โฆษกกองทัพบก และ ผบก.นราธิวาส ยันคนร้ายที่ปะทะกับทหารพรานบนเทือกเขาตะเว 5 ศพ เป็นแนวร่วมกลุ่ม "อาร์เคเค" ไม่ใช่คนตัดไม้เถื่อน ตามที่มีการปล่อยข่าวปลุกระดมชาวบ้านต้านเจ้าหน้าที่รัฐ เผยกลุ่มญาติไม่ติดใจการตาย แต่เร่งใช้รถติดเครื่องขยายเสียง พร้อมประสานกรรมการอิสลามจังหวัดช่วยทำความเข้าใจชาวบ้าน "จำลอง"หนุนนายกฯมอบ มทภ.4 แก้ปัญหา ชี้เหตุดับไฟใต้ยังไม่ได้เพราะทหารยังทำงานไร้ประสิทธิภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี ฉก.ทหารพรานที่ 4509 นราธิวาส และ ฉก.ทหารพรานที่ 4303 ปัตตานี ยิงปะทะกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กลุ่มอาร์เคเค.ขณะฝึกอาวุธอยู่บนเทือกเขาตะเว บ้านโต๊ะอีแต หมู่ 8 ต.บองงอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งฝ่ายคนร้ายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 5 รายเมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น รายงานข่าวเปิดเผยว่า ทางคณะแพทย์ของโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ได้ชันสูตรศพทั้ง 5 รายเสร็จสิ้นแล้วตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา
จากการชันสูตรศพของแพทย์พบว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย ประกอบด้วย 1.นายไฟซา ดอเลาะ 2.นายมูฮัมหมัดนูรี มะยูโซ๊ะ 3.นายนูรฟีซี มูซอ โดยทั้ง 3 รายเป็นชาว ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส 4.นายสุกรี มะและ เป็นชาว อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งเคยเป็นแกนนำในการชุมนุมประท้วงที่หน้า สภ.อ.ตากใบ และ 5.นายมะดือเละ สาและ เป็นชาว อ.แว้ง จ.นราธิวาส โดยทางญาติได้มารับศพเพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้วเมื่อเช้าวานนี้ (4 มี.ค.)
สำหรับรายชื่อผู้ต้องสงสัยที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้จากบัตรประชาชน 8 รายในพื้นที่เกิดเหตุทหารพรานปะทะกับกลุ่มคนร้ายนั้น เจ้าหน้าที่คาดว่า มี 1 รายเป็นระดับครูฝึกการรบแบบจรยุทธ์ให้กับสมาชิกกลุ่มอาร์เคเค ส่วนอีก 3 รายที่มีชื่อในบัตรประชาชนได้แก่นายอาหะมะ หะยีมะเซ บ้านเลขที่ 98/1 หมู่ 4 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส, นายอับดุลซาตา ดาลอเฮง บ้านเลขที่ 29 หมู่ 9 ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส และนายอิสมาแอ แวมะมิง บ้านเลขที่ 63/4 หมู่ 1 ต.กาวา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ขณะนี้ได้หายออกไปจากหมู่บ้าน
พ.อ.สมพล ปานกุล รอง ผบ.ฉก.34 เผยถึงเรื่องนี้ว่า จากการตรวจสอบเบื้องพบว่าผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 คนดังกล่าวได้ออกจากบ้านไปกว่า 2-3 เดือนแล้ว โดยทางพ่อแม่และญาติไม่ทราบว่าไปอาศัยอยู่ที่ใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการบันทึกประวัติไว้แล้ว และจะติดตามตัวมาสอบสวนปากคำ โดยเป็นคนอยู่ในพื้นที่นราธิวาส 2 คนและปัตตานี 1 คน
"ส่วนข่าวการปลุกระดมเพื่อให้ชาวบ้านเข้าใจเจ้าหน้าที่ผิดในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานกับคณะกรรมการอิสลามจังหวัดนราธิวาส ให้ช่วยชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้านเกี่ยวกับข้อเท็จจริงแล้ว"
ด้าน พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ โฆษกกองทัพบก ในฐานะหัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองบัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร กองทัพภาค 4 (ศปชส.พตท.ภ.4 ) กล่าวยืนยันถึงเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ทหารพรานปะทะกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่บริเวณเทือกเขาตะเว เมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า กรณีที่มีข่าวสารข้อมูลจากเหตุการณ์ดังกล่าวออกไปในหลายๆ สื่อทั้งตัวเลขของผู้เสียชีวิตและการจับกุมคนร้ายได้นั้น ตามข้อเท็จจริงแล้วข่าวสารเหล่านั้นคลาดเคลื่อนไปจากความจริง
"โดยข้อเท็จจริงก็คือ คนร้ายที่เสียชีวิตมีจำนวนทั้งสิ้น 5 รายเท่านั้น และไม่มีการปะทะกันรอบสอง หรือการควบคุมตัวคนร้ายเพิ่มเติมได้อีก 13 รายตามที่เป็นข่าวออกมาตามสื่อต่างๆ ยังคงเป็นข้อมูลเดิมตามที่ ศปชส.พตท.ภ.4 ได้ส่งไปให้สื่อมวลชน รวมไปถึงการแถลงข่าวที่ผ่านมาด้วย" พ.อ.อัครกล่าว และว่านอกจากนี้ ยังมีเรื่องของกระแสข่าวลือที่เกิดขึ้นอีกหลายเรื่องเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น อย่างเช่นการล่าช้าในการลำเลียงศพลงมายังพื้นที่ราบ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไปยิงคนลักลอบตัดไม้ ซึ่งไม่ใช่คนร้ายกลุ่มฝึกอาวุธ อาร์เคเค.นั้น ทาง ศปชส.พตท.ภ.4 ขอยืนยันว่าบุคคลที่เสียชีวิตทั้ง 5 ราย เป็นกลุ่มคนร้ายจริง เพราะส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น ไม่ใช่คนลักลอบตัดไม้เถื่อน ตามกระแสข่าวลือที่ออกมาเพื่อหวังทำให้เกิดความเข้าใจผิด และเกิดความคลาดเคลื่อนจนนำไปสู่การปลุกระดมชาวบ้านให้ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐได้
"หากเป็นคนลักลอบตัดไม้จริงคงอายุมาก แต่ส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตเป็นกลุ่มวัยรุ่นและเครื่องมือรวมไปถึงอาวุธปืนที่มี ก็บอกอยู่ชัดเจนว่า ไม่ใช่กลุ่มคนลักลอบตัดไม้เถื่อน ผมเชื่อว่า หากศพและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ทำการตรวจยึดได้จากที่เกิดเหตุถูกลำเลียงลงมาถึงพื้นที่ราบได้ ความชัดเจนจากเหตุการณ์ก็คงจะกระจ่างขึ้นทั้งหมด กระแสข่าวลือต่างๆ ก็จะหมดไปเอง" พ.อ.อัคร กล่าว
ส่วนการแก้ปัญหากระข่าวลือที่เกิดขึ้นนั้น พ.อ.อัคร บอกว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้รถติดเครื่องขยายเสียงเข้าไปในหมู่บ้านละแวกใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เพื่อทำความเข้าใจกับกลุ่มชาวบ้าน ไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดกับกระแสข่าวลือที่เกิดขึ้นแล้ว เพราะพื้นที่ ต.บองอ อ.ระแงะ เป็นพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมที่ต่อต้านเจ้าหน้าที่รัฐอยู่เป็นจำนวนมาก
ด้าน พล.ต.ต.ยงยุทธ์ เจริญวานิช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ยืนยันเช่นกันว่า จากการตรวจสอบศพคนร้ายทั้ง 5 รายที่เสียชีวิต ในเบื้องต้นยืนยันว่า เป็นคนร้ายจริงอย่างแน่นอน เนื่องจากทั้ง 5 รายใส่ชุดนักรบคล้ายทหารพราน ท่อนบนเป็นชุดสีเขียวลายพราง ส่วนท่อนล่างเป็นกางเกงสีเขียว สวมรองเท้าผ้าใบ สภาพอยู่ในชุดเตรียมพร้อมฝึก จึงไม่ใช่ลักษณะวิสัยของคนตัดไม้ตามที่มีความพยายามปล่อยข่าวอย่างแน่นอน
สำหรับศพผู้เสียชีวิตทั้ง 5 รายนั้นหลังจากเจ้าหน้าที่ลำเลียงลงมาจากเทือกเขาตะเว และทางแพทย์ได้ชันสูตรศพเสร็จสิ้นทางญาติได้มารับกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาเรียบร้อยแล้ว โดยฝ่ายญาติทั้งหมดไม่ได้ติดใจต่อการเสียชีวิตและไม่คิดว่าคนในครอบครัวของตนเองจะไปฝึกอาวุธหรือก่อเหตุ เพราะผู้เสียชีวิตได้บอกทางบ้านว่าจะไปทำงานอีกจังหวัดหนึ่ง โดยออกไปประมาณ 10 วันแล้วมารู้อีกครั้งก็หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจึงรู้ว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 5 รายตกเป็นเครื่องมีของกลุ่มคนร้าย
"ส่วนกลุ่มคนร้ายที่เหลือและยังหลบหนีอยู่ในขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร ยังคงระดมกำลังออกติดตามไล่ล่าตัวอยู่อย่างต่อเนื่องที่บนเทือกเขาตะเว" พล.ต.ต.ยงยุทธ์ กล่าว
ทางด้านนายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า แม้ผู้เสียชีวิตจะเป็นแนวร่วมของกลุ่มขบวนการผู้ไม่หวังดีก็ตาม แต่ผู้ที่ได้รับผลกระทบทางสภาพจิตใจมากที่สุดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็คือ พ่อ แม่และญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต เพราะที่ผ่านมาไม่มีใครทราบเลยว่าบุตรหลานที่อ้างว่าเดินทางออกไปประกอบอาชีพเพื่อหารายได้เลี้ยงชีพยังประเทศมาเลเซีย รวมทั้งพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลานั้น สุดท้ายกลับตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มอาร์เคเค.ที่คอยปลูกฝังแนวความคิดจนกลุ่มวัยรุ่นเกิดความหลงผิด กลายเป็นกำลังของฝ่ายตรงข้ามมานานหลายปี จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์เศร้าสลดสำหรับญาติผู้เสียชีวิตในครั้งนี้
นายประดิษฐ์ สุคนธสวัสดิ์ ปลัดจังหวัดนราธิวาส กล่าวทำนองเดียวกันว่า แม้ผู้เสียชีวิตจะเป็นผู้ก่อเหตุ แต่ทางจังหวัดก็ได้ให้ความช่วยเหลือทางญาติทั้งเรื่องค่าศพครอบครัวละ 4,000 บาท และประกอบพิธีทางศาสนาตามหลักมนุษยธรรม นอกจากนี้ ยังจะช่วยเหลือเยียวยาด้านจิตใจด้วย โดยเบื้องต้นทางจังหวัดได้ประสานให้คณะกรรมการอิสลามจังหวัดเข้าไปพูดคุยด้วยแล้ว
ด้าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ส่วนตัวเห็นด้วยที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้แม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งเป็นผู้อำนวยการ กอ.รมน.ภาค 4 เป็นผู้กำกับดูแลแก้ไขปัญหาทั้งหมด โดยให้หน่วยงานอื่นสมทบ แต่ที่ยังแก้ปัญหาไม่ได้ผล เพราะทหารยังไม่ได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่สามารถปกป้องชีวิตประชาชนได้ ซึ่งตอนนี้ทราบว่า กำลังมีการปรับแก้ในเรื่องดังกล่าวอยู่
"ผมเคยให้คำแนะนำไปแล้วว่าต้องจัดเป็นหน่วยขนาดเล็กออกไปพบปะเยี่ยมเยียนชาวบ้านไม่ใช่ลาดตระเวนโดยล้อยางอย่างเดียวในเวลาคงที่ ก็ต้องถูกลอบวางระเบิดเสียชีวิตจำนวนมาก เรื่องนี้ไม่เคยสอนในโรงเรียนนายร้อยหรือโรงเรียนเสนาธิการทหาร" พล.ต.จำลองกล่าว
ขณะที่นายฆอรี ปัญญาเยา รองประธานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดสตูล กล่าวถึงสถานการณ์ความรุนแรงชายแดนใต้ว่า ความเห็นส่วนตัวไม่มั่นใจรัฐบาลทหารจะเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ทันที อย่างน้อยเหตุการณ์จะคลี่คลายต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปี เท่าที่ประเมินสถานการณ์ที่มีความรุนแรงมากขึ้น พี่น้องในพื้นที่เสียชีวิตทุกวัน
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี ฉก.ทหารพรานที่ 4509 นราธิวาส และ ฉก.ทหารพรานที่ 4303 ปัตตานี ยิงปะทะกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กลุ่มอาร์เคเค.ขณะฝึกอาวุธอยู่บนเทือกเขาตะเว บ้านโต๊ะอีแต หมู่ 8 ต.บองงอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งฝ่ายคนร้ายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 5 รายเมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น รายงานข่าวเปิดเผยว่า ทางคณะแพทย์ของโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ได้ชันสูตรศพทั้ง 5 รายเสร็จสิ้นแล้วตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา
จากการชันสูตรศพของแพทย์พบว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย ประกอบด้วย 1.นายไฟซา ดอเลาะ 2.นายมูฮัมหมัดนูรี มะยูโซ๊ะ 3.นายนูรฟีซี มูซอ โดยทั้ง 3 รายเป็นชาว ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส 4.นายสุกรี มะและ เป็นชาว อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งเคยเป็นแกนนำในการชุมนุมประท้วงที่หน้า สภ.อ.ตากใบ และ 5.นายมะดือเละ สาและ เป็นชาว อ.แว้ง จ.นราธิวาส โดยทางญาติได้มารับศพเพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้วเมื่อเช้าวานนี้ (4 มี.ค.)
สำหรับรายชื่อผู้ต้องสงสัยที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้จากบัตรประชาชน 8 รายในพื้นที่เกิดเหตุทหารพรานปะทะกับกลุ่มคนร้ายนั้น เจ้าหน้าที่คาดว่า มี 1 รายเป็นระดับครูฝึกการรบแบบจรยุทธ์ให้กับสมาชิกกลุ่มอาร์เคเค ส่วนอีก 3 รายที่มีชื่อในบัตรประชาชนได้แก่นายอาหะมะ หะยีมะเซ บ้านเลขที่ 98/1 หมู่ 4 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส, นายอับดุลซาตา ดาลอเฮง บ้านเลขที่ 29 หมู่ 9 ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส และนายอิสมาแอ แวมะมิง บ้านเลขที่ 63/4 หมู่ 1 ต.กาวา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ขณะนี้ได้หายออกไปจากหมู่บ้าน
พ.อ.สมพล ปานกุล รอง ผบ.ฉก.34 เผยถึงเรื่องนี้ว่า จากการตรวจสอบเบื้องพบว่าผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 คนดังกล่าวได้ออกจากบ้านไปกว่า 2-3 เดือนแล้ว โดยทางพ่อแม่และญาติไม่ทราบว่าไปอาศัยอยู่ที่ใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการบันทึกประวัติไว้แล้ว และจะติดตามตัวมาสอบสวนปากคำ โดยเป็นคนอยู่ในพื้นที่นราธิวาส 2 คนและปัตตานี 1 คน
"ส่วนข่าวการปลุกระดมเพื่อให้ชาวบ้านเข้าใจเจ้าหน้าที่ผิดในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานกับคณะกรรมการอิสลามจังหวัดนราธิวาส ให้ช่วยชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้านเกี่ยวกับข้อเท็จจริงแล้ว"
ด้าน พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ โฆษกกองทัพบก ในฐานะหัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองบัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร กองทัพภาค 4 (ศปชส.พตท.ภ.4 ) กล่าวยืนยันถึงเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ทหารพรานปะทะกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่บริเวณเทือกเขาตะเว เมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า กรณีที่มีข่าวสารข้อมูลจากเหตุการณ์ดังกล่าวออกไปในหลายๆ สื่อทั้งตัวเลขของผู้เสียชีวิตและการจับกุมคนร้ายได้นั้น ตามข้อเท็จจริงแล้วข่าวสารเหล่านั้นคลาดเคลื่อนไปจากความจริง
"โดยข้อเท็จจริงก็คือ คนร้ายที่เสียชีวิตมีจำนวนทั้งสิ้น 5 รายเท่านั้น และไม่มีการปะทะกันรอบสอง หรือการควบคุมตัวคนร้ายเพิ่มเติมได้อีก 13 รายตามที่เป็นข่าวออกมาตามสื่อต่างๆ ยังคงเป็นข้อมูลเดิมตามที่ ศปชส.พตท.ภ.4 ได้ส่งไปให้สื่อมวลชน รวมไปถึงการแถลงข่าวที่ผ่านมาด้วย" พ.อ.อัครกล่าว และว่านอกจากนี้ ยังมีเรื่องของกระแสข่าวลือที่เกิดขึ้นอีกหลายเรื่องเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น อย่างเช่นการล่าช้าในการลำเลียงศพลงมายังพื้นที่ราบ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไปยิงคนลักลอบตัดไม้ ซึ่งไม่ใช่คนร้ายกลุ่มฝึกอาวุธ อาร์เคเค.นั้น ทาง ศปชส.พตท.ภ.4 ขอยืนยันว่าบุคคลที่เสียชีวิตทั้ง 5 ราย เป็นกลุ่มคนร้ายจริง เพราะส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น ไม่ใช่คนลักลอบตัดไม้เถื่อน ตามกระแสข่าวลือที่ออกมาเพื่อหวังทำให้เกิดความเข้าใจผิด และเกิดความคลาดเคลื่อนจนนำไปสู่การปลุกระดมชาวบ้านให้ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐได้
"หากเป็นคนลักลอบตัดไม้จริงคงอายุมาก แต่ส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตเป็นกลุ่มวัยรุ่นและเครื่องมือรวมไปถึงอาวุธปืนที่มี ก็บอกอยู่ชัดเจนว่า ไม่ใช่กลุ่มคนลักลอบตัดไม้เถื่อน ผมเชื่อว่า หากศพและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ทำการตรวจยึดได้จากที่เกิดเหตุถูกลำเลียงลงมาถึงพื้นที่ราบได้ ความชัดเจนจากเหตุการณ์ก็คงจะกระจ่างขึ้นทั้งหมด กระแสข่าวลือต่างๆ ก็จะหมดไปเอง" พ.อ.อัคร กล่าว
ส่วนการแก้ปัญหากระข่าวลือที่เกิดขึ้นนั้น พ.อ.อัคร บอกว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้รถติดเครื่องขยายเสียงเข้าไปในหมู่บ้านละแวกใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เพื่อทำความเข้าใจกับกลุ่มชาวบ้าน ไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดกับกระแสข่าวลือที่เกิดขึ้นแล้ว เพราะพื้นที่ ต.บองอ อ.ระแงะ เป็นพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมที่ต่อต้านเจ้าหน้าที่รัฐอยู่เป็นจำนวนมาก
ด้าน พล.ต.ต.ยงยุทธ์ เจริญวานิช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ยืนยันเช่นกันว่า จากการตรวจสอบศพคนร้ายทั้ง 5 รายที่เสียชีวิต ในเบื้องต้นยืนยันว่า เป็นคนร้ายจริงอย่างแน่นอน เนื่องจากทั้ง 5 รายใส่ชุดนักรบคล้ายทหารพราน ท่อนบนเป็นชุดสีเขียวลายพราง ส่วนท่อนล่างเป็นกางเกงสีเขียว สวมรองเท้าผ้าใบ สภาพอยู่ในชุดเตรียมพร้อมฝึก จึงไม่ใช่ลักษณะวิสัยของคนตัดไม้ตามที่มีความพยายามปล่อยข่าวอย่างแน่นอน
สำหรับศพผู้เสียชีวิตทั้ง 5 รายนั้นหลังจากเจ้าหน้าที่ลำเลียงลงมาจากเทือกเขาตะเว และทางแพทย์ได้ชันสูตรศพเสร็จสิ้นทางญาติได้มารับกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาเรียบร้อยแล้ว โดยฝ่ายญาติทั้งหมดไม่ได้ติดใจต่อการเสียชีวิตและไม่คิดว่าคนในครอบครัวของตนเองจะไปฝึกอาวุธหรือก่อเหตุ เพราะผู้เสียชีวิตได้บอกทางบ้านว่าจะไปทำงานอีกจังหวัดหนึ่ง โดยออกไปประมาณ 10 วันแล้วมารู้อีกครั้งก็หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจึงรู้ว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 5 รายตกเป็นเครื่องมีของกลุ่มคนร้าย
"ส่วนกลุ่มคนร้ายที่เหลือและยังหลบหนีอยู่ในขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร ยังคงระดมกำลังออกติดตามไล่ล่าตัวอยู่อย่างต่อเนื่องที่บนเทือกเขาตะเว" พล.ต.ต.ยงยุทธ์ กล่าว
ทางด้านนายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า แม้ผู้เสียชีวิตจะเป็นแนวร่วมของกลุ่มขบวนการผู้ไม่หวังดีก็ตาม แต่ผู้ที่ได้รับผลกระทบทางสภาพจิตใจมากที่สุดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็คือ พ่อ แม่และญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต เพราะที่ผ่านมาไม่มีใครทราบเลยว่าบุตรหลานที่อ้างว่าเดินทางออกไปประกอบอาชีพเพื่อหารายได้เลี้ยงชีพยังประเทศมาเลเซีย รวมทั้งพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลานั้น สุดท้ายกลับตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มอาร์เคเค.ที่คอยปลูกฝังแนวความคิดจนกลุ่มวัยรุ่นเกิดความหลงผิด กลายเป็นกำลังของฝ่ายตรงข้ามมานานหลายปี จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์เศร้าสลดสำหรับญาติผู้เสียชีวิตในครั้งนี้
นายประดิษฐ์ สุคนธสวัสดิ์ ปลัดจังหวัดนราธิวาส กล่าวทำนองเดียวกันว่า แม้ผู้เสียชีวิตจะเป็นผู้ก่อเหตุ แต่ทางจังหวัดก็ได้ให้ความช่วยเหลือทางญาติทั้งเรื่องค่าศพครอบครัวละ 4,000 บาท และประกอบพิธีทางศาสนาตามหลักมนุษยธรรม นอกจากนี้ ยังจะช่วยเหลือเยียวยาด้านจิตใจด้วย โดยเบื้องต้นทางจังหวัดได้ประสานให้คณะกรรมการอิสลามจังหวัดเข้าไปพูดคุยด้วยแล้ว
ด้าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ส่วนตัวเห็นด้วยที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้แม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งเป็นผู้อำนวยการ กอ.รมน.ภาค 4 เป็นผู้กำกับดูแลแก้ไขปัญหาทั้งหมด โดยให้หน่วยงานอื่นสมทบ แต่ที่ยังแก้ปัญหาไม่ได้ผล เพราะทหารยังไม่ได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่สามารถปกป้องชีวิตประชาชนได้ ซึ่งตอนนี้ทราบว่า กำลังมีการปรับแก้ในเรื่องดังกล่าวอยู่
"ผมเคยให้คำแนะนำไปแล้วว่าต้องจัดเป็นหน่วยขนาดเล็กออกไปพบปะเยี่ยมเยียนชาวบ้านไม่ใช่ลาดตระเวนโดยล้อยางอย่างเดียวในเวลาคงที่ ก็ต้องถูกลอบวางระเบิดเสียชีวิตจำนวนมาก เรื่องนี้ไม่เคยสอนในโรงเรียนนายร้อยหรือโรงเรียนเสนาธิการทหาร" พล.ต.จำลองกล่าว
ขณะที่นายฆอรี ปัญญาเยา รองประธานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดสตูล กล่าวถึงสถานการณ์ความรุนแรงชายแดนใต้ว่า ความเห็นส่วนตัวไม่มั่นใจรัฐบาลทหารจะเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ทันที อย่างน้อยเหตุการณ์จะคลี่คลายต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปี เท่าที่ประเมินสถานการณ์ที่มีความรุนแรงมากขึ้น พี่น้องในพื้นที่เสียชีวิตทุกวัน