ศูนย์ข่าวขอนแก่น-กองวิทยาการภาค2 คาดภายในสัปดาห์นี้ ได้ผลพิสูจน์เหตุเพลิงไหม้ห้างฯเซ็นโทซ่า กลางเมืองขอนแก่น ด้าน"สัญชัย"เจ้าของห้างฯ ลั่นเร่งซ่อมเพื่อเปิดใหม่ให้ได้ภายใน 3 เดือน เฉพาะหน้ากางเต็นท์เลหลังสินค้าริมถนน พร้อมดึงซัปพลายเออร์ร่วมเปิดบูทลด แหลก ตรึงลูกค้าครั้งใหญ่ในมข.ปลายเดือนนี้ ยืนยันกิจการเซ็นโทซ่าไปได้ดี มีจุดขายเฉพาะตัว
จากกรณีที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นโทซ่า ขอนแก่นได้รับความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้เมื่อคืนวันที่ 9 กุมภาพันธ์ โดยอาคารชั้น 3 ได้รับความเสียหายทั้งชั้น ซึ่งมูลเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้จะเป็นเพราะสาเหตุใด ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ของเจ้าหน้าที่ กองวิทยาการเขต 21 นครราชสีมา
ล่าสุดเมื่อค่ำวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พ.ต.อ.จรูญ งดงาม รองผู้บังคับการวิทยาการภาค 2 นครราชสีมา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองวิทยาการเขต 21 นครราชสีมา และกองวิทยาการเขต 23 ขอนแก่น ได้เดินทางตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นโทซ่า โดยใช้เวลาในการตรวจสอบนานกว่า 3 ชั่วโมง
พ.ต.อ.จรูญ เปิดเผยว่า การตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุครั้งนี้ ต้องทำอย่างละเอียดที่สุด เนื่องจากมีพื้นที่เสียหายมาก ต้องตรวจสอบหลายอย่าง ทั้งโครงสร้าง และการเชื่อมต่อของห้างสรรพสินค้า หน่วยความร้อน ซึ่งเป็นหน้าที่ของทางวิทยาการฯที่จะตรวจพิสูจน์และนำผลการตรวจมาวิเคราะห์หาสาเหตุ
จนถึงขณะนี้ แม้จะมีการตรวจของกองวิทยาการเขต 21 และ เขต 23 รวม 3 ครั้ง ก็ยังไม่สามารถสรุปผลได้ ว่าต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณใด และเกิดจากสาเหตุใด แต่ก็ยังไม่ได้ตัดประเด็นต้องสงสัยใดๆ ออกทั้งสิ้น ทั้งไฟฟ้าลัดวงจร ความประมาท อุบัติเหตุ หรือลอบวางเพลิง โดยขอเวลาในการวิเคราะห์อย่างละเอียดที่สุด คาดว่าจะทราบผลภายในสัปดาห์นี้
กางเต็นท์เปิดเลหลังขายรักษาลูกค้า
นายสัญชัย ชินจตุรภัทร กรรมการผู้จัดการบริษัทเซ็นโทซ่า ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ จำกัด เปิดเผยว่าภายหลังการตรวจพิสูจน์มูลเหตุเพลิงไหม้ได้ข้อสรุปชัดเจนแล้ว ห้างฯจะเร่งบูรณะซ่อมแซมให้แล้วเสร็จ เพื่อเปิดให้บริการเร็วที่สุด คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่ยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้นี้ ห้างฯจะกางเต็นท์เปิดขายสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภคบริเวณด้านหน้าห้างไปพลางๆก่อน และสินค้าอีกส่วนหนึ่งก็จะนำไปขายที่เซ็นโทซ่า มาร์เก็ตเพลส บนถนนมะลิวัลย์
สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปตัวเลขชัดเจนได้ แต่ประเมินเบื้องต้นประเมินตัวเลขคร่าวๆหลายสิบล้านบาท ซึ่งบริเวณชั้น 3 ของห้างนั้นเป็นทั้งสต๊อกสินค้า อาคารสำนักงาน ข้อมูลธุรกิจ ฐานข้อมูลลูกค้าระบบสมาชิกที่จัดเก็บไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ได้รับความเสียหายหมด
ส่วนชั้น 2 แผนกเครื่องเขียน กิฟต์ชอป เครื่องสำอาง รองเท้า ฯลฯและชั้น 1 แผนกดีพาร์ตเมนต์สโตร์และซูเปอร์มาร์เกตไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด โดยชั้น 2และชั้น 1 มีพื้นที่ขายรวมกันประมาณ 1,500 ตารางเมตร
ในช่วงที่รอการซ่อมปรับปรุงห้างฯให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิม บริษัทฯจะดูแลพนักงาน100 กว่าชีวิตเช่นเดิม ไม่มีการปลดออก ส่วนหนึ่งจะโยกไปช่วยงานที่เซ็นโทซ่า มาร์เก็ตเพลส นอกจากนี้ในระหว่างวันที่ 24-28 กุมภาพันธ์ ห้างฯจะจัดมหกรรมลดราคาสินค้า Sentosa Thankyou Sale ขึ้นที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์ กาญจนาภิเษก ซึ่งซัปพลายเออร์ทุกรายพร้อมจะให้การสนับสนุนนำสินค้า มาร่วมออกร้านจำหน่าย และคาดว่าสินค้าแต่ละแบรนด์จะลดราคามากเป็นพิเศษ
ยันเดินหน้าร่วมสมรภูมิค้าปลีก
โอดไฟไหม้เสียโอกาสธุรกิจ
นายสัญชัยกล่าวว่าเซ็นโทซ่า ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ถือเป็นห้างฯเก่าแก่ที่อยู่คู่กับขอนแก่นมานานหลายสิบปี เป็นห้างฯไม่ใหญ่นัก ขนาด 8 คูหา สูง 3 ชั้น พื้นที่ขายรวมทั้งหมดราว 2,500 ตารางเมตร ได้รับการสนับสนุนจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง แม้ระยะ 10 ปีที่ผ่านมา จะมีดิสเคานต์สโตร์ ทั้งบิ๊กซี โลตัส มาเปิดก็ไม่ส่งผลกระทบต่อยอดขายของห้างฯมากนัก เนื่องจากกำลังซื้อตลาดค้าปลีกในขอนแก่นขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี
"กลุ่มลูกค้าของเราค่อนข้างชัดเจน หลักๆจะเป็นกลุ่มครอบครัวชาวขอนแก่น ที่คุ้นเคยกับเซ็นโทซ่ามานาน อีกส่วนหนึ่งมากพอสมควรจะมาจากเขตรอบนอก ด้วยทำเลของห้างฯที่อยู่ติดกับตลาดสดบางลำภู ซึ่งเป็นตลาดสดขนาดใหญ่ ทำให้มีลูกค้าประจำหมุนเวียนเข้ามาต่อเนื่อง เซ็นโทซ่าจึงมีกลุ่มลูกค้าหลักเป็นกลุ่มครอบครัว มากกว่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่น"นายสัญชัยกล่าวและย้ำว่า
เหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 9 กุมภาพันธ์อาจมีการตั้งข้อสงสัยว่า เป็นการเผาเพื่อหวังเคลมกรมธรรม์ประกันภัย ซึ่งตนขอปฏิเสธ เซ็นโทซ่าทำประกันภัยไว้กับกลุ่มบริษัทเมืองไทยประกันชีวิตราว 80 ล้านบาท ซึ่งไม่คุ้มต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งต้องสูญเสียโอกาสทางธุรกิจจากการเปิดห้างฯแต่ละวันมากพอสมควร
นายสัญชัย เปิดเผยอีกว่า ธุรกิจค้าปลีก ถือเป็นธุรกิจหลักของครอบครัวที่ทำมาตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อ กลายเป็นสายเลือดของตระกูลไปแล้ว ดังนั้น เซ็นโทซ่าจะยังคงดำเนินต่อไปและจะพัฒนาให้มั่นคงยิ่งขึ้น แม้ในตลาดจะมีคู่แข่งเข้ามาแชร์ตลาดมากขึ้น แต่ห้างฯก็มีจุดขาย มีกลุ่มลูกค้าประจำที่ทำให้ผลประกอบการแต่ละปีอยู่ในระดับน่าพอใจ
สำหรับ เซ็นโทซ่า ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ เป็นธุรกิจค้าปลีกของตระกูล"ชินจตุรภัทร"เป็นห้างฯค้าปลีกเก่าแก่ของเมืองขอนแก่นแห่งหนึ่ง เริ่มต้นจากรุ่นพ่อ นายเขียน ชินจตุรภัทร เมื่อราวปี 2509 เปิดร้านขายเสื้อผ้า "ร้านสหภัณฑ์" เป็นอาคารพาณิชย์ขนาด 1 คูหาบนถนนศรีจันทร์ เมื่อผลกำไรดีจึงขยายทุนซื้ออาคารพาณิชย์ขนาด 2 ชั้นร่วม 10 คูหาบนถนนกลางเมือง เพื่อเปิดเป็นห้างเซ็นโทซ่า ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์เมื่อราวปี 2528-2529
ปัจจุบันห้างเซ็นโทซ่ามีนายสัญชัย ชินจตุรภัทร บุตรชายคนที่ 2 ของตระกูลและนางกุลสุณีย์ (อนันธนสกุล)ชินจตุรภัทร)พี่สาวเป็นตัวหลักในการควบคุมบริหาร
นอกจากมีเซ็นโทซ่า ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์สาขาใหญ่บนถนนกลางเมืองแห่งนี้แล้ว เมื่อหลายปีก่อนสัญชัยได้ขยายกิจการลงทุนเปิดเซ็นโทซ่า มาร์เก็ตเพลส ค้าปลีกขนาดย่อม ขนาด 2 ชั้น บนถนนมะลิวัลย์ เน้นขายสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวันเป็นหลัก เพื่อจับกลุ่มลูกค้าในโซนมหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นหลัก อย่างไรก็ตามเซ็นโทซ่า มาร์เก็ตเพลสไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก
ตระกูล"ชินจตุรภัทร"ปัจจุบันนอกเหนือจากทำธุรกิจค้าปลีกในจังหวัดขอนแก่นแล้ว ยังเป็นเจ้าของโรงแรมเมืองอินน์ ขนาด 120 ห้องในเมืองขอนแก่น ขณะเดียวกันก็ทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในนามบริษัทภัทรแลนด์ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ที่จังหวัดเชียงใหม่ ประเดิมโครงการแรกคือแม่ริมวัลเลย์ อ.แม่ริม และที่กำลังพัฒนาอยู่ในปัจจุบันคือรีสอร์ท ปาล์มสปาแอนด์วิลเลจ และหมู่บ้านอิมเพลส บนพื้นที่ 150 ไร่ที่เชียงใหม่อีกด้วย