คมช.กับรัฐบาลกลัวการกลับมาของทักษิณหรือไม่
กลัวหรือไม่กลัวผมไม่ทราบ แต่ผมว่าเขาประมาท
27 กันยายน 2549 หลังยึดอำนาจได้ 9 วัน ผมเขียนบทความ ชื่อเหมือนข้อความที่ขีดเส้นใต้ ซึ่งจบด้วยคำวิงวอนว่า
“ได้โปรดเถิด อย่าปล่อยให้ วิ่งเต้น เล่นพวก รีบทำลวกๆ เละอย่างเป็นระบบ และจบแบบไทยๆ เลย ระบอบทักษิณจะกลับมา ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขจะหายไปจริงๆ!”
ผมไม่อยากเห็นประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย เกิดการนองเลือดเหมือนอย่างเช่นยุค รสช. และสถาบันกษัตริย์ถูกนำเข้าไปเสี่ยงมากขึ้นทุกที
เมื่อรัฐบาลสุจินดาล่ม ผมได้เห็นความสับปลับกลับกลอกของสังคมไทยที่พากันไชโยโห่ร้องต้อนรับรัฐบาลอานันท์ ปันยารชุน ทั้งๆ ที่การเรียกร้องนายกรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้งยังไม่สิ้นกระแสเสียง และสภาเลือกตั้งก็ยังมีอยู่
ผมเคารพนับถือคุณอานันท์ในฐานะอาจารย์และกัลยาณมิตร และเดี๋ยวนี้ก็ยังเหมือนเดิม แต่ผมมั่นใจว่ารัฐบาลอานันท์ 2 จะเป็นการเสียเวลาซ้ำสอง เพราะคุณอานันท์และคนที่มาเป็นทีมนั้นมีข้อจำกัดไม่สามารถออกจากชาติภพหรือกรอบความคิดเดิม (Old Paradigm) ในการบริหารแผ่นดินได้ คุณอานันท์มีดีอย่างเดียวคือความโปร่งใส แต่คุณอานันท์ติดกับของระบบจึงส่งผ่านความโปร่งใสให้เป็นมรดกของการเมืองไทยไม่สำเร็จ
นี่คือสาเหตุหนึ่งที่บ้านเมืองเรายังจมปลักอยู่
ผมจึงขอร้องวิงวอนคณะปฏิรูปฯ ว่าอย่าติดยึดกรอบความคิดเก่าหรือทำอะไรๆ ให้เหมือนกับ รสช.
เพราะคราวนี้เราไม่มีเวลาฟุ่มเฟือยอีกแล้ว อย่าเอาอนาคตของชาติและสถาบันกษัตริย์ไปเสี่ยงเลย
คำร้องขอที่ไร้ผล อีก 7 วันก็จะครบ 5 เดือนเต็มที่ผมส่งคำวิงวอนไปถึงคณะปฏิรูปฯ เดี๋ยวนี้เราไม่มีคณะปฏิรูปฯ อีกแล้ว เพราะเขาพากันเอาแบบ รสช. ด้วยการเปลี่ยนชื่อให้คล้ายๆ กับเผด็จการทหารพม่าว่า คมช. แล้วเขาก็ยกอำนาจรัฐาธิปัตย์ให้กับรัฐธรรมนูญชั่วคราว และนักกฎหมายสับปะรังเคกลุ่มหนึ่งที่ทรงอิทธิพลต่อเนื่องมาก่อนหรือตั้งแต่ยุคเผด็จการ รสช.
คำร้องและคำเตือนบางส่วนของผมมีดังนี้
1. เราต้องร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งชั่วคราวและถาวร และจัดตั้งองค์กร เช่น สภานิติบัญญัติ และคณะรัฐมนตรี ด้วย กรอบคิดใหม่ (New Paradigm)
2. การร่างรัฐธรรมนูญโดยกรอบคิดเก่า (old paradigm) โดยคณะบุคคลเก่าที่เคยทำความเสื่อมเสียต่อพระราชอำนาจและพระศาสนา จะไม่มีทางได้รัฐธรรมนูญราชประ ชาสมาสัย ครั้งนี้เป็นโอกาสสุดท้ายของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
3. การสร้างระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขขึ้นอยู่กับการร่างรัฐธรรมนูญแบบราชประชาสมาสัย
4. ราชประชาสมาสัยมิใช่การรบกวนเบื้องพระยุคลบาทหรือขอให้ในหลวงร่างรัฐธรรมนูญพระราชทานลงมา รัฐธรรมนูญแบบราชประชาสมาสัย ต้องเน้นการมีส่วนร่วมระหว่างบุญบารมี ของในหลวง พระบรมราชวินิจฉัย ความเข้าใจพระราชอำนาจ บวกกับความเต็มใจ ความรู้และการขานรับหรือประชามติของปวงชน
ผมคิดว่าบัดนี้เกือบจะสายเกินไปเสียแล้ว ชนชั้นปกครองไทยเป็นผู้มากด้วยทิฐิมานะ การจะปรับเปลี่ยนเพราะรับฟังหลักคิดหรือหลักฐานจากผู้อื่นนั้นนับเป็นเรื่องยาก
อนึ่ง หลักฐานหรือข้อมูล (รวมทั้งการข่าว) ของตนก็อ่อน เพราะมัวแต่มั่วกับงานประจำและภารกิจตามครรลองของกรอบความคิดเก่าจนไม่มีเวลา
ผมท้าให้ก็ได้ ว่าขณะนี้ทั้ง ครม. และ คมช. ไม่มีสารบบหรือบัญชีของ (1) องค์ประกอบของความคิดที่เป็นบ่อเกิดหรือเป็นชิ้นส่วนของระบอบทักษิณ (2) องค์ประกอบบุคคลทั้งในต่างจังหวัด ในกรุงเทพฯ และต่างประเทศที่เป็นหลักหรืออุปกรณ์ของระบอบทักษิณ (3)องค์ประกอบของระบบพฤติกรรมหรือพฤติกรรมบางอย่าง ทั้งในทางการเมืองเศรษฐกิจและสังคมที่เป็นสันดานของระบอบทักษิณ
เมื่อยังไม่มีสารบบ หรือแม้แต่ความพยายามที่จะทำขึ้น องค์ประกอบทั้ง 3 ประเภทก็ยังลอยนวลอยู่ บุคคลที่แต่งตั้งกินเงินแพงๆ ในบอร์ดหรือองค์การพิเศษก็ยังอยู่ ตำรวจทหารข้าราชการ fast track ประเภทข้ามห้วยข้ามหัวข้ามอาวุโสก็ยังมีอยู่ การกระทำและความคิดแบบทักษิณแบบมือใครยาวสาวได้สาวเอาหรือมีอำนาจกวาดทุกอย่างที่ขวางหน้าก็ยังไม่ลดถอยลงไป สำมหาอะไรกับเกียร์ว่างหรือตีกรรเชียง
ผมว่าคนเหล่านี้ยั้วเยี้ยอยู่ในวงการต่างๆ เต็มไปหมด รวมทั้งในรัฐบาล สนช. ส.ส.ร.และ คมช.
นี่หรือที่ประธาน คมช. บอกว่าระบอบทักษิณกำลังจะปิดฉาก จะไม่ประมาทไปสักหน่อยหรือ
นี่ต่างหากที่อันตรายยิ่งกว่าตัวตนของทักษิณ นี่ต่างหากที่จะฟื้นคืนชีพหรือแตกดอกออกหน่อชอนไชไปทั่วเมืองไทย รอคอยวันที่หัวหน้าคนเก่าจะกลับมาหรือหัวหน้าคนใหม่จะเกิดขึ้น บางทีอาจจะไม่ต้องรอจนรัฐธรรมนูญใหม่ออกเสียด้วยซ้ำ
ผมเชื่อว่าพันธมิตรฯ ที่ต่อสู้กับทักษิณมาเกือบ 2 ปี ทั้งในต่างจังหวัด ในกรุงเทพฯ และต่างประเทศต่างก็รู้ดี (กว่าคมช.และรัฐบาล) ต่างก็อึดอัด ฟึดฟัด รำคาญ หรือโกรธขึ้งเคียดแค้น แล้วพร้อมที่จะลอยแพ คมช.และรัฐบาลถ้าหากยังเป็นอยู่อย่างนี้
และวันหนึ่งเมืองไทยอาจจะต้องมีสงครามสามก๊กก็ได้
ข้อหาที่เป็นเรื่องยุทธศาสตร์ก็คือ รัฐบาลและคมช. ไม่รู้เขารู้เรา ไม่รู้จักแยกมิตร-แยกศัตรู ไม่เห็นคุณค่าหรือปรารถนาความร่วมมือของมิตร เพียงเพราะขวัญอ่อนไม่สามารถรับสไตล์การต่อสู้ของพันธมิตรฯ ซึ่งดุดัน ดีเดือดและตรงไปตรงมา
ขณะนี้พันธมิตรซึ่งมาจาก 3 รัฐในอเมริกา กำลังตระเวนเยี่ยมบ้าน มีไพลิน คำศิริ อดีตนายกสมาคมอีสานและคนไทยในนิวยอร์กเป็นแกนนำ ได้โทร.มาหาผมด้วยความเดือดดาล พร้อมกับเล่าให้ฟังว่า เขาเคยพากันไปประท้วงจนสมคิดวิ่งหนีไม่ทันมาแล้วในนิวยอร์ก เขาไม่เข้าใจว่ารัฐบาลเอาสมคิดมาทำไม กรุงศรีอยุธยาสิ้นแล้วหรือคนดี รัฐบาลต้องการสมานฉันท์กับสมคิด และไม่ต้องการสมานฉันท์กับคนไทยในอเมริกาใช่ไหม ซ้ำได้ข่าว กกต.จะตัดสิทธิเลือกตั้งคนไทยในต่างประเทศอีกด้วย
เขาถามผมว่านายกฯ มีเหตุผลอย่างไร ผมตอบแทนไม่ได้เพราะท่านไม่ได้บอกผม ผมยังเชื่อใจนายกฯ อยู่ แต่ผมไม่เข้าใจว่าทั้งผู้ให้และผู้รับคิดอย่างไรจึงไม่รู้จักเกรงใจชาวบ้านเขาบ้าง ความละเอียดอ่อนเคารพต่อความคิดของสังคมเป็นคุณสมบัติของผู้นำประชาธิปไตย ต่อไปนี้ทั้งคมช.และรัฐบาลจะต้องยิ่งสำรวมระวัง เพราะท่านไม่ได้มาจากเลือกตั้ง
ผมอยากจะเดาว่าเป็นยุทธศาสตร์ “หนามยอกเอาหนามบ่ง” แต่ยุทธวิธี หรือเงื่อนเวลาขำไม่ออกเลย ดีไม่ดีจะตกเป็นเหยื่อยุทธศาสตร์ “หอกข้างแคร่” ของทักษิณผ่านสมคิดก็ได้
กลุ่มมัชฌิมาของสมศักดิ์ เทพสุทินได้ตกลงกันเป็นเอกฉันท์ว่าจะสถาปนาดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นหัวหน้า คอยแบ่งเค้กก้อนโตในรัฐบาลหน้า คนกลุ่มนี้ซี้กับ คมช.อยู่หลายคน เรื่องอนาคตใครจะประกันได้ว่าจะไม่ยอมเสียสัตย์เพราะความรักชาติอย่างสุจินดา ใครมีข้อมูลที่ลึกซึ้งกว่านี้บ้าง
ผมอยากจะคุยเรื่องภาพวาดในอนาคตหรือฉากอนาคตของการเมืองไทยสักเล็กน้อย ฉากอนาคตมาจากคำฝรั่งว่า scenario หรือซีนาริโอ ถ้าผมจะทับศัพท์ใช้คำว่าซีนาริโอไปพลางก่อน หวังว่าท่านผู้อ่านคงให้อภัย
การสร้างซีนาริโอหรือภาพวาดฉากอนาคตไว้ล่วงหน้าเป็นเรื่องสำคัญมากในเรื่องยุทธศาสตร์และการวางแผน เหตุการณ์ในอนาคตเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ ถึงแม้ว่าเราควบคุมปัจจุบันได้ก็ตาม ถ้าเราควบคุมปัจจุบันไม่ได้ก็ยิ่งแย่ ความเป็นอนิจจังของสังคมและพลวัตหรือพลังของการเปลี่ยนแปลงเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะต้องนำมาพิจารณา ควบกับองค์ประกอบและโครงสร้างที่สำคัญต่างๆของสังคม
สมมติว่าเราต้องการสร้างซีนาริโอการเมืองไทยอีก 10 ปีข้างหน้า หากเราถือว่า สถาบันกษัตริย์ นักการเมือง กองทัพ ระบบราชการ ระบบสื่อ ประชาชนและองค์กรของประชาชน เป็นองค์ประกอบหลักของการเมืองไทยในขณะนี้ ในปี 2560 องค์ประกอบต่างๆ จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง เช่น ในหลวงจะเจริญพระชนมพรรษาเป็น 90 รัฐบาลจะปรับเปลี่ยนไปตามรัฐธรรมนูญ เตรียมทหารรุ่น 6 ของ คมช.จะเกษียณไปหมดภายใน 2 ปี เตรียมทหารรุ่น 10 ของทักษิณจะขึ้นมาและอยู่ได้อีก 4-6 ปี สื่อเสรีเกิดหรือไม่เกิดขึ้น ราชการระบบข้ามหัวข้ามห้วยข้ามอาวุโสของทักษิณจะส่งไม้ต่อสำเร็จหรือไม่ เหล่านี้เป็นต้น
การเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตไม่แน่ว่าจะหอมหวานหรือเลวร้ายทางใดทางหนึ่งเสมอไป ในกรณีที่เปลี่ยนแปลงไปในทางดีที่สุด เพราะเราควบคุมองค์ประกอบต่างๆ เข้าล็อกที่สุด เราก็ได้ฉากอนาคตที่เรียกว่า best case scenario หรือซีนาริโอที่ดีที่สุด ถ้าออกมาตรงกันข้ามหรือเลวร้ายมาก เราก็ได้ worst case scenario หรือซีนาริโอที่เลวที่สุด
แน่นอนที่สุด ซีนาริโอที่ดีที่สุดของ คมช.กับของระบอบทักษิณย่อมไม่เหมือนกัน ที่ดีที่สุดของ คมช. อาจจะร้ายที่สุดของทักษิณ และที่ร้ายที่สุดของทักษิณอาจจะดีที่สุดสำหรับ คมช.
แน่นอนที่สุด คนคาดอาจจะไม่เท่าสวรรค์ลิขิต แต่ถ้าคนไม่ประมาท ดวงดาวหรือสวรรค์จะทำอะไรได้
ถ้าหากเราเข้าใจปัจจุบัน และควบคุมวันนี้ให้ได้ ภาพวาดของพรุ่งนี้ก็อาจจะใกล้เคียงที่สุดกับที่เราคาด
ปัญญาที่ผมอยากจะถามก็คือทุกวันนี้ คมช. ประมาทหรือไม่ คมช. ทำดีที่สุดแล้วหรือยัง
กิร ดังได้สดับมา
ซีนาริโอที่ดีที่สุดของ คมช.
1. ศาลตัดสินจำคุกทักษิณ พจมานและบริวารในคดีต่างๆ ภายในเดือนมีนาคม-พฤษภาคม
2. ทักษิณเดินต้อยๆ มาเข้าคุก หรือเกิดอุบัติเหตุถึงแก่ชีวิต
3. พรรคไทยรักไทยถูกยุบ ผู้บริหารทั้งหมดถูกตัดสิทธิการเมือง 5 ปี
4. รัฐธรรมนูญผ่านประชามติ กกต.เปี่ยมความสามารถการเลือกตั้งราบรื่นตามกำหนด
5. ได้สภาและรัฐบาลที่ดี
ซีนาริโอที่ดีที่สุดของทักษิณ
1. ทุกอย่างที่ว่ามาข้างบนไม่เกิดขึ้น หรือเกิดก็บังคับไม่ได้ ไม่เป็นไร
(ก)
2. ถ้าประชามติผ่าน นักเลือกตั้งที่พึ่งและบูชาทักษิณแยกย้ายกันไปสมัครในพรรคต่างๆ แล้วกับมารวมตัวกันหลังการเลือกตั้ง
3. ตั้งรัฐบาลหุ่นทักษิณ เชิญทักษิณกลับประเทศไทย
(ข)
2. รณรงค์ให้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ มีการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีโดยตรง
3. ประท้วงและคัดค้านถึงที่สุดถ้า ส.ส.ร.และ คมช.ไม่ฟังเสียงประชาชนตาม 2
4. คว่ำบาตรรัฐธรรมนูญ
5. ขบวนการจัดตั้งคนจนและคนรักทักษิณลุกฮือทั่วประเทศ ประท้วงรายวัน
6. ทักษิณเดินทางกลับ แท็กซี่เกือบทั่วกทม.และมอเตอร์ไซค์รับจ้างหยุดงานไปตั้งขบวนแห่ต้อนรับ/ข้าราชการ ตำรวจ ครู อบต. กำนันผู้ใหญ่บ้านร่วมกับ 5 ลุกฮือขึ้นต้อนรับ
(ค)
4. หรือ 8 ทักษิณประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2540
5. หรือ 9 ทักษิณตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2540 ให้เข้ากับระบอบทักษิณ
6. หรือ 10 รัฐธรรมนูญทักษิณชนะประชามติท่วมท้น
7. หรือ 11 นานาอารยประเทศประกาศชื่นชมความก้าวหน้าของประชาธิปไตยไทย
ครับ ทำดีที่สุดแล้ว ไม่ประมาทแล้ว อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิดไม่ว่ากัน
แต่ยังทำดีไม่ถึงที่สุด ถึงพร้อมด้วยความประมาท ใช้ยุทธศาสตร์ผิดๆ จน Worst Case Scenario หรือฉากที่เลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นกับระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข พี่น้องชาวไทยทั้งหลายครับ ผมขอให้พวกเราสู้ตาย
กลัวหรือไม่กลัวผมไม่ทราบ แต่ผมว่าเขาประมาท
27 กันยายน 2549 หลังยึดอำนาจได้ 9 วัน ผมเขียนบทความ ชื่อเหมือนข้อความที่ขีดเส้นใต้ ซึ่งจบด้วยคำวิงวอนว่า
“ได้โปรดเถิด อย่าปล่อยให้ วิ่งเต้น เล่นพวก รีบทำลวกๆ เละอย่างเป็นระบบ และจบแบบไทยๆ เลย ระบอบทักษิณจะกลับมา ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขจะหายไปจริงๆ!”
ผมไม่อยากเห็นประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย เกิดการนองเลือดเหมือนอย่างเช่นยุค รสช. และสถาบันกษัตริย์ถูกนำเข้าไปเสี่ยงมากขึ้นทุกที
เมื่อรัฐบาลสุจินดาล่ม ผมได้เห็นความสับปลับกลับกลอกของสังคมไทยที่พากันไชโยโห่ร้องต้อนรับรัฐบาลอานันท์ ปันยารชุน ทั้งๆ ที่การเรียกร้องนายกรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้งยังไม่สิ้นกระแสเสียง และสภาเลือกตั้งก็ยังมีอยู่
ผมเคารพนับถือคุณอานันท์ในฐานะอาจารย์และกัลยาณมิตร และเดี๋ยวนี้ก็ยังเหมือนเดิม แต่ผมมั่นใจว่ารัฐบาลอานันท์ 2 จะเป็นการเสียเวลาซ้ำสอง เพราะคุณอานันท์และคนที่มาเป็นทีมนั้นมีข้อจำกัดไม่สามารถออกจากชาติภพหรือกรอบความคิดเดิม (Old Paradigm) ในการบริหารแผ่นดินได้ คุณอานันท์มีดีอย่างเดียวคือความโปร่งใส แต่คุณอานันท์ติดกับของระบบจึงส่งผ่านความโปร่งใสให้เป็นมรดกของการเมืองไทยไม่สำเร็จ
นี่คือสาเหตุหนึ่งที่บ้านเมืองเรายังจมปลักอยู่
ผมจึงขอร้องวิงวอนคณะปฏิรูปฯ ว่าอย่าติดยึดกรอบความคิดเก่าหรือทำอะไรๆ ให้เหมือนกับ รสช.
เพราะคราวนี้เราไม่มีเวลาฟุ่มเฟือยอีกแล้ว อย่าเอาอนาคตของชาติและสถาบันกษัตริย์ไปเสี่ยงเลย
คำร้องขอที่ไร้ผล อีก 7 วันก็จะครบ 5 เดือนเต็มที่ผมส่งคำวิงวอนไปถึงคณะปฏิรูปฯ เดี๋ยวนี้เราไม่มีคณะปฏิรูปฯ อีกแล้ว เพราะเขาพากันเอาแบบ รสช. ด้วยการเปลี่ยนชื่อให้คล้ายๆ กับเผด็จการทหารพม่าว่า คมช. แล้วเขาก็ยกอำนาจรัฐาธิปัตย์ให้กับรัฐธรรมนูญชั่วคราว และนักกฎหมายสับปะรังเคกลุ่มหนึ่งที่ทรงอิทธิพลต่อเนื่องมาก่อนหรือตั้งแต่ยุคเผด็จการ รสช.
คำร้องและคำเตือนบางส่วนของผมมีดังนี้
1. เราต้องร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งชั่วคราวและถาวร และจัดตั้งองค์กร เช่น สภานิติบัญญัติ และคณะรัฐมนตรี ด้วย กรอบคิดใหม่ (New Paradigm)
2. การร่างรัฐธรรมนูญโดยกรอบคิดเก่า (old paradigm) โดยคณะบุคคลเก่าที่เคยทำความเสื่อมเสียต่อพระราชอำนาจและพระศาสนา จะไม่มีทางได้รัฐธรรมนูญราชประ ชาสมาสัย ครั้งนี้เป็นโอกาสสุดท้ายของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
3. การสร้างระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขขึ้นอยู่กับการร่างรัฐธรรมนูญแบบราชประชาสมาสัย
4. ราชประชาสมาสัยมิใช่การรบกวนเบื้องพระยุคลบาทหรือขอให้ในหลวงร่างรัฐธรรมนูญพระราชทานลงมา รัฐธรรมนูญแบบราชประชาสมาสัย ต้องเน้นการมีส่วนร่วมระหว่างบุญบารมี ของในหลวง พระบรมราชวินิจฉัย ความเข้าใจพระราชอำนาจ บวกกับความเต็มใจ ความรู้และการขานรับหรือประชามติของปวงชน
ผมคิดว่าบัดนี้เกือบจะสายเกินไปเสียแล้ว ชนชั้นปกครองไทยเป็นผู้มากด้วยทิฐิมานะ การจะปรับเปลี่ยนเพราะรับฟังหลักคิดหรือหลักฐานจากผู้อื่นนั้นนับเป็นเรื่องยาก
อนึ่ง หลักฐานหรือข้อมูล (รวมทั้งการข่าว) ของตนก็อ่อน เพราะมัวแต่มั่วกับงานประจำและภารกิจตามครรลองของกรอบความคิดเก่าจนไม่มีเวลา
ผมท้าให้ก็ได้ ว่าขณะนี้ทั้ง ครม. และ คมช. ไม่มีสารบบหรือบัญชีของ (1) องค์ประกอบของความคิดที่เป็นบ่อเกิดหรือเป็นชิ้นส่วนของระบอบทักษิณ (2) องค์ประกอบบุคคลทั้งในต่างจังหวัด ในกรุงเทพฯ และต่างประเทศที่เป็นหลักหรืออุปกรณ์ของระบอบทักษิณ (3)องค์ประกอบของระบบพฤติกรรมหรือพฤติกรรมบางอย่าง ทั้งในทางการเมืองเศรษฐกิจและสังคมที่เป็นสันดานของระบอบทักษิณ
เมื่อยังไม่มีสารบบ หรือแม้แต่ความพยายามที่จะทำขึ้น องค์ประกอบทั้ง 3 ประเภทก็ยังลอยนวลอยู่ บุคคลที่แต่งตั้งกินเงินแพงๆ ในบอร์ดหรือองค์การพิเศษก็ยังอยู่ ตำรวจทหารข้าราชการ fast track ประเภทข้ามห้วยข้ามหัวข้ามอาวุโสก็ยังมีอยู่ การกระทำและความคิดแบบทักษิณแบบมือใครยาวสาวได้สาวเอาหรือมีอำนาจกวาดทุกอย่างที่ขวางหน้าก็ยังไม่ลดถอยลงไป สำมหาอะไรกับเกียร์ว่างหรือตีกรรเชียง
ผมว่าคนเหล่านี้ยั้วเยี้ยอยู่ในวงการต่างๆ เต็มไปหมด รวมทั้งในรัฐบาล สนช. ส.ส.ร.และ คมช.
นี่หรือที่ประธาน คมช. บอกว่าระบอบทักษิณกำลังจะปิดฉาก จะไม่ประมาทไปสักหน่อยหรือ
นี่ต่างหากที่อันตรายยิ่งกว่าตัวตนของทักษิณ นี่ต่างหากที่จะฟื้นคืนชีพหรือแตกดอกออกหน่อชอนไชไปทั่วเมืองไทย รอคอยวันที่หัวหน้าคนเก่าจะกลับมาหรือหัวหน้าคนใหม่จะเกิดขึ้น บางทีอาจจะไม่ต้องรอจนรัฐธรรมนูญใหม่ออกเสียด้วยซ้ำ
ผมเชื่อว่าพันธมิตรฯ ที่ต่อสู้กับทักษิณมาเกือบ 2 ปี ทั้งในต่างจังหวัด ในกรุงเทพฯ และต่างประเทศต่างก็รู้ดี (กว่าคมช.และรัฐบาล) ต่างก็อึดอัด ฟึดฟัด รำคาญ หรือโกรธขึ้งเคียดแค้น แล้วพร้อมที่จะลอยแพ คมช.และรัฐบาลถ้าหากยังเป็นอยู่อย่างนี้
และวันหนึ่งเมืองไทยอาจจะต้องมีสงครามสามก๊กก็ได้
ข้อหาที่เป็นเรื่องยุทธศาสตร์ก็คือ รัฐบาลและคมช. ไม่รู้เขารู้เรา ไม่รู้จักแยกมิตร-แยกศัตรู ไม่เห็นคุณค่าหรือปรารถนาความร่วมมือของมิตร เพียงเพราะขวัญอ่อนไม่สามารถรับสไตล์การต่อสู้ของพันธมิตรฯ ซึ่งดุดัน ดีเดือดและตรงไปตรงมา
ขณะนี้พันธมิตรซึ่งมาจาก 3 รัฐในอเมริกา กำลังตระเวนเยี่ยมบ้าน มีไพลิน คำศิริ อดีตนายกสมาคมอีสานและคนไทยในนิวยอร์กเป็นแกนนำ ได้โทร.มาหาผมด้วยความเดือดดาล พร้อมกับเล่าให้ฟังว่า เขาเคยพากันไปประท้วงจนสมคิดวิ่งหนีไม่ทันมาแล้วในนิวยอร์ก เขาไม่เข้าใจว่ารัฐบาลเอาสมคิดมาทำไม กรุงศรีอยุธยาสิ้นแล้วหรือคนดี รัฐบาลต้องการสมานฉันท์กับสมคิด และไม่ต้องการสมานฉันท์กับคนไทยในอเมริกาใช่ไหม ซ้ำได้ข่าว กกต.จะตัดสิทธิเลือกตั้งคนไทยในต่างประเทศอีกด้วย
เขาถามผมว่านายกฯ มีเหตุผลอย่างไร ผมตอบแทนไม่ได้เพราะท่านไม่ได้บอกผม ผมยังเชื่อใจนายกฯ อยู่ แต่ผมไม่เข้าใจว่าทั้งผู้ให้และผู้รับคิดอย่างไรจึงไม่รู้จักเกรงใจชาวบ้านเขาบ้าง ความละเอียดอ่อนเคารพต่อความคิดของสังคมเป็นคุณสมบัติของผู้นำประชาธิปไตย ต่อไปนี้ทั้งคมช.และรัฐบาลจะต้องยิ่งสำรวมระวัง เพราะท่านไม่ได้มาจากเลือกตั้ง
ผมอยากจะเดาว่าเป็นยุทธศาสตร์ “หนามยอกเอาหนามบ่ง” แต่ยุทธวิธี หรือเงื่อนเวลาขำไม่ออกเลย ดีไม่ดีจะตกเป็นเหยื่อยุทธศาสตร์ “หอกข้างแคร่” ของทักษิณผ่านสมคิดก็ได้
กลุ่มมัชฌิมาของสมศักดิ์ เทพสุทินได้ตกลงกันเป็นเอกฉันท์ว่าจะสถาปนาดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นหัวหน้า คอยแบ่งเค้กก้อนโตในรัฐบาลหน้า คนกลุ่มนี้ซี้กับ คมช.อยู่หลายคน เรื่องอนาคตใครจะประกันได้ว่าจะไม่ยอมเสียสัตย์เพราะความรักชาติอย่างสุจินดา ใครมีข้อมูลที่ลึกซึ้งกว่านี้บ้าง
ผมอยากจะคุยเรื่องภาพวาดในอนาคตหรือฉากอนาคตของการเมืองไทยสักเล็กน้อย ฉากอนาคตมาจากคำฝรั่งว่า scenario หรือซีนาริโอ ถ้าผมจะทับศัพท์ใช้คำว่าซีนาริโอไปพลางก่อน หวังว่าท่านผู้อ่านคงให้อภัย
การสร้างซีนาริโอหรือภาพวาดฉากอนาคตไว้ล่วงหน้าเป็นเรื่องสำคัญมากในเรื่องยุทธศาสตร์และการวางแผน เหตุการณ์ในอนาคตเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ ถึงแม้ว่าเราควบคุมปัจจุบันได้ก็ตาม ถ้าเราควบคุมปัจจุบันไม่ได้ก็ยิ่งแย่ ความเป็นอนิจจังของสังคมและพลวัตหรือพลังของการเปลี่ยนแปลงเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะต้องนำมาพิจารณา ควบกับองค์ประกอบและโครงสร้างที่สำคัญต่างๆของสังคม
สมมติว่าเราต้องการสร้างซีนาริโอการเมืองไทยอีก 10 ปีข้างหน้า หากเราถือว่า สถาบันกษัตริย์ นักการเมือง กองทัพ ระบบราชการ ระบบสื่อ ประชาชนและองค์กรของประชาชน เป็นองค์ประกอบหลักของการเมืองไทยในขณะนี้ ในปี 2560 องค์ประกอบต่างๆ จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง เช่น ในหลวงจะเจริญพระชนมพรรษาเป็น 90 รัฐบาลจะปรับเปลี่ยนไปตามรัฐธรรมนูญ เตรียมทหารรุ่น 6 ของ คมช.จะเกษียณไปหมดภายใน 2 ปี เตรียมทหารรุ่น 10 ของทักษิณจะขึ้นมาและอยู่ได้อีก 4-6 ปี สื่อเสรีเกิดหรือไม่เกิดขึ้น ราชการระบบข้ามหัวข้ามห้วยข้ามอาวุโสของทักษิณจะส่งไม้ต่อสำเร็จหรือไม่ เหล่านี้เป็นต้น
การเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตไม่แน่ว่าจะหอมหวานหรือเลวร้ายทางใดทางหนึ่งเสมอไป ในกรณีที่เปลี่ยนแปลงไปในทางดีที่สุด เพราะเราควบคุมองค์ประกอบต่างๆ เข้าล็อกที่สุด เราก็ได้ฉากอนาคตที่เรียกว่า best case scenario หรือซีนาริโอที่ดีที่สุด ถ้าออกมาตรงกันข้ามหรือเลวร้ายมาก เราก็ได้ worst case scenario หรือซีนาริโอที่เลวที่สุด
แน่นอนที่สุด ซีนาริโอที่ดีที่สุดของ คมช.กับของระบอบทักษิณย่อมไม่เหมือนกัน ที่ดีที่สุดของ คมช. อาจจะร้ายที่สุดของทักษิณ และที่ร้ายที่สุดของทักษิณอาจจะดีที่สุดสำหรับ คมช.
แน่นอนที่สุด คนคาดอาจจะไม่เท่าสวรรค์ลิขิต แต่ถ้าคนไม่ประมาท ดวงดาวหรือสวรรค์จะทำอะไรได้
ถ้าหากเราเข้าใจปัจจุบัน และควบคุมวันนี้ให้ได้ ภาพวาดของพรุ่งนี้ก็อาจจะใกล้เคียงที่สุดกับที่เราคาด
ปัญญาที่ผมอยากจะถามก็คือทุกวันนี้ คมช. ประมาทหรือไม่ คมช. ทำดีที่สุดแล้วหรือยัง
กิร ดังได้สดับมา
ซีนาริโอที่ดีที่สุดของ คมช.
1. ศาลตัดสินจำคุกทักษิณ พจมานและบริวารในคดีต่างๆ ภายในเดือนมีนาคม-พฤษภาคม
2. ทักษิณเดินต้อยๆ มาเข้าคุก หรือเกิดอุบัติเหตุถึงแก่ชีวิต
3. พรรคไทยรักไทยถูกยุบ ผู้บริหารทั้งหมดถูกตัดสิทธิการเมือง 5 ปี
4. รัฐธรรมนูญผ่านประชามติ กกต.เปี่ยมความสามารถการเลือกตั้งราบรื่นตามกำหนด
5. ได้สภาและรัฐบาลที่ดี
ซีนาริโอที่ดีที่สุดของทักษิณ
1. ทุกอย่างที่ว่ามาข้างบนไม่เกิดขึ้น หรือเกิดก็บังคับไม่ได้ ไม่เป็นไร
(ก)
2. ถ้าประชามติผ่าน นักเลือกตั้งที่พึ่งและบูชาทักษิณแยกย้ายกันไปสมัครในพรรคต่างๆ แล้วกับมารวมตัวกันหลังการเลือกตั้ง
3. ตั้งรัฐบาลหุ่นทักษิณ เชิญทักษิณกลับประเทศไทย
(ข)
2. รณรงค์ให้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ มีการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีโดยตรง
3. ประท้วงและคัดค้านถึงที่สุดถ้า ส.ส.ร.และ คมช.ไม่ฟังเสียงประชาชนตาม 2
4. คว่ำบาตรรัฐธรรมนูญ
5. ขบวนการจัดตั้งคนจนและคนรักทักษิณลุกฮือทั่วประเทศ ประท้วงรายวัน
6. ทักษิณเดินทางกลับ แท็กซี่เกือบทั่วกทม.และมอเตอร์ไซค์รับจ้างหยุดงานไปตั้งขบวนแห่ต้อนรับ/ข้าราชการ ตำรวจ ครู อบต. กำนันผู้ใหญ่บ้านร่วมกับ 5 ลุกฮือขึ้นต้อนรับ
(ค)
4. หรือ 8 ทักษิณประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2540
5. หรือ 9 ทักษิณตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2540 ให้เข้ากับระบอบทักษิณ
6. หรือ 10 รัฐธรรมนูญทักษิณชนะประชามติท่วมท้น
7. หรือ 11 นานาอารยประเทศประกาศชื่นชมความก้าวหน้าของประชาธิปไตยไทย
ครับ ทำดีที่สุดแล้ว ไม่ประมาทแล้ว อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิดไม่ว่ากัน
แต่ยังทำดีไม่ถึงที่สุด ถึงพร้อมด้วยความประมาท ใช้ยุทธศาสตร์ผิดๆ จน Worst Case Scenario หรือฉากที่เลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นกับระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข พี่น้องชาวไทยทั้งหลายครับ ผมขอให้พวกเราสู้ตาย