“สมคิด”เตรียมไขก๊อกพ้นตำแหน่งประธาน กระชับสัมพันธ์ ศก.ต่างประเทศ เซ็นใบลาเตรียมยื่นนายกฯ วันนี้ ขณะพันธมิตรฯ แถลงยืนยันคัดค้านตั้ง “สมคิด” ชี้พฤติกรรมในอดีตมีบทบาทสำคัญในระบอบทักษิโณมิกส์อยู่ตรงข้ามกับ ศก.พอเพียง เรียกร้องลาออกทันทีก่อนจะมีมาตรการเด็ดขาดกดดันต่อไป พร้อมเตรียมเดินสายให้ข้อมูลประชาชน ด้านประธาน คมช.เชื่อไม่มีชุมนุมใหญ่ พร้อมย้ำไม่ก้าวก่ายรัฐบาล
นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ กล่าวในรายการ “ยามเฝ้าแผ่นดิน” ออกอากาศทางช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ และ เอเอสทีวี เมื่อคืนวันที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมา ว่า ได้ทราบข่าวว่านายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานคณะกรรมการประสานและกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ได้เข้าพบพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน หลังจากกลับจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหลังจากเข้าพบนายกฯ แล้ว ทราบว่า นายสมคิด ได้ลงชื่อในใบลาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการประสานงานและกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ คาดว่าในวันนี้ (20 ก.พ.) จะยื่นใบลาออกต่อนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้นจะมีการแถลงข่าวในรายละเอียดต่อไป
นายสนธิ กล่าวต่อว่า นอกจากลาออกแล้วยังไม่พอ นายสมคิดต้องออกมาแถลง เพื่อให้เห็นว่าทักษิโณมิกส์ไม่ดีอย่างไร นายสมคิดมีส่วนร่วมอย่างไร และได้ทำความเสียหายให้ชาติอย่างไรบ้าง และต้องอธิบายว่าทักษิโณมิกส์หมดความชอบธรรมไปแล้ว และเศรษฐกิจพอเพียงจะมาทดแทนอย่างไร นอกจากนี้ นายสมคิดควรเดินสายชี้แจงต่างชาติด้วยโดยใช้เงินของตัวเอง แล้วเรื่องทุกอย่างก็คงจะจบ และเป็นบทเรียนที่ดีให้กับนายกฯ ว่าการแต่งตั้งใครก็ตาม อย่าเอาคนที่มีข้อกังขาเข้ามา
ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ที่บ้านพระอาทิตย์ 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกอบด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ร่วมกันแถลงข่าวยืนยันท่าทีคัดค้านการแต่งตั้ง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นประธานคณะกรรมการประสานและกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ พร้อมกับได้เรียกร้องให้นายสมคิดลาออกในทันที เนื่องจากเห็นว่านายสมคิดเป็นคนสำคัญในระบอบทักษิโณมิกส์ที่อยู่ตรงข้ามกับเศรษฐกิจพอเพียงอย่างชัดเจน
นายสุริยะใส กตะศิลา ในฐานะผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ได้อ่านแถลงการณ์คัดค้านการแต่งตั้งนายสมคิด ซึ่งมีเนื้อหาสรุปว่า การแต่งตั้งนายสมคิด ให้เป็นประธานคณะกรรมการประสานและกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศกำลังจะก่อให้เกิดความแตกแยกขยายไปในหมู่ประชาชนทั่วไปอีกครั้งหนึ่ง เพราะความถูกต้องและความดีงามนั้นไม่สามารถสมานฉันท์กับคนที่มีส่วนร่วมกับรัฐบาลที่ทำลายประเทศและยังไม่มีความสำนึกแห่งการกระทำผิดนั้นได้
การแต่งตั้ง นายสมคิด ในครั้งนี้ นักเรียน นิสิต นักศึกษา อาจารย์ พ่อค้า ข้าราชการ ตลอดจนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้มีความเห็นและเป็นห่วงว่าจะก่อให้เกิดความหวาดระแวงไม่ไว้วางใจต่อท่าทีของรัฐบาลในการฟอกตัวให้กับนายสมคิด อันจะทำให้เกิดบรรยากาศแห่งความแตกแยกในหมู่ประชาชนขึ้นมาอีกครั้งอย่างแน่นอน ความไม่ชัดเจนในจุดยืนของรัฐบาลในครั้งนี้ ยังจะมีผลทำให้กระบวนการตรวจสอบการทุจริตทั้งหลายเกิดความชะงักงัน ข้าราชการไม่ให้ความร่วมมืออันจะทำให้ระบอบทักษิณกลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ในที่สุด
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจึงขอยื่นข้อเรียกร้อง คือ ประการแรก พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่เห็นด้วยกับคำสั่งแต่งตั้งให้นายสมคิด ขอให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี นำกรณีดังกล่าวเป็นบทเรียนในการตัดสินใจให้มีความรอบคอบและรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนอย่างรอบด้านก่อนที่จะนำบุคคลอื่นใดจากระบอบทักษิณเข้ามาทำงานให้กับรัฐบาลชุดปัจจุบัน
ประการที่สอง พันธมิตรฯ ขอเรียกร้องให้นายสมคิด แสดงจุดยืนของตัวเองต่อระบอบทักษิณให้สังคมไทยได้ทราบชัด พร้อมทั้งลาออกจากตำแหน่งเพื่อมิให้สถานการณ์ความขัดแย้งกลายเป็นความแตกแยกของคนในชาติขยายตัวไปมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ด้านนายสมเกียรติ ได้ย้ำจุดยืนว่า นายสมคิดถือเป็นตัวตลกทางวิชาการ เพราะที่ผ่านมากว่า 5 ปี นายสมคิดมีแนวคิดเรื่องระบบทุนนิยมเสรียุคใหม่ที่เน้นการบริโภคนิยม และระบอบทักษิโณมิกส์ถือว่าเป็นการสะท้อนตัวตนที่แท้จริง ซึ่งก่อนหน้านี้ยังได้เป็นตัวการสำคัญในการทำเอฟทีเอ ซึ่งถือว่าไปกันไม่ได้กับแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
“ผมถือว่านายสมคิดเป็นตลกสองหน้าทางการเมือง และไม่อยากให้รัฐบาลต้องอับจนทางการบริหารโดยการแต่งตั้งนายสมคิดเข้ามาร่วมงาน” นายสมเกียรติระบุ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นายสมคิดถือว่าเป็นมือเศรษฐกิจของระบอบทักษิณทำให้ชาติต้องเสียหาย โดยการนำประเทศไปเป็นบริวารของทุนต่างชาติ ซึ่งตรงข้ามกับเศรษฐกิจพอเพียง อีกทั้งยังเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีทุจริตกล้ายางอีกด้วย นอกจากนี้ ที่ผ่านมายังมีส่วนสำคัญในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่ทุกอย่างมีความผิดพลาดทั้งสิ้น
“ดร.สมคิด เคยพูดว่า หลังจากยึดอำนาจแล้วจะไปเป็นครูสอนหนังสือบ้าง จะไปเลี้ยงลูกบ้าง สักพักก็บอกว่าการเมืองชัดเจนก็จะกลับมา ก็จะเห็นว่าเขาไม่มีความน่าเชื่อถือเลย ที่บอกว่าเข้ามาแล้วอธิบายเศรษฐกิจพอเพียงให้ต่างชาติเชื่อถือ ดังนั้น ดร.สมคิด จึงไม่มีศักดิ์ศรีเลยที่จะมาทำงานการเมืองในช่วงนี้ ผมจึงขอเรียกเขาว่าเป็น ดร.จิ้งจก มากกว่า จึงเปลี่ยนสีได้เร็ว และแปลกมากที่คนที่มีวุฒิภาวะแบบนี้ น่าจะรักษาเกียรติยศและศักดิ์ศรี ก็อยากให้ ดร.สมคิด ลาออกเพื่อความสมานฉันท์ในประเทศ” นายสมศักดิ์ กล่าว
ด้าน พล.ต.จำลอง กล่าวสั้นๆ โดยเตือน พล.อ.สุรยุทธ์ ในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้องกันว่า การเป็นนักการเมืองไม่ว่าจะมาจากการแต่งตั้ง หรือเลือกตั้ง สิ่งสำคัญที่คิด คือ ต้องคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชนเป็นสำคัญ
นายพิภพ กล่าวว่า ขอเตือนคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และรัฐบาล ว่าประชาชนให้ความหวังในเรื่องการปราบปรามการทุจริต และการเขียนรัฐธรรมนูญ แต่การตั้งนายสมคิดทำให้เกิดความสับสนทางวิชาการ อย่างไรก็ตาม เห็นว่าการแต่งตั้งนายสมคิดครั้งนี้อาจได้รับการกดดันจากบางกลุ่ม ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าจะมีการดึงคนของระบอบเก่ากลับเข้ามาอีก
ด้านนายสนธิ กล่าวชี้แจงข้อสงสัยที่ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการแต่งตั้งนายสมคิดมาช่วยงานรัฐบาล โดยยอมรับว่าที่ผ่านมารู้จักกับนายสมคิดมานานกว่า 10 ปีแล้ว แต่ขาดการติดต่อมานานกว่า 2 ปี หลังจากเริ่มต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมทั้งเปิดเผยว่าเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นายสมคิดก็โผล่ไปพบที่บ้านพระอาทิตย์ เล่าให้ฟังว่าอยากจะช่วยชาติ จึงบอกไปว่า อยากให้ชี้แจงให้ชัดว่าได้ตัดขาดจากระบอบทักษิณแล้วหรือไม่ เพราะที่ผ่านมานายสมคิดยังไม่เคยลาออกจากรัฐบาลทักษิณ จนกระทั่งเกิดเหตุยึดอำนาจ
นายสนธิกล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีขบวนการเพื่อโปรโมตนายสมคิด เพราะก่อนที่จะมาพบตนนั้น นายสมคิดได้เดินสายไปพบตามสื่อต่างๆ มาแล้ว เช่นที่สยามรัฐ มติชน และมาพบตนเพื่อแสดงให้เห็นว่าแกนนำพันธมิตรฯ ให้การสนับสนุนทั้งที่ไม่รู้เรื่องด้วยเลย
“นอกจากนี้ จากการที่คุณสมคิดไปพูดที่ศศินทร์ ว่าเศรษฐกิจพอเพียงนั้นดี ปรากฏว่าผมไปดูเนื้อหาการพูดแล้ว คุณสมคิดท้าวความถึงอดีตที่คุณสมคิดบริหารชาติบ้านเมืองมาว่า เศรษฐกิจไปได้ดี เริ่มไม่ดีในช่วงท้ายก็เมื่อมีความไม่มั่นคงทางการเมือง มีความวุ่นวาย สรุปง่ายๆ ก็คือพวกผมเป็นตัวการทำให้เศรษฐกิจไม่ดี ผมก็เลยมองว่าคุณสมคิดยังไม่สำนึกบาปที่ตัวเองทำ แล้วมาใช้ผมเป็นเครื่องมือโดยที่ผมไม่รู้ตัว” นายสนธิ ระบุ และย้ำว่าหากนายสมคิดไม่ลาออกจะมีมาตรการที่เด็ดขาดออกมาในโอกาสต่อไป ซึ่งเตรียมเอาไว้แล้วภายในเดือน ก.พ. หรือมีนาคมนี้
นายสนธิ ยังเปิดเผยด้วยว่า กลุ่มพันธมิตรฯจะเริ่มออกเดินสายให้ข้อมูล ความรู้แก่ประชาชนในนามมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินไปตามต่างจังหวัด โดยเริ่มที่จังหวัดชลบุรี ในวันที่ 24 ก.พ.นี้ ตามด้วยจังหวัดระยองในวันที่ 25 ก.พ. จากนั้นจะเดินทางอีกหลายจังหวัด เช่น อุดรธานี บุรีรัมย์ ระยอง และนครราชสีมา เป็นต้น ซึ่งจะมีรายละเอียดแจ้งให้ทราบต่อไป
** คมช.ไม่ก้าวก่ายนายกฯ
ด้านพล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงกรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่พอใจที่รัฐบาลแต่งตั้ง นาย สมคิด ว่า ในความคิดเห็นส่วนตัว เราอยากได้คนที่มีความรู้เข้ามาร่วมทำงาน ฉะนั้นความรู้ของแต่ละคนที่เรียนมา เชื่อได้ว่าตำราเรียนเล่มเดียวกันแต่อาจจะคิดไม่เหมือนกัน ดังนั้นเอาความคิดที่หลากหลายตรงนี้มาช่วยกันพัฒนาประเทศ ความคิดที่หลากหลายนำไปสู่ประโยชน์ของคนทั้งประเทศ คิดว่าเราจะต้องยอมรับกัน แต่ทุกคนอาจจะมีมุมอื่นที่มองเห็นลึกซึ้งไปกว่านี้ก็แล้วแต่ละบุคคล
เมื่อถามว่า เป็นห่วงเรื่องกลุ่มพันธมิตรหรือไม่ที่จะออกมาเรียกร้องจนทำให้เกิดพลังมวลชนขึ้นมาอีก ซึ่งอาจจะส่งผลการทำงานของ คมช. และ รัฐบาล พล.อ.สนธิ กล่าวว่า “ความคิดมันจะมาชนกันเอง และมาสอดประสานกันเอง ไว้ดูตอนนั้นก็แล้วกัน” เมื่อถามว่า จะไม่รุนแรงขึ้นขั้นออกมาชุมนุมใหญ่โต พล.อ.สนธิ กล่าวว่า “ผมคิดว่ามันไม่มีหรอกครับ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังมีบุคคลที่ไม่ชอบคนในรัฐบาลทักษิณ เกรงหรือไม่ว่าเหตุการณ์จะวนไปก่อนวันที่ 19 ก.ย.49 พล.อ.สนธิ กล่าวว่า “ไม่หรอกครับ เพราะจริง ๆ แล้ว ลึก ๆ ก็คุยกันอยู่ทุกคนอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับพันธมิตรด้วยใช่หรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า “ใช่ครับ คมช.คุยกันทุกคน”
ด้านพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก คมช.กล่าวว่า ที่ประชุม คมช. ได้หารือถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง ดร. สมคิด โดย ประธาน คมช.ชี้แจงให้ที่ประชุมทราบว่า เรื่องดังกล่าวได้รับทราบจากการบอกเล่าของนายกรัฐมนตรี ซึ่ง คมช.ถือว่าการตั้งคณะทำงานเพื่อสนับสนุนการบริหารราชการแผ่นดินเป็นสิทธิของนายกรัฐมนตรีที่สามารถกระทำได้และเชื่อว่าได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้วโดย คมช.จะไม่เข้าไปก้าวก่ายต่อการทำหน้าที่ของรัฐบาล
แหล่งข่าว ระบุว่า ในที่ประชุม พล.อ.สนธิ ได้แจ้งว่าตนเอง และ คมช.ไม่ได้รับรู้ก่อนว่ารัฐบาลจะมีการแต่งตั้ง นายสมคิด “ท่านนายกฯ สุรยุทธ์ เพิ่งมาบอกผมภายหลังว่ามีการตั้งให้นายสมคิด เข้ามาช่วยงานแล้ว ดังนั้น จะมาบอกว่าคุณสมคิดเข้ามาเพราะ คมช. เป็น นอมินี เพื่อสืบทอดอำนาจให้คมช. มันไม่ใช่” แหล่งข่าวอ้างคำพูดของ พล.อ.สนธิ
** “ประพันธ์”ไขก๊อกพ้นวอร์รูมรัฐบาล
ด้านนายประพันธ์ คูณมี สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ในภาวะวิกฤติและการประชาสัมพันธ์เชิงรุก หรือ วอร์รูมรัฐบาล และ คณะกรรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อปฏิบัติภาระกิจดำเนินการประสานงานเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ วิป สนช. ได้แถลงข่าวขอลาออกจากวอร์รูม และ วิป สนช. โดยระบุว่า ตนประกาศลาออกตั้งแต่ได้รู้ว่า พล.อ.สุรยุทธ์ ได้แต่งตั้ง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรมว.คลังได้แถลงข่าวขอลาออกจากตำแหน่ง กรรมการวอร์รูม และวิป โดยระบุว่า ตนตัดสินใจลาออกตั้งแต่ได้รู้ว่า พล.อ.สุรยุทธ์ ได้แต่งตั้ง นายสมคิด จึงจำเป็นต้องมาแถลงข่าวถึงจุดยืนในการตัดสินใจครั้งนี้เพื่อต้องการให้นายกฯทบทวนกับสิงที่ได้ตัดสินใจลงไป เพราะตนมีความห่วงใยและมีความเคารพในตัวนายกฯด้วยความจริงใจ และหวังว่าท่านจะเข้าใจถึงความคาดหวังของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนที่ร่วมกันต่อสู้ขับไล่ระบอบทักษิณออกไปจากประเทศไทย
นายประพันธ์กล่าวว่า การดำเนินการเพื่อเปิดตัวนายสมคิดไม่ได้เป็นเรื่องบังเอิญ แต่เป็นเรื่องที่มีการเตรียมการมาก่อน โดยมีการใช้อดีตนักหนังสือพิมพ์ที่เป็นคอลัมน์นิสต์รุ่นใหญ่ไปมีส่วนในการร่วมคิด ร่วมวางแผนและร่วมกันกับนักการตลาด เพราะวิธีการของนายสมคิดเป็นวิธีการเดียวกับที่พ.ต.ท.ทักษิณเคยใช้ โดยข่าวนี้มีมาตั้งแต่วันที่14 ก.พ.แล้ว กว่าจะมาเป็นข่าวก็วันที่15 ก.พ. และมีหนังสือพิมพ์ฉบับใหญ่ขึ้นหัว และมีการวางแผงในวันที่16 ก.พ. แสดงถึงการบริหารทางด้านการตลาดของนายกสมคิดกับพวกมาก่อนแล้ว ทำให้รู้ว่าจะมีการเปิดประเด็นของนายสมคิดขึ้นมา ซึ่งเป็นวิธีที่นายสมคิดถนัดและเคยใช้ให้กับพ.ต.ท.ทักษิณตลอด5 ปีที่ผ่านมา หลังจากนั้นก็จะมีโพลของสวนดุสิต กับเอแบคโพล ออกมาขานรับในวันถัดมาอย่างทันใด เป็นวิธีการตลาดเพื่อจะสร้างราคาให้กับบุคคลผู้นี้
**สนช.จี้นายกฯ แจงเหตุตั้ง “สมคิด”
นาย อรรคพล สรสุชาติ ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภา สนช. เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ได้มีการหารือเกี่ยวกับญัตติที่ตนเสนอให้นายกรัฐมนตรีใช้เวทีสภาเพื่อชี้แจงกรณีการแต่งตั้งนาย สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นประธานคณะกรรมการประสานงานการประชาสัมพันธ์เศรษฐกิจระหว่างประเทศ เนื่องจากเรื่องนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน และมีหลายฝ่ายในสนช.ต้องการแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว ซึ่งที่ประชุมจึงมีมติให้ประสานไปยังรัฐบาล ผ่านนาย ประสิทธิ์ โฆวิไลกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เป็นตัวแทนรัฐบาลร่วมอยู่ในกรรมาธิการชุดนี้ด้วย ซึ่งนายประสิทธิ์รับที่จะไปประสานกับนายกฯ หวังว่านายกฯจะใช้โอกาสนี้มาชี้แจงต่อสภา เพราะเรื่องนี้เป็นการตัดสินใจของนายกฯคนเดียว คงไม่สามารถมอบหมายให้รัฐมนตรีคนใดมาชี้แจงแทนได้
นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ กล่าวในรายการ “ยามเฝ้าแผ่นดิน” ออกอากาศทางช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ และ เอเอสทีวี เมื่อคืนวันที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมา ว่า ได้ทราบข่าวว่านายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานคณะกรรมการประสานและกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ได้เข้าพบพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน หลังจากกลับจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหลังจากเข้าพบนายกฯ แล้ว ทราบว่า นายสมคิด ได้ลงชื่อในใบลาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการประสานงานและกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ คาดว่าในวันนี้ (20 ก.พ.) จะยื่นใบลาออกต่อนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้นจะมีการแถลงข่าวในรายละเอียดต่อไป
นายสนธิ กล่าวต่อว่า นอกจากลาออกแล้วยังไม่พอ นายสมคิดต้องออกมาแถลง เพื่อให้เห็นว่าทักษิโณมิกส์ไม่ดีอย่างไร นายสมคิดมีส่วนร่วมอย่างไร และได้ทำความเสียหายให้ชาติอย่างไรบ้าง และต้องอธิบายว่าทักษิโณมิกส์หมดความชอบธรรมไปแล้ว และเศรษฐกิจพอเพียงจะมาทดแทนอย่างไร นอกจากนี้ นายสมคิดควรเดินสายชี้แจงต่างชาติด้วยโดยใช้เงินของตัวเอง แล้วเรื่องทุกอย่างก็คงจะจบ และเป็นบทเรียนที่ดีให้กับนายกฯ ว่าการแต่งตั้งใครก็ตาม อย่าเอาคนที่มีข้อกังขาเข้ามา
ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ที่บ้านพระอาทิตย์ 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกอบด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ร่วมกันแถลงข่าวยืนยันท่าทีคัดค้านการแต่งตั้ง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นประธานคณะกรรมการประสานและกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ พร้อมกับได้เรียกร้องให้นายสมคิดลาออกในทันที เนื่องจากเห็นว่านายสมคิดเป็นคนสำคัญในระบอบทักษิโณมิกส์ที่อยู่ตรงข้ามกับเศรษฐกิจพอเพียงอย่างชัดเจน
นายสุริยะใส กตะศิลา ในฐานะผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ได้อ่านแถลงการณ์คัดค้านการแต่งตั้งนายสมคิด ซึ่งมีเนื้อหาสรุปว่า การแต่งตั้งนายสมคิด ให้เป็นประธานคณะกรรมการประสานและกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศกำลังจะก่อให้เกิดความแตกแยกขยายไปในหมู่ประชาชนทั่วไปอีกครั้งหนึ่ง เพราะความถูกต้องและความดีงามนั้นไม่สามารถสมานฉันท์กับคนที่มีส่วนร่วมกับรัฐบาลที่ทำลายประเทศและยังไม่มีความสำนึกแห่งการกระทำผิดนั้นได้
การแต่งตั้ง นายสมคิด ในครั้งนี้ นักเรียน นิสิต นักศึกษา อาจารย์ พ่อค้า ข้าราชการ ตลอดจนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้มีความเห็นและเป็นห่วงว่าจะก่อให้เกิดความหวาดระแวงไม่ไว้วางใจต่อท่าทีของรัฐบาลในการฟอกตัวให้กับนายสมคิด อันจะทำให้เกิดบรรยากาศแห่งความแตกแยกในหมู่ประชาชนขึ้นมาอีกครั้งอย่างแน่นอน ความไม่ชัดเจนในจุดยืนของรัฐบาลในครั้งนี้ ยังจะมีผลทำให้กระบวนการตรวจสอบการทุจริตทั้งหลายเกิดความชะงักงัน ข้าราชการไม่ให้ความร่วมมืออันจะทำให้ระบอบทักษิณกลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ในที่สุด
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจึงขอยื่นข้อเรียกร้อง คือ ประการแรก พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่เห็นด้วยกับคำสั่งแต่งตั้งให้นายสมคิด ขอให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี นำกรณีดังกล่าวเป็นบทเรียนในการตัดสินใจให้มีความรอบคอบและรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนอย่างรอบด้านก่อนที่จะนำบุคคลอื่นใดจากระบอบทักษิณเข้ามาทำงานให้กับรัฐบาลชุดปัจจุบัน
ประการที่สอง พันธมิตรฯ ขอเรียกร้องให้นายสมคิด แสดงจุดยืนของตัวเองต่อระบอบทักษิณให้สังคมไทยได้ทราบชัด พร้อมทั้งลาออกจากตำแหน่งเพื่อมิให้สถานการณ์ความขัดแย้งกลายเป็นความแตกแยกของคนในชาติขยายตัวไปมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ด้านนายสมเกียรติ ได้ย้ำจุดยืนว่า นายสมคิดถือเป็นตัวตลกทางวิชาการ เพราะที่ผ่านมากว่า 5 ปี นายสมคิดมีแนวคิดเรื่องระบบทุนนิยมเสรียุคใหม่ที่เน้นการบริโภคนิยม และระบอบทักษิโณมิกส์ถือว่าเป็นการสะท้อนตัวตนที่แท้จริง ซึ่งก่อนหน้านี้ยังได้เป็นตัวการสำคัญในการทำเอฟทีเอ ซึ่งถือว่าไปกันไม่ได้กับแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
“ผมถือว่านายสมคิดเป็นตลกสองหน้าทางการเมือง และไม่อยากให้รัฐบาลต้องอับจนทางการบริหารโดยการแต่งตั้งนายสมคิดเข้ามาร่วมงาน” นายสมเกียรติระบุ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นายสมคิดถือว่าเป็นมือเศรษฐกิจของระบอบทักษิณทำให้ชาติต้องเสียหาย โดยการนำประเทศไปเป็นบริวารของทุนต่างชาติ ซึ่งตรงข้ามกับเศรษฐกิจพอเพียง อีกทั้งยังเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีทุจริตกล้ายางอีกด้วย นอกจากนี้ ที่ผ่านมายังมีส่วนสำคัญในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่ทุกอย่างมีความผิดพลาดทั้งสิ้น
“ดร.สมคิด เคยพูดว่า หลังจากยึดอำนาจแล้วจะไปเป็นครูสอนหนังสือบ้าง จะไปเลี้ยงลูกบ้าง สักพักก็บอกว่าการเมืองชัดเจนก็จะกลับมา ก็จะเห็นว่าเขาไม่มีความน่าเชื่อถือเลย ที่บอกว่าเข้ามาแล้วอธิบายเศรษฐกิจพอเพียงให้ต่างชาติเชื่อถือ ดังนั้น ดร.สมคิด จึงไม่มีศักดิ์ศรีเลยที่จะมาทำงานการเมืองในช่วงนี้ ผมจึงขอเรียกเขาว่าเป็น ดร.จิ้งจก มากกว่า จึงเปลี่ยนสีได้เร็ว และแปลกมากที่คนที่มีวุฒิภาวะแบบนี้ น่าจะรักษาเกียรติยศและศักดิ์ศรี ก็อยากให้ ดร.สมคิด ลาออกเพื่อความสมานฉันท์ในประเทศ” นายสมศักดิ์ กล่าว
ด้าน พล.ต.จำลอง กล่าวสั้นๆ โดยเตือน พล.อ.สุรยุทธ์ ในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้องกันว่า การเป็นนักการเมืองไม่ว่าจะมาจากการแต่งตั้ง หรือเลือกตั้ง สิ่งสำคัญที่คิด คือ ต้องคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชนเป็นสำคัญ
นายพิภพ กล่าวว่า ขอเตือนคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และรัฐบาล ว่าประชาชนให้ความหวังในเรื่องการปราบปรามการทุจริต และการเขียนรัฐธรรมนูญ แต่การตั้งนายสมคิดทำให้เกิดความสับสนทางวิชาการ อย่างไรก็ตาม เห็นว่าการแต่งตั้งนายสมคิดครั้งนี้อาจได้รับการกดดันจากบางกลุ่ม ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าจะมีการดึงคนของระบอบเก่ากลับเข้ามาอีก
ด้านนายสนธิ กล่าวชี้แจงข้อสงสัยที่ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการแต่งตั้งนายสมคิดมาช่วยงานรัฐบาล โดยยอมรับว่าที่ผ่านมารู้จักกับนายสมคิดมานานกว่า 10 ปีแล้ว แต่ขาดการติดต่อมานานกว่า 2 ปี หลังจากเริ่มต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมทั้งเปิดเผยว่าเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นายสมคิดก็โผล่ไปพบที่บ้านพระอาทิตย์ เล่าให้ฟังว่าอยากจะช่วยชาติ จึงบอกไปว่า อยากให้ชี้แจงให้ชัดว่าได้ตัดขาดจากระบอบทักษิณแล้วหรือไม่ เพราะที่ผ่านมานายสมคิดยังไม่เคยลาออกจากรัฐบาลทักษิณ จนกระทั่งเกิดเหตุยึดอำนาจ
นายสนธิกล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีขบวนการเพื่อโปรโมตนายสมคิด เพราะก่อนที่จะมาพบตนนั้น นายสมคิดได้เดินสายไปพบตามสื่อต่างๆ มาแล้ว เช่นที่สยามรัฐ มติชน และมาพบตนเพื่อแสดงให้เห็นว่าแกนนำพันธมิตรฯ ให้การสนับสนุนทั้งที่ไม่รู้เรื่องด้วยเลย
“นอกจากนี้ จากการที่คุณสมคิดไปพูดที่ศศินทร์ ว่าเศรษฐกิจพอเพียงนั้นดี ปรากฏว่าผมไปดูเนื้อหาการพูดแล้ว คุณสมคิดท้าวความถึงอดีตที่คุณสมคิดบริหารชาติบ้านเมืองมาว่า เศรษฐกิจไปได้ดี เริ่มไม่ดีในช่วงท้ายก็เมื่อมีความไม่มั่นคงทางการเมือง มีความวุ่นวาย สรุปง่ายๆ ก็คือพวกผมเป็นตัวการทำให้เศรษฐกิจไม่ดี ผมก็เลยมองว่าคุณสมคิดยังไม่สำนึกบาปที่ตัวเองทำ แล้วมาใช้ผมเป็นเครื่องมือโดยที่ผมไม่รู้ตัว” นายสนธิ ระบุ และย้ำว่าหากนายสมคิดไม่ลาออกจะมีมาตรการที่เด็ดขาดออกมาในโอกาสต่อไป ซึ่งเตรียมเอาไว้แล้วภายในเดือน ก.พ. หรือมีนาคมนี้
นายสนธิ ยังเปิดเผยด้วยว่า กลุ่มพันธมิตรฯจะเริ่มออกเดินสายให้ข้อมูล ความรู้แก่ประชาชนในนามมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินไปตามต่างจังหวัด โดยเริ่มที่จังหวัดชลบุรี ในวันที่ 24 ก.พ.นี้ ตามด้วยจังหวัดระยองในวันที่ 25 ก.พ. จากนั้นจะเดินทางอีกหลายจังหวัด เช่น อุดรธานี บุรีรัมย์ ระยอง และนครราชสีมา เป็นต้น ซึ่งจะมีรายละเอียดแจ้งให้ทราบต่อไป
** คมช.ไม่ก้าวก่ายนายกฯ
ด้านพล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงกรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่พอใจที่รัฐบาลแต่งตั้ง นาย สมคิด ว่า ในความคิดเห็นส่วนตัว เราอยากได้คนที่มีความรู้เข้ามาร่วมทำงาน ฉะนั้นความรู้ของแต่ละคนที่เรียนมา เชื่อได้ว่าตำราเรียนเล่มเดียวกันแต่อาจจะคิดไม่เหมือนกัน ดังนั้นเอาความคิดที่หลากหลายตรงนี้มาช่วยกันพัฒนาประเทศ ความคิดที่หลากหลายนำไปสู่ประโยชน์ของคนทั้งประเทศ คิดว่าเราจะต้องยอมรับกัน แต่ทุกคนอาจจะมีมุมอื่นที่มองเห็นลึกซึ้งไปกว่านี้ก็แล้วแต่ละบุคคล
เมื่อถามว่า เป็นห่วงเรื่องกลุ่มพันธมิตรหรือไม่ที่จะออกมาเรียกร้องจนทำให้เกิดพลังมวลชนขึ้นมาอีก ซึ่งอาจจะส่งผลการทำงานของ คมช. และ รัฐบาล พล.อ.สนธิ กล่าวว่า “ความคิดมันจะมาชนกันเอง และมาสอดประสานกันเอง ไว้ดูตอนนั้นก็แล้วกัน” เมื่อถามว่า จะไม่รุนแรงขึ้นขั้นออกมาชุมนุมใหญ่โต พล.อ.สนธิ กล่าวว่า “ผมคิดว่ามันไม่มีหรอกครับ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังมีบุคคลที่ไม่ชอบคนในรัฐบาลทักษิณ เกรงหรือไม่ว่าเหตุการณ์จะวนไปก่อนวันที่ 19 ก.ย.49 พล.อ.สนธิ กล่าวว่า “ไม่หรอกครับ เพราะจริง ๆ แล้ว ลึก ๆ ก็คุยกันอยู่ทุกคนอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับพันธมิตรด้วยใช่หรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า “ใช่ครับ คมช.คุยกันทุกคน”
ด้านพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก คมช.กล่าวว่า ที่ประชุม คมช. ได้หารือถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง ดร. สมคิด โดย ประธาน คมช.ชี้แจงให้ที่ประชุมทราบว่า เรื่องดังกล่าวได้รับทราบจากการบอกเล่าของนายกรัฐมนตรี ซึ่ง คมช.ถือว่าการตั้งคณะทำงานเพื่อสนับสนุนการบริหารราชการแผ่นดินเป็นสิทธิของนายกรัฐมนตรีที่สามารถกระทำได้และเชื่อว่าได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้วโดย คมช.จะไม่เข้าไปก้าวก่ายต่อการทำหน้าที่ของรัฐบาล
แหล่งข่าว ระบุว่า ในที่ประชุม พล.อ.สนธิ ได้แจ้งว่าตนเอง และ คมช.ไม่ได้รับรู้ก่อนว่ารัฐบาลจะมีการแต่งตั้ง นายสมคิด “ท่านนายกฯ สุรยุทธ์ เพิ่งมาบอกผมภายหลังว่ามีการตั้งให้นายสมคิด เข้ามาช่วยงานแล้ว ดังนั้น จะมาบอกว่าคุณสมคิดเข้ามาเพราะ คมช. เป็น นอมินี เพื่อสืบทอดอำนาจให้คมช. มันไม่ใช่” แหล่งข่าวอ้างคำพูดของ พล.อ.สนธิ
** “ประพันธ์”ไขก๊อกพ้นวอร์รูมรัฐบาล
ด้านนายประพันธ์ คูณมี สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ในภาวะวิกฤติและการประชาสัมพันธ์เชิงรุก หรือ วอร์รูมรัฐบาล และ คณะกรรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อปฏิบัติภาระกิจดำเนินการประสานงานเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ วิป สนช. ได้แถลงข่าวขอลาออกจากวอร์รูม และ วิป สนช. โดยระบุว่า ตนประกาศลาออกตั้งแต่ได้รู้ว่า พล.อ.สุรยุทธ์ ได้แต่งตั้ง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรมว.คลังได้แถลงข่าวขอลาออกจากตำแหน่ง กรรมการวอร์รูม และวิป โดยระบุว่า ตนตัดสินใจลาออกตั้งแต่ได้รู้ว่า พล.อ.สุรยุทธ์ ได้แต่งตั้ง นายสมคิด จึงจำเป็นต้องมาแถลงข่าวถึงจุดยืนในการตัดสินใจครั้งนี้เพื่อต้องการให้นายกฯทบทวนกับสิงที่ได้ตัดสินใจลงไป เพราะตนมีความห่วงใยและมีความเคารพในตัวนายกฯด้วยความจริงใจ และหวังว่าท่านจะเข้าใจถึงความคาดหวังของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนที่ร่วมกันต่อสู้ขับไล่ระบอบทักษิณออกไปจากประเทศไทย
นายประพันธ์กล่าวว่า การดำเนินการเพื่อเปิดตัวนายสมคิดไม่ได้เป็นเรื่องบังเอิญ แต่เป็นเรื่องที่มีการเตรียมการมาก่อน โดยมีการใช้อดีตนักหนังสือพิมพ์ที่เป็นคอลัมน์นิสต์รุ่นใหญ่ไปมีส่วนในการร่วมคิด ร่วมวางแผนและร่วมกันกับนักการตลาด เพราะวิธีการของนายสมคิดเป็นวิธีการเดียวกับที่พ.ต.ท.ทักษิณเคยใช้ โดยข่าวนี้มีมาตั้งแต่วันที่14 ก.พ.แล้ว กว่าจะมาเป็นข่าวก็วันที่15 ก.พ. และมีหนังสือพิมพ์ฉบับใหญ่ขึ้นหัว และมีการวางแผงในวันที่16 ก.พ. แสดงถึงการบริหารทางด้านการตลาดของนายกสมคิดกับพวกมาก่อนแล้ว ทำให้รู้ว่าจะมีการเปิดประเด็นของนายสมคิดขึ้นมา ซึ่งเป็นวิธีที่นายสมคิดถนัดและเคยใช้ให้กับพ.ต.ท.ทักษิณตลอด5 ปีที่ผ่านมา หลังจากนั้นก็จะมีโพลของสวนดุสิต กับเอแบคโพล ออกมาขานรับในวันถัดมาอย่างทันใด เป็นวิธีการตลาดเพื่อจะสร้างราคาให้กับบุคคลผู้นี้
**สนช.จี้นายกฯ แจงเหตุตั้ง “สมคิด”
นาย อรรคพล สรสุชาติ ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภา สนช. เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ได้มีการหารือเกี่ยวกับญัตติที่ตนเสนอให้นายกรัฐมนตรีใช้เวทีสภาเพื่อชี้แจงกรณีการแต่งตั้งนาย สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นประธานคณะกรรมการประสานงานการประชาสัมพันธ์เศรษฐกิจระหว่างประเทศ เนื่องจากเรื่องนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน และมีหลายฝ่ายในสนช.ต้องการแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว ซึ่งที่ประชุมจึงมีมติให้ประสานไปยังรัฐบาล ผ่านนาย ประสิทธิ์ โฆวิไลกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เป็นตัวแทนรัฐบาลร่วมอยู่ในกรรมาธิการชุดนี้ด้วย ซึ่งนายประสิทธิ์รับที่จะไปประสานกับนายกฯ หวังว่านายกฯจะใช้โอกาสนี้มาชี้แจงต่อสภา เพราะเรื่องนี้เป็นการตัดสินใจของนายกฯคนเดียว คงไม่สามารถมอบหมายให้รัฐมนตรีคนใดมาชี้แจงแทนได้