xs
xsm
sm
md
lg

ประชาธิปไตยผีบอกที่ผียังไม่ได้ไปนรก (2)

เผยแพร่:   โดย: ยอดรัก ตะวันรอน

ขอย้ำอีกทีสำหรับบทความชิ้นนี้ที่ได้เขียนไว้เมื่อวันจันทร์ที่แล้วในตอนท้ายของบทความนี้ ผมได้จบบทในลักษณะที่ไม่สมบูรณ์นัก ผมจำเป็นต้องเสริมบางตอนที่อาจจะยังไม่ชัดเจนเท่าที่ควร

ผมจบลงด้วยประโยคนั้นว่า;

“ในการเอาตำรับตำราของคนต่างชาติมาทำเป็นกฎหมายฉบับนี้ (รัฐธรรมนูญ) แล้วคว้าเอาคำว่า ประชาธิปไตยติดมาด้วย โดยเชื่อว่าถ้าเรามีรัฐธรรมนูญฉบับนี้แล้ว บ้านเมืองก็จะถูกทำให้เจริญขึ้นและคนไทยจะไม่ถูกอุ้มฆ่าอย่างที่ทำมาแล้ว แต่ในความเป็นจริงไม่ว่าจะเป็นคำว่าประชาธิปไตยหรือคำว่ารัฐธรรมนูญที่เราลอกมานั้น ข้อความและเนื้อหาของรัฐธรรมนูญไม่สามารถนำมาใช้ได้ เพราะมันเป็นไปไม่ได้ในชีวิตคนไทย มันเป็นเพียงนิยายผีบอกเท่านั้น

และบรรดาผีที่มาบอกนั้นล้วนแต่ผีที่รอการไปลงนรกทั้งสิ้น มันอาจจะเป็นผีเปรต ผีปอบหรือสารพัดผีที่นั่งรอเขมือบเมืองไทยของเราอยู่อย่างเป็นสุขเท่านั้น”


นี่เป็นความเชื่อมั่นของผม เป็นประสบการณ์ทางการเมืองของผม ผมไม่มีความเชื่อแม้แต่ปลายนิ้วก้อยว่าประเทศไทยสามารถจะเป็นประเทศประชาธิปไตย และรัฐธรรมนูญที่เรากำลังร่างกันอยู่นี้ มันจะไม่ทำให้เมืองไทยเป็นอะไรได้มากไปกว่านี้!

นอกจากอย่างเดียวคือร่างกันขึ้นมาเพื่อยั่วยุให้คนมาฉีกทิ้งอย่างที่ทำกันมาแล้ว

ขณะนี้บ้านเมืองของเรากำลังสร้างประวัติศาสตร์การเมืองใหม่เพื่อรับใช้ประเทศชาติและประชาชนที่เต็มไปด้วยหนี้สิน และความฉิบหายของประเทศชาติซึ่งกำลังรออยู่ข้างหน้า นั่นก็คือว่ากระทรวงการคลังมีความคิดเห็นว่าจะต้องสนองความต้องการของประชาชนที่อดอยากยากจนเหล่านั้นให้ทั่วถึงกัน และให้มันพากันอดอยากต่อไปอีกด้วยการออกหวยเถื่อนให้ซื้อขายกันอย่างเพลิดเพลินอีกต่อไป หลังจากที่รัฐบาลมิจฉาชีพของเราได้ทำมาแล้วในชุดรัฐบาลคอร์รัปชันอันมีชื่อเสียงของเราเมื่อไม่นานมานี้

แนวนโยบายประการที่สองที่จะออกติดต่อกันมาอีกก็คือ รัฐบาลจะช่วยเหลือนักคอร์รัปชันในองค์กรของรัฐร่ำรวยขึ้นมาโดยง่าย ด้วยการอนุมัติให้มหาวิทยาลัยของรัฐทุกแห่งไม่ต้องขึ้นกับรัฐ เพราะการอยู่ในอำนาจของรัฐบาลนั้น รัฐบาลจะต้องขัดขวางที่จะไม่ยอมให้เจ้าของโรงเรียนเอาการศึกษาและทรัพย์สินเกี่ยวกับการศึกษาไปขายให้ต่างชาติและเพิ่มรายได้ให้แก่ตัวเองด้วยการขูดรีดนักเรียนยากจนที่ต้องการเรียนต่อในมหาวิทยาลัยที่มีศักดิ์มีศรีในบ้านเมืองของตัวเอง

เป็นนโยบายของครูบาอาจารย์และเจ้าของมหาวิทยาลัยเอกชน หรือแม้แต่รัฐบาลได้พบช่องทางที่จะได้เงินและหาเงินง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นเงินส่วนแบ่งในรูปของธุรกิจหรือเงินเดือนจะเพิ่มขึ้นเป็นอีกแสนๆ ล้านบาทในขณะที่ยังมีโอกาสเป็นอาจารย์สอนอยู่

ไม่ว่ารัฐบาลหรือนักคอร์รัปชันที่เกี่ยวข้องกับนโยบายนี้จะมีโอกาสได้รับการสดุดีว่าเป็นยอดนักปล้นที่หลักแหลมพวกหนึ่งในวงการศึกษาของโลกหรือไม่ก็ตาม

จริงอยู่การศึกษาในระบบมหาวิทยาลัยของไทยส่วนมากเช่นเดียวกับการศึกษาในระดับอื่นๆ ของไทยอาจจะบกพร่องอย่างมาก แต่ว่าการปรับปรุงแก้ไขปัญหาความบกพร่องนั้น ไม่ใช่การเอาไปขายให้ต่างประเทศที่กำลังหลอกลวงประชาชน และขายชาติกันอยู่ด้วยการแก้กฎหมายคนต่างด้าวหรือการขึ้นค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายจากนักเรียนโรงเรียนที่แยกตัวออกไป มันสำคัญอยู่ที่ว่าเจ้าของโรงเรียนและผู้บริหารจะมีสติปัญญาที่จะปรับปรุงมันหรือไม่ต่างหาก

เรากำลังลงมือหลอกลวงประชาชนคนไทยทั้งชาติด้วยการเตรียมร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาฉบับหนึ่งซึ่งใน “ผู้จัดการรายวัน” ฉบับที่แล้วผมเขียนลงไปชัดว่ารัฐธรรมนูญที่เราจะออกนั้นเป็นรัฐธรรมนูญผีบอกซึ่งบรรดาสารพัดผีที่มีทั้งผีเปรตผีปอบทุกประเภทที่ยังหาที่ผุดที่เกิดไม่ได้ช่วยมาอบรมพร่ำสอนและบ่งบอกแก่คนหัวหงอกหัวดำในชาติ โดยบอกประชาชนว่ามันคือขนบธรรมเนียมของชาติอารยะที่จะต้องมีรัฐธรรมนูญขึ้นมาปกครองประเทศชาติเพื่อช่วยประเทศให้มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

ใน “ผู้จัดการรายวัน” ฉบับที่แล้ว ผมได้เขียนเรื่องราวของการเลือกตั้งของไทยและรัฐธรรมนูญที่เราได้เริ่มสร้างมาแล้วตั้งแต่ปี 2475 เป็นเวลาเกือบร้อยปีมาแล้วว่ามันไม่มีประโยชน์และศักดิ์ศรีอะไรแก่คนไทยและประเทศชาติ นอกจากความฉิบหายและความทุกข์ยากของประชาชน การคดบ้านโกงเมืองและการขายชาติในทุกรูปแบบของนักการเมืองภายใต้ความคุ้มครองของรัฐธรรมนูญ

รัฐธรรมนูญที่มีการร่างแล้วร่างเล่า นักปราชญ์ราชบัณฑิตหมดทั้งแผ่นดินทุกรุ่นต่างแสดงปาฏิหาริย์เหมือนมีความสามารถอย่างสาหัสสากรรจ์ในการที่จะเขียนรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดแล้วสร้างระบอบประชาธิปไตยขึ้นมาให้ได้หรือทำได้โดยเพียงเอาคำว่า “ประชาธิปไตย” ขึ้นมาโอ้อวดเท่านั้น

ผมได้เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญทำนองนี้มาหลายครั้งแล้ว ไม่ว่าใน “ผู้จัดการรายวัน” และหนังสือพิมพ์อื่นๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเบื่อหน่าย แต่ผมก็ยังจะต้องเขียนต่อไป เพราะผมเชื่อว่าการพูดการเขียนเรื่องประชาธิปไตยที่ผมเขียนมาแล้วและยังจะเขียนต่อไปนั้นไม่ทำให้ใครเสียหายหรือขาดทุนมากนัก แต่จะเป็นประโยชน์อย่างใหญ่หลวงแก่ประชาชนพลเมืองคนใดที่ให้ความสนใจอย่างที่มันเกิดมาแล้วในระยะเวลาเกือบ 100 ปีที่ผ่านมา

100 ปีของระบอบประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญไทยมันมากพอแล้วสำหรับคนไทยมีชีวิตอยู่เหมือนผีไม่มีญาติในแผ่นดินของตัวเองอย่างในทุกวันนี้ ถ้าไม่พยายามทำความเข้าใจความผิดพลาดและข้อบกพร่องของมัน คนไทยทุกคนจะต้องตกเป็นเหยื่อของนักประชาธิปไตยที่โกหกหลอกลวงประชาชนคนไทยพวกนี้ต่อไปอีก เพราะฉะนั้น การที่คนไทยจะอยู่กันต่อไปได้นั้น เราจะมอบความไว้วางใจหรือหวังพึ่งบรรดาอสรพิษและบรรดาพวกมิจฉาชีพทางการเมืองเหล่านี้ไม่ได้โดยเด็ดขาด

พอกันทีได้แล้วกระมั้ง?
กำลังโหลดความคิดเห็น