ผมได้รับเมล์จากคุณพิชัย พันธมิตรฯ จากอเมริกา ที่เป็นแฟนประจำติดตามรับชมรายการตรงไปตรงมา และรายการอื่นๆ ทาง ASTV มาตลอด และเคยไปฟังการอภิปรายของผมและคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ที่เมืองซีแอตเติ้ลด้วย คุณพิชัยได้ส่งความเห็นข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์มายังผมหลายต่อหลายครั้ง
ครั้งนี้คุณพิชัยได้แสดงความรู้สึก ความคิดความเห็นที่มีต่อประเทศชาติในฐานะที่เป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ที่มีความรู้สึกรักชาติไม่น้อยกว่าคนที่อยู่ในประเทศเลย
ผมได้อ่านแล้วก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกับคุณพิชัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการวางระเบิดที่ทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่ตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้า เหตุการณ์เผาโรงเรียนในภาคอีสานที่เผากันรายวัน ปัญหาคลื่นใต้น้ำที่ก่อกวนรัฐบาลและ คมช. ตลอดจนการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลชุดนี้
ผมเองพูดในรายการทุกวัน เขียนบทความทุกอาทิตย์ หวังว่าคนที่เกี่ยวข้องทั้งผู้มีอำนาจ รัฐบาลและ คมช. น่าจะรับฟังหรือได้อ่านผ่านตาบ้าง แต่ดูเหมือนจะไม่ใส่ใจ วันนี้ผมเลยนำความเห็นของประชาชนมาให้ท่านอ่านกันบ้าง
ผมขออนุญาตตัดถ้อยคำบางคำออกตามความเหมาะสมนะครับ เชิญทุกท่านอ่านจดหมายจากอเมริกาได้เลยครับ
ถึง คุณการุณ ใสงาม
ผมเริ่มติดตามคุณสนธิตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2549 ก่อนหน้านั้นผมไม่ค่อยได้ดู เพราะรู้สึกว่าคุณสนธิจะเชียร์ทักษิณอยู่บ่อยๆ จนมาระยะหลังๆเห็นจากคำวิจารณ์ทักษิณและเริ่มเปิดประเด็นความไม่ชอบมาพากลของรัฐบาลทักษิณ จนถึงเรื่องทักษิณบังอาจเข้าไปทำบุญในวัดพระแก้ว พร้อมกับภาพอันไม่ควรให้อภัยอย่างยิ่งที่กล้าเผยแพร่ต่อสายตาประชาชนชาวไทย ผู้รักพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยิ่งชีพ หลังจากนั้นผมก็ติดตามรายการคุณสนธิตลอดมา ไม่ว่าจะจากทางอินเทอร์เน็ต และ ทีวี จนถึงช่วงประวัติศาสตร์ ที่ไปชุมนุมกันทั้งที่สวนลุมพินี บริเวณพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 ที่สนามหลวง และที่สะพานมัฆวาฬ จนถึงตอนที่คมช.เข้ามายึดอำนาจ ซึ่งผมติดตามอยู่อย่างไม่ขาดระยะ ด้วยความรักและเป็นห่วงชาติไทย พี่น้องชาวไทยที่ไปร่วมอุดมการณ์เพื่อไล่ทรราชทักษิณ
ผมรู้สึกในตอนแรกว่า น่าจะสบายใจได้แล้ว ที่สามารถไล่หัวหน้าทรราชออกไปได้ แต่ก็ในอีกส่วนก็ยังเป็นห่วงอย่างมาก กับบรรดาลูกน้องของทักษิณที่ยังลอยนวล อย่างมีหน้ามีตาในสังคม โดยไม่มีความรู้สึกว่าตัวเองนั้นเป็น ......ของสังคมไปแล้ว แต่กลับรู้สึกว่าตนเองนั้นยังมีอำนาจ มีวาสนาอยู่โดยที่ทาง คมช. ไม่ได้มีมาตรการใดๆ ที่เป็นการลงโทษหรือกำจัดอำนาจทางการเมือง หรือทางการเงินของบุคคลกลุ่มนี้เลยแม้แต่น้อย โดยที่ทางคุณสนธิและคุณการุณ ใสงามได้เคยพูดว่า หลังจากนี้เราอาจต้องเหนื่อยกว่าเก่า
แล้วสิ่งที่คุณสนธิพูด กับสิ่งที่ผมเป็นห่วงก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ จนถึงทุกวันนี้ พลังอำนาจเก่ายังมีอยู่อย่างมากมาย (เชื้อชั่วไม่ยอมตาย) จะเห็นได้จาก
1. การวางระเบิด 8 จุดรอบ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2549 ที่ผ่านมา
2. การเผาโรงเรียนในเขตภาคอีสาน โดยเฉพาะที่บุรีรัมย์ และเขตพื้นที่ภาคเหนือบางแห่ง โดยที่ ทางตำรวจออกมาบอกว่า ไฟฟ้าลัดวงจร อย่างนี้ทีหลังไฟไหม้ที่ไหน ก็ไม่ต้องไปพิสูจน์ให้เปลืองงบ เสียเวลาล่ะครับ เพราะเดาได้เลยว่าสาเหตุมาจากอะไร
3. การออกมาก่อกวน ทางด้านการเมืองอย่างไม่ขาดสาย ของกลุ่มที่เห็นแก่เงินมากกว่าประโยชน์ของประเทศชาติ โดยยอมรับใช้ทรราชที่หมดวาสนา แต่ยังมีอำนาจทางการเงิน เช่น กลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการแต่เอาทรราช, พวกเผาโรงเรียน, พวกขู่วางระเบิด, พวกที่พิมพ์และแจกใบปลิวเพื่อลดความน่าเชื่อถือของ คมช. และรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์, นี่ยังไม่รวมถึงกรณีของตัวการใหญ่ ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มฉายแสงแห่งความชั่วร้ายออกมาอีกครั้งหนึ่งอย่างชัดเจน
4. การวางตัวบุคคลในรัฐบาล ไม่ทราบและไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีบุคคลหลายๆ คนที่สังคมส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย แต่กลับได้เข้าไปนั่งอยู่ในคณะรัฐบาลอย่างสมเกียรติ เช่น นายมีชัย ฤชุพันธุ์ นายวิษณุ เครืองาม ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ผบ.ตร. โกวิท โดยเฉพาะ คุณชายอุ๋ยที่ในช่วงเดือนสองเดือนก่อน ที่อยู่ดีๆ ออกมารับรองว่า นายสิโรตม์ อธิบดีกรมสรรพากร ไม่ผิด เพราะได้ทำตามหน้าที่อย่างถูกต้อง แต่สุดท้าย ทาง ป.ป.ช และ คตส. ชี้มูลว่าผิด ศาลก็ตัดสินว่าผิดจริง ซึ่งในตอนแรกชายอุ๋ยของเรายังไม่ยอมสั่งให้ออก แต่ให้ลาออก สุดท้ายก็ต้องยอมรับต่อคำตัดสิน แล้วสั่งให้ออกจนได้ แต่เราไม่ได้เห็นการแสดงความรับผิดชอบต่อคำพูด ของชายอุ๋ยเลยแม้แต่น้อย หรือแม้แต่กรณีออกกฎหมายเกี่ยวกับผู้ลงทุนต่างชาติ ทำให้หุ้นตกภายในวันเดียว ร้อยกว่าจุด แล้วก็มีข่าวรั่วออกมาอีกว่า บริษัทของลูกชายนักการเมืองได้รับผลประโยชน์ไปเต็มๆ แต่ไม่มีผลอะไรกลับวางเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พร้อมทั้งคำพูดที่ว่า เหตุการณ์นี้ไม่ต้องมีผู้ใดรับผิดชอบ เฮ้อ เวรกรรมของประเทศชาติจริงๆ ที่ต้องมีผู้ใหญ่ทางการเมือง ที่ไร้ซึ่งความรับผิดชอบ และความเป็นผู้นำซะจริงๆ
5. กรณีที่เกิดระเบิด 8 จุดใน กทม. คืนวันที่ 31 ธันวาคม 2549 แต่ พล.ต.อ. โกวิท ยอดนายตำรวจของเรา กลับไปร้องเพลงคาราโอเกะอยู่ที่หาดใหญ่ แถมนอนค้างคืนอีกหนึ่งคืน ก่อนกลับมาทำหน้าบานๆ ว่าจะสืบหาต้นตอให้ได้ ขอให้ทุกคนวางใจ ในทางกลับกันที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงเสด็จเยี่ยมประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บด้วยพระองค์เอง แต่ทางรัฐบาล และ คมช. ไม่ได้มีการพูดคุย ลงโทษ หรือแสดงให้ประชาชนเห็นถึงความถูกต้องของความรับผิดชอบ ในฐานะของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าควรต้องทำอย่างไรบ้าง
6. กรณีคดีความที่ต้องติดตามผล และหาตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้ ก็ยังเงียบไร้วี่แวว ไม่ว่าจะเป็นคดีทนายสมชาย (อันนี้เห็นใจว่านานหลายปีแล้ว คงยากในการหาหลักฐานมัดตัว) แต่ว่าหลักฐานตัวบุคคล และปากคำ ก็น่าจะพอหากันได้ ถ้าจะทำ อีกคดีที่สำคัญก็คือ คดีตำรวจคุมพวกเศษเดน(ต้องขออภัยที่ใช้คำรุนแรง เพราะไม่รู้จะใช้คำไหนถึงจะสาสมกับการกระทำของพวกนั้น) ปล่อยให้ไปกระทืบประชาชน โดยเฉพาะคนแก่ และผู้หญิงที่เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ และที่สยามพารากอน ซึ่งจนถึงตอนนี้ผมยังไม่เห็นข่าวหรือเห็นการลงโทษนายตำรวจ ซึ่งเป็นผู้ควบคุมดูแลเหตุการณ์ในวันนั้น แถมเป็นผู้กำกับการทำงาน ให้กับพวกเลวพวกนั้นด้วยตนเอง ตลอดจนพวกเลวพวกนั้นที่เป็นผู้กระทืบคนแก่ ทำให้ต้องนอนโรงพยาบาลอยู่หลายวัน จนถึงวันนี้ ผมก็ยังเป็นห่วงชายท่านนั้นอยู่ ไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง
7. กลุ่มคนที่ไปให้กำลังใจนายโอ๊ค วันที่ไปให้ปากคำ กับ คตส. เมื่อสองวันที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าก็เป็นบรรดาหน้าม้าหน้าเงิน หน้าเดิมๆ ถ้าคุณยังจำกันได้ ก็เป็นพวกที่ไปประท้วงและไปหาเรื่องกับกลุ่มขับไล่ กกต . ชุดเก่า หน้า กกต.
8. เรื่องถอนพาสปอร์ตแดงของทักษิณกับพจมาน จริงๆ ควรจะถอนตั้งนานแล้วตั้งแต่ต้น แต่ทางกระทรวงการต่างประเทศ เพิ่งจะตื่นจากภวังค์ เพิ่งจะขอหนังสือจาก ป.ป.ช. รับรองความผิดนายทักษิณ ถึงจะขอยกเลิกพาสปอร์ตแดงนั้นได้ แถมมาพร้อมกับคำประชดว่า ไม่ให้เกียรติอดีตนายกฯ น่าจะถามตัวเองว่า ตนเองดีพอ มีเกียรติพอที่จะได้เกียรติอย่างนั้นหรือ....
จากทั้งหมดที่ผมยกตัวอย่างมาเป็นข้อๆ ผมก็ไม่ทราบว่าทำไมทั้งทาง คมช. และทางรัฐบาลท่านพลเอกสุรยุทธ์ ท่านยังสุภาพ อ่อนน้อม อยู่ได้อย่างไร กับโจร กับคนเลว ในคราบคณะรัฐบาลเก่าที่ท่านยึดอำนาจมา เพื่อกำจัดสิ่งชั่วร้ายต่างๆ 4 ข้อที่ท่านได้ประกาศอย่างชัดเจน
ผมเห็นว่าไม่ควรที่จะต้องให้เกียรติ หรือ เกรงใจ ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหน ก็ตาม (ผมก็ไม่ค่อยมั่นใจว่า ประเทศชาติจะได้มีโอกาสเห็นการลงโทษคนเลวๆ เหล่านั้นทั้งหมดหรือไม่) เพราะหากท่านยังพูดว่าให้เกียรติ หรือเกรงใจกับบุคคลเหล่านั้นอยู่ ท่านก็น่าจะให้เกียรติหรือความเกรงใจ กับคนหรือประชาชนทั่วไปที่ต้องไปเป็นโจรค้ายา โจรปล้นธนาคาร คนทำร้ายผู้อื่น หรือฆ่าผู้อื่น ด้วยสิครับ เพื่อความยุติธรรม
สิ่งที่ผมพูดมาทั้งหมดก็คือคนชั่ว ไม่ว่าจะอยู่ในชั้นวรรณะ หรือตำแหน่งใดๆ ก็ตาม ได้โปรดเถิดครับ อย่าได้มีคำว่า เกรงใจ หรือว่าให้เกียรติกับคนชั่วที่แฝงตัวมาในคราบของผู้มีอำนาจทางการเมือง หรือตำแหน่งหน้าที่ราชการ ขอให้ผมได้เห็นความยุติธรรมในชีวิตของผมสักครั้งเถิด เอาตัวคนชั่วที่ทำร้าย ทำลายประเทศชาติมาลงโทษให้ได้เถอะครับ และอีกสิ่งหนึ่งที่อยากจะขอก็คือ ขอให้ท่านช่วยให้ผู้ที่รักประเทศชาติอย่างแท้จริง ซึ่งผมเชื่อว่าท่านก็คงจะทราบดีว่ามีผู้ใดบ้าง ให้โอกาสท่านเหล่านั้นได้มีโอกาสเข้าไปช่วยงานท่าน ในการกำจัดสิ่งชั่วร้ายในระบบการเมืองตอนนี้ได้ เพราะตอนนี้ผมคิดว่ามีคนอีกจำนวนมากที่เห็นว่าบุคคลใกล้ตัว คมช. และท่านสุรยุทธ์ นั้นมีทั้งคนดี และคนเลวยังปะปนอยู่ ขอให้ท่านได้โปรดนึกถึงพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ว่า อย่าให้คนชั่วได้มีอำนาจปกครองคนดี และให้คนดีได้มีโอกาสที่จะทำงานเพื่อประเทศชาติ ได้โปรดเถิดครับ
ด้วยน้ำตาและความห่วงใย ต่อแผ่นดินเกิด
จาก คนไทย...ไร้ฐานะ
เป็นอย่างไรบ้างครับ อ่านจดหมายคุณพิชัยแล้ว ผมรู้สึกสะท้อนใจว่าขนาดประชาชนคนธรรมดายังรู้สึกเป็นห่วงชาติบ้านเมืองขนาดนี้ แล้วผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านในเมือง จะปล่อยให้คนไทยทั้งประเทศคิดแบบนี้กันหมดหรือครับ
ถ้ารัฐบาล คมช. ยังเป็นอย่างนี้อยู่นักสู้แต่ละคนคงหมดแรง แล้วทักษิณก็จะกลับเข้ามาอย่างสบาย แล้วทักษิณก็จะเสียดายว่าไม่น่าไปจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์วางแผนเสียเงินหลายๆ ล้าน ใจเย็นรออีกนิดก็สำเร็จแล้ว
ครั้งนี้คุณพิชัยได้แสดงความรู้สึก ความคิดความเห็นที่มีต่อประเทศชาติในฐานะที่เป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ที่มีความรู้สึกรักชาติไม่น้อยกว่าคนที่อยู่ในประเทศเลย
ผมได้อ่านแล้วก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกับคุณพิชัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการวางระเบิดที่ทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่ตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้า เหตุการณ์เผาโรงเรียนในภาคอีสานที่เผากันรายวัน ปัญหาคลื่นใต้น้ำที่ก่อกวนรัฐบาลและ คมช. ตลอดจนการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลชุดนี้
ผมเองพูดในรายการทุกวัน เขียนบทความทุกอาทิตย์ หวังว่าคนที่เกี่ยวข้องทั้งผู้มีอำนาจ รัฐบาลและ คมช. น่าจะรับฟังหรือได้อ่านผ่านตาบ้าง แต่ดูเหมือนจะไม่ใส่ใจ วันนี้ผมเลยนำความเห็นของประชาชนมาให้ท่านอ่านกันบ้าง
ผมขออนุญาตตัดถ้อยคำบางคำออกตามความเหมาะสมนะครับ เชิญทุกท่านอ่านจดหมายจากอเมริกาได้เลยครับ
ถึง คุณการุณ ใสงาม
ผมเริ่มติดตามคุณสนธิตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2549 ก่อนหน้านั้นผมไม่ค่อยได้ดู เพราะรู้สึกว่าคุณสนธิจะเชียร์ทักษิณอยู่บ่อยๆ จนมาระยะหลังๆเห็นจากคำวิจารณ์ทักษิณและเริ่มเปิดประเด็นความไม่ชอบมาพากลของรัฐบาลทักษิณ จนถึงเรื่องทักษิณบังอาจเข้าไปทำบุญในวัดพระแก้ว พร้อมกับภาพอันไม่ควรให้อภัยอย่างยิ่งที่กล้าเผยแพร่ต่อสายตาประชาชนชาวไทย ผู้รักพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยิ่งชีพ หลังจากนั้นผมก็ติดตามรายการคุณสนธิตลอดมา ไม่ว่าจะจากทางอินเทอร์เน็ต และ ทีวี จนถึงช่วงประวัติศาสตร์ ที่ไปชุมนุมกันทั้งที่สวนลุมพินี บริเวณพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 ที่สนามหลวง และที่สะพานมัฆวาฬ จนถึงตอนที่คมช.เข้ามายึดอำนาจ ซึ่งผมติดตามอยู่อย่างไม่ขาดระยะ ด้วยความรักและเป็นห่วงชาติไทย พี่น้องชาวไทยที่ไปร่วมอุดมการณ์เพื่อไล่ทรราชทักษิณ
ผมรู้สึกในตอนแรกว่า น่าจะสบายใจได้แล้ว ที่สามารถไล่หัวหน้าทรราชออกไปได้ แต่ก็ในอีกส่วนก็ยังเป็นห่วงอย่างมาก กับบรรดาลูกน้องของทักษิณที่ยังลอยนวล อย่างมีหน้ามีตาในสังคม โดยไม่มีความรู้สึกว่าตัวเองนั้นเป็น ......ของสังคมไปแล้ว แต่กลับรู้สึกว่าตนเองนั้นยังมีอำนาจ มีวาสนาอยู่โดยที่ทาง คมช. ไม่ได้มีมาตรการใดๆ ที่เป็นการลงโทษหรือกำจัดอำนาจทางการเมือง หรือทางการเงินของบุคคลกลุ่มนี้เลยแม้แต่น้อย โดยที่ทางคุณสนธิและคุณการุณ ใสงามได้เคยพูดว่า หลังจากนี้เราอาจต้องเหนื่อยกว่าเก่า
แล้วสิ่งที่คุณสนธิพูด กับสิ่งที่ผมเป็นห่วงก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ จนถึงทุกวันนี้ พลังอำนาจเก่ายังมีอยู่อย่างมากมาย (เชื้อชั่วไม่ยอมตาย) จะเห็นได้จาก
1. การวางระเบิด 8 จุดรอบ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2549 ที่ผ่านมา
2. การเผาโรงเรียนในเขตภาคอีสาน โดยเฉพาะที่บุรีรัมย์ และเขตพื้นที่ภาคเหนือบางแห่ง โดยที่ ทางตำรวจออกมาบอกว่า ไฟฟ้าลัดวงจร อย่างนี้ทีหลังไฟไหม้ที่ไหน ก็ไม่ต้องไปพิสูจน์ให้เปลืองงบ เสียเวลาล่ะครับ เพราะเดาได้เลยว่าสาเหตุมาจากอะไร
3. การออกมาก่อกวน ทางด้านการเมืองอย่างไม่ขาดสาย ของกลุ่มที่เห็นแก่เงินมากกว่าประโยชน์ของประเทศชาติ โดยยอมรับใช้ทรราชที่หมดวาสนา แต่ยังมีอำนาจทางการเงิน เช่น กลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการแต่เอาทรราช, พวกเผาโรงเรียน, พวกขู่วางระเบิด, พวกที่พิมพ์และแจกใบปลิวเพื่อลดความน่าเชื่อถือของ คมช. และรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์, นี่ยังไม่รวมถึงกรณีของตัวการใหญ่ ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มฉายแสงแห่งความชั่วร้ายออกมาอีกครั้งหนึ่งอย่างชัดเจน
4. การวางตัวบุคคลในรัฐบาล ไม่ทราบและไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีบุคคลหลายๆ คนที่สังคมส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย แต่กลับได้เข้าไปนั่งอยู่ในคณะรัฐบาลอย่างสมเกียรติ เช่น นายมีชัย ฤชุพันธุ์ นายวิษณุ เครืองาม ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ผบ.ตร. โกวิท โดยเฉพาะ คุณชายอุ๋ยที่ในช่วงเดือนสองเดือนก่อน ที่อยู่ดีๆ ออกมารับรองว่า นายสิโรตม์ อธิบดีกรมสรรพากร ไม่ผิด เพราะได้ทำตามหน้าที่อย่างถูกต้อง แต่สุดท้าย ทาง ป.ป.ช และ คตส. ชี้มูลว่าผิด ศาลก็ตัดสินว่าผิดจริง ซึ่งในตอนแรกชายอุ๋ยของเรายังไม่ยอมสั่งให้ออก แต่ให้ลาออก สุดท้ายก็ต้องยอมรับต่อคำตัดสิน แล้วสั่งให้ออกจนได้ แต่เราไม่ได้เห็นการแสดงความรับผิดชอบต่อคำพูด ของชายอุ๋ยเลยแม้แต่น้อย หรือแม้แต่กรณีออกกฎหมายเกี่ยวกับผู้ลงทุนต่างชาติ ทำให้หุ้นตกภายในวันเดียว ร้อยกว่าจุด แล้วก็มีข่าวรั่วออกมาอีกว่า บริษัทของลูกชายนักการเมืองได้รับผลประโยชน์ไปเต็มๆ แต่ไม่มีผลอะไรกลับวางเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พร้อมทั้งคำพูดที่ว่า เหตุการณ์นี้ไม่ต้องมีผู้ใดรับผิดชอบ เฮ้อ เวรกรรมของประเทศชาติจริงๆ ที่ต้องมีผู้ใหญ่ทางการเมือง ที่ไร้ซึ่งความรับผิดชอบ และความเป็นผู้นำซะจริงๆ
5. กรณีที่เกิดระเบิด 8 จุดใน กทม. คืนวันที่ 31 ธันวาคม 2549 แต่ พล.ต.อ. โกวิท ยอดนายตำรวจของเรา กลับไปร้องเพลงคาราโอเกะอยู่ที่หาดใหญ่ แถมนอนค้างคืนอีกหนึ่งคืน ก่อนกลับมาทำหน้าบานๆ ว่าจะสืบหาต้นตอให้ได้ ขอให้ทุกคนวางใจ ในทางกลับกันที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงเสด็จเยี่ยมประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บด้วยพระองค์เอง แต่ทางรัฐบาล และ คมช. ไม่ได้มีการพูดคุย ลงโทษ หรือแสดงให้ประชาชนเห็นถึงความถูกต้องของความรับผิดชอบ ในฐานะของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าควรต้องทำอย่างไรบ้าง
6. กรณีคดีความที่ต้องติดตามผล และหาตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้ ก็ยังเงียบไร้วี่แวว ไม่ว่าจะเป็นคดีทนายสมชาย (อันนี้เห็นใจว่านานหลายปีแล้ว คงยากในการหาหลักฐานมัดตัว) แต่ว่าหลักฐานตัวบุคคล และปากคำ ก็น่าจะพอหากันได้ ถ้าจะทำ อีกคดีที่สำคัญก็คือ คดีตำรวจคุมพวกเศษเดน(ต้องขออภัยที่ใช้คำรุนแรง เพราะไม่รู้จะใช้คำไหนถึงจะสาสมกับการกระทำของพวกนั้น) ปล่อยให้ไปกระทืบประชาชน โดยเฉพาะคนแก่ และผู้หญิงที่เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ และที่สยามพารากอน ซึ่งจนถึงตอนนี้ผมยังไม่เห็นข่าวหรือเห็นการลงโทษนายตำรวจ ซึ่งเป็นผู้ควบคุมดูแลเหตุการณ์ในวันนั้น แถมเป็นผู้กำกับการทำงาน ให้กับพวกเลวพวกนั้นด้วยตนเอง ตลอดจนพวกเลวพวกนั้นที่เป็นผู้กระทืบคนแก่ ทำให้ต้องนอนโรงพยาบาลอยู่หลายวัน จนถึงวันนี้ ผมก็ยังเป็นห่วงชายท่านนั้นอยู่ ไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง
7. กลุ่มคนที่ไปให้กำลังใจนายโอ๊ค วันที่ไปให้ปากคำ กับ คตส. เมื่อสองวันที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าก็เป็นบรรดาหน้าม้าหน้าเงิน หน้าเดิมๆ ถ้าคุณยังจำกันได้ ก็เป็นพวกที่ไปประท้วงและไปหาเรื่องกับกลุ่มขับไล่ กกต . ชุดเก่า หน้า กกต.
8. เรื่องถอนพาสปอร์ตแดงของทักษิณกับพจมาน จริงๆ ควรจะถอนตั้งนานแล้วตั้งแต่ต้น แต่ทางกระทรวงการต่างประเทศ เพิ่งจะตื่นจากภวังค์ เพิ่งจะขอหนังสือจาก ป.ป.ช. รับรองความผิดนายทักษิณ ถึงจะขอยกเลิกพาสปอร์ตแดงนั้นได้ แถมมาพร้อมกับคำประชดว่า ไม่ให้เกียรติอดีตนายกฯ น่าจะถามตัวเองว่า ตนเองดีพอ มีเกียรติพอที่จะได้เกียรติอย่างนั้นหรือ....
จากทั้งหมดที่ผมยกตัวอย่างมาเป็นข้อๆ ผมก็ไม่ทราบว่าทำไมทั้งทาง คมช. และทางรัฐบาลท่านพลเอกสุรยุทธ์ ท่านยังสุภาพ อ่อนน้อม อยู่ได้อย่างไร กับโจร กับคนเลว ในคราบคณะรัฐบาลเก่าที่ท่านยึดอำนาจมา เพื่อกำจัดสิ่งชั่วร้ายต่างๆ 4 ข้อที่ท่านได้ประกาศอย่างชัดเจน
ผมเห็นว่าไม่ควรที่จะต้องให้เกียรติ หรือ เกรงใจ ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหน ก็ตาม (ผมก็ไม่ค่อยมั่นใจว่า ประเทศชาติจะได้มีโอกาสเห็นการลงโทษคนเลวๆ เหล่านั้นทั้งหมดหรือไม่) เพราะหากท่านยังพูดว่าให้เกียรติ หรือเกรงใจกับบุคคลเหล่านั้นอยู่ ท่านก็น่าจะให้เกียรติหรือความเกรงใจ กับคนหรือประชาชนทั่วไปที่ต้องไปเป็นโจรค้ายา โจรปล้นธนาคาร คนทำร้ายผู้อื่น หรือฆ่าผู้อื่น ด้วยสิครับ เพื่อความยุติธรรม
สิ่งที่ผมพูดมาทั้งหมดก็คือคนชั่ว ไม่ว่าจะอยู่ในชั้นวรรณะ หรือตำแหน่งใดๆ ก็ตาม ได้โปรดเถิดครับ อย่าได้มีคำว่า เกรงใจ หรือว่าให้เกียรติกับคนชั่วที่แฝงตัวมาในคราบของผู้มีอำนาจทางการเมือง หรือตำแหน่งหน้าที่ราชการ ขอให้ผมได้เห็นความยุติธรรมในชีวิตของผมสักครั้งเถิด เอาตัวคนชั่วที่ทำร้าย ทำลายประเทศชาติมาลงโทษให้ได้เถอะครับ และอีกสิ่งหนึ่งที่อยากจะขอก็คือ ขอให้ท่านช่วยให้ผู้ที่รักประเทศชาติอย่างแท้จริง ซึ่งผมเชื่อว่าท่านก็คงจะทราบดีว่ามีผู้ใดบ้าง ให้โอกาสท่านเหล่านั้นได้มีโอกาสเข้าไปช่วยงานท่าน ในการกำจัดสิ่งชั่วร้ายในระบบการเมืองตอนนี้ได้ เพราะตอนนี้ผมคิดว่ามีคนอีกจำนวนมากที่เห็นว่าบุคคลใกล้ตัว คมช. และท่านสุรยุทธ์ นั้นมีทั้งคนดี และคนเลวยังปะปนอยู่ ขอให้ท่านได้โปรดนึกถึงพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ว่า อย่าให้คนชั่วได้มีอำนาจปกครองคนดี และให้คนดีได้มีโอกาสที่จะทำงานเพื่อประเทศชาติ ได้โปรดเถิดครับ
ด้วยน้ำตาและความห่วงใย ต่อแผ่นดินเกิด
จาก คนไทย...ไร้ฐานะ
เป็นอย่างไรบ้างครับ อ่านจดหมายคุณพิชัยแล้ว ผมรู้สึกสะท้อนใจว่าขนาดประชาชนคนธรรมดายังรู้สึกเป็นห่วงชาติบ้านเมืองขนาดนี้ แล้วผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านในเมือง จะปล่อยให้คนไทยทั้งประเทศคิดแบบนี้กันหมดหรือครับ
ถ้ารัฐบาล คมช. ยังเป็นอย่างนี้อยู่นักสู้แต่ละคนคงหมดแรง แล้วทักษิณก็จะกลับเข้ามาอย่างสบาย แล้วทักษิณก็จะเสียดายว่าไม่น่าไปจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์วางแผนเสียเงินหลายๆ ล้าน ใจเย็นรออีกนิดก็สำเร็จแล้ว