xs
xsm
sm
md
lg

รัฐบาลรุกเปิดศูนย์ 1111 รับเรื่องร้องทุกข์ 4 ช่องทาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รัฐบาลเปิดศูนย์ร้องทุกข์ประชาชน "1111" ขณะที่ "สุรยุทธ์"แนะ ข้าราชการยึด "นิติธรรม-คุณธรรม" แก้ปัญหาราษฎร ระบุเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ 80 พรรษาในหลวง ด้าน"สนธิ"ร้อนใจผลโพลล์รัฐบาลตกทุกด้าน รุดถก นายกฯ แก้เกม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.20 น.วานนี้(14 ก.พ.)พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.และประธาน คมช.ได้เดินทางเข้าพบ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยใช้เวลาหารือกันประมาณ 40 นาที พล.อ.สนธิ จึงเดินทางกลับ โดยไม่ให้สัมภาษณ์ ซึ่งการเดินทางมาครั้งนี้ คาดว่าจะเป็นการหารือเรื่องเกี่ยวกับคะแนนนิยมของรัฐบาล ที่ถือว่าสอบตก จากการทำโพลล์ของกระทรวงเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) นอกจากนี้ก็คาดว่า จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำงานของ กอ.รมน.และ ศอ.บต.ที่ยังไม่ผ่านการประเมินการแก้ปัญหาภาคใต้ รวมถึงการที่สังคมกำลังจับจ้องว่า รัฐบาลและคมช.กำลังมีความขัดแย้งกันด้วย

ในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบนโยบายพัฒนาระบบการดำเนินการเรื่องราวร้องทุกข์ และเปิดงานประชาสัมพันธ์ช่องทางการให้บริการรับเรื่องราวร้องทุกข์ และแจ้งเบาะแสการทุจริตคอรัปชั่น รวมทั้งเสนอข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ผ่าน 4 ช่องทางการสื่อสาร ได้แก่ โทรศัพท์สายด่วนของรัฐบาล 1111 ,www.1111.go.th ,ตู้ปณ. 1111 และ จุดบริการประชาชน 1111 หรือ เคาน์เตอร์เซอร์วิส สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.)ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า นอกจากศูนย์บริการประชาชนดังกล่าวแล้ว ยังมีระบบการแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชนอีกหลายช่องทาง เช่น การตรวจราชการของกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ การรับเรื่องราวร้องเรียนของเว็บไซต์ ตู้รับเรื่องราวร้องทุกข์ร้องเรียน และนอกจากนั้นในส่วนของสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ยังมีระบบการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนโดยกระบวนการทางศาล ทั้งโดยศาลยุติธรรม และศาลปกครอง การแก้ไขปัญหาความทุกข์ของราษฎรโดยภาคเอกชน เช่น จากสภาทนายความและองค์กรพัฒนาเอกชนต่าง แต่การแก้ปัญหาความทุกข์ของราษฎรโดยผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา เป็นต้น ดังนั้นการที่เปิดโอกาสในช่องทางต่างๆ เป็นจำนวนมากนี้ถือว่าเป็นผลดีกับประชาชน โดยเฉพาะผู้ได้รับความทุกข์ยากเดือดร้อน ที่จะได้รับการดูแลแก้ไปัญหาอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

"ในปี 2550 นี้เป็นปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษาจึงเป็นโอกาสอันดีอีกวาระ 1 ที่ข้าราชการจะได้พัฒนาการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อเจริญรอยตามเบื้องพระยุคคลบาท และสนองพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงงานด้วยการให้ ซึ่งหมายถึงทำทุกอย่างเพื่อให้แก่ประเทศชาติและประชาชน มาโดยตลอด"พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น