ช่วงหลายวันมานี้ มีเรื่องให้คนมองโลกในแง่ร้ายอย่างผมชื่นใจอยู่เรื่องหนึ่ง เรื่องดังกล่าวนี้ ทำให้ผมรู้สึกว่า สังคมไทยในปัจจุบันยังเป็นสังคมที่ประเสริฐเลิศล้ำ เนื่องจากสังคมไทยของเรายังมีผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็น “คนดี” ที่น่ายกย่อง น่าอนุโมทนาสาธุเป็นอย่างยิ่ง
คนดีของสังคมไทยที่แสนจะทำให้ผมชื่นใจคนนี้ก็คือ “เสี่ยเจียง” คุณสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ
คนดีของเราที่โผล่ขึ้นมาเรืองแสงสว่างไสวกลางสังคมที่เลวร้ายของเราคนนี้ ก็สืบเนื่องมากจากเรื่องที่โจทย์ขานกันไปทั่วบ้านทั่วเมืองยามนี้ในหัวข้อที่เรียกกันติดปากว่า “ดารา-สาหร่าย” กรณีของคุณเอมี่ โชติรส สุริยะวงศ์ ที่ใส่ชุดราตรีวาบหวิวเกินพิกัดจนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าอะไรต่อมิอะไรของเธอที่ไม่ควรโผล่ได้โผล่ออกมา (คงไม่ต้องอธิบายในรายละเอียด เพราะลงภาพกันหน้าหนึ่งเกือบทุกฉบับ) ไปในงานประกาศรางวัลสุพรรณหงส์ หลังจากนั้นไม่นาน “เสี่ยเจียง” ก็รีบออกมาแถลงข่าวอย่างรวดเร็วทันควันถึงกรณีดังกล่าว
เจ้าของค่ายใบโพธิ์ สหมงคลฟิล์มฯ ที่หลังจากนี้ไป แวดวงบันเทิงควรจะเชิดชูให้สมญานามว่า “ค่ายหนังเพื่อสังคม” ได้ออกชี้แจงกรณีมีข่าวถึงภาพหลุดของดาราสาวหน้าใหม่ “เอมี่” โดยที่ “เสี่ยเจียง” ยืนยันว่าไม่พอใจกับภาพที่ออกมาเป็นอย่างมาก และสั่งตัดทิ้งหนังที่ "เอมี่" แสดง รวมทั้ง "ต้องรัก อัศวรัตน์" และ “นิว” กีรติกร รัตน์กุลธร" ซึ่งแสดงร่วมกันในหนังเรื่อง "สวยซามูไร" ตัดทิ้งเกลี้ยง ทั้งยังประกาศลั่นด้วยว่าบริษัทของเขาไม่ได้ทำหนังโป๊
อ้างจากหนังสือพิมพ์หลายฉบับถึงคำพูดเสี่ยเจียงที่ว่า “บอกเลยว่าผมไม่พอใจ แต่เอมี่ไม่ได้สังกัดในบริษัท เขาแค่เล่นหนังสวยซามูไร วันนี้ได้เจอผู้กำกับ (มานพ อุดมเดช) ก็บอกว่าเขาไปแล้วว่าให้ตัดหนังที่เอมี่แสดงทิ้งให้หมด เราไม่ใช่บริษัทสร้างหนังโป๊ ที่จะให้นักแสดงมาทำแบบนั้น เราเป็นคนไทยบริษัทสร้างหนังไทย ต้องมีวัฒนธรรมไทย วัฒนธรรมไทยไม่มีแบบนี้ การแต่งตัวประเจิดประเจ้อไม่ดี”
“นักแสดงที่ทำแบบนี้ 2 - 3 คนผมปลดหมด ไม่พูดถึงมันได้มั้ย เป็นใครคงรู้กันดี ก็มีเอมี่ ต้องรัก นิว บริษัทไม่ใช่บริษัทหนังฝรั่ง ไม่สร้างหนังเอ็กซ์ ไม่เอาเด็ก 3 คนนี้ ขั้นแรกคงต้องตั้งคณะกรรมการมาสอบสวนทั้งหมด ถึงเอมี่จะเป็นแค่ตัวประกอบก็ไม่ยอม ไม่ชอบให้ใครมาอาศัยหนังเป็นตัวไต่เต้า”
ผมคงต้องขอชื่นชม “เสี่ยเจียง” เอาไว้ ณ ที่นี้ด้วย และรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่เคยเข้าใจผิดๆ กับค่ายหนังของเสี่ยมาตลอด ว่าค่ายนี้ชอบทำหนังโป๊ๆ และชอบ “ขายนม”
ที่นี้ลองมาฟัง นางเอกดาวโป๊ที่พูดจาแบบไม่รู้สำนึกที่เสี่ยอุตส่าห์เปลืองน้ำลายสั่งสอนกันบ้าง
ทั้งสองคน ทั้งเอมี่และนิว ออกมายอมรับแบบซื่อๆ ว่า “ทำไปเพราะอยากดัง” พูดสรุปง่ายๆ แบบอิงการตลาดว่า คิดว่าโป๊แล้วได้รับความสนใจ ได้เป็นข่าว ได้ขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์
นิวบอกว่า “ถ้านิวไม่อยากดังนิวไม่แต่งหรอกค่ะ นิวคงใส่ชุดนอนไปแล้ว คนเป็นนักแสดงก็ต้องอยากดังเป็นธรรมดา พี่ทำงานออฟฟิศพี่ก็ต้องอยากเป็นหัวหน้าเป็นเรื่องปกติ ฉะนั้นถ้ามีใครมาถามว่านิวอยากดังมั้ย นิวตอบได้เลยค่ะว่า อยากค่ะ นิวอยากดัง”
“ถ้านิวทำตัวเรียบร้อยหมด ปิดหมด สังคมก็จะไม่รู้จักนิว แล้วนิวก็จะพูดอะไรไม่ได้ นิวก็เลยเลือกเป็นอย่างนี้ เพื่อคนจะได้รู้ว่านี่คือนิวนะ แล้วนิวก็จะพูดอะไรก็มีคนฟัง ถ้านิวขึ้นไปรับรางวัลถือตุ๊กตาทองหรือสุพรรณหงส์อยู่ๆ นิวจะมาพูดได้มั้ยว่าขอขึ้นหน้าหนึ่งได้มั้ยคะ ก็คงจะไม่ได้”
นิวยังบอกอีกด้วยว่า “ไม่เสียใจค่ะ ดีแล้วที่วิจารณ์ เพราะอย่างน้อยก็ทำให้ได้รู้ว่าสังคมเรายังมีอะไรที่ดีอยู่ ยังมีคนที่มีแนวคิดดีๆ อยู่ นิวรู้สึกว่ายิ่งเขาด่านิวแรงเท่าไหร่ นิวจะรู้สึกว่าดีนะที่สังคมไทยยังมีคนแบบนั้นอยู่ทำไห้เรารู้สึกดีนะ เหมือนสังคมต้องการสิ่งนี้อยู่”
แหม พูดจาได้ซื่อไม่รู้ประสีประสาจริงๆ ครับ หลงเข้าใจผิดมาตลอดว่าทำอย่างนี้แล้ว “เสี่ยเจียง” หรือใครต่อใครที่มีอิทธิพลในวงการบันเทิงที่สามารถให้คุณให้โทษ ผลักดันให้เธอได้ “ดัง” ซึ่งเป็นเป้าหมายสามัญธรรมดาที่คนที่เป็น “ดารา” อยากจะได้ อย่างจะไปให้ถึงตรงนั้น
ดีแล้วครับ ที่ “เสี่ยเจียง” และผู้ยิ่งใหญ่ในแวดวงบันเทิงทั้งหลาย ที่จัดฉากจัดเวทีมายาของแวดวงบันเทิงปูพรมแดงเทียบชั้นออสการ์ จะออกมาทำให้กระจ่างกันเสียทีว่า ที่ “เอมี่ หรือนิว หรือต้องรัก” หรือใครต่อใครที่คิดอย่างนี้ เชื่ออย่างนี้ จะได้รู้สักทีว่า จริงๆ แล้วมันไม่ใช่อย่างที่พวกเธอคิด
ช่างไม่รู้เสียเลยว่า เนื้อแท้แล้วแวดวงสังคมบันเทิงเมืองไทยนั้น เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณธรรม จริยธรรม และความดีงาม เหมือนดังที่ “เสี่ยเจียง” ท่านได้ว่าเอาไว้
จากนี้ต่อไป ก็คงเป็นไปตามเวรตามกรรมของสัตว์โลก สำหรับดาราตัวน้อยๆ ผู้ไม่รู้ประสีประสาในวงการมายา ตั้งหน้าตั้งตาหาทาง “ดัง” ไปซื่อๆ เซ่อๆ อย่างเกินพอดี ก็คงถูกฝังกลบลงหลุม เน่าเปื่อยผุพังไปตามกาลเวลา โอกาสเกิดในแวดวงบันเทิงต่อไปคงเป็นเรื่องยาก อย่างมากก็ได้แต่นั่งฝันลมๆ แล้งๆ ให้คนลืมๆ เรื่องนี้ไป และหาโอกาสกลับมาหาความดังในวงการใหม่อีกครั้ง
แต่คุณูปการของสัตว์โลกบันเทิงตัวน้อยที่ทิ้งเอาไว้ก่อนก้มหน้าลงหลุมรับกรรมก็คือ กลายเป็นกรณีเชิดชูเกียรติ เชิดชูความดีให้กับ “ผู้ยิ่งใหญ่” ในวงการ ให้ได้รับการแซ่สร้องสรรเสริญเจริญรุ่งเรืองสืบเนื่องขึ้นไป ที่สามารถธำรงและรักษาคุณธรรมความดีความงามของตนเองและวงการมายาเมืองไทยให้เรืองรองเจิดจ้าด้วยแสงแห่งคุณธรรมและจริยธรรม
คนดีของสังคมไทยที่แสนจะทำให้ผมชื่นใจคนนี้ก็คือ “เสี่ยเจียง” คุณสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ
คนดีของเราที่โผล่ขึ้นมาเรืองแสงสว่างไสวกลางสังคมที่เลวร้ายของเราคนนี้ ก็สืบเนื่องมากจากเรื่องที่โจทย์ขานกันไปทั่วบ้านทั่วเมืองยามนี้ในหัวข้อที่เรียกกันติดปากว่า “ดารา-สาหร่าย” กรณีของคุณเอมี่ โชติรส สุริยะวงศ์ ที่ใส่ชุดราตรีวาบหวิวเกินพิกัดจนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าอะไรต่อมิอะไรของเธอที่ไม่ควรโผล่ได้โผล่ออกมา (คงไม่ต้องอธิบายในรายละเอียด เพราะลงภาพกันหน้าหนึ่งเกือบทุกฉบับ) ไปในงานประกาศรางวัลสุพรรณหงส์ หลังจากนั้นไม่นาน “เสี่ยเจียง” ก็รีบออกมาแถลงข่าวอย่างรวดเร็วทันควันถึงกรณีดังกล่าว
เจ้าของค่ายใบโพธิ์ สหมงคลฟิล์มฯ ที่หลังจากนี้ไป แวดวงบันเทิงควรจะเชิดชูให้สมญานามว่า “ค่ายหนังเพื่อสังคม” ได้ออกชี้แจงกรณีมีข่าวถึงภาพหลุดของดาราสาวหน้าใหม่ “เอมี่” โดยที่ “เสี่ยเจียง” ยืนยันว่าไม่พอใจกับภาพที่ออกมาเป็นอย่างมาก และสั่งตัดทิ้งหนังที่ "เอมี่" แสดง รวมทั้ง "ต้องรัก อัศวรัตน์" และ “นิว” กีรติกร รัตน์กุลธร" ซึ่งแสดงร่วมกันในหนังเรื่อง "สวยซามูไร" ตัดทิ้งเกลี้ยง ทั้งยังประกาศลั่นด้วยว่าบริษัทของเขาไม่ได้ทำหนังโป๊
อ้างจากหนังสือพิมพ์หลายฉบับถึงคำพูดเสี่ยเจียงที่ว่า “บอกเลยว่าผมไม่พอใจ แต่เอมี่ไม่ได้สังกัดในบริษัท เขาแค่เล่นหนังสวยซามูไร วันนี้ได้เจอผู้กำกับ (มานพ อุดมเดช) ก็บอกว่าเขาไปแล้วว่าให้ตัดหนังที่เอมี่แสดงทิ้งให้หมด เราไม่ใช่บริษัทสร้างหนังโป๊ ที่จะให้นักแสดงมาทำแบบนั้น เราเป็นคนไทยบริษัทสร้างหนังไทย ต้องมีวัฒนธรรมไทย วัฒนธรรมไทยไม่มีแบบนี้ การแต่งตัวประเจิดประเจ้อไม่ดี”
“นักแสดงที่ทำแบบนี้ 2 - 3 คนผมปลดหมด ไม่พูดถึงมันได้มั้ย เป็นใครคงรู้กันดี ก็มีเอมี่ ต้องรัก นิว บริษัทไม่ใช่บริษัทหนังฝรั่ง ไม่สร้างหนังเอ็กซ์ ไม่เอาเด็ก 3 คนนี้ ขั้นแรกคงต้องตั้งคณะกรรมการมาสอบสวนทั้งหมด ถึงเอมี่จะเป็นแค่ตัวประกอบก็ไม่ยอม ไม่ชอบให้ใครมาอาศัยหนังเป็นตัวไต่เต้า”
ผมคงต้องขอชื่นชม “เสี่ยเจียง” เอาไว้ ณ ที่นี้ด้วย และรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่เคยเข้าใจผิดๆ กับค่ายหนังของเสี่ยมาตลอด ว่าค่ายนี้ชอบทำหนังโป๊ๆ และชอบ “ขายนม”
ที่นี้ลองมาฟัง นางเอกดาวโป๊ที่พูดจาแบบไม่รู้สำนึกที่เสี่ยอุตส่าห์เปลืองน้ำลายสั่งสอนกันบ้าง
ทั้งสองคน ทั้งเอมี่และนิว ออกมายอมรับแบบซื่อๆ ว่า “ทำไปเพราะอยากดัง” พูดสรุปง่ายๆ แบบอิงการตลาดว่า คิดว่าโป๊แล้วได้รับความสนใจ ได้เป็นข่าว ได้ขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์
นิวบอกว่า “ถ้านิวไม่อยากดังนิวไม่แต่งหรอกค่ะ นิวคงใส่ชุดนอนไปแล้ว คนเป็นนักแสดงก็ต้องอยากดังเป็นธรรมดา พี่ทำงานออฟฟิศพี่ก็ต้องอยากเป็นหัวหน้าเป็นเรื่องปกติ ฉะนั้นถ้ามีใครมาถามว่านิวอยากดังมั้ย นิวตอบได้เลยค่ะว่า อยากค่ะ นิวอยากดัง”
“ถ้านิวทำตัวเรียบร้อยหมด ปิดหมด สังคมก็จะไม่รู้จักนิว แล้วนิวก็จะพูดอะไรไม่ได้ นิวก็เลยเลือกเป็นอย่างนี้ เพื่อคนจะได้รู้ว่านี่คือนิวนะ แล้วนิวก็จะพูดอะไรก็มีคนฟัง ถ้านิวขึ้นไปรับรางวัลถือตุ๊กตาทองหรือสุพรรณหงส์อยู่ๆ นิวจะมาพูดได้มั้ยว่าขอขึ้นหน้าหนึ่งได้มั้ยคะ ก็คงจะไม่ได้”
นิวยังบอกอีกด้วยว่า “ไม่เสียใจค่ะ ดีแล้วที่วิจารณ์ เพราะอย่างน้อยก็ทำให้ได้รู้ว่าสังคมเรายังมีอะไรที่ดีอยู่ ยังมีคนที่มีแนวคิดดีๆ อยู่ นิวรู้สึกว่ายิ่งเขาด่านิวแรงเท่าไหร่ นิวจะรู้สึกว่าดีนะที่สังคมไทยยังมีคนแบบนั้นอยู่ทำไห้เรารู้สึกดีนะ เหมือนสังคมต้องการสิ่งนี้อยู่”
แหม พูดจาได้ซื่อไม่รู้ประสีประสาจริงๆ ครับ หลงเข้าใจผิดมาตลอดว่าทำอย่างนี้แล้ว “เสี่ยเจียง” หรือใครต่อใครที่มีอิทธิพลในวงการบันเทิงที่สามารถให้คุณให้โทษ ผลักดันให้เธอได้ “ดัง” ซึ่งเป็นเป้าหมายสามัญธรรมดาที่คนที่เป็น “ดารา” อยากจะได้ อย่างจะไปให้ถึงตรงนั้น
ดีแล้วครับ ที่ “เสี่ยเจียง” และผู้ยิ่งใหญ่ในแวดวงบันเทิงทั้งหลาย ที่จัดฉากจัดเวทีมายาของแวดวงบันเทิงปูพรมแดงเทียบชั้นออสการ์ จะออกมาทำให้กระจ่างกันเสียทีว่า ที่ “เอมี่ หรือนิว หรือต้องรัก” หรือใครต่อใครที่คิดอย่างนี้ เชื่ออย่างนี้ จะได้รู้สักทีว่า จริงๆ แล้วมันไม่ใช่อย่างที่พวกเธอคิด
ช่างไม่รู้เสียเลยว่า เนื้อแท้แล้วแวดวงสังคมบันเทิงเมืองไทยนั้น เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณธรรม จริยธรรม และความดีงาม เหมือนดังที่ “เสี่ยเจียง” ท่านได้ว่าเอาไว้
จากนี้ต่อไป ก็คงเป็นไปตามเวรตามกรรมของสัตว์โลก สำหรับดาราตัวน้อยๆ ผู้ไม่รู้ประสีประสาในวงการมายา ตั้งหน้าตั้งตาหาทาง “ดัง” ไปซื่อๆ เซ่อๆ อย่างเกินพอดี ก็คงถูกฝังกลบลงหลุม เน่าเปื่อยผุพังไปตามกาลเวลา โอกาสเกิดในแวดวงบันเทิงต่อไปคงเป็นเรื่องยาก อย่างมากก็ได้แต่นั่งฝันลมๆ แล้งๆ ให้คนลืมๆ เรื่องนี้ไป และหาโอกาสกลับมาหาความดังในวงการใหม่อีกครั้ง
แต่คุณูปการของสัตว์โลกบันเทิงตัวน้อยที่ทิ้งเอาไว้ก่อนก้มหน้าลงหลุมรับกรรมก็คือ กลายเป็นกรณีเชิดชูเกียรติ เชิดชูความดีให้กับ “ผู้ยิ่งใหญ่” ในวงการ ให้ได้รับการแซ่สร้องสรรเสริญเจริญรุ่งเรืองสืบเนื่องขึ้นไป ที่สามารถธำรงและรักษาคุณธรรมความดีความงามของตนเองและวงการมายาเมืองไทยให้เรืองรองเจิดจ้าด้วยแสงแห่งคุณธรรมและจริยธรรม