"คมนาคม"ยันไม่ออกกฎกระทรวงขอยกเว้นกรณีอาคารผู้โดยสารสุวรรณภูมิผิด พ.ร.บ.ควบคุมอาคารฯ เหตุไม่ถูกต้อง หากต้องแก้กม.เพื่อทำให้เรื่องผิดเป็นถูก "ยอดเยี่ยม"เผยปัญหาต้องแก้ที่กระทบต่อความปลอดภัยก่อน เร่งประสานเอ็มเจทีเอของแบบรายละเอียดทั้งหมด พร้อมเตรียมจ้าง Third Party ยืนยันตู้ควบคุมไฟบนหลังคาไม่มีปัญหาเพื่อความแน่ใจ หลังเอ็มเจทีเอ ยันปากเปล่าไม่เกิดไฟไหม้แน่ ทอท. เร่งออกแบบประตูทางเข้าจากหมุนเป็นเลื่อน
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า จากกรณีที่ กลุ่มกิจการร่วมค้า เอ็มเจทีเอ ผู้ออกแบบอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ เสนอแนะให้กระทรวงคมนาคมออกกฎกระทรวงเพื่อขอยกเว้น กรณีที่อาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ ผิดพระราชบัญญัติควบคุมอาคารพ.ศ. 2522 นั้น คงไม่สามารถทำได้เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าผิดกฎหมายไปแล้ว และขอยกเว้นย้อนหลังถือว่าเป็นการทำสิ่งที่ผิดให้ถูกกฎหมายซึ่งไม่ถูกต้อง และในหลักการคือ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นของสนามบินสุวรรณภูมิให้เป็นไปตามกฎหมายโดยเน้นความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นหลัก
นายต่อตระกูล ยมนาค กรรมการบอร์ด บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.กล่าวว่า หลายประเด็นที่ทำให้อาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิผิดพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร และเอ็มจีทีเอได้ออกมาระบุ เช่น ห้องน้ำต้องมี 10,000ห้องถึงจะถูกกฎหมายนั้นมากเกินไป ทำให้ดูเหมือนกฎหมายที่มีเป็นเรื่องไร้สาระ ซึ่งไม่น่าจะถูกต้องเพราะกฎหมายมีไว้ให้ปฎิบัติตาม ไม่ใช้พอทำผิดแล้วมาขอยกเว้น
ด้านนายยอดเยี่ยม เทพธรานนท์ กรรมการบอร์ดทอท.ในฐานะ คณะทำงานแก้ไขปัญหาของผู้โดยสาร พนักงาน และประชาชนบริเวณภายในและโดยรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกล่าวว่า หลักการทำงานของคณะทำงานคือแก้ปัญหาภายในอาคารผู้โดยสารที่กระทบต่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ทั้งเรื่องร้านค้าบังทางหนีไฟ ปัญหาบันไดเลื่อน ฯลฯ เพื่อให้สนามบินมีความปลอดภัยก่อนเป็นลำดับแรก
ทั้งนี้ ทอท.จะต้องประสานกับ เอ็มเจทีเอ ซึ่งเป็นผู้ออกแบบและรู้เรื่องแบบทั้งหมดของอาคารเพื่อนำแบบทั้งหมดมาพิจารณาว่า บริเวณใดที่ต้องปรับแก้เพื่อให้เสี่ยงต่อการทำให้เกิดความไม่ปลอดภัย และเร่งแก้ไขต่อไป ซึ่งทั้งหมดจะต้องทำงานร่วมกัน โดยยึดประชาชนเป็นหลัก
นายยอดเยี่ยมกล่าวว่า สำหรับตู้ควบคุมระบบไฟฟ้าและแสงสว่างภายในอาคารผู้โดยสาร ซึ่งติดตั้งอยู่บนหลังคาของอาคารผู้โดยสารและพบว่าเป็นจุดที่จะได้รับความร้อนสูงในระดับ 52 – 55 องศาเซลเซียสอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายกับตู้ควบคุมหรือในขั้นร้ายแรงอาจเกิดเพลิงไหม้ได้นั้น เอ็มเจทีเอระบุว่าจะไม่เกิดเพลิงไหม้ในบริเวณดังกล่าวแน่นอนและทอท.ไม่ต้องทำห้องควบคุมอุณหภูมิซึ่งต้องใช้งบประมาณอีกกว่า 10 ล้านบาท แต่เพื่อความแน่ใจทอท.ได้ให้เอ็มเจทีเอในฐานะผู้ออกแบบ ส่งเอกสารรับรองการยืนยันดังกล่าวมาภายในวันที่ 21 ก.พ.นี้ แต่จนถึงขณะนี้ทอท.ยังไม่ได้รับหนังสือยืนยัน อย่างไรก็ตามแม้ว่า เอ็มเจทีเอจะยืนยันกลับมาเป็นลายลักษณ์อักษรแต่เพื่อความแน่ใจในความปลอดภัย ทอท.จะต้องว่าจ้าง Third Party เข้ามาตรวจสอบเพื่อยืนยันอีกชั้นหนึ่ง
** เร่งแก้ประตูหมุนเป็นเลื่อน
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบประตูทางเข้าอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ ทั้ง 26 ประตูใหม่โดยจะใช้ประตู แบบเลื่อน 2 ชั้น แทนประตูหมุน คาดว่าแบบจะเสร็จภายใน 1 เดือน จากนั้นจะคำนวนค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยน ก่อนเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. พิจารณา เนื่องจากทอท.จะต้องขอความเห็นชอบการใช้งบประมาณที่เพิ่มส่วนนี้ จากสํานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ด้วย เพราะเนื้องานในส่วนของประตูทางเข้าอาคาร ทอท.ได้รับจากผู้รับเหมาแล้ว การปรับเปลี่ยนทอท.ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง
ซึ่งคาดว่าประมาณปลายปี 2550 จะเริ่มทยอยปรับเปลี่ยนประตูได้ประมาณ 2-3 ประตู โดยจะไม่กระทบต่อการให้บริการผู้โดยสาร ซึ่งประตูแบบเลื่อน 2 ชั้นจะสามารถควบคุมอุณหภูมิและทำให้การใช้งานสะดวกมากขึ้น กว่า ปัจจุบัน ที่ประตูหมุนมีปัญหา แตกใช้ไม่ได้ถึง 17 ประตู จากทั้งหมดโดยส่วนใหญ่แตกเพราะถูกรถเข็นกระเป๋าชน และแต่ปากฉลาม ซึ่งหากผู้โดยสารเดินไม่ระมัดระหวังกระจกอาจจะบาดได้
ส่วนการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในส่วนของการรักษาความปลอดภัยนั้นนายเสรีรัตน์ กล่าวว่า การรักษาความปลอดภัยของสนามบินเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่ง นอกจากประสานกับเจ้าหน้าที่รัฐแล้ว รูปแบบการรักษาความปลอดภัยขณะนี้ ได้ปรับเพิ่มเป็นระดับ 3 จากทั้งหมด 4 ระดับ ตามสถานการณ์ หลังมีข่าวว่าจะมีการวางระเบิดในสถานที่สำคัญของกรุงเทพฯ โดยจะมีการตรวจเข้มทุกตารางพื้นที่
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า จากกรณีที่ กลุ่มกิจการร่วมค้า เอ็มเจทีเอ ผู้ออกแบบอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ เสนอแนะให้กระทรวงคมนาคมออกกฎกระทรวงเพื่อขอยกเว้น กรณีที่อาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ ผิดพระราชบัญญัติควบคุมอาคารพ.ศ. 2522 นั้น คงไม่สามารถทำได้เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าผิดกฎหมายไปแล้ว และขอยกเว้นย้อนหลังถือว่าเป็นการทำสิ่งที่ผิดให้ถูกกฎหมายซึ่งไม่ถูกต้อง และในหลักการคือ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นของสนามบินสุวรรณภูมิให้เป็นไปตามกฎหมายโดยเน้นความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นหลัก
นายต่อตระกูล ยมนาค กรรมการบอร์ด บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.กล่าวว่า หลายประเด็นที่ทำให้อาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิผิดพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร และเอ็มจีทีเอได้ออกมาระบุ เช่น ห้องน้ำต้องมี 10,000ห้องถึงจะถูกกฎหมายนั้นมากเกินไป ทำให้ดูเหมือนกฎหมายที่มีเป็นเรื่องไร้สาระ ซึ่งไม่น่าจะถูกต้องเพราะกฎหมายมีไว้ให้ปฎิบัติตาม ไม่ใช้พอทำผิดแล้วมาขอยกเว้น
ด้านนายยอดเยี่ยม เทพธรานนท์ กรรมการบอร์ดทอท.ในฐานะ คณะทำงานแก้ไขปัญหาของผู้โดยสาร พนักงาน และประชาชนบริเวณภายในและโดยรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกล่าวว่า หลักการทำงานของคณะทำงานคือแก้ปัญหาภายในอาคารผู้โดยสารที่กระทบต่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ทั้งเรื่องร้านค้าบังทางหนีไฟ ปัญหาบันไดเลื่อน ฯลฯ เพื่อให้สนามบินมีความปลอดภัยก่อนเป็นลำดับแรก
ทั้งนี้ ทอท.จะต้องประสานกับ เอ็มเจทีเอ ซึ่งเป็นผู้ออกแบบและรู้เรื่องแบบทั้งหมดของอาคารเพื่อนำแบบทั้งหมดมาพิจารณาว่า บริเวณใดที่ต้องปรับแก้เพื่อให้เสี่ยงต่อการทำให้เกิดความไม่ปลอดภัย และเร่งแก้ไขต่อไป ซึ่งทั้งหมดจะต้องทำงานร่วมกัน โดยยึดประชาชนเป็นหลัก
นายยอดเยี่ยมกล่าวว่า สำหรับตู้ควบคุมระบบไฟฟ้าและแสงสว่างภายในอาคารผู้โดยสาร ซึ่งติดตั้งอยู่บนหลังคาของอาคารผู้โดยสารและพบว่าเป็นจุดที่จะได้รับความร้อนสูงในระดับ 52 – 55 องศาเซลเซียสอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายกับตู้ควบคุมหรือในขั้นร้ายแรงอาจเกิดเพลิงไหม้ได้นั้น เอ็มเจทีเอระบุว่าจะไม่เกิดเพลิงไหม้ในบริเวณดังกล่าวแน่นอนและทอท.ไม่ต้องทำห้องควบคุมอุณหภูมิซึ่งต้องใช้งบประมาณอีกกว่า 10 ล้านบาท แต่เพื่อความแน่ใจทอท.ได้ให้เอ็มเจทีเอในฐานะผู้ออกแบบ ส่งเอกสารรับรองการยืนยันดังกล่าวมาภายในวันที่ 21 ก.พ.นี้ แต่จนถึงขณะนี้ทอท.ยังไม่ได้รับหนังสือยืนยัน อย่างไรก็ตามแม้ว่า เอ็มเจทีเอจะยืนยันกลับมาเป็นลายลักษณ์อักษรแต่เพื่อความแน่ใจในความปลอดภัย ทอท.จะต้องว่าจ้าง Third Party เข้ามาตรวจสอบเพื่อยืนยันอีกชั้นหนึ่ง
** เร่งแก้ประตูหมุนเป็นเลื่อน
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบประตูทางเข้าอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ ทั้ง 26 ประตูใหม่โดยจะใช้ประตู แบบเลื่อน 2 ชั้น แทนประตูหมุน คาดว่าแบบจะเสร็จภายใน 1 เดือน จากนั้นจะคำนวนค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยน ก่อนเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. พิจารณา เนื่องจากทอท.จะต้องขอความเห็นชอบการใช้งบประมาณที่เพิ่มส่วนนี้ จากสํานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ด้วย เพราะเนื้องานในส่วนของประตูทางเข้าอาคาร ทอท.ได้รับจากผู้รับเหมาแล้ว การปรับเปลี่ยนทอท.ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง
ซึ่งคาดว่าประมาณปลายปี 2550 จะเริ่มทยอยปรับเปลี่ยนประตูได้ประมาณ 2-3 ประตู โดยจะไม่กระทบต่อการให้บริการผู้โดยสาร ซึ่งประตูแบบเลื่อน 2 ชั้นจะสามารถควบคุมอุณหภูมิและทำให้การใช้งานสะดวกมากขึ้น กว่า ปัจจุบัน ที่ประตูหมุนมีปัญหา แตกใช้ไม่ได้ถึง 17 ประตู จากทั้งหมดโดยส่วนใหญ่แตกเพราะถูกรถเข็นกระเป๋าชน และแต่ปากฉลาม ซึ่งหากผู้โดยสารเดินไม่ระมัดระหวังกระจกอาจจะบาดได้
ส่วนการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในส่วนของการรักษาความปลอดภัยนั้นนายเสรีรัตน์ กล่าวว่า การรักษาความปลอดภัยของสนามบินเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่ง นอกจากประสานกับเจ้าหน้าที่รัฐแล้ว รูปแบบการรักษาความปลอดภัยขณะนี้ ได้ปรับเพิ่มเป็นระดับ 3 จากทั้งหมด 4 ระดับ ตามสถานการณ์ หลังมีข่าวว่าจะมีการวางระเบิดในสถานที่สำคัญของกรุงเทพฯ โดยจะมีการตรวจเข้มทุกตารางพื้นที่