ผู้จัดการรายวัน – เอฟเฟ็มปลื้ม ยอดขายวิสกัส พุ่งสู่อันดับหนึ่งของตลาดอาหารแมว คว้าแชร์ 35% เผยปีนี้อัดงบตลาดลุย 80 ล้านบาท หวังปีนี้เติบโต 30% ขยับแชร์สู่ 40%
นายปีเตอร์ คาร์ ผู้จัดการทั่วไป เอฟเฟ็ม ไทยแลนด์ อิงค์ กล่าวว่า ในปีที่แล้ววิสกัสประสบผลสำเร็จเป็นผู้นำในตลาดมียอดขายเป็นอันดับ 1 โดยครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด 35% ในตลาดอาหารแมวซึ่งมีมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท
ปีนี้บริษัทฯได้ตั้งเป้าหมายยอดขายของวิสกัสไว้ว่า “ในปี พ.ศ. 2550 ตลาดอาหารแมวในประเทศไทยยังมีศักยภาพที่จะขยายตัวได้อีกมาก เนื่องจากประชากรแมวในประเทศไทยมีประมาณ 6 ล้านตัว และมีเพียง 10% ที่เลี้ยงด้วยอาหารแมวสำเร็จรูป และอีก 90% เจ้าของเลี้ยงด้วยอาหารปรุงเองที่บ้าน ดังนั้น ในปี พ.ศ. 2550 วิสกัส จะผลักดันตลาดให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยงบการตลาดกว่า 80 ล้านบาท เพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคให้หันมาเลี้ยงแมวด้วยอาหารสำเร็จรูปวิสกัสแทน โดยตั้งเป้าหมายการเติบโตของยอดขายวิสกัสไว้ที่ 30% และเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 40%
ส่วนแผนการตลาดในปีนี้ยังคงรุกตลาดต่อเนื่องด้วยกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดแบบ 360 องศา โดยเปิดตัวแคมเปญ “วิสกัสท้าลองความอร่อย” เพื่อกระตุ้นตลาดให้มีการทดลองใช้อาหารแมววิสกัสอย่างต่อเนื่อง ด้วยการแจกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ฟรีให้กับผู้บริโภคได้ทดลองใช้ถึงบ้าน เพื่อให้บรรดาแมวทั้งหลายได้ลิ้มรสชาติความอร่อยของวิสกัส โดยช่องทางในการโฆษณาประชาสัมพันธ์แคมเปญนี้ ประกอบไปด้วย โฆษณาทางโทรทัศน์ที่ผู้เลี้ยงแมวสามารถโทรเข้ามาที่คอล เซ็นเตอร์ 1490 เพื่อรับสินค้าตัวอย่างฟรี การแจกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ฟรีผ่านทางรายการโทรทัศน์จันทร์พันดาว ทางช่อง 7 และการแจกตัวอย่างสินค้าตามบ้านหรือตลาดสด”
ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้วิสกัสเป็นอาหารแมวยอดขายอันดับ 1 มาจาก 3 ปัจจัยด้วยกันคือ1. การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง วิสกัสพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่มีกลิ่นหอมและรสชาติอร่อยจากปลาทะเล พร้อมปรุงรสด้วยน้ำซุปเข้มข้นปรุงจากปลาทะเล ซึ่งผลของการวิจัยความชื่นชอบของแมวต่ออาหารแมววิสกัส พบว่า แมวกว่า 80% ชอบในรสชาติของวิสกัส และยังได้รับการยอมรับจากเจ้าของแมวอีกด้วย นอกจากนี้ วิสกัส ยังให้มีการติดตั้งเครื่องจักรใหม่ที่ โรงงาน อ. ปากช่อง จ.นครราชสีมา เพื่อปรับปรุงคุณภาพการผลิต
2. คุณภาพของผลิตภัณฑ์ 3. การสื่อสารการตลาดแบบ 360 องศา ในปี พ.ศ.2549 วิสกัสได้ทุ่มงบการตลาดกว่า 50 ล้านบาท ในการสื่อสารการตลาดแบบ 360 องศา โดยใช้สื่อโฆษณาต่างๆ ทั้งโฆษณาทางโทรทัศน์ โฆษณาทางนิตยสาร โฆษณากลางแจ้ง และยังมีการแจกผลิตภัณฑ์ตัวอย่างพร้อมการให้ความรู้ในการให้อาหารที่ถูกต้องเพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคจากการใช้อาหารปรุงเองมาใช้วิสกัส ตลอดจนผนึกกำลังกับร้านค้าในการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ที่จัดส่งสินค้าไปยังทุกส่วนของประเทศไทย ผ่านทางร้านขายอาหารสัตว์เลี้ยง ร้านสัตวแพทย์ และร้านค้าประเภทโมเดิร์นเทรด
นายปีเตอร์ คาร์ ผู้จัดการทั่วไป เอฟเฟ็ม ไทยแลนด์ อิงค์ กล่าวว่า ในปีที่แล้ววิสกัสประสบผลสำเร็จเป็นผู้นำในตลาดมียอดขายเป็นอันดับ 1 โดยครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด 35% ในตลาดอาหารแมวซึ่งมีมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท
ปีนี้บริษัทฯได้ตั้งเป้าหมายยอดขายของวิสกัสไว้ว่า “ในปี พ.ศ. 2550 ตลาดอาหารแมวในประเทศไทยยังมีศักยภาพที่จะขยายตัวได้อีกมาก เนื่องจากประชากรแมวในประเทศไทยมีประมาณ 6 ล้านตัว และมีเพียง 10% ที่เลี้ยงด้วยอาหารแมวสำเร็จรูป และอีก 90% เจ้าของเลี้ยงด้วยอาหารปรุงเองที่บ้าน ดังนั้น ในปี พ.ศ. 2550 วิสกัส จะผลักดันตลาดให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยงบการตลาดกว่า 80 ล้านบาท เพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคให้หันมาเลี้ยงแมวด้วยอาหารสำเร็จรูปวิสกัสแทน โดยตั้งเป้าหมายการเติบโตของยอดขายวิสกัสไว้ที่ 30% และเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 40%
ส่วนแผนการตลาดในปีนี้ยังคงรุกตลาดต่อเนื่องด้วยกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดแบบ 360 องศา โดยเปิดตัวแคมเปญ “วิสกัสท้าลองความอร่อย” เพื่อกระตุ้นตลาดให้มีการทดลองใช้อาหารแมววิสกัสอย่างต่อเนื่อง ด้วยการแจกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ฟรีให้กับผู้บริโภคได้ทดลองใช้ถึงบ้าน เพื่อให้บรรดาแมวทั้งหลายได้ลิ้มรสชาติความอร่อยของวิสกัส โดยช่องทางในการโฆษณาประชาสัมพันธ์แคมเปญนี้ ประกอบไปด้วย โฆษณาทางโทรทัศน์ที่ผู้เลี้ยงแมวสามารถโทรเข้ามาที่คอล เซ็นเตอร์ 1490 เพื่อรับสินค้าตัวอย่างฟรี การแจกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ฟรีผ่านทางรายการโทรทัศน์จันทร์พันดาว ทางช่อง 7 และการแจกตัวอย่างสินค้าตามบ้านหรือตลาดสด”
ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้วิสกัสเป็นอาหารแมวยอดขายอันดับ 1 มาจาก 3 ปัจจัยด้วยกันคือ1. การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง วิสกัสพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่มีกลิ่นหอมและรสชาติอร่อยจากปลาทะเล พร้อมปรุงรสด้วยน้ำซุปเข้มข้นปรุงจากปลาทะเล ซึ่งผลของการวิจัยความชื่นชอบของแมวต่ออาหารแมววิสกัส พบว่า แมวกว่า 80% ชอบในรสชาติของวิสกัส และยังได้รับการยอมรับจากเจ้าของแมวอีกด้วย นอกจากนี้ วิสกัส ยังให้มีการติดตั้งเครื่องจักรใหม่ที่ โรงงาน อ. ปากช่อง จ.นครราชสีมา เพื่อปรับปรุงคุณภาพการผลิต
2. คุณภาพของผลิตภัณฑ์ 3. การสื่อสารการตลาดแบบ 360 องศา ในปี พ.ศ.2549 วิสกัสได้ทุ่มงบการตลาดกว่า 50 ล้านบาท ในการสื่อสารการตลาดแบบ 360 องศา โดยใช้สื่อโฆษณาต่างๆ ทั้งโฆษณาทางโทรทัศน์ โฆษณาทางนิตยสาร โฆษณากลางแจ้ง และยังมีการแจกผลิตภัณฑ์ตัวอย่างพร้อมการให้ความรู้ในการให้อาหารที่ถูกต้องเพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคจากการใช้อาหารปรุงเองมาใช้วิสกัส ตลอดจนผนึกกำลังกับร้านค้าในการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ที่จัดส่งสินค้าไปยังทุกส่วนของประเทศไทย ผ่านทางร้านขายอาหารสัตว์เลี้ยง ร้านสัตวแพทย์ และร้านค้าประเภทโมเดิร์นเทรด