ศูนย์ข่าวภูเก็ต -จังหวัดภูเก็ตยอมถอย แก้ประกาศจังหวัดภูเก็ตเรื่องปลอดเจ็ตสกี ยอมให้เจ็ตสกีที่เสื่อมสภาพแล้วนำเรือลำใหม่สวมทะเบียนแทนได้จนถึงปี 2554 หลังผู้ประกอบการเดือดร้อนหนักจดทะเบียนไม่ได้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุม ให้เวลาจดทะเบียน 30 วัน หลังจากนั้นจับเด็ดขาด พร้อมขอเพิ่มเติมประกาศกระทรวงทรัพย์ฯห้ามมีเจ็ตสกีตลอดไปหลังปี 2554
นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้เป็นประธานการประชุมหารือการพิจารณาทบทวนการจัดระเบียบ การประกอบการธุรกิจเรือเจ็ตสกีในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ขนส่งทางน้ำสาขาที่ 5 ภูเก็ต ตำรวจน้ำ สรรพสามิตจังหวัดภูเก็ต เทศบาลตำบลกะรน เทศบาลตำบลป่าตอง เข้าร่วมประชุม
ทั้งนี้ เนื่องจากเทศบาลตำบลกะรน ได้ทำหนังสือถึงจังหวัดภูเก็ต กรณีที่ผู้ประกอบการเรือเจ็ตสกีในพื้นที่กะรน จำนวน 36 ลำ ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากไม่สามารถจดทะเบียนต่อขนส่งทางน้ำได้ ทำให้ถูกจับกุมเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จึงได้ทำหนังสือให้จังหวัดพิจารณาทบทวนประกาศดังกล่าว
นายสุรินทร์ ธีระกุลพิศุทธ์ ขนส่งทางน้ำจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ปัญหาที่เรือเจ็ตสกีในภูเก็ตไม่สามารถจดทะเบียนเรือได้ เนื่องจากติดประกาศของจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2547 ที่กำหนดให้จังหวัดภูเก็ตปลอดจากเรือเจ็ตสกีทั้งหมดในปี 2554 และประกาศดังกล่าวยังกำหนดให้เรือเจ็ตสกี ให้บริการได้ 5 หาดเท่านั้น คือ หาดป่าตอง กะตะ กะรน กมลา และหาดบางเทา และมีจำนวนเพียง 219 ลำเท่านั้น
แบ่งเป็นหาดบางเทา 51 ลำ หาดกมลา 13 ลำ หาดป่าตอง 166 ลำ หาดกะตะ กะรน 36 ลำ รวมทั้งจะไม่มีการจดทะเบียนให้แก่เรือเจ็ตสกีที่เสื่อมสภาพไปแล้ว แต่ในสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ผู้ประกอบการเจ็ตสกีที่เรือเจ๊ตสกีอยู่ในสภาพที่เสื่อมแล้ว ได้นำเรือใหม่สวมเพื่อขอจดทะเบียนใหม่ แต่ขนส่งทางน้ำไม่จดทะเบียนให้เพราะต้องปฏิบัติตามประกาศของจังหวัด แต่เมื่อตำรวจน้ำและเจ้าหน้าที่ของสำนักงานขนส่งทางน้ำ ไปตรวจสอบพบว่าเรือเจ็ตสกีไม่ได้จดทะเบียนจึงได้จับกุม
นายสุรินทร์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาขนส่งทางน้ำภูเก็ตได้ปฏิบัติตามประกาศของจังหวัดภูเก็ตมาโดยตลอด โดยการประสานงานไปยังสำนักงานขนส่งทางน้ำทั่วประเทศ ไม่ให้จดทะเบียนให้เรือเจ็ตสกีเคลื่อนย้ายมาให้บริการที่ภูเก็ต เพราะโดยส่วนตัวแล้วเห็นด้วยกับประกาศจังหวัดภูเก็ต ที่ให้ปลอดเรือเจ๊ตสกีในปี 2554 เพราะที่ผ่านมาเรือเจ็ตสกีได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่นักท่องเที่ยวอย่างมาก และหากจะให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทำงานได้สะดวก จังหวัดภูเก็ตจะต้องขอเพิ่มเติมในประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ห้ามไม่ให้มีเจ็ตสกีในภูเก็ต เหมือนกับที่กระบี่กำหนด ในประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ห้ามมีกิจกรรมกีฬาทางน้ำทุกประเภท
ขณะที่นายชัยรัตน์ สุขบาล นายกเทศบาลเมืองป่าตอง กล่าวว่า ปัจจุบันเรือเจ็ตสกีในป่าตองมีประมาณ 200 ลำ จากเดิมที่กำหนดให้มี 166 ลำ ซึ่งเรือเจ็ตสกีที่เพิ่มขึ้นมาจากหาดกมลาที่นักท่องเที่ยวน้อย ผู้ประกอบการจึงย้ายมาให้บริการที่ป่าตองแทน รวมทั้งเรือเจ็ตสกีที่ไม่ได้เป็นสมาชิกชมรมเรือเจ็ตสกีหาดป่าตอง และเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมานักท่องเที่ยวชาวสวีเดนได้ร้องเรียนไปยังสถานทูตสวีเดน ว่า เจ็ตสกีที่ให้บริการที่หาดป่าตอง เรียกเก็บค่าเสียหายการเฉี่ยวชนเกินความเป็นจริง โดยเรียกเก็บค่าเสียหายจากนักท่องเที่ยวชาวสวีเดนสูงถึง 100,000 บาท จากปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ชมรมเจ็ตสกีหาดป่าตองจะนำราคาค่าอะไหล่ จากบริษัทยามาฮ่ามาติดประกาศไว้ เพื่อไม่ให้เรียกเก็บค่าเสียหายจากนักท่องเที่ยวเกินความเป็นจริงอีก
ด้านนายทวี ทองแช่ม ปลัดเทศบาลตำบลกะรน กล่าวว่า ในส่วนของเทศบาลกะรนต้องการที่จะให้มีเรือเจ็ตสกีให้บริการนักท่องเที่ยวเหมือนเดิม เพราะที่หาดกะรนผู้ประกอบการสามารถที่จะควบคุมดูแลกันได้
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีมติที่จะเปลี่ยนแปลงประกาศจังหวัดภูเก็ต ให้เรือเจ็ตสกีที่เสื่อมสภาพแล้วสามารถนำเรือเจ็ตสกีลำใหม่มาจดทะเบียนสวมทะเบียนเรือลำเก่า ที่เสื่อมสภาพแล้วในช่วงก่อนถึงปี 2554 แต่เมื่อครบกำหนดปี 2554 แล้ว ภูเก็ตจะต้องปลอดจากเรือเจ็ตสกีทั้งหมด
นอกจากนี้จังหวัดภูเก็ตจะขอเพิ่มเติม ในประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมห้ามไม่ให้ประกอบการเจ็ตสกีในภูเก็ต โดยเรือทั้งหมดที่ยังไม่ได้จดทะเบียนจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน โดยให้ทางผู้บริหารท้องถิ่นเป็นผู้รับรองว่าเรือลำดังกล่าวเป็นผู้ประกอบการรายเดิมที่อยู่ในจำนวน 219 ลำเดิม
นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้เป็นประธานการประชุมหารือการพิจารณาทบทวนการจัดระเบียบ การประกอบการธุรกิจเรือเจ็ตสกีในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ขนส่งทางน้ำสาขาที่ 5 ภูเก็ต ตำรวจน้ำ สรรพสามิตจังหวัดภูเก็ต เทศบาลตำบลกะรน เทศบาลตำบลป่าตอง เข้าร่วมประชุม
ทั้งนี้ เนื่องจากเทศบาลตำบลกะรน ได้ทำหนังสือถึงจังหวัดภูเก็ต กรณีที่ผู้ประกอบการเรือเจ็ตสกีในพื้นที่กะรน จำนวน 36 ลำ ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากไม่สามารถจดทะเบียนต่อขนส่งทางน้ำได้ ทำให้ถูกจับกุมเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จึงได้ทำหนังสือให้จังหวัดพิจารณาทบทวนประกาศดังกล่าว
นายสุรินทร์ ธีระกุลพิศุทธ์ ขนส่งทางน้ำจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ปัญหาที่เรือเจ็ตสกีในภูเก็ตไม่สามารถจดทะเบียนเรือได้ เนื่องจากติดประกาศของจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2547 ที่กำหนดให้จังหวัดภูเก็ตปลอดจากเรือเจ็ตสกีทั้งหมดในปี 2554 และประกาศดังกล่าวยังกำหนดให้เรือเจ็ตสกี ให้บริการได้ 5 หาดเท่านั้น คือ หาดป่าตอง กะตะ กะรน กมลา และหาดบางเทา และมีจำนวนเพียง 219 ลำเท่านั้น
แบ่งเป็นหาดบางเทา 51 ลำ หาดกมลา 13 ลำ หาดป่าตอง 166 ลำ หาดกะตะ กะรน 36 ลำ รวมทั้งจะไม่มีการจดทะเบียนให้แก่เรือเจ็ตสกีที่เสื่อมสภาพไปแล้ว แต่ในสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ผู้ประกอบการเจ็ตสกีที่เรือเจ๊ตสกีอยู่ในสภาพที่เสื่อมแล้ว ได้นำเรือใหม่สวมเพื่อขอจดทะเบียนใหม่ แต่ขนส่งทางน้ำไม่จดทะเบียนให้เพราะต้องปฏิบัติตามประกาศของจังหวัด แต่เมื่อตำรวจน้ำและเจ้าหน้าที่ของสำนักงานขนส่งทางน้ำ ไปตรวจสอบพบว่าเรือเจ็ตสกีไม่ได้จดทะเบียนจึงได้จับกุม
นายสุรินทร์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาขนส่งทางน้ำภูเก็ตได้ปฏิบัติตามประกาศของจังหวัดภูเก็ตมาโดยตลอด โดยการประสานงานไปยังสำนักงานขนส่งทางน้ำทั่วประเทศ ไม่ให้จดทะเบียนให้เรือเจ็ตสกีเคลื่อนย้ายมาให้บริการที่ภูเก็ต เพราะโดยส่วนตัวแล้วเห็นด้วยกับประกาศจังหวัดภูเก็ต ที่ให้ปลอดเรือเจ๊ตสกีในปี 2554 เพราะที่ผ่านมาเรือเจ็ตสกีได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่นักท่องเที่ยวอย่างมาก และหากจะให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทำงานได้สะดวก จังหวัดภูเก็ตจะต้องขอเพิ่มเติมในประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ห้ามไม่ให้มีเจ็ตสกีในภูเก็ต เหมือนกับที่กระบี่กำหนด ในประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ห้ามมีกิจกรรมกีฬาทางน้ำทุกประเภท
ขณะที่นายชัยรัตน์ สุขบาล นายกเทศบาลเมืองป่าตอง กล่าวว่า ปัจจุบันเรือเจ็ตสกีในป่าตองมีประมาณ 200 ลำ จากเดิมที่กำหนดให้มี 166 ลำ ซึ่งเรือเจ็ตสกีที่เพิ่มขึ้นมาจากหาดกมลาที่นักท่องเที่ยวน้อย ผู้ประกอบการจึงย้ายมาให้บริการที่ป่าตองแทน รวมทั้งเรือเจ็ตสกีที่ไม่ได้เป็นสมาชิกชมรมเรือเจ็ตสกีหาดป่าตอง และเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมานักท่องเที่ยวชาวสวีเดนได้ร้องเรียนไปยังสถานทูตสวีเดน ว่า เจ็ตสกีที่ให้บริการที่หาดป่าตอง เรียกเก็บค่าเสียหายการเฉี่ยวชนเกินความเป็นจริง โดยเรียกเก็บค่าเสียหายจากนักท่องเที่ยวชาวสวีเดนสูงถึง 100,000 บาท จากปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ชมรมเจ็ตสกีหาดป่าตองจะนำราคาค่าอะไหล่ จากบริษัทยามาฮ่ามาติดประกาศไว้ เพื่อไม่ให้เรียกเก็บค่าเสียหายจากนักท่องเที่ยวเกินความเป็นจริงอีก
ด้านนายทวี ทองแช่ม ปลัดเทศบาลตำบลกะรน กล่าวว่า ในส่วนของเทศบาลกะรนต้องการที่จะให้มีเรือเจ็ตสกีให้บริการนักท่องเที่ยวเหมือนเดิม เพราะที่หาดกะรนผู้ประกอบการสามารถที่จะควบคุมดูแลกันได้
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีมติที่จะเปลี่ยนแปลงประกาศจังหวัดภูเก็ต ให้เรือเจ็ตสกีที่เสื่อมสภาพแล้วสามารถนำเรือเจ็ตสกีลำใหม่มาจดทะเบียนสวมทะเบียนเรือลำเก่า ที่เสื่อมสภาพแล้วในช่วงก่อนถึงปี 2554 แต่เมื่อครบกำหนดปี 2554 แล้ว ภูเก็ตจะต้องปลอดจากเรือเจ็ตสกีทั้งหมด
นอกจากนี้จังหวัดภูเก็ตจะขอเพิ่มเติม ในประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมห้ามไม่ให้ประกอบการเจ็ตสกีในภูเก็ต โดยเรือทั้งหมดที่ยังไม่ได้จดทะเบียนจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน โดยให้ทางผู้บริหารท้องถิ่นเป็นผู้รับรองว่าเรือลำดังกล่าวเป็นผู้ประกอบการรายเดิมที่อยู่ในจำนวน 219 ลำเดิม