xs
xsm
sm
md
lg

"แอ๊ด-เพ้ง"สัญญาให้เงิน-เก้าอี้ ส.ส.จ้างหาคนเลือกตั้งหนีเกณฑ์ 20%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไต่สวนยุบ ทรท.นัด 3 มือรับงาน ทรท.ติดต่อจ้างพรรคเล็กลงเลือกตั้ง แฉ “ธรรมรักษ์-พงษ์ศักดิ์” ว่าจ้างหาผู้สมัครหนีเกณฑ์ 20 % โดยสัญญาว่าจะให้เงินและตำแหน่ง ส.ส. แต่ถูกเบี้ยวจึงวิ่งหา “สุเทพ” เพราะกลัวตาย ขณะที่ “พงษ์เทพ” ท้าทายตุลาการ รธน.เตรียมเปิดเทปบันทึกภาพวงจรปิดในกลาโหมให้สื่อดูที่พรรค ทรท.วันนี้ หลังตุลาการฯไม่ให้เปิดขณะไต่สวน

วานนี้ ( 30ม.ค.) คณะตุลาการรัฐธรรมนูญได้ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนครั้งที่ 3 ในคดียุบพรรคในกลุ่มคดีแรกที่อัยการสูงสุดยื่นคำร้องขอให้สั่งยุบพรรคไทยรักไทย เนื่องจากมีการว่าจ้างพรรคแผ่นดินไทยและพรรคพัฒนาชาติไทยลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อหลีกเลี่ยงเกณฑที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งต้องได้คะแนนเสียงไม่น้อยก ว่าร้อยละ 20 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งเป็นการไต่สวนพยานเรียกของผู้ร้องคืออัยการสูงสุดรวม 5 ปาก

ทั้งนี้อัยการสูงสุด ได้ขอยื่นคำให้การเพิ่มเติมของนายชวการ โตสวัสดิ์ ซึ่งรับงานจากแกนนำไทยรักไทยมาติดต่อจ้างพรรคเล็กลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่คณะตุลาการฯไม่รับ โดยอ้างว่าเลยเวลาที่กำหนด ทำให้อัยการสูงสุดซักค้านและขอให้ นายชวการให้เพิ่มเติมเอง

ซึ่งนายชวการ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ไม่เคยสังกัดพรรคการเมืองมาก่อน แต่เมื่อรับงานแก้ไขฐานข้อมูลพรรคการเมืองพรรคพัฒนาชาติไทย จึงมาสังกัดพรรคดังกล่าวฯ เพื่อให้มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง 2 เม.ย. โดยจุดเริ่มต้นของการแก้ไขได้รับการติดต่อ จากนายพงษ์ศรี ศิวาโมกข์ นายทวี สุวรรณพัฒน์ นายธีรชัย จุลพัฒน์ ให้หาคนไปลงสมัครพรรคเล็ก และได้ไปพบกับ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทยและนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีตรองเลขาธิการพรรค ที่ห้องทำงานของ พล.อ.ธรรมรักษ์ ที่ที่ทำการพรรคไทยรักไทย ในวันที่ 2 มี.ค. 49

โดยพล.อ.ธรรมรักษ์ กล่าวว่าขอให้หาผู้สมัครลงสมัครเพื่อแข่งขันกับพรรคไทยรักไทยเพื่อหลีกเลี่ยงกฎเกณฑ์การได้คะแนนเสียง 20% ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ รวมทั้ง สุพรรณบุรี สระแก้ว อ่างทอง จึงรับปากซึ่ง พล.อ.ธรรมรักษ์ยังบอกว่า นายพงษ์ศักดิ์จะรับผิดชอบเงินค่าจ้าง โดยเบื้องต้นจะให้เงินช่วยเหลือคนละ 1 แสนบาท แต่หากมีโอกาสได้รับเลือกตั้งเท่าผู้สมัครพรรคไทยรักไทยพร้อมสนับสนุนให้ 3 ล้านบาท

“ที่ไปพบพล.อ.ธรรมรักษ์ที่กระทรวงกลาโหมเพราะเปลี่ยนที่นัดหมายเนื่องจาก วันดังกล่าวมีปราศรัยใหญ่ของพรรคที่สนามหลวง โดยผ่านเข้าออกกระทรวง โดยไม่มีการบันทึกหรือแลกบัตร และนายทวี ี สุวรรณพัฒน์ เป็นผู้เข้าไปรับเงินมา 1 ปึก เป็นแบงค์พันไม่ใส่ซอง ทราบภายหลังทั้งหมดเป็นเงิน 5 หมื่นบาทเพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายลงสมัครในระบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งภาพวงจรปิดที่กระทรวงกลาโหม 9 ภาพที่ปรากฏทางสื่อนั้น นายสุเทพนำมาให้ดู และตนเป็นคนบรรยายรายละเอียดของเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นให้ทราบ”

นายชวการ กล่าวว่า ยังเคยได้รับเงินจากนายธีรชัย หรือต้อย เพื่อนำมาใส่ซอง ๆ ละ 2 หมื่นบาท เพื่อแจกให้ผู้สมัครของพรรคจำนวน 33 คน จนกระทั่ง 15 มี.ค. 49 หลังจากที่ผู้สมัครของพรรคได้รับการรับรองจาก ผอ.กกต.เขตให้เป็นผู้มีสิทธิลงสมัครแล้ว ก็ติดต่อนายพงษ์ศรี เพื่อขอรับเงินค่าใช้จ่ายที่เหลือ แต่ถูกปฏิเสธ เมื่อหารือกับ นายสุขสันต์จึงเห็นว่าถูกหักหลัง จะไปร้อง กกต. สังคมเวลานั้นก็ไม่ยอมรับ จึงติดต่อไปยังนายสุเทพ เพราะพรรคประชาธิปัตย์กำลังตรวจสอบเรื่องจ้างพรรค เล็กลงสมัคร

ด้านนายสมศักดิ์ โตรักษา ทนายผู้รับมอบอำนาจจากพรรคไทยรักไทย ได้ซักค้าน โดยพยายามชี้ให้เห็นว่านายชวการ รู้จักกับนายสุเทพมาก่อน เคยพักบ้านนายสุเทพ ที่จ.สุราษฎร์ธานี และเป็นผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ที่จ.สุราษฎร์ธานี รวมถึงเป็นผู้จัดฉากให้เกิดเหตุการณ์ทั้งหมดเพื่อใส่ร้ายพรรคไทยรักไทย เพราะสามารถจำเหตุการณ์ได้ละเอียดมาก

นายชวการ กล่าวว่า ที่จำรายละเอียดได้แม่นยำ เพราะเกี่ยวข้องโดยตรง และมีเวลา 7-8 เดือนที่จะรื้อฟื้นรายละเอียด อีกทั้งกำลังเขียนหนังสือเรื่องดังกล่าว สิ่งที่ทำไปทราบดีว่าผิด แต่เมื่อได้รับเกียรติจากคนระดับ พล.อ.ธรรมรักษ์ และ นายพงษ์ศักดิ์ จึงไม่อาจปฎิเสธได้ อีกทั้งมีโอกาสได้เป็น ส.ส.เพราะพรรคใหญ่รับปาก จะให้ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน จึงตัดสินใจรับงาน

“ที่ผมไปหานายสุเทพ ไม่ต้องการให้ช่วยเรื่องพ้นผิด แต่เพราะในหมู่ผู้สมัครที่ผมประสานมีการปล่อยข่าวว่าผมรับเงินมาแล้วไม่จ่ายให้เขา ถ้ายังไม่ทำอะไรก็จะเกิดอันตรายกับผม จึงไปหานายสุเทพเพื่อให้ช่วยคุ้มครอง”

จากนั้น นายสุรชัย ชินชัย ทนายความของพรรคพัฒนาชาติไทย ได้ถามว่านายสุเทพให้ที่พักแล้วยังให้เงิน 2 แสนบาท และจะให้อีกครบ 1 ล้านเมื่อศาลมีคำพิพากษาจริงหรือไม่ นายชวการ กล่าวว่า ไม่จริง

ต่อมาได้มีการซักค้านนายทวี สุวรรณพัฒน์ คนสนิทของพล.อ.ธรรมรักษ์ โดยอัยการสูงสุดได้ถามถึง การพานายชวการไปพบ พล.อ.ธรรมรักษ์ที่กระทรวงกลาโหม นายทวี กล่าวว่า เพราะนายชวการอ้างว่ามีข่าวแต่ตนไม่ทราบข่าวอะไรเพราะนายชวการไม่บอก จากนั้นนายสมศักดิ์ ได้ถามถึงกรณีนายชวการระบุว่าสนิทสนมกับพล.อ.ธรรมรักษ์ถึงขนาดกอดคอกินเหล้าเป็นอย่างไร นายทวี กล่าวว่า รู้จัก พล.อ.ธรรมรักษ์ในฐานะแหล่งข่าวสายทหารเท่านั้น ไม่ได้สนิทถึงขนาดกอดคอกินเหล้า และที่ไปกระทรวงกลาโหมก็ไม่ได้พบพล.อ.ธรรมรักษ์ สิ่งที่มอบให้นายพงษ์ศรี ก็เป็นซองเอกสารข่าวไม่ใช่เงิน

หลังการไต่สวน นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ทั้งนายทวี นายุทธพงษ์หรือพงษ์ศรี และนายธีรชัย ต่างยืนยัน ไม่เคยเข้าพบพล.อ.ธรรมรักษ์ เพื่อรับเงินอย่างที่นายชวการอ้าง ซึ่งเมื่อทนายของพรรคพยายามขอเปิดเทปบันทึกภาพวงจรปิดที่กระทรวงกลาโหม แต่ไม่ได้รับการอนุญาต ทางพรรคจึงจะเปิดเทปวงจรปิดดังกล่าวความยาว 30 นาทีไม่มีตัดต่อ ให้เห็นกันเต็ม ๆว่าความจริงเป็นอย่างไร ในวันนี้ (31 ม.ค.) เวลา 09.30 น. ที่ทำการพรรคไทยรักไทย โดยการเปิดเทปดังกล่าวคิดว่าไม่ได้เป็นการชี้นำ หรือละเมิดศาล เพราะเป็นภาพเคลื่อนไหวที่ไม่ได้ตัดมาเป็นภาพนิ่ง 9 ภาพอย่างที่นายสุเทพนำมาอ้าง

ส่วนการประสานให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ทำคำให้การต่อคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ นายพงษ์เทพ กล่าวว่า ได้เตรียมร่างคำ ให้การของพ.ต.ท.ทักษิณ ไว้แล้ว ซึ่งต้องส่งให้พ.ต.ท.ทักษิณดูเนื่องจากต้องให้ลงนามรับรองคำให้การ และจะต้องสอบถามข้อเท็จจริงในบางเรื่อง เนื่องจากพ.ต.ท.ทักษิณ ผู้เกี่ยวข้องโดยตรง ซึ่งก็ถือว่ามีความลำบากพอสมควร ในการประสานเพราะอยู่คนละประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น