เอส.ซี.เอสฯ ทุ่มเม็ดเงินกว่า 10 ล้านบาท รุกตลาดรองเท้าโฟกัสเรือธงรองเท้านักเรียน พร้อมเดินแผนมุ่งหน้าเข้าโมเดิร์นเทรด ขยายตลาด กระทุ้งรายได้รวมทั้งปีโตกว่า 15%
นายสมฤกษ์ วงศ์วีระนนท์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทเอส.ซี.เอส. สปอร์ตแวร์ เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนที่จะรุกทำตลาดในวงกว้างมากขึ้น โดยการมุ่งให้ความสำคัญในการทำตลาดสินค้าที่เป็นธุรกิจหลัก คือ รองเท้านักเรียน ที่คาดว่ายังมีอัตราการเติบโตดีจากกำลังซื้อของผู้ปกครองกลุ่มเด็กนักเรียนที่มีความต้องการในตลาดอย่างต่อเนื่องทุกปี และสามารถทำตลาดเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายกว่า ด้วยราคาที่แข่งขันได้ในตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ 270-280 บาทตอ่คู่ สำหรับยี่ห้อป๊อปทีน และราคาเฉลี่ย 240-250 บาทสำหรับยี่ห้อ เบรคเกอร์
ส่วนรองเท้าแฟชั่นและรองเท้ากีฬาในภาพรวมนั้น คาดว่าปีนี้ยังมีแนวโน้มเติบโตดีเช่นกัน แต่เป็นกลุ่มรองเท้าที่บริษัทฯวางกลุ่มเป้าหมายในการทำตลาดต่างกัน
ทั้งนี้บริษัทฯเตรียมขยายขยายช่องทางจำหน่ายมากขึ้น โดยมีแผนที่จะขยายเข้าไปในส่วนของช่องทางโมเดิร์นเทรดเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่บริษัทฯทำตลาดผ่านตัวแทนขายหรือดีลเลอร์ กว่า 1.5 พันราย เป็นหลัก ที่ประกอบด้วยร้านค้าปลีกและห้างสรรพสินค้า
สาเหตุที่ขยายช่องทาเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นการเข้าถึงตลาดและเพื่อดึงกำลังซื้อเพิ่มขึ้นจากกลุ่มเป้าหมายใหม่ เนื่องจากภาพรวมตลาดรองท้าในปีนี้คาดว่าอาจจะยังไม่สดใสมากนัก ขณะที่พฤติกรรมผู้บริโภคแบบครอบครัวจะนิยมจับจ่ายซื้อสินค้าแบบครบวงจรแบบจุดเดียวมากขึ้นโดยเฉพาะในศูนย์การค้า หรือดิสเคานท์สโตร์ เพราะมีความสะดวกทำให้ช่องทางนี้เป็นช่องทางที่น่าสนใจ ซึ่งบริษัทฯเตรียมขยายเพิ่มพื้นที่ขายให้ครอบคลุมร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ให้แล้วเสร็จทันก่อนเข้าสู่ฤดูกาลขายต้อนรับการเปิดเทอม หรือ แบ็ค ทู สคูล ในแต่ละภาคการศึกษา
สำหรับการทำตลาดบริษัทฯได้เตรียมงบประมาณไว้ 10 ล้านบาท ไว้สำหรับการเพิ่มบุคลากรในการรองรับการบริการและเพื่อเป็นการเพิ่มบริการในการขายให้สมบูรณ์แบบมากที่สุด และเพื่อเป็นการรองรับแผนจากการขยายสาขาหรือพื้นที่ขายใหม่ๆเพิ่มในปีนี้ที่ต้องใช้พนักงานขายเพิ่มขึ้นด้วย ในการนำสินค้ากลุ่มรองเท้านักเรียนทั้งสองยี่ห้อ เข้าไปวางจำหน่ายในพื้นที่ขายร้านค้าปลีกสมัยใหม่ อาทิ ศูนย์การค้า หรือ ห้างสรรพสินค้า เพิ่มมากขึ้น
ปัจจุบันทิศทางการดำเนินงานของบริษัทฯจะมีการปรับและเปลี่ยนกลวิธีทางการตลาดอยู่สม่ำเสมอเพื่อให้สอดรับกับทิศทางการตลาดโดยเฉพาะช่วงเทศกาล หรือ ว่าฤดูการขาย อาทิ ช่วงใกล้เปิดเทอม หรือช่วงที่มีการแข่งขันกีฬา ซึ่งงบประมาณการตลาดดังกล่าวสำหรับดำเนินกิจกรรมการทำตลาดสินค้ารองเท้า ทั้ง 3 กลุ่ม แบ่งออกเป็น 1.กลุ่มรองเท้านักเรียนสำหรับเด็กผู้หญิง ยี่ห้อ ป๊อปทีน และยี่ห้อ เบรคเกอร์ สำหรับเด็กผู้ชาย 2.กลุ่มรองเท้าแฟชั่น ยี่ห้อ โซดาโต้ และ3.กลุ่มรองเท้ากีฬา ยี่ห้อเบรคเกอร์ และ เอเซ่
ส่วนผลประกอบในปี 2550 นี้ บริษัทฯยังคาดหวังว่าในภาพรวมมีอัตราการเติบโตยอดขายราว 15% ในขณะที่ผ่านยอดการเติบโตโดยรวมมีอยู่ที่ 10%
นายสมฤกษ์ วงศ์วีระนนท์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทเอส.ซี.เอส. สปอร์ตแวร์ เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนที่จะรุกทำตลาดในวงกว้างมากขึ้น โดยการมุ่งให้ความสำคัญในการทำตลาดสินค้าที่เป็นธุรกิจหลัก คือ รองเท้านักเรียน ที่คาดว่ายังมีอัตราการเติบโตดีจากกำลังซื้อของผู้ปกครองกลุ่มเด็กนักเรียนที่มีความต้องการในตลาดอย่างต่อเนื่องทุกปี และสามารถทำตลาดเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายกว่า ด้วยราคาที่แข่งขันได้ในตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ 270-280 บาทตอ่คู่ สำหรับยี่ห้อป๊อปทีน และราคาเฉลี่ย 240-250 บาทสำหรับยี่ห้อ เบรคเกอร์
ส่วนรองเท้าแฟชั่นและรองเท้ากีฬาในภาพรวมนั้น คาดว่าปีนี้ยังมีแนวโน้มเติบโตดีเช่นกัน แต่เป็นกลุ่มรองเท้าที่บริษัทฯวางกลุ่มเป้าหมายในการทำตลาดต่างกัน
ทั้งนี้บริษัทฯเตรียมขยายขยายช่องทางจำหน่ายมากขึ้น โดยมีแผนที่จะขยายเข้าไปในส่วนของช่องทางโมเดิร์นเทรดเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่บริษัทฯทำตลาดผ่านตัวแทนขายหรือดีลเลอร์ กว่า 1.5 พันราย เป็นหลัก ที่ประกอบด้วยร้านค้าปลีกและห้างสรรพสินค้า
สาเหตุที่ขยายช่องทาเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นการเข้าถึงตลาดและเพื่อดึงกำลังซื้อเพิ่มขึ้นจากกลุ่มเป้าหมายใหม่ เนื่องจากภาพรวมตลาดรองท้าในปีนี้คาดว่าอาจจะยังไม่สดใสมากนัก ขณะที่พฤติกรรมผู้บริโภคแบบครอบครัวจะนิยมจับจ่ายซื้อสินค้าแบบครบวงจรแบบจุดเดียวมากขึ้นโดยเฉพาะในศูนย์การค้า หรือดิสเคานท์สโตร์ เพราะมีความสะดวกทำให้ช่องทางนี้เป็นช่องทางที่น่าสนใจ ซึ่งบริษัทฯเตรียมขยายเพิ่มพื้นที่ขายให้ครอบคลุมร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ให้แล้วเสร็จทันก่อนเข้าสู่ฤดูกาลขายต้อนรับการเปิดเทอม หรือ แบ็ค ทู สคูล ในแต่ละภาคการศึกษา
สำหรับการทำตลาดบริษัทฯได้เตรียมงบประมาณไว้ 10 ล้านบาท ไว้สำหรับการเพิ่มบุคลากรในการรองรับการบริการและเพื่อเป็นการเพิ่มบริการในการขายให้สมบูรณ์แบบมากที่สุด และเพื่อเป็นการรองรับแผนจากการขยายสาขาหรือพื้นที่ขายใหม่ๆเพิ่มในปีนี้ที่ต้องใช้พนักงานขายเพิ่มขึ้นด้วย ในการนำสินค้ากลุ่มรองเท้านักเรียนทั้งสองยี่ห้อ เข้าไปวางจำหน่ายในพื้นที่ขายร้านค้าปลีกสมัยใหม่ อาทิ ศูนย์การค้า หรือ ห้างสรรพสินค้า เพิ่มมากขึ้น
ปัจจุบันทิศทางการดำเนินงานของบริษัทฯจะมีการปรับและเปลี่ยนกลวิธีทางการตลาดอยู่สม่ำเสมอเพื่อให้สอดรับกับทิศทางการตลาดโดยเฉพาะช่วงเทศกาล หรือ ว่าฤดูการขาย อาทิ ช่วงใกล้เปิดเทอม หรือช่วงที่มีการแข่งขันกีฬา ซึ่งงบประมาณการตลาดดังกล่าวสำหรับดำเนินกิจกรรมการทำตลาดสินค้ารองเท้า ทั้ง 3 กลุ่ม แบ่งออกเป็น 1.กลุ่มรองเท้านักเรียนสำหรับเด็กผู้หญิง ยี่ห้อ ป๊อปทีน และยี่ห้อ เบรคเกอร์ สำหรับเด็กผู้ชาย 2.กลุ่มรองเท้าแฟชั่น ยี่ห้อ โซดาโต้ และ3.กลุ่มรองเท้ากีฬา ยี่ห้อเบรคเกอร์ และ เอเซ่
ส่วนผลประกอบในปี 2550 นี้ บริษัทฯยังคาดหวังว่าในภาพรวมมีอัตราการเติบโตยอดขายราว 15% ในขณะที่ผ่านยอดการเติบโตโดยรวมมีอยู่ที่ 10%