xs
xsm
sm
md
lg

รอยไถแปร (เปรอะ) ที่ FM 92.25 Mhz.

เผยแพร่:   โดย: อมร อมรรัตนานนท์

.
ทุ่งนาแดนนี้ ไม่มีความหมาย

เหลือเพียงกลิ่นโคลนสาบควาย

เห็นซากคันไถแล้วเศร้า

เห็นนาที่ร้างนั้นมีแต่ฟาง แทนรวงข้าว

เห็นเคียวที่เกี่ยว เหน็บติดเสา

เล่นเอาใจเรา สะท้อน............


คงแปลกใจว่า วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับ ฅ.เลือกข้าง

เกิดอยากเป็นศิลปินหรือไง?

เปล่าครับ..

เพียงแต่ว่า วันนี้อยากจะเขียนเรื่องขำๆ ซึ่งเป็นความรู้สึกสะใจ ที่ได้เผชิญด้วยตนเอง

เพลงรอยไถแปร เป็นผลงานที่อมตะของก้าน แก้วสุพรรณ นักร้องลูกทุ่งที่คนอายุเกิน 50 ปี ขึ้นไปต้องรู้จักกันทุกคน

เพลงๆ นี้ ได้รับการสืบทอดสานต่อจากนักร้องสายเพื่อชีวิต อีกหลายคน ทำให้เยาวชนคนหนุ่มสาวปัจจุบันได้สัมผัสกับผลงานที่ยิ่งใหญ่ และเข้าถึงวิถีของสังคมชนบทไทย

เนื้อเพลง สาระเนื้อหา อาจไม่สอดคล้องกับเรื่องที่จะเล่าให้ฟังทั้งหมดหรอก!!!!

แต่ชอบตรงคำว่า “รอยไถ”...............


วันก่อนเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

การเมืองไทยเกิดแรงกระเพื่อมขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

หลังจากที่

หลายคนกำลังตื่นจากความหงุดหงิด

หลายคนเริ่มเห็นอนาคตประเทศไทย

หลายคนศรัทธาที่เคยวูบหายกับฟื้นคืนกลับมาเป็นความปีติยินดี

ที่เห็นรัฐบาล พลเอกสุรยุทธ์เริ่มติดเครื่อง เดินหน้า

การเปลี่ยน ผบ.ตร. เป็น พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์

การเปิดโอกาสให้ รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ได้ออกอากาศ ทางฟรีทีวีช่อง 11

การปลุกเร้าความคิดรักชาติ ในการทวงสมบัติชาติคืนของพลเอกสนธิ

การเร่งปิดคดีของ คตส. ฯลฯ


เป็นการปลุกเร้าเป็นสัญญาณในทางบวก ที่ทำให้ฝ่ายรักชาติรักประชาธิปไตย ได้มีชีวิตชีวามากขึ้น

แต่เหตุการณ์ ที่ไม่คาดคิด ในเช้าวันพฤหัสบดีที่ 15 กุมภาพันธ์ 2007 หลังจากวันแห่งความรัก ผ่านพ้นไปเพียงวันเดียว

สิ่งที่เกิดขึ้น

จากหยดหมึกปลายปากกกาของ นายกฯ สุรยุทธ์ที่เซ็นคำสั่งโดยลำพัง แต่งตั้งนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นประธานคณะกรรมการประสานงานและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

เสมือนหนึ่งสายฟ้าที่ฟาดใส่กลางยอดอกของพี่น้องยามเฝ้าแผ่นดิน และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

สถานการณ์วันนั้น มันช่างเหมือนฝันร้าย ที่กลายเป็นเรื่องจริง

บางคนตีอกชกลม อย่างนี้เอาไว้ไม่ได้แล้ว

บางคนบอกว่านี่มันถ่มน้ำลายรดหน้ากันนี่หว่า

บางคนน้อยใจบอกต่อไปนี้จะไม่ยุ่งกับบ้านนี้เมืองนี้อีกแล้ว เตะหมูเข้าปากหมาทุกที

ฯลฯ


ระดับของอารมณ์ และเหตุผลที่ไม่ยอมรับการที่คุณสมคิดจะมาช่วยงานรัฐบาลสุรยุทธ์ของพี่น้อง ยามเฝ้าแผ่นดิน และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแตกต่างกัน ตามเงื่อนไขของข้อมูลข่าวสาร และประสบการณ์ทางการเมืองของแต่ละคน

แต่องค์รวมที่ตรงกันอย่างมิได้นัดหมาย คือ ไม่เอาสมคิด เพราะสมคิดยังไม่ชัดเจนต่อการเป็นกบฏต่อระบอบทักษิณ

แม้กระทั่งคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นเพื่อนที่เคยคบหากันมานาน

ก็ไม่เห็นด้วย

การประกาศจุดยืน ท่าที และความเห็น ของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ในรายการยามเฝ้าแผ่นดิน คืนที่นายสมคิด ได้รับการแต่งตั้ง เป็นการให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา และชัดเจนที่สุด

หากทุกคนตั้งใจฟัง และตรึกตรองตั้งแต่ต้นจนจบ

แต่ด้วยอารมณ์ที่สังคมต้องเข้าใจ

บางคนฟังไม่จบ บางคนฟังไปวิจารณ์ไป

คุณสนธิเอง จึงต้องตกเป็นจำเลยของพี่น้องบ้างคน

คุณสนธิได้เอ่ยออกมาว่า พวกเราต้องเข้าใจ ต้องเข้มแข็ง

ต้องอดทน น้อมรับเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกของพี่น้องยามเฝ้าแผ่นดิน และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย


อาการหงุดหงิด อาการเบื่อหน่าย การวิพากษ์วิจารณ์ ย่อมเกิดขึ้น

มันเป็นอารมณ์ของนักรบในสนามรบ ซึ่งสงครามยังไม่ได้ประกาศชัยชนะ


ที่สำคัญ

มันอารมณ์ของนักรบที่หัวขบวนแม่ทัพนายกองของพวกเขา ถูกชิงธงถือเทียนโดยผู้นำใหม่ ที่รอการพิสูจน์ตนเองอยู่

มันจึงเป็นปรากฏการณ์ธรรมดาๆ ที่เหล่านักรบผู้กล้า จะออกมาติติงผู้ร่วมขบวนแถวอย่างตรงไปตรงมา

การติติงด้วยความถนอมรัก

การเสนอแนะด้วยความห่วงใย

เป็นความงดงามที่ฝ่ายประชาชนมอบให้แก่กัน ในยามที่อาจเกิดการสับสน และเข้าใจข้อมูลที่ไม่ตรงกัน


การวิจารณ์ สามัคคี วิจารณ์ คือหลักการที่ฝ่ายประชาชนพึงปฏิบัติ

แต่ในสนามรบของผู้กล้า ทุกสนามที่ผ่านมา

ย่อมมีเหล่าทรชน เดนคน ปีศาจนักฉวยโอกาสที่มุ่งฉกฉวยหาผลประโยชน์ต่อชัยชนะของประชาชน ได้เข้ามาแฝงร่างบังกายอยู่ในขบวนแถวของประชาชนจำนวนมาก

คนเหล่านี้ ในวงการผู้กล้า ต่างรู้ดี

ตัวตน อดีต ปัจจุบัน เป็นอย่างไร ไม่อาจเอาฝ่ามือปิดฟ้าได้หรอก

วันใดที่สบโอกาส สถานการณ์ เอื้ออำนวย เกิดช่องว่าง เหล่าปีศาจ ก็จะออกแสดงแผลงฤทธิ์

กลางวันของศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2007 คลื่น 92.25 ซึ่งเป็นพันธมิตรกันมาอย่างยาวนาน

ฝูงปีศาจในคราบนักประชาธิปไตย เข้าใจผิด คิดว่าโอกาสของพวกเขาถึงแล้ว ในการจะคืนร่างเป็นปีศาจเต็มรูปแบบ

จริตของพวกเขา อึดเต็มแก่ ในการรักษาร่างนักประชาธิปไตย จะหากินของสกปรก จะเสพอาจม ก็ลำบาก ต้องแฝงเร้นทำตนให้ฝ่ายประชาชนยอมรับ


ปีศาจย่อมคือปีศาจ

สายตาย่อมสั้นและพร่ามัว

พวกเขาอ่านสถานการณ์ผิด

วันที่เขาใช้ คลื่น 92.25 โจมตีใส่ร้ายคุณสนธิ ลิ้มทองกุล อย่างสาดเสียเทเสีย วันนั้นยามเฝ้าแผ่นดิน และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บางส่วนอาจสับสน และหลงไปกับกลลวงของนักฉวยโอกาสเหล่านั้น

แต่ก็เป็นเพียงส่วนน้อย และสับสนไปชั่วขณะ หลังจากเย็นวันศุกร์ ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2007 พี่น้องเหล่าได้ฟังคำชี้แจง ในรายการยามเฝ้าแผ่นดิน ทุกคนต่างตระหนักและเข้าใจดี ว่าคุณสนธิ ลิ้มทองกุล คิดอะไร? ทำเพื่อใคร?

คนที่เจ็บปวดที่สุด และแทบจะหารอยแยกในสนามบินสุวรรณภูมิ แทรกร่างฝังกายหนีจากแผ่นดินนี้

ก็คือนักฉวยโอกาสเหล่านั้น

สิ่งที่เขาได้รับวันนั้นจากพี่น้องยามเฝ้าแผ่นดิน และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คือ โทรศัพท์ต่อว่าและกดดันไปที่สถานี

วันนี้เขาถูกแบนและสั่งห้ามออกอากาศ คลื่น 92.25 แล้ว

ถูกต้องแล้วครับ กับการตัดสินใจของผู้บริหารคลื่น 92.25


ผมในฐานะที่ต้องรับผิดชอบกับพี่น้องยามเฝ้าแผ่นดิน และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผ่านทางรายการสภากาแฟ สภาประชาชน ทาง ASTV ช่อง NEWS1 ทุกเสาร์-อาทิตย์ เวลา 07.00-09.00 น.และรายวิทยุ “ก่อนจะเป็นยามเฝ้าแผ่นดิน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 19.00-20.30 น. ทาง FM 97.75 MhZ

เป็นภาระหน้าที่โดยตรง ที่จะต้องให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องตรงไปตรงมา เพื่อให้ระดับการเข้าถึงข้อมูล ในระนาบลึกและกว้างอย่างเท่าเทียมกัน

มันผิดด้วยหรือ? ที่ข้อมูลเหล่านั้นจะไปเปิดหน้า ล้วงตับของปีศาจนักฉวยโอกาส


จริงๆ แล้ว บอกตรงๆ ไม่อยากเขียนถึง

แต่ต้องทำ เพราะจะได้จารึกไว้ในประวัติศาสตร์

เมื่อวาน มีพี่คนหนึ่ง โทร.มาบอกว่า

“เฮ้ย มอน ไอ้....รถไถ มันด่าเอ็งที่คลื่น 92.25 ว่า มันโดนหมากัด แต่ไม่อยากด่าเจ้าของหมา.... ขอเตะปากหมา...แถมยังว่า มึงคงโกรธโดนถอดรายการจาก 92.25 เรื่องไปตั้งแนวร่วมสามัคคีประชาชนไทย (สปท.).....แล้วมันยังบอกว่าเอ็งเป็นลูกน้องไอ้ประพัฒน์ (ประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์) พี่ล่ะขำกลิ้ง นักข่าว ห่า อารายว่ะ ไม่รู้จริง เอ็งมันทีมไอ้อ้วน....แต่พี่ว่ามันดีว่ะ มันเอาประวัติมอนไปโฆษณาให้... คนกลับใจยังดีกว่านักฉวยโอกาส....”

“มันหลอกคนหาประโยชน์ไปวันๆ มอนรู้ป่ะ มันตอนนี้เที่ยวไปเดินตามหลังผู้ใหญ่ มีทั้ง คมช. สนช. ส.ส.ร. ขอโน้น ขอนี่ ถ้าเอ็งรู้เตือนผู้ใหญ่หน่อยนะ เดี๋ยวผู้ใหญ่เสียหมด เห็นว่ามีบางคนเดี๋ยวนี้ชื่อเสียงเริ่มเหม็นแล้ว”


ผมฟัง พร้อมซักไปด้วย

ผมบอกพี่คนนั้นว่า

“เออดีนะ มันยกย่องผมเป็นหมา หมานะมันเป็นสัตว์ที่ซื่อสัตย์ นะ..... ในหลวงยังเลี้ยงเลย ผมขอเป็นหมาเฝ้าบ้านนะพี่....ส่วนมันนะ..ไม่มีราคาพอหรอก ที่จะเป็นแม้หมาเฝ้าบ้าน..ถ้าจะเป็นก็อาจเป็นได้แค่หมาขี้เรื้อน ที่เสพติดอาจมอำนาจ และผลประโยชน์แห่งพระเจ้าเงินตรา...” (เสียงหัวเราะดังลั่น)

“พี่ไม่มีอะไรหรอก วันก่อนผมพูดถึงลูกพี่มันที่โกงแชร์ชาวบ้านและไปฟอกตัวที่อังกฤษ มันคงแค้น...มีอย่างที่ไหน ทำตัวเป็นนักประชาธิปไตย..ปลุกม็อบต้องใช้หางเครื่อง พี่จำได้ป่ะ...พวกนี้มันโกรธมาก ก็ตรงที่พันธมิตรฯ ไม่ให้ขึ้นเวที.....”

“พวกนี้มันบ้า ยุแต่จะให้เราพาชาวบ้านไปตาย... เพื่อเงื่อนไขปฏิวัติ....พี่จำได้ไหม มันถึงขั้นไปใช้ศิษย์อาจารย์เสริฐ ทรัพย์สุนทร ไปตั้งม็อบอีกฝั่งหนึ่งของสนามหลวง....เพื่อจุดชนวนความรุนแรง"

“ไอ้... รถไถนี่มันเคยถูกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์สอบ

ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2542 มันถูกนักข่าวหนังสือพิมพ์ วิทยุโทรทัศน์ สายการเมืองประจำทำเนียบรัฐบาลจำนวน 68 คน ยื่นเรื่องต่อคณะอนุกรรมการรับเรื่องราวร้องทุกข์ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ที่มี นายเกษม ศิริสัมพันธ์ เป็นประธาน ให้ทำการสอบสวนกรณีที่หนังสือพิมพ์สยามรัฐสัปดาหวิจารณ์ได้ตีพิมพ์ว่า “ไอ้...รถไถ” รับสินบนจากนักการเมืองคนหนึ่งที่เป็นถึงรัฐมนตรี และยังมีเอกสารบัญชีค่าใช้จ่ายเงินของนักการเมืองคนดังกล่าวเผยแพร่ออกมาตามที่สยามรัฐฯ ได้ตีพิมพ์ด้วย”

นักข่าวขณะนั้น ได้สอบถามไปยัง นายไกรสีห์ พุทธรักษา บรรณาธิการสยามรัฐสัปดาหวิจารณ์ และ นายพิชาย ชื่นสุขสวัสดิ์ บรรณาธิการบางกอกโพสต์ ให้ข้อมูลว่า มีบางรายการพบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานที่โรงแรม การจัดเลี้ยง และการจองซื้อรถให้ผู้สื่อข่าวบางกอกโพสต์จริง”

“ต่อมาเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2542 ที่ประชุมคณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ได้พิจารณาเรื่องที่มีการร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมดังกล่าว ซึ่งที่ประชุมมีมติว่า“มีมูล” จนในที่สุด มันต้องลาออก เพราะไปไถบัตรทอง กะรถฟอร์จูนเนอร์ วงการเขารู้จักดี ไม่มีใครคบแล้ว นอกจากพวกที่จะให้มันหาเงินให้ใช้ ไอ้นี่มัน ไถเก่งพี่”

ก่อนจบสนทนา

พี่คนนั้นฝากบอกว่า

“พี่ว่า ให้มันเปลี่ยนชื่อเถอะ มันไม่สมควรจะใช้สัตว์ใหญ่ชนิดนี้ มันเป็นของคู่บ้านคู่เมือง คนเลวอย่างมันไม่คู่ควร ต้องเป็นสัตว์สองเพศว่ะ”

“สัตว์สองเพศ มันอะไรล่ะพี่ สัตว์กะเทยผมไม่รู้จัก”


“ก็ไส้เดือนไง”

ผมหัวเราะก๊ากใหญ่ ขำกลิ้งจริงๆๆๆๆ

ก่อนคิดในใจว่า ไส้เดือนยังมีประโยชน์มากกว่าสื่อรถไถ เพราะมันยังทำหน้าที่พรวนดิน

จบ

กำลังโหลดความคิดเห็น