xs
xsm
sm
md
lg

จี้ คมช.เร่งพิสูจน์ฝีมือสางทุจริต“พืชสวนโลกฯ” ปรับพื้นที่สร้างศูนย์เรียนรู้บริหารรูปแบบ “มูลนิธิ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงใหม่ – นับถอยหลังรูดม่าน “พืชสวนโลกฯ” ชี้เป็นได้แค่ “ไทยเที่ยวไทย ภาค2” หลังนักท่องเที่ยวต่างชาติเมินเข้าชมงานไม่ถึง 10% แม้ยอดทั้งหมดจะพุ่ง 3 ล้านกว่าคน ระบุเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 7 พันกว่าล้านบาท โรงแรม-รีสอร์ต-ของฝาก ได้อานิสงส์ถ้วนหน้า ขณะที่นักพัฒนาเอกชนจี้รัฐ-คมช.เร่งสางปมทุจริต หลังมีหลักฐาน-เอกสารชัดเจน แต่ช่วง 4 เดือนหลังยึดอำนาจไร้ผลงาน ด้านกรมวิชาการเกษตรเตรียมปรับปรุงพื้นที่หลังจัดงานผลักดันเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านพืชสวนบริหารจัดการในรูปแบบมูลนิธิ ขีดเส้นเปิดให้เข้าชมได้อีกครั้งก่อนสงกรานต์

นายปรีชา สนั่นวัฒนานนท์ หัวหน้าคณะทำงานสำนักงานผู้บริหารงานปฏิบัติการ กิจกรรม และการประชาสัมพันธ์ เปิดเผยว่า งานจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 จนถึงวันที่ 29 มกราคม 2550 รวม 90 วัน มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมงานรวมทั้งสิ้น 3,736,211 คน โดยเดือนพฤศจิกายน มีนักท่องเที่ยว 999,879 คน เดือนธันวาคม 1,446,183 คน

ทั้งนี้พบว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางมาเที่ยวเป็นคนไทยประมาณ 90% ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติมีประมาณ 200,000 กว่าคน หรือ ประมาณ 10% เท่านั้น โดยนักท่องเที่ยวชาวไทย 30% เป็นคนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ อีก 30% เป็นคนกรุงเทพฯ ส่วนที่เหลืออีก 40%เป็นนักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาจากทั่วทุกพื้นที่ของประเทศไทย ซึ่งส่วนใหญ่มาจากภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จ เนื่องจากมีประชาชนเดินทางมาเที่ยวชมงานจำนวนมาก ซึ่งจากการสำรวจของมหาวิทยาลัยพายัพ พบว่า มากกว่าร้อยละ 85 มีความพึงพอใจในการจัดงานครั้งนี้

ส่วนวันนี้( 31 ม.ค.) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการจัดงาน จะมีพิธีปิดอย่างเป็นทางการโดยนายธีระ สูตะบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน โดยจะนำนักท่องเที่ยวที่มาชมงานทุกคนออกทางประตูช้าง ในเวลา 21.00 น. ซึ่งหลังจากนั้นจะปิดพื้นที่ทั้งหมดเป็นระยะเวลา 2 เดือน เพื่อปรับปรุงและเปิดใช้งานตามวัตถุประสงค์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

เงินสะพัด 7 พันกว่าล้านบาท
โรงแรม-ของฝากได้อานิสงส์ถ้วนหน้า

นายณรงค์ คองประเสริฐ เลขาธิการหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตั้งแต่เปิดงานมหกรรมพืชสวนโลกฯเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 สามารถจำหน่ายสินค้าของที่ระลึก เช่น เสื้อ ตุ๊กตา หมวก รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 23 ล้านบาท โดยแยกเป็นเดือนพฤศจิกายน 2549 มียอดขายทั้งสิ้น 9 ล้านบาท เดือนธันวาคม 2549 มียอดจำหน่าย 8 ล้านบาท และในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายคาดว่าจะมียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 6 ล้านบาท

ทั้งนี้เป้าหมายการจำหน่ายสินค้าของที่ระลึกเดิมตั้งไว้ที่ 20 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมยอดที่จำหน่ายได้ทั้งสิ้นประมาณ 23 ล้านบาท ถือว่าเกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้

"สาเหตุที่มียอดจำหน่ายของที่ระลึกไม่มากนัก เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่เดินทางมาจากต่างจังหวัดและเป็นกลุ่มที่ไม่ค่อยซื้อของที่ระลึก รวมทั้งมีการจำหน่ายสินค้าบริเวณอื่นด้วย ทำให้บูทขายของที่ระลึกไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร" นายณรงค์ กล่าว

นายณรงค์ กล่าวอีกว่า การจัดงานพืชสวนโลกฯในครั้งนี้ถือว่า ประสบความสำเร็จในเรื่องตัวเลขของประชาชนที่เดินทางมาเที่ยวงานทั้งสิ้น 3 ล้านกว่าคน ซึ่งมีรายได้สะพัดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ประมาณ 7,200 ล้านบาท โดยธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ต และของฝาก สามารถสร้างยอดขายในช่วงดังกล่าวเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าตัว

ขณะที่นายจุณพงศ์ สาระนาค ผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคเหนือเขต 1 (เชียงใหม่) กล่าวว่า เป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2549 ของจังหวัดเชียงใหม่ประเมินไว้ไม่น่าจะต่ำกว่า 45,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปี 2548 ที่มีรายได้ 38,000 ล้านบาทโดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯราชพฤกษ์ 2549 ที่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยว 3 ล้านกว่าคน

ทั้งนี้ หากมองเฉพาะงานพืชสวนโลกฯพบว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวไทยส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมีประมาณ 8-10% เท่านั้น ซึ่งหากเป็นชาวต่างชาติจะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณวันละ 3,500 บาทต่อคน สูงกว่าคนไทยที่ใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณวันละ 1,500 บาท

ต่างชาติเมิน/เป็นได้แค่ไทยเที่ยวไทย ภาค 2

ด้านนายพรชัย จิตรนวเสถียร กรรมการผู้จัดการโรงแรมเพนนิซูล่า เปิดเผยว่า การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกฯในครั้งนี้เปรียบเสมือนการจัดงานโปรโมต ให้คนต่างจังหวัดรู้จักจังหวัดเชียงใหม่มากขึ้นเท่านั้น เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางมาเที่ยวเป็นคนไทย ส่วนชาวต่างชาติมีไม่เกิน 10 % เท่านั้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนเคยเสนอแนะคณะทำงานตั้งแต่ก่อนเริ่มงานแล้วว่า ให้เร่งประชาสัมพันธ์ชาวต่างชาติให้มากกว่านี้ แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจ จนทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไม่เป็นไปตามที่คาดหวังแต่อย่างใด

"การจัดงานในครั้งนี้เหมือนโครงการประชาสัมพันธ์ไทยเที่ยวไทย ภาค 2 หรือ ไทยเที่ยวเชียงใหม่ ไม่มีผิด เพราะโหมประชาสัมพันธ์แต่ในประเทศ ส่วนต่างประเทศกลับไม่มีการประชาสัมพันธ์ ซึ่งไม่สมกับการจัดงานระดับโลกแต่อย่างใด" นายพรชัย กล่าว

นายณรงค์ คองประเสริฐ กล่าวว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางมาเที่ยวงานพืชสวนโลกฯเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย ประมาณ 90% ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติมีประมาณ 10% ซึ่งถือว่าไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เพราะงานดังกล่าวต้องการโปรโมตให้ประเทศไทย และจังหวัดเชียงใหม่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่กลับไม่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเดินทางมาเที่ยวงานพืชสวนโลกฯ

"การจัดงานในครั้งนี้ถือว่าประสบผลสำเร็จ เพราะลงทุน 2-3 พันล้านบาท แต่กลับทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 7 พันกว่าล้านบาท แต่สิ่งที่คาดหวังให้เป็นการจัดงานระดับโลกนั้นอาจจะยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร เพราะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวงานไม่มากเท่าที่ควร" นายณรงค์ กล่าว

จี้คมช.-รัฐบาลสางปมทุจริต
พิสูจน์ฝีมือหลัง 4 เดือนไร้ผลงาน

นายชัยพันธุ์ ประภาสะวัต ผู้อำนวยการสถาบันสิทธิชุมชน เปิดเผยว่า หลังจากงานพืชสวนโลกฯเสร็จ สิ่งที่รัฐบาล คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรีบดำเนินการอย่างเร่งด่วนคือ การหาตัวผู้อยู่เบื้องหลังการทุจริตในการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกฯอย่างเร่งด่วน

โดยเฉพาะกรณีการฮั้วประมูลที่มีหลักฐานชัดเจน ซึ่งป.ป.ช. มีมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเจ้าหน้าที่รัฐ สังกัดกรมวิชาการเกษตร และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กับพวก ร่วมกันทำสัญญาจ้างงานปรึกษาออกแบบผังแม่บท และควบคุมงานก่อสร้างโครงการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกฯจำนวน 3 สัญญา วงเงินประมาณ 59.5 ล้านบาท โดยหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ

ทั้งนี้หากรัฐบาลและคมช. ไม่รีบดำเนินการก็ต้องตอบคำถามประชาชนว่า ข้ออ้างในการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 โดยระบุว่ามีการทุจริตกันอย่างกว้างขวางเป็นจริงหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ล่วงเลยเวลามานานเกือบ 5 เดือน แล้วยังไม่มีผลงานที่ประจักษ์ชัดว่า จะจัดการบุคคลหรือหน่วยงานใดแต่อย่างใด

"ตนพูดมานานแล้วว่า งานพืชสวนโลกฯมีปัญหาตั้งแต่เริ่มแรก ตั้งแต่ไม่ขออนุญาตการใช้พื้นที่อุทยานฯอย่างถูกต้อง การฮั้วประมูล ซึ่งมีหลักฐาน และเอกสารยืนยันชัดเจนแต่ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ แต่กลับแต่งตั้งอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มาเป็นรัฐมนตรี ทั้งที่มีส่วนพัวพันกับข้อกล่าวหาการทุจริต เหมือนการลูบหน้าปะจมูก ดังนั้น จากนี้ไปจะเป็นการพิสูจน์ฝีมือของรัฐบาลและคมช. ที่ต้องรีบจัดการเรื่องเหล่านี้ ตามที่ได้บอกกับประชาชนตั้งแต่เดือนกันยายน 2549 เพราะตั้งแต่ยึดอำนาจยังไม่มีการดำเนินคดีใครเลย" นายชัยพันธุ์ กล่าว

นายชัยพันธุ์ กล่าวต่ออีกว่า ส่วนเรื่องบริหารจัดการพื้นที่หลังจากเสร็จสิ้นงานพืชสวนโลกฯ หากหน่วยงานใดเข้ามาบริหารจัดการ ก็ควรจะขออนุญาตการใช้พื้นที่อุทยานแห่งชาติให้ถูกต้องตามระเบียบก่อน เพราะจนถึงทุกวันนี้ พื้นที่ 470 ไร่ ที่ใช้ในการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกฯ ยังไม่มีการขออนุญาตแต่อย่างใด ซึ่งหมายถึงการทำผิดกฎหมายมาตั้งแต่ต้นแล้ว

ทั้งนี้ หากรัฐบาลและคมช. ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ตนเองก็จะยื่นฟ้องศาลปกครอง ให้ดำเนินการเจ้าหน้าที่ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตให้ถึงที่สุดต่อไป

กรมวิชาการเกษตรดันตั้งศูนย์เรียนรู้พืชสวน

นายอดิศักดิ์ ศรีสรรพกิจ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า หลังเสร็จสิ้นการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกฯ กรมวิชาการเกษตรจะปิดพื้นที่ทั้ง 470 ไร่ของการจัดงาน เพื่อรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างชั่วคราวออกไป และปรับปรุงส่วนจัดแสดงต่างๆ เพื่อพัฒนาพื้นที่ให้เป็นศูนย์เรียนรู้ด้านพืชสวน ที่มีความสมบูรณ์แบบแห่งหนึ่งของประเทศไทย และมีการจัดสรรพื้นที่บางส่วนไว้สำหรับการจัดนิทรรศการและใช้ในการจัดกิจกรรมต่างๆ ได้ด้วย

ศูนย์เรียนรู้ด้านพืชสวนดังกล่าวจะมีการลดขนาดลงจากช่วงของการจัดงาน เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาพื้นที่ลง คาดว่าน่าจะสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จพร้อมเปิดให้ผู้สนใจเข้าชมได้ในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ซึ่งจะมีการเก็บค่าเข้าชมด้วย แต่จะเป็นไปในระดับที่ยอมรับได้และไม่แพงเกินไป เพื่อให้ตอบสนองวัตถุประสงค์ได้ทั้งการเป็นแหล่งให้ความรู้ และมีรายได้เลี้ยงดูตัวเองได้ควบคู่กันไป

ส่วนรูปแบบของการบริหารจัดการศูนย์การเรียนรู้ด้านพืชสวนนั้น อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า จากการหารือร่วมกันหลายฝ่ายได้ข้อสรุปเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า จะให้เป็นในลักษณะของมูลนิธิ ที่จัดตั้งขึ้นมาดูแลโดยมีหลายหน่วยงานเข้ามาร่วมมือกัน เพราะทราบดีว่าลำพังเพียงกรมวิชาการเกษตรไม่มีกำลังเพียงพอ ที่จะแบกรับความรับผิดชอบในเรื่องนี้ได้ โดยการดูแลรักษาพื้นที่ให้อยู่ในสภาพที่ดี เบื้องต้นประเมินว่าจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 5 ล้านบาทต่อเดือน อย่างไรก็ตาม ในรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับการบริหารจัดการพื้นที่ ยังจะต้องมีการหารือกันอย่างชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง




กำลังโหลดความคิดเห็น