xs
xsm
sm
md
lg

ซานติก้ารีโนเวตสวนเศรษฐกิจมั่นใจจับกลุ่มไฮโซกระเป๋าหนา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - ซานติก้า ควัก 40 ล้านบาท รีโนเวตปรับแต่งโฉมรับอัตราโต สถานบันเทิงรุ่ง พร้อมจัดงบโปรโมตตลาดอีก 20 ล้านบาท สร้างความรับรู้กระตุ้นยอดจ่าย ไฮโซ ลั่น 4 เดือนคืนทุน ส่งยอดขายสิ้นปี 50 โตไม่น้อยกว่า 30%

นายดวิษ ธีราวิทยางกูล ผู้อำนวยการฝ่ายตลาด บริษัท ไวที แอนด์ บราเธอร์ จำกัด ผู้ประกอบการสถานบันเทิง ซานติก้า ผับ แอนด์ เรสเตอรองส์ เอกมัย เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ใช้งบประมาณกว่า 40 ล้านบาท เพื่อการรีโนเวตสาขาที่ติดถนนเอกมัยเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2550 ที่ผ่านมา คาดว่าจะแล้วเสร็จทันเปิดช่วงวันที่ 14 เดือนกุมภาพันธ์ 2550 เพื่อให้อยู่ในรูปแบบที่มีความทันสมัยและปรับให้เป็นสไตล์โมเดิร์นมากขึ้น
เนื่องจากเล็งเห็นถึงภาวะการเติบโตของธุรกิจบันเทิง ซึ่งนับว่าเป็นการเติบโตที่สวนกระแสของเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก และที่สำคัญถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงขาลงของภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศ บริษัทฯก็ไม่ได้รับผลกระทบอะไรมาก เนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาเป็น กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อและถือว่าเป็นกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในระดับ บีบวกถึงเออยู่แล้ว
ปัจจุบัน “ซานติก้า” มีกลุ่มเป้าหมายเป็น กลุ่มลูกค้าพรีเมี่ยม อายุระหว่าง 20 -35 ปี พบว่าส่วนใหญ่มีรสนิยมและรูปแบบในการดำเนินชีวิตที่ชอบในการสังสรรและผ่อนคลาย อีกทั้งทางร้านยังได้ลูกค้าที่ใช้การจัดงานอีกด้วย เช่น ลูกค้าในกรุ๊ป สัมนา คอนเสิร์ต ถ่ายละคร และการแถลงข่าว เป็นต้น
ทั้งนี้ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ซานติก้า ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้า โดยทุกปีมียอดขายเพิ่มขึ้นปีละ 25% และมีลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเฉลี่ยในวันปกติมีประมาณ 350- 850 คน ต่อวันศุกร์ – เสาร์ 1,300 คนต่อวัน และถึงแม้ว่ายอดขายและการเติบโตของร้านจะอยู่ในเกณฑ์ที่ดีอยู่แล้วก็ตาม แต่บริษัทฯมองว่าถ้าการปรับปรุงร้านให้ดีขึ้น จะทำให้มียอดลูกค้าเพิ่มได้กว่า 1,500 คนต่อวัน
นอกจากการปรับเปลี่ยนรูปแบบของร้าน บริษัทฯยังได้เตรียมงบการทำตลาดในรูปแบบ ซีอาร์เอ็ม ไว้สื่อสารกับลูกค้าโดยตรง กว่า 20 ล้านบาท เพิ่มจากเดิมในปี 2549 ใช้ไปเพียง 15 ล้านบาท โดยจัดแบ่งเป็นงบประมาณ 10 ล้านบาท สำหรับการจัดทำสื่อแนวทางของเอนเตอร์เทนเมนต์ อาทิ การจัดมินิคอนเสิร์ตโดยการจัดหา ศิลปินที่มีชื่อเสียงมาแสดง การจัดปาร์ตี้ ในช่วงเทศกาลต่างๆ ภายในผับ ฯลฯ และสำหรับงบประมาณอีก 10 ล้านบาทบริษัทฯจะใช้กับมีเดียและโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ในตลาดวงกว้างอีกด้วยเพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าใหม่เข้ามาที่ร้านมากขึ้น
“บางคนอาจมองการทุ่มใช้งบประมาณที่มีมูลค่ามาลงทุน กับธุรกิจที่ถือว่ามีความเสี่ยงในภาวะปัจจัยลบต่างๆในภาพรวมเศรษฐกิจที่ซบเซา แต่ทางบริษัทฯกลับเล็งเห็น ถึงช่องว่างในการทำตลาดที่ส่วนใหญ่ตลาดบันเทิงโดยรวมอาจจะยุบตัวไป แต่ถ้ามองโลกในแง่ดี คู่แข่งมีน้อยการลุกขึ้นมาปรับตัว เปลี่ยนให้ทันสมัยมากขึ้นจะทำให้ โอกาสสำหรับการสร้างยอดรายได้ก็มีเพิ่มเช่น เดียวกัน”
นายดวิษ กล่าวต่อว่า จากการปรับปรุงร้านและรูปแบบของการทำตลาดที่เพิ่มมากขึ้น บริษัทฯคาดหวังว่าจะคุ้มทุนได้ในช่วงเวลาแค่ 4-5 เดือนเท่านั้น และส่งต่อให้ยอดรายได้ภายในระยะเวลาสิ้นปี 2550 มีรายได้กว่าเติบโตอย่างน้อย 30% จากเดิมในปีที่ผ่านมา บริษัทฯสามารถปิดรายได้กว่า 160 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น