกฉบับจันทร์ 5-3-50
ผู้จัดการรายวัน - ลี คาเฟ่ (Lee Caf?) ธุรกิจร้านอาหาร เดินหน้าเต็มสูบ อัดแคมเปญ ลดแลกแจกแถม หวังฟันยอดขายเพิ่ม 10% พร้อมขยายฐานลูกค้า อีก 2,000 จากเดิม 1,500 คน ล่าสุดรุกตลาดต่างประเทศ รูปแบบแฟรนไชส์
นายธันวา ภัทรพรไพศาล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท THE LEE FAMILY จำกัด เจ้าของธุรกิจร้านอาหารจีน ลี คาเฟ่ (Lee Caf?) เปิดเผยว่า เนื่องจาก หลังเหตุการณ์ความไม่สงบในต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบถึงเศรษฐกิจมหภาคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “ลี คาเฟ่” (Lee Caf?) ได้ปรับกลยุทธ์ฝ่าตลาดซบ โดยนำโปรโมชั่นล่าสุดที่มีชื่อเรียกว่า “ปฏิทินกินได้ 2007” ( Eating Out Calender 2007) มาเพิ่มยอด หลังจาก ยอดขายลดลงถึง 20% จึงเร่งปรับกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อเรียกยอดขายกลับคืน
โดยเป้าหมายที่เราวางไว้นอกจากกระตุ้นยอดขายให้เติบโต 8-10 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งได้ขยายฐานลูกค้าประจำซึ่งมีอยู่ประมาณ 1,500 คนให้กลายเป็น 2,000 คนได้ โดยปฏิทินดังกล่าวระบุว่าวันใดมีโปรโมชั่นที่ ลี คาเฟ่ ทั้ง6 สาขา เป็นโปรโมชั่นแบบใด หลังจากนั้นก็นำปฏิทินดังกล่าวมารับประทานอาหารที่ร้านพนักงานปั๊มเลขบนปฏิทินคล้ายคลึงกับการสะสมแสตมป์ ซึ่งในช่วงสิ้นปีจลูกค้าซึ่งได้ปั๊มตราของทางร้านมากที่สุดเพื่อลุ้นรางวัลเที่ยวต่างประเทศรวมถึงการเข้าคอร์ส อบรมการทำอาหารกับมีสเตอร์ ลี ซึ่งเป็นตำนานภัตตาคารจีนในประเทศไทย เป็นต้น
นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมา ลี คาเฟ่ได้รับผลเป็นอย่างดีจากลูกค้าทั้งคนไทยและคนต่างชาติ โดยมีสาขาต้นแบบที่ สาขาสุวรรณภูมิ ขณะนี้เราวางแผนขยายสาขาไปยังประเทศต่างๆ ในรูปแบบเฟรนไชส์ บริษัทจึงได้ใช้งบประมาณจำนวน 10 ล้านบาทเพื่อสร้างโรงงานแห่งใหม่บริเวณพระราม 3 สำหรับเป็นครัวกลางในการกระจายสินค้าและวัตถุดิบไปทุกสาขาเพิ่มอีก 1 แห่งโดยคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 3 ของปี2550
ทั้งนี้ “ลี คาเฟ่” ให้เป็นร้านอาหารจีนโมเดิร์น (Modern Chinese Cuisine) เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2547 ปัจจุบันมี 6 สาขา ประกอบไปด้วย ชั้น 4 สยามเซ็นเตอร์, ชั้น 3 สนามบินสุวรรณภูมิ ติดกับแบงค์ไทยพานิช, ชั้นB เอสพละนาด ถนนรัชดา, ชั้นG เพลินจิต เซ็นเตอร์ และ ชั้น LG เอราวัณ แบ็งค็อก, ชั้น 4 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า โดยแต่ละสาขามีแนวคิดที่แตกต่างกันไป เพื่อให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายในแต่ละพื้นที่ เช่น พื้นที่สาขาเอราวัณ แบ็งค็อก อยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ Fast Casual เพราะจะเป็นร้านที่มีพื้นที่น้อย ทำให้การเข้ามาใช้บริการภายในร้านจะอยู่ในลักษณะกินเร็วไปเร็ว ส่วนเพลินจิตวิทจะเป็นคอนเซ็ปต์ Dining on The Terrace ขณะที่สยามเซ็นต์เตอร์ Community Restaurant เป็นร้านอาหารที่เป็นจุดเชื่อมของคนสยาม เนื่องจากความเหมาะสมของทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่ใจกลางเมือง และ ได้ปรับเมนูให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น วัยทำงานและกลุ่มครอบครัว เป็นต้น
ผู้จัดการรายวัน - ลี คาเฟ่ (Lee Caf?) ธุรกิจร้านอาหาร เดินหน้าเต็มสูบ อัดแคมเปญ ลดแลกแจกแถม หวังฟันยอดขายเพิ่ม 10% พร้อมขยายฐานลูกค้า อีก 2,000 จากเดิม 1,500 คน ล่าสุดรุกตลาดต่างประเทศ รูปแบบแฟรนไชส์
นายธันวา ภัทรพรไพศาล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท THE LEE FAMILY จำกัด เจ้าของธุรกิจร้านอาหารจีน ลี คาเฟ่ (Lee Caf?) เปิดเผยว่า เนื่องจาก หลังเหตุการณ์ความไม่สงบในต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบถึงเศรษฐกิจมหภาคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “ลี คาเฟ่” (Lee Caf?) ได้ปรับกลยุทธ์ฝ่าตลาดซบ โดยนำโปรโมชั่นล่าสุดที่มีชื่อเรียกว่า “ปฏิทินกินได้ 2007” ( Eating Out Calender 2007) มาเพิ่มยอด หลังจาก ยอดขายลดลงถึง 20% จึงเร่งปรับกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อเรียกยอดขายกลับคืน
โดยเป้าหมายที่เราวางไว้นอกจากกระตุ้นยอดขายให้เติบโต 8-10 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งได้ขยายฐานลูกค้าประจำซึ่งมีอยู่ประมาณ 1,500 คนให้กลายเป็น 2,000 คนได้ โดยปฏิทินดังกล่าวระบุว่าวันใดมีโปรโมชั่นที่ ลี คาเฟ่ ทั้ง6 สาขา เป็นโปรโมชั่นแบบใด หลังจากนั้นก็นำปฏิทินดังกล่าวมารับประทานอาหารที่ร้านพนักงานปั๊มเลขบนปฏิทินคล้ายคลึงกับการสะสมแสตมป์ ซึ่งในช่วงสิ้นปีจลูกค้าซึ่งได้ปั๊มตราของทางร้านมากที่สุดเพื่อลุ้นรางวัลเที่ยวต่างประเทศรวมถึงการเข้าคอร์ส อบรมการทำอาหารกับมีสเตอร์ ลี ซึ่งเป็นตำนานภัตตาคารจีนในประเทศไทย เป็นต้น
นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมา ลี คาเฟ่ได้รับผลเป็นอย่างดีจากลูกค้าทั้งคนไทยและคนต่างชาติ โดยมีสาขาต้นแบบที่ สาขาสุวรรณภูมิ ขณะนี้เราวางแผนขยายสาขาไปยังประเทศต่างๆ ในรูปแบบเฟรนไชส์ บริษัทจึงได้ใช้งบประมาณจำนวน 10 ล้านบาทเพื่อสร้างโรงงานแห่งใหม่บริเวณพระราม 3 สำหรับเป็นครัวกลางในการกระจายสินค้าและวัตถุดิบไปทุกสาขาเพิ่มอีก 1 แห่งโดยคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 3 ของปี2550
ทั้งนี้ “ลี คาเฟ่” ให้เป็นร้านอาหารจีนโมเดิร์น (Modern Chinese Cuisine) เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2547 ปัจจุบันมี 6 สาขา ประกอบไปด้วย ชั้น 4 สยามเซ็นเตอร์, ชั้น 3 สนามบินสุวรรณภูมิ ติดกับแบงค์ไทยพานิช, ชั้นB เอสพละนาด ถนนรัชดา, ชั้นG เพลินจิต เซ็นเตอร์ และ ชั้น LG เอราวัณ แบ็งค็อก, ชั้น 4 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า โดยแต่ละสาขามีแนวคิดที่แตกต่างกันไป เพื่อให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายในแต่ละพื้นที่ เช่น พื้นที่สาขาเอราวัณ แบ็งค็อก อยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ Fast Casual เพราะจะเป็นร้านที่มีพื้นที่น้อย ทำให้การเข้ามาใช้บริการภายในร้านจะอยู่ในลักษณะกินเร็วไปเร็ว ส่วนเพลินจิตวิทจะเป็นคอนเซ็ปต์ Dining on The Terrace ขณะที่สยามเซ็นต์เตอร์ Community Restaurant เป็นร้านอาหารที่เป็นจุดเชื่อมของคนสยาม เนื่องจากความเหมาะสมของทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่ใจกลางเมือง และ ได้ปรับเมนูให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น วัยทำงานและกลุ่มครอบครัว เป็นต้น