xs
xsm
sm
md
lg

จัดการกับข่าวทักษิณ

เผยแพร่:   โดย: สุวัฒน์ ทองธนากุล

สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี เมื่อคืนวันเสาร์ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ได้จัดรายการพิเศษ “จับโกหกทักษิณ” กรณีให้สัมภาษณ์สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นที่ถ่ายทอดไปทั่วโลก

ข่าวสารแบบนี้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เคยเรียกประชุมผู้บริหารวิทยุและโทรทัศน์ ขอให้ใช้ “วิจารณญาณ” ในการเผยแพร่เรื่องที่เกี่ยวกับอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร

แต่การกำจัดเสรีภาพของสื่อมวลชนก็คือการปิดกั้นสิทธิการรับรู้ของประชาชน เป็นสิ่งที่สังคมประชาธิปไตยยอมรับไม่ได้

อีกทั้งด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศยุคไร้พรมแดนในปัจจุบันก็ปิดกันไม่สำเร็จ เพราะสามารถรับรู้ได้จากสื่อหลากหลาย ทั้งสิ่งพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ และอินเทอร์เน็ต

เมื่อคุณทักษิณเล่นใช้สื่อเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การต่อสู้ โดยเฉพาะพยายามพูดผ่านสื่อระดับโลก

การเป็นแหล่งข่าวระดับอดีตนายกรัฐมนตรีที่เพิ่งถูกโค่นอำนาจลงไปไม่กี่เดือน ประเด็นข่าวที่สังคมโลกอยากรู้ย่อมมีอยู่

ปัญหาจึงอยู่ที่ข่าวสารข้อมูลที่ป้อนผ่านสื่อนั้นถูกต้องสมบูรณ์แค่ไหน

ขออย่าได้ความคิดที่จะปิดโอกาสในการเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับตัวคุณทักษิณบนจอโทรทัศน์และลำโพงวิทยุในเมืองไทย

หาก คมช.และรัฐบาลไม่รู้จัก “บริหารเสรีภาพของสื่อ” ด้วยการจัดการข้อมูลข่าวสารเชิงรุก เพื่อชี้แจงหรือตอบโต้สังคมโลกที่อยู่ไกลข้อเท็จจริงก็อาจเคลิ้มไปกับ “ภาษาดอกไม้” ของคุณทักษิณ ที่พยายาม “สร้างภาพ” ว่าเป็นคนรักความสงบ เห็นแก่ประเทศชาติ

แถมยังอ้างเสมอว่า เป็นผู้นำรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ถูกคณะทหารเข้ายึดอำนาจ ดังนั้น ผู้ยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตยย่อมไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลังทำรัฐประหาร

นี่ถ้ารัฐบาลญี่ปุ่นไม่เกิดไหวทันและเข้าใจรัฐบาลไทยดี จึงขอให้ระงับรายการที่คุณทักษิณเตรียมใช้ญี่ปุ่นเป็นเวทีพูดผ่านสื่อและวงการนักธุรกิจ

ป่านนี้ก็เตรียมรับผลจากข่าวสารโจมตีสภาพการปกครองและการบริหารเศรษฐกิจไทยว่าไม่เป็นประชาธิปไตยไปทั่วโลก

บทบาทและเนื้อหาการพูดของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ในการชำแหละคำให้สัมภาษณ์ของคุณทักษิณ ที่ผ่านนักข่าวซีเอ็นเอ็น จึงเป็นการกระทำเพื่อความถูกต้องเป็นธรรมสำหรับประเทศไทย

อย่างทันท่วงที

โดยที่ คมช.และผู้นำรัฐบาลปัจจุบันน่าจะตระหนักรู้เช่นเดียวกันว่าต้องมีปฏิกิริยาตอบโต้ด้วยการเอาความจริงที่ถูกต้องเข้าสู้อย่างทันกาล โดยเฉพาะจากคนซึ่งทำหน้าที่ “โฆษก” ในสถานการณ์สู้รบ

มิฉะนั้นจะเท่ากับปล่อยให้นักธุรกิจการเมืองผู้นี้พูดเอาดีฝ่ายเดียว ว่าเป็นคนทุ่มเทเพื่อประเทศชาติ รักความถูกต้อง ไม่เคยละเมิดกฎหมาย ทั้งๆ ที่การกระทำตรงข้ามกับที่พูด

เมื่อคนไทยจำนวนไม่น้อยตามชนบทและสังคมโลกที่ห่างข้อมูล แต่ไม่ได้รับการชี้แจงอย่างจริงจังถึงความเลวร้ายของระบอบทักษิณ ที่มีการโกงและขายผลประโยชน์ขายความมั่นคงของชาติ

คมช.และรัฐบาลจึงยังต้องเผชิญกับกระแสกดดันจากสังคมโลก ซึ่งถูกอ้างไปกับการสร้างข่าวทั้งข่าวตัวคุณทักษิณและลิ่วล้อ

ก็เพราะ คมช.และรัฐบาลไม่รู้จักใช้สื่อของรัฐทั้งวิทยุ และโทรทัศน์ ทำความเข้าใจต่อสังคมไทยและสังคมโลกเพื่อชี้ให้เห็นความผิดอย่างร้ายแรง มีความชัดเจนและต่อเนื่อง

การคอร์รัปชั่นโกงกินเงินของชาติในโครงการต่างๆ โดยเฉพาะการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิที่ความไม่สมประกอบกำลังฟ้องตัวเองตามกฎแห่งกรรมที่เร็วเกินคาด จนมีแนวโน้มต้องปิดซ่อมแซมใหญ่

มีการแทรกแซงสื่อของรัฐทำให้ประชาชนถูกครอบงำให้รับรู้ข่าวสารด้านเดียว และการครอบงำองค์กรจัดการเลือกตั้งให้รับใช้ผู้มีอำนาจจนขาดความเที่ยงธรรม และถูกศาลสั่งให้มีการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเป็นโมฆะ

ดังนั้น การอ้างว่าเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ขณะกระบวนการไม่ซื่อสัตย์ก็เชื่อถือไม่ได้ ยิ่งประชาชนขาดความอิสระในการรับรู้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ จึงเป็นการเลือกตั้งที่เป็นเพียงข้ออ้างในการฟอกตัวนักการเมืองเลว

ท่าทีของคุณทักษิณจนถึงขณะนี้จึงเป็นการดิ้นสู้

สู้ในทางข่าวสารเพื่อบอกให้เครือข่ายผลประโยชน์รับรู้ว่ายังมีโอกาสกลับมามีอิทธิพลแต่อาจผ่านตัวแทนเพื่อรักษาผลประโยชน์ธุรกิจและการสู้คดีที่ยังหวังยื้อได้

ส่วนคำพูดที่พร่ำบอกว่า “วางมือ” และเรียกร้องให้สมานฉันท์ ก็ล้วนเป็น “คำลวง” หรือที่บอกให้นิรโทษกรรมทุกฝ่าย ก็หวังว่าตัวเองจะได้รับการผ่อนปรน เพราะจริงๆ แล้วก็มีฝ่ายเดียวเท่านั้นที่จะต้องรับโทษรับกรรม

คนที่ได้ฟังหรือได้อ่านเนื้อหาคำสัมภาษณ์ของคุณทักษิณ สำหรับผู้ที่ติดตามข่าวสารย่อม “รู้ทัน” ว่าทั้งอวดอ้างและออดอ้อน

แต่เมื่อเจอการชำแหละคำพูดชนิดคำต่อคำจากคุณสนธิ ก็เป็นการประจานให้เห็นตัวตนที่แท้จริงของนักธุรกิจการเมืองที่ใครเผลอไปกับภาพที่ถูกสร้างหรือผลประโยชน์ที่ยังหวังว่าจะได้ นับเป็นอันตรายยิ่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น